TH7011A3 - อุปกรณ์ล็อคเบรกและคลัตช์ของรถยนต์ ที่ซึ่งถูกกระตุ้นให้ทำงานล็อคด้วยการดึงในวิถีทางที่ทิศทางการดึงทำมุมกับทิศทางการเคลื่อนที่ของชิ้นส่วนกลไกเพื่อทำการล็อค - Google Patents

Abstract

DC60 (07/10/54) อุปกรณ์ล็อคเบรกและคลัตซ์ของรถยนต์ตามการประดิษฐ์นี้ เป็นอุปกรณ์ป้องกันการโจรกรรม รถยนต์ที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นเพื่อล็อคเบรกและคลัตซ์ของรถยนต์ให้ไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ ที่ซึ่ง กลไกสำหรับล็อคดังกล่าว จะถูกกระตุ้นให้ทำงานล็อคด้วยการดึงในวิถีทางที่ทิศทางการดึงทำมุมกับ ทิศทางการเคลื่อนที่ของชิ้นส่วนกลไกเพื่อทำการล็อค นอกจากนี้ยังประดิษฐ์ให้กลไกสำหรับล็อค ดังกล่าววางขวางกับแนวแกนพวงมาลัยรถยนต์ เพื่อลดการใช้พื้นที่ว่างใต้คอนโซลรถยนต์ให้ตำแหน่ง ของกลไกสำหรับล็อคดังกล่าวที่ห่างจากขาหรือเท้าของผู้ใช้งาน อุปกรณ์ล็อคเบรกและคลัตซ์ของรถยนต์ตามการประดิษฐ์นี้ เป็นอุปกรณ์ป้องกันการโจรกรรม รถยนต์ที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นเพื่อล็อคเบรกและคลัตซ์ของรถยนต์ให้ไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ ที่ซึ่ง กลไกสำหรับล็อคดังกล่าว จะถูกกระตุ้นให้ทำงานล็อคด้วยการดึงในวิถีทางที่ทิศทางการดึงทำมุมกับ ทิศทางการเคลื่อนที่ของชิ้นส่วนกลไกเพื่อทำการล็อค นอกจากนี้ยังประดิษฐ์ให้กลไกสำหรับล็อค ดังกล่าววางขวางกับแนวแกนพวงมาลัยรถยนต์ เพื่อลดการใช้พื้นที่ว่างใต้คอนโซลรถยนต์ให้ตำแหน่ง ของกลไกสำหรับล็อคดังกล่าวที่ห่างจากขาหรือเท้าของผู้ใช้งาน

Claims (2)

1. อุปกรณ์ล็อคเบรกและคลัตช์รถยนต์ ที่ซึ่งถูกกระตุ้นให้ทำงานล็อคด้วยการดึงในวิถีทางที่ ทิศทางการดึงมุมกับทิศทางการเคลื่อนที่ของชิ้นส่วนกลไกเพื่อทำการล็อค มีลักษณะเฉพาะคือ กลไกสำหรับล็อคเบรกและคลัตช์รถยนต์ที่ถูกห่อหุ้มด้วยแกนกระบอกนอก (1) วางขวางแนวแกน พวงมาลัยรถยนต์ และกลไกสำหรับล็อคเบรกและคลัตช์ดังกล่าวจะถูกกระตุ้นให้ทำงานด้วยการดึงมือ ดึง (4) ในวิถีทางที่ทิศทางการดึงทำมุมกับทิศทางการเคลื่อนที่ของแกนกระบอกใน (2) เพื่อบังคับให้ แกนกระบอกใน (2) ดังกล่าวเคลื่อนที่นำพาชิ้นส่วนค้ำ (2a), (2b) ไปค้ำก้านเบรกและก้านคลัตช์ของ รถยนต์ให้ไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ ที่ซึ่งประกอบด้วยชิ้นส่วนกลไกดังนี้ ก. แกนกระบอกนอก (1) สำหรับบังคับให้แกนกระบอกใน (2) เคลื่อนที่นำพาชิ้นส่วนค้ำ (2a), (2b) ไปค้ำก้านเบรกและก้านคลัตช์รถยนต์ไม่ให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ รวมถึงห่อหุ้มสปริง (3) และบางส่วนของแกนกระบอกใน (2) เพื่อป้องกันการทำลายชิ้นส่วนดังกล่าว ที่ซึ่งถูกประดิษฐ์ให้มี ลักษณะเป็นท่อทรงกระบอกและมีรูท่อ (1f) ที่มีขนาดสอดคล้องกับขนาดของแกนกระบอกใน (2) สำหรับร้อยแกนกระบอกใน (2) ดังกล่าว บริเวณลำตัวด้านหนึ่งถูกประดิษฐ์ให้มีร่องยาว (1e) สำหรับ รองรับการเคลื่อนที่ผ่านของชิ้นส่วนค้ำ (2a), (2b) ของแกนกระบอกใน (2) ไปก้านเบรกและก้าน คลัตช์รถยนต์ รวมถึงเพื่อบังคับให้แกนกระบอกใน (2) เคลื่อนที่ไปตามทิศทางที่กำหนด และปลายทั้ง สองด้านถูกประดิษฐ์ให้มีปีกกันงัด (1b) และปีกกันงัด (1c) โดยที่ปีกกันงัด (1b) ถูกจัดไว้สำหรับ ป้องกันการงัดดัดให้ก้านคลัตช์หลุดออกจากชิ้นส่วน (2b) ของแกนกระบอกใน (2) เพื่อทำการ โจรกรรม และปีกกันงัด (1c) ถูกจัดไว้สำหรับป้องกันการงัดดัดให้ก้านเบรกหลุดออกจากชิ้นส่วนค้ำ (2a) ของแกนกระบอกใน (2) เพื่อทำการโจรกรรม เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ในขณะขับ รถยนต์มากยิ่งขึ้น ผู้ประดิษฐ์จึงจัดให้มีปีกกันค้ำ (1a) สำหรับป้องกันไม่ให้ชิ้นส่วนค้ำ (2a) ของแกน กระบอกใน (2) ค้ำก้านเบรกรถยนต์ในขณะขับขี่ ดังนั้นแม้ว่าก้านเบรกรถยนต์จะคลอนหรือมีระยะการ เยื้องศูนย์ในขณะใช้งาน เมื่อผู้ขับขี่รถยนต์เหยียบแป้นเบรกเพื่อเบรกรถยนต์ ก้านเบรกดังกล่าวก็จะ เคลื่อนที่ตามแนวสันด้านข้างของชิ้นส่วนกันค้ำ (1a) ดังกล่าว นอกจากนี้บริเวณลำตัวอีกด้านหนึ่งของ แกนกระบอกนอก (1) ยังถูกประดิษฐ์ให้มีร่อง (1g) สำหรับร้อยผ่านสกรู (51) เพื่อยึดก้านดึง (5) เข้า กับแกนกระบอกใน (2) และประดิษฐ์ให้มีร่องบาก (1h) สำหรับรองรับการเคลื่อนที่ผ่านของสลักล็อค (63) ของชุดแม่กุญแจ (6) ไปยังร่องบาก (2e) ของแกนกระบอกใน (2) เพื่อทำการล็อค ข. แกนกระบอกใน (2) สำหรับนำพาชิ้นส่วนค้ำ (2a), (2b) ไปค้ำก้านเบรกและก้านคลัตช์ รถยนต์ไม่ให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ เมื่อถูกกระตุ้นให้ทำงานด้วยการดึงมือดึง (4) ในวิถีทางที่ทิศ ทางการดึงทำมุมกับทิศทางการเคลื่อนที่ของแกนกระบอกใน (2) ที่ซึ่งถูกประดิษฐ์ให้มีลักษณะเป็นท่อ ทรงกระบอกที่มีขนาดสอดคล้องกับขนาดของรูท่อ (1f) ของแกนกระบอกนอก (1) บริเวณลำตัวด้าน หนึ่งถูกเชื่อมต่อด้วยชิ้นส่วนค้ำ (2a) สำหรับค้ำก้านเบรกรถยนต์ และเชื่อมต่อด้วยชิ้นส่วนค้ำ (2b) สำหรับค้ำก้านคลัตช์รถยนต์ โดยชิ้นส่วนค้ำ (2a), (2b) ดังกล่าวจะถูกประดิษฐ์ให้ส่วนปลายมีลักษณะ โค้งรับกับก้านเบรกและคลัตช์รถยนต์ และระยะห่างระหว่างชิ้นส่วนค้ำ (2a), (2b) ทั้งสองจะสอดคล้อง กับระยะห่างของก้านเบรกและก้านคลัตช์รถยนต์แต่ละรุ่น ส่วนบริเวณลำตัวอีกด้านถูกประดิษฐ์ให้มีรู เกลียว (2b) สำหรับรองรับการยึดก้านดึง (5) ด้วยสกรู (51) และประดิษฐ์ให้มีร่องบาก (2e) สำหรับ รองรับการล็อคเข้ากับสลักล็อค (63) ของชุดแม่กุญแจ (6) รวมถึงจัดให้มีการเชื่อมต่อเข้าด้วยแกน เหล็กปิดสกรู (2c) ที่ซึ่งถูกประดิษฐ์ให้ส่วนปลายโค้งรับกับตำแหน่งของรู (76c) ของแผ่นเหล็กบังสกรู (76) สำหรับทำหน้าที่ปิดหัวสกรู (71) ไว้เพื่อป้องกันการถอดสกรู (71) ดังกล่าวออกในขณะที่อุปกรณ์ ล็อคอยู่ในสภาวะล็อค ค. สปริง (3) สำหรับดันแกนกระบอกใน (2) ให้เคลื่อนที่นำพาชิ้นส่วนค้ำ (2a), (2b) ออกจาก ก้านเบรกและก้านคลัตช์รถยนต์เพื่อให้สามารถใช้งานเบรกและคลัตช์รถยนต์ได้ตามปกติ เมื่อถูก กระตุ้นให้ทำงานปลดล็อคจากลูกกุญแจ (61) ง. มือดึง (4) สำหรับกระตุ้นให้แกนกระบอกใน (2) เคลื่อนที่นำพาชิ้นส่วนสำหรับค้ำ (2a), (2b) ค้ำก้านเบรกและก้านคลัตช์รถยนต์เพื่อทำการล็อคด้วยการดึงในวิถีทางที่ทิศทางการดึงทำมุมกับ ทิศทางการเคลื่อนที่ของแกนกระบอกใน (2) ที่ซึ่งถูกประดิษฐ์ให้เป็นแกน (4a) มีรูปลักษณ์และขนาด สอดคล้องกับรู (64c) ของชิ้นส่วนห่อหุ้มกลไกกุญแจ (64) โดยบริเวณปลายแกน (4a) ด้านหนึ่งได้จัด ให้มีรู (4b) สำหรับประกอบเข้ากับก้านดึง (5) ด้วยสลัก (53) ส่วนปลายอีกด้านหนึ่งได้ประดิษฐ์ให้มือ จับ (4c) สำหรับให้ผู้ใช้จับเพื่อดึงล็อค จ. ก้านดึง (5) สำหรับบังคับให้แกนกระบอกใน (2) เคลื่อนที่นำพาชิ้นส่วนค้ำ (2a), (2b) ไป ค้ำก้านเบรกและก้านคลัตช์ของรถยนต์ เมื่อถูกกระตุ้นให้ทำงานด้วยการดึงมือดึง (4) ในวิถีทางที่ทิศ ทางการดึงทำมุมกับทิศทางการเคลื่อนที่ของแกนของกระบอกใน (2) เพื่อทำการล็อค ที่ซึ่งถูกประดิษฐ์ให้ ส่วนปลายด้านหนึ่งมีรู (5a) สำหรับประกอบเข้าด้วยกันกับแกนกระบอกใน (2) ด้วยสกรู (51) และ ปลายอีกด้านหนึ่งมีรู (5b) สำหรับประกอบเข้าด้วยกันกับมือดึง (4) ด้วยสลัก (53) นอกจากนี้บริเวณ ลำตัวของก้านดึง (5) ดังกล่าวได้จัดให้มีรู (5c) สำหรับประกอบรวมเข้ากับชิ้นส่วนห่อหุ้มกลไกกุญแจ (64) ด้วยสลัก (52) การจัดให้บริเวณลำตัวของก้านดึง (5) มีรู (5c) ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ สามารถยึดก้านดึง (5) ให้อยู่กับที่เพื่อเป็นจุดหมุน เพื่อรองรับวิถีทางการดึงมือดึง (4) ในทิศทางการ ดึงที่ซึ่งทำมุมกับทิศทางการเคลื่อนที่ของแกนกระบอกใน (2) เพื่อทำการล็อค ฉ. ชุดแม่กุญแจ (6) สำหรับปลดล็อคอุปกรณ์ล็อคเบรกและคลัตช์รถยนต์จนเป็นผลให้สปริง (3) ดันแกนกระบอกใน (2) เคลื่อนที่นำพาชิ้นส่วนค้ำ (2a), (2b) ออกจากก้านเบรกและก้านคลัตช์ รถยนต์เพื่อให้สามารถใช้งานเบรกและคลัตช์รถยนต์ได้ตามปกติ ที่ซึ่งอย่างน้อยประกอบด้วยชิ้นส่วน หลัก ดังนี้ ฉ-ก. ลูกกุญแจ (61) สำหรับไขแม่กุญแจ (62) เพื่อทำการปลดล็อค ฉ-ข. แม่กุญแจ (62) ที่ซึ่งถูกประดิษฐ์ให้แกนกุญแจ (62a) มีขนาดสอดคล้องกับรูท่อ (64a) ของชิ้นส่วนห่อหุ้มกลไกกุญแจ (64) เพื่อรองรับการสวมอัดเข้ากับชิ้นส่วนห่อหุ้มกลไก แม่กุญแจ (64) ดังกล่าว และบริเวณส่วนปลายได้จัดให้มีเดือย (62b) ยื่นโผล่ออกมาสำหรับ สอดเข้ากับร่องบาก (63b) เพื่อทำหน้าที่บังคับให้สลักล็อค (63) เคลื่อนที่ออกจากการร่อง บาก (2e) ของแกนกระบอกใน (2) จนเป็นผลให้แกนกระบอกใน (2) เคลื่อนที่นำพาชิ้นส่วน ค้ำ (2a), (2b) ไปออกจากการค้ำก้านเบรกและก้านคลัตช์รถยนต์จนสามารถใช้งานได้ ตามปกติ เมื่อถูกกระตุ้นให้ทำงานปลดล็อคด้วยลูกกุญแจ (61) ฉ-ค. สลักล็อค (63) ที่ซึ่งถูกประดิษฐ์ให้แกนสลักมีขนาดสอดคล้องกับรูท่อ (64a) ของชิ้นส่วนห่อหุ้มกลไกกุญแจ (64) เพื่อรองรับการสวมเข้ากับชิ้นส่วนห่อหุ้มกลไกแม่กุญแจ (64) ดังกล่าว รวมถึงประดิษฐ์ให้มีรู (63c) สำหรับรองรับการประกอบรวมเข้ากับสปริงดัน กลับ (65) โดยบริเวณลำตัวของสลักล็อค (63) ดังกล่าวยังถูกประดิษฐ์ให้มีร่องบาก (63b) ให้ มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมเพื่อรองรับการสอดเข้าของเดือย (62b) ของแม่กุญแจ (62) และ บริเวณส่วนปลายถูกประดิษฐ์ให้มีแกนล็อค (63a) ยื่นโผล่ออกมาสำหรับทำหน้าที่สอดเข้ากับ ร่องบาก (2e) ของแกนกระบอกใน (2) เพื่อค้ำแกนกระบอกใน (2) ดังกล่าวไว้ไม่ให้เคลื่อนที่ ได้ ก-ง. ชิ้นส่วนห่อหุ้มกลไกกุญแจ (64) ที่ซึ่งถูกประดิษฐ์เป็นท่อทรงกระบอกและมีรูท่อ (64a) สำหรับรองรับการประกอบรวมเข้าของแม่กุญแจ (62) และสลักล็อค (63) โดยปลาย ด้านหนึ่งจะถูก เชื่อมติดเข้ากับบริเวณลำตัวของแกนกระบอกนอก (1) เพื่อให้ชุดแม่กุญแจ (6) ติดแน่นอยู่กับแกนกระบอกนอก (1) อย่างมั่นคง นอกจากนี้บริเวณลำตัวยังถูกประดิษฐ์ให้ มีปลอก (64d) ยื่นโผล่ออกมา ที่ซึ่งปลอก (64d) ดังกล่าวยังถูกประดิษฐ์ให้มีรู (64c) สำหรับ รองรับการร้อยผ่านของแกน (4a) ของมือดึง (4) และทำหน้าที่บังคับให้มือดึง (4) เคลื่อนที่ ตามทิศทางที่กำหนด รวมถึงการประดิษฐ์ให้มีรู (64b) สำหรับรองรับการประกอบเข้าของ ก้านดึง (5) ด้วยสลัก (52) ก-จ สปริงดันกลับ (65) สำหรับดันให้สลักล็อค (63) เคลื่อนที่ไปทำการล็อคแกน กระบอกใน (2) กล่าวคือ เมื่อผู้ใช้ดึงมือดึง (4) เพื่อบังคับให้ก้านดึง (5) นำพาแกนกระบอกใน (2) เคลื่อนที่ตามจนกระทั่งตำแหน่งของแกนล็อค (63a) ของสลักล็อค (63) ตรงกันกับร่อง บาก (2e) ของแกนกระบอกใน (2) สปริงดันกลับ (65) ดังกล่าวก็จะดันแกนล็อค (63a) จนกระทั่งชิ้นส่วนแกนล็อค (63a) เข้าไปอยู่ในร่อง (2e) ของแกนกระบอกใน (2) เพื่อล็อค แกนกระบอกใน (2) ดังกล่าวไม่ให้เคลื่อนที่ โดยอุปกรณ์ล็อคเบรกและคลัตช์รถยนต์ข้างต้นมีลักษณะการทำงานดังนี้คือ เมื่อผู้ใช้ดึงมือดึง (4) จนเป็นผลให้ก้านดึง (5) เคลื่อนไปบังคับให้แกนกระบอกใน (2) เคลื่อนที่นำพาชิ้นส่วนค้ำ (2a), (2b) ตามไปด้วย โดยเมื่อตำแหน่งร่องบาก (2e) ของแกนกระบอกใน (2) ตรงกันกับตำแหน่งของแกน ล็อค (63a) ของสลักล็อค (63) สปริงดันกลับ (65) ของชุดแม่กุญแจ (6) ก็จะทำงานดันสลักล็อค (63) ดังกล่าวให้อยู่ในร่องบาก (2e) ของแกนกระบอกใน (2) เพื่อล็อคไม่ให้แกนกระบอกใน (2) ดังกล่าวเคลื่อนที่ได้ และเมื่อผู้ใช้นำลูกกุญแจ (61) ไขปลดล็อคแม่กุญแจ (62) เพื่อบังคับให้สลักล็อค (63) เคลื่อนที่จนกระทั่งส่วนของแกนล็อค (63a) หลุดออกจากร่องบาก (2e) ของแกนกระบอกใน (2) ขณะเดียวกันสปริงดันกลับ (3) ก็จะดันให้แกนกระบอกใน (2) ให้เคลื่อนที่นำพาชิ้นส่วนสำหรับค้ำ (2a), (2b) ออกจากการค้ำก้านเบรกและก้านคลัตช์ของรถยนต์จนสามารถใช้งานได้ตามปกติ

2. อุปกรณ์ล็อคเบรกและคลัตช์รถยนต์ ที่ซึ่งถูกกระตุ้นให้ทำงานล็อคด้วยการดึงในวิถีทางที่ ทิศทางการดึงทำมุมกับทิศทางการเคลื่อนที่ของชิ้นส่วนกลไกเพื่อทำการล็อคตามข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่ง ก้านดึง (5) จะถูกประดิษฐ์ให้มีการต่อเพิ่มชิ้นส่วนอีกอย่างน้อยชิ้นหนึ่งเพื่อเพิ่มระยะการดึง รวมถึง เพื่อเพิ่มหรือลดมุมที่ทำกับทิศทางการเคลื่อนที่ของแกนกระบอกใน (2)