TH11753C3 - อุปกรณ์ล็อคแกนพวงมาลัยรถยนต์ที่ซึ่งมีกลไกป้องกันการล็อคด้วยตัวเอง - Google Patents

อุปกรณ์ล็อคแกนพวงมาลัยรถยนต์ที่ซึ่งมีกลไกป้องกันการล็อคด้วยตัวเอง

Info

Publication number
TH11753C3
TH11753C3 TH1503002081U TH1503002081U TH11753C3 TH 11753 C3 TH11753 C3 TH 11753C3 TH 1503002081 U TH1503002081 U TH 1503002081U TH 1503002081 U TH1503002081 U TH 1503002081U TH 11753 C3 TH11753 C3 TH 11753C3
Authority
TH
Thailand
Prior art keywords
fabricated
locking
groove
lock
hook
Prior art date
Application number
TH1503002081U
Other languages
English (en)
Other versions
TH11753A3 (th
Inventor
ไวท์โรจน์ จรรยงค์วรกุล นาย
Original Assignee
นาย ธะวัช พรอนงค์
Filing date
Publication date
Application filed by นาย ธะวัช พรอนงค์ filed Critical นาย ธะวัช พรอนงค์
Publication of TH11753C3 publication Critical patent/TH11753C3/th
Publication of TH11753A3 publication Critical patent/TH11753A3/th

Links

Abstract

อุปกรณ์ล็อคแกนพวงมาลัยรถยนต์ที่ซึ่งมีกลไกป้องกันการล็อคด้วยตัวเองตามการประดิษฐ์นี้ ได้ออกแบบกลไกป้องกันการล็อคด้วยตัวเองทำงาน ภายหลังจากได้รับการกระตุ้นด้วยการดึงมือจับ เพื่อล็อค โดยมีชิ้นส่วนที่ซึ่งส่วนปลายประดิษฐ์เป็นตะขอสำหรับเกี่ยวขัดกับปากร่องของฝาครอบ ชิ้นส่วนดังกล่าวไว้เมื่อมีแรงภายนอกมากระทำกับรถยนต์โดยมิได้เจตนา เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจ เกิดขึ้นจากการเคลื่อนที่ของแกนกระบอกใน จนสามารถพาสลักล็อคเข้าไปอยู่ในร่องล็อคของตัว ประกับล็อคด้วยตัวเองในขณะที่รถยนต์กำลังวิ่ง

Claims (5)

ข้อถือสิทธฺ์ (ทั้งหมด) ซึ่งจะไม่ปรากฏบนหน้าประกาศโฆษณา :
1. อุปกรณ์ล็อคแกนพวงมาลัยรถยนต์ที่ซึ่งมีกลไกป้องกันการล็อคด้วยตัวเอง ถูกปรับปรุง กลไกเพื่อป้องกันการล็อคด้วยตัวเองให้มีลักษณะเฉพาะ แกนกระบอกใน (1) ที่ซึ่งประดิษฐ์ให้เป็นท่อโดยมีรู (1a) สำหรับร้อยสปริง (15) เข้าไปภายใน และบริเวณปลายด้านหนึ่งถูกเชื่อมติดชิ้นส่วนแป้นล็อค (21) สำหรับล็อคแกนพวงมาลัยรถยนต์ไว้ ไม่ให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ บริเวณลำตัวถูกประดิษฐ์ให้เป็นรู (1b) สำหรับรองรับการประกอบ เข้ากับสลักล็อคตัวที่หนึ่ง (13), ประดิษฐ์ให้เป็นรูล็อค (1c) สำหรับรองรับการสอดขัดกับสลักล็อคตัวที่ สอง (16), ประดิษฐ์ให้เป็นร่องยาว (1d) เพื่อหลบแกน (18) ในขณะที่แกนกระบอกใน (1) เคลื่อนที่ไป ทำการล็อค รวมถึงเพื่อบังคับให้แกนกระบอกใน (1) อยู่ในตำแหน่งที่กำหนดภายหลังจากการสวมเข้า กับแกนกระบอกนอก (2), และประดิษฐ์ให้มีเดือย (1e) สำหรับนำตะขอ (12) มาสวมประกอบเข้า แป้นล็อค (21) สำหรับใช้กับรถยนต์ชนิดที่เป็นเกียร์ อัตโนมัติ ด้วยการจัดให้มีหน้าแปลนสำหรับเชื่อมเข้ากับแกนกระบอกใน (1) บริเวณร่อง (21f), ประดิษฐ์ให้มีปีกขวา (21g) ยื่นออกมาสำหรับค้ำก้านเบรกรถยนต์ไว้ในขณะที่อุปกรณ์ล็อคฯอยู่ใน สภาวะล็อค โดยส่วนปลายของปีกขวา (21g) ดังกล่าวถูกประดิษฐ์ให้เป็นรูเกลียว (21h) สำหรับ รองรับการร้อยเกลียว (24b) ของหน้าแปลน (24) เข้าไป, ประดิษฐ์ให้มีปีกล่าง (21e) ยื่นออกมา สำหรับปิดหัวสกรู (11) เพื่อป้องกันการถอดสกรูดังกล่าวออกในขณะที่อุปกรณ์ล็อคฯอยู่ในสภาวะล็อค นอกจากนี้ยังประดิษฐ์ให้เป็นหน้าแปลนโค้ง (21a) ยื่นออกไปจากปีกล่าง (21e) สำหรับห่อหุ้มตัว ประกับ (19) เพื่อป้องกันการทำลายตัวประกับดังกล่าว และบริเวณลำตัวของหน้าแปลนโค้ง (21a) ได้ ประดิษฐ์ให้มีแกน (21b) ยื่นออกไปสำหรับเป็นที่อยู่ของสลักล็อค (22) ที่ซึ่งแกน (21b) ดังกล่าวถูก ประดิษฐ์ให้เป็นรู (21c) สำหรับร้อยสปริง (23) และสลัก (22) เข้าไปภายใน หน้าแปลน (24) สำหรับรองรับการค้ำของก้านแบรกหรือก้านคลัตช์รถยนต์ ที่ซึ่งประดิษฐ์ให้ ส่วนหัว (24a) ลักษณะเป็นแผ่นแบน และลำตัวประดิษฐ์ให้เป็นเกลียว (24b) สำหรับร้อยเข้าไปในรู เกลียว (21h) การออกแบบให้ลำตัวของหน้าแปลน (24) มีลักษณะเป็นเกลียวนั้นก็เพื่อ การปรับระยะของการค้ำก้านเบรกหรือก้านคลัตช์รถยนต์ที่ซึ่งรถยนต์แต่ละรุ่นจะมีระยะไม่เท่ากัน และ เมื่อได้ระยะที่เหมาะสมก็จะถูกขันล็อคตำแหน่งดังกล่าวด้วยนัด (25) ตามลำดับ สปริง (15) ที่ซึ่งถูกประกอบเข้าไปในรูท่อ (1a) ของแกนกระบอกใน (1) สำหรับทำหน้าที่ดัน ไม่ให้ชิ้นส่วนแป้นล็อค (21) เคลื่อนที่นำพาสลักล็อค (22) ไปสอดขัดอยู่ในร่อง (19Lc) ของตัวประกับ ซ้าย (19L) หรือร่อง (19Rc) ของตัวประกับขวา (19R) เพื่อล็อคไม่ให้สามารถหมุนแกนพวงมาลัย รถยนต์ในขณะที่อุปกรณ์ล็อคฯอยู่ในสภาวะปลดล็อค แกนกระบอกนอก (2) ที่ซึ่งถูกประดิษฐ์ให้เป็นลักษณะเป็นท่อคู่เชื่อมติดกัน กล่าวคือท่อยาว ปลายเปิด (21) ถูกประดิษฐ์ไว้สำหรับนำแกนกระบอกใน (1) มาสวมเข้าด้วยกัน โดยบริเวณลำตัว ส่วนปลายด้านหนึ่งถูกประดิษฐ์ให้เป็นรู (21c) สำหรับร้อยแกน (18) เข้าไป และส่วนปลายอีกด้าน หนึ่งถูกประดิษฐ์ให้เป็นร่อง (21b) สำหรับหลบเดือย (1e) ของแกนกระบอกใน (1) ส่วนท่อสั้นปลาย ปิด (22) ถูกประดิษฐ์ไว้สำหรับรองรับการประกอบรวมเข้ากับแม่กุญแจชุดที่สอง (9) รวมถึงห่อหุ้ม กลไกการล็อคอื่นไว้เพื่อป้องกันการทำลาย บริเวณผนังรอยต่อระหว่างท่อยาวปลายเปิด (21) และท่อ สั้นปลายเปิด (22) ถูกประดิษฐ์ให้เป็นร่องล็อค (21d) สำหรับรองรับการสอดขัดกับสลักล็อกตัวที่หนึ่ง (13) และรู (21e) สำหรับรองรับการสอดขัดกับสลักล็อคตัวที่สอง (16) อนึ่งการออกแบบร่องล็อค (21d) ให้มีลักษณะเป็นร่องยาวก็เพื่อช่วยให้สลักล็อคทั้งสองสามารถทำการล็อคเข้ากับร่องล็อค (21d) ของแกนกระบอกนอก (2) และรูล็อค (1c) ของแกนกระบอกใน (1) ได้พร้อมกันภายหลังที่อุปกรณ์ ล็อคฯตามการประดิษฐ์นี้ถูกกระตุ้นให้ทำการล็อคโดยเจตนาเพียงครั้งเดียว แม่กุญแจชุดที่หนึ่ง (5) ที่ซึ่งลำตัว (5a) ถูกประดิษฐ์ให้มีขนาดสอดคล้องกับรูท่อ (1a) ของ แกนกระบอกใน (1) สำหรับสวมอัดเข้ากับรูท่อดังกล่าว กลไกการล็อคของแม่กุญแจได้ประดิษฐ์ให้มี แกนยาว (5b) สำหรับทำหน้าที่ปลดสลักล็อคตัวที่หนึ่ง (13) ออกจากการสอดขัดอยู่ในร่องล็อค (21d) ของแกนกระบอกนอก (2) ที่ซึ่งส่วนปลายของแกนยาว (5b) ดังกล่าวได้ประดิษฐ์ให้เป็นเดือยผ่า (5c) สำหรับสอดเข้าไปในร่อง (13a) ของสลักล็อคตัวที่หนึ่ง (13) เพื่อทำการปลดล็อคภายหลังจากได้รับ การกระตุ้นจากลูกกุญแจ นอกจากนี้ยังจัดให้มีสปริงตัวที่หนึ่ง (14) สำหรับทำหน้าที่ดันสลักล็อคตัวที่ หนึ่ง (13) ให้เข้าไปสอดขัดอยู่ในร่องล็อค (21d) ของแกนกระบอกนอก (2) เมื่ออุปกรณ์ล็อคฯถูก กระตุ้นให้ทำการล็อคด้วยการดึงมือจับ (7) แม่กุญแจชุดที่สอง (6) ที่ซึ่งลำตัว (6a) ถูกประดิษฐ์ให้มีขนาดสอดคล้องกับรูของท่อสั้นปลาย ปิด (22) ของแกนกระบอกนอก (2) สำหรับสวมอัดเข้ากับรูท่อดังกล่าว กลไกการล็อคของแม่กุญแจได้ ประดิษฐ์ให้มีแกน (6b) สำหรับทำหน้าที่ปลดสลักล็อค (16) ออกจากการสอดขัดอยู่ในรูล็อค (1c) ของ แกนกระบอกใน (1) ที่ซึ่งส่วนปลายของแกน (6b) ได้ประดิษฐ์ให้เป็นเดือยผ่า (6c) สำหรับสอดเข้าไป ในร่อง (16a) ของสลักล็อคตัวที่สอง (6) เพื่อทำการปลดล็อคภายหลังจากได้รับการกระตุ้นจากลูก กุญแจ นอกจากนี้ยังจัดให้มีสปริงตัวที่สอง (17) สำหรับทำหน้าที่ดันส่วนปลาย (16b) ของสลักล็อคตัว ที่สอง (16) ให้เข้าไปสอดขัดอยู่ในรูล็อค (1c) ของแกนกระบอกใน (1) เมื่ออุปกรณ์ล็อคฯถูกกระตุ้นให้ ทำการล็อคด้วยการตึงมือจับ (7) มือจับ (7) สำหรับดึงเพื่อพาแกนกระบอกใน (1) และแป้นล็อค (21) เคลื่อนที่ตามไปด้วย จน เป็นผลให้สลักล็อค (22) เข้าไปสอดขัดอยู่ในร่อง (19Lc) ของตัวประกับซ้าย (19L) หรือร่อง (19Rc) ของตัวประกับขวา (19R) เพื่อล็อคไม่ให้สามารถหมุนแกนพวงมาลัยรถยนต์ได้ ที่ซึ่งมือจับดังกล่าวถูก สวมอัดเข้ากับลำตัว (5a) ของแม่กุญแจชุดที่หนึ่ง (5) ตะขอ (12) ที่ซึ่งลำตัวถูกประดิษฐ์ให้เป็นรู (12a) สำหรับสวมเข้ากับเดือย (1e) ของแกน กระบอกใน (1), ส่วนปลายถูกประดิษฐ์ให้มีลักษณะคล้ายปาดตะขอ (12b) สำหรับทำหน้าที่ป้องกัน การล็อคด้วยเมื่อมีแรงกระทำที่มิได้เจตนาจากภายนอกมากระทำกับตัวรถยนต์ และบริเวณสันด้าน หนึ่งถูกประดิษฐ์ให้เป็นปุ่มนูน (12c) ขึ้นมา
2. อุปกรณ์ล็อคเบรกแกนพวงมาลัยรถยนต์ที่ซึ่งมีกลไกป้องกันการล็อคด้วยตัวเองตามขับถือ สิทธิ 1 ที่ซึ่งวิถีทางการทำงานเฉพาะสำหรับป้องกันการล็อคด้วยตัวเองในขณะที่อุปกรณ์ล็อคอยู่ใน สภาวะ "ปลดล็อค" คือ เมื่อมีแรงชนหรือแรงกระแทกมากระทำกับรถยนต์อย่างกะทันหัน แกน กระบอกใน (1) ก็จะเคลื่อนที่พาตะขอ (12) จะเคลื่อนที่ไปตามแนวร่อง (4a) ของฝาครอบ (4) อย่าง รวดเร็วจนเป็นผลให้ปุ่มนูน (12c) ชนกับปากร่อง (4b) ของฝาครอบ (4) จึงทำให้เกิดแรงเหวี่ยงจน ลำตัวของตะขอ (12) เคลื่อนที่ในแนวโค้งโดยมีจุดหมุนคือเดือย (1e) ของแกนกระบอกใน (1) ทำให้ ปากตะขอ (12) เกี่ยวเข้ากับปากร่อง (4b) ของฝาครอบ (4) ไว้ และสปริง (15) ก็จะดันแกนกระบอก ใน (1) ให้เคลื่อนที่กลับไปยังตำแหน่งเดิม แต่เมื่อใดก็ตามที่อุปกรณ์ล็อคฯถูกกระตุ้นให้ทำงานล็อค โดยเจตนาด้วยการดึงมือจับ (7) เพื่อบังคับให้แกนกระบอกใน (1) เคลื่อนที่นำพาชิ้นส่วนอื่นเพื่อทำ การล็อค ตะขอ (12) ก็จะเคลื่อนที่ตามแกนกระบอกใน (1) ดังกล่าวไปตามแนวร่อง (4a) ของฝาครอบ (4) ตามปกติ
3. อุปกรณ์ล็อคแกนพวงมาลัยรถยนต์ที่ซึ่งมีกลไกป้องกันการล็อคด้วยตัวเองตามข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งชิ้นส่วนตะขอ (12) ได้ประดิษฐ์ให้เป็นชิ้นส่วนสองชิ้นทำงานสัมพันธ์กันคือ ตะขอส่วนต้น (121) ถูกจัดให้มีรู (121a) สำหรับสวมเข้ากับเดือย (1e) ของแกนกระบอกใน (1) แต่ลำตัวส่วนปลายของ ตะขอส่วนตัว (121) ดังกล่าวถูกประดิษฐ์ให้เป็นร่อง (121b) สำหรับนำตะขอส่วนปลาย (122) อีก ชิ้นส่วนหนึ่งมาประกอบรวมเข้าด้วยกัน โดยมีสลัก (123) มาร้อยผ่านรู (121c) ของตะขอส่วนตัน (121) เข้าไปยังรู (122a) ของตะขอส่วนปลาย (122) เพื่อยึดชิ้นส่วนทั้งสองเข้าด้วยกัน นอกจากนี้ บริเวณร่อง (121b) ของตะขอส่วนตั้น (121) ยังประดิษฐ์ให้เป็นรูสำหรับเป็นที่อยู่ของสปริง (125) และ เม็ดลูกปืน (124) ส่วนตะขอส่วนปลาย (122) นั้นก็จะถูกประดิษฐ์ให้เป็นปากตะขอ (122b) และร่อง (122c) เพิ่มเติมสำหรับทำหน้าที่ป้องกันการล็อคด้วยด้วยตัวเอง
4. อุปกรณ์ล็อคแกนพวงมาลัยรถยนต์ที่ซึ่งมีกลไกป้องกันการล็อคด้วยตัวเองดตามข้อถือสิทธิ 3 ที่ซึ่งวิถีทางเฉพาะสำหรับป้องกันการล็อคด้วยตัวเองในขณะอุปกรณ์ล็อคอยู่ในสภาวะ "ปลดล็อค" คือ เมื่อมีแรงชนหรือแรงกระแทกมากระทำกับรถยนต์อย่างกะทันหัน แกนกระบอกใน (1) ก็จะ เคลื่อนที่พาตะขอส่วนดัน (121) จะเคลื่อนที่ตามไปตามแนวร่อง (4a) ของฝาครอบ (4) อย่างรวดเร็ว ทำให้สันของตะขอส่วนปลาย (122) กระแทกกับปากร่อง (4b) ของฝาครอบ (4) จึงเคลื่อนที่ในแนว โค้งจนกระทั่งร่อง (122c) เคลื่อนที่ไปอยู่ในตำแหน่งตรงกันกับตำแหน่งเม็ดลูกปืน (124) ทำให้สปริง (125) ดันเม็ดลูกปืนดังกล่าวเข้าไปอยู่ในร่อง (122c) เพื่อป้องกันไม่ให้แกนกระบอกใน (1) เคลื่อนที่ ไปทำการล็อคได้
5. อุปกรณ์ล็อคแกนพวงมาลัยรถยนต์ที่ซึ่งมีกลไกป้องกันการล็อคด้วยตัวเองตามขอถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งชิ้นส่วนแป้นล็อค (21) สำหรับประยุกต์ใช้กับรถยนต์ชนิดที่เป็นเกียร์ธรรมดานั้น ได้จัดให้มีหน้า แปลนสำหรับเชื่อมเข้ากับแกนกระบอกใน (1) บริเวณร่อง (21f), ประดิษฐ์ให้มีปีกซ้าย (21i) ยื่น ออกมาสำหรับค้ำก้านคลัตซ์รถยนต์ไว้ในขณะที่อุปกรณ์ล็อคฯอยู่ในสภาวะล็อค เพื่อป้องกันอันตราย อันเนื่องจากการสตาร์ทรถยนต์ก่อนปลดล็อคอุปกรณ์ล็อคฯ โดยส่วนปลายของปีกซ้าย (21i) ดังกล่าว ถูกประดิษฐ์ให้เป็นรูเกลียว (21h) สำหรับรองรับการร้อยเกลียว (24b) ของหน้าแปลน (24) เข้าไป, ประดิษฐ์ให้มีปีกล่าง (21e) ยื่นออกมาสำหรับปิดหัวสกรู (11) เพื่อป้องกันการถอดสกรูดังกล่าวออกใน ขณะที่อุปกรณ์ล็อคฯอยู่ในสภาวะล็อค นอกจากนี้ยังประดิษฐ์ให้เป็นหน้าแปลนโค้ง (21a) ยื่นออกไป จากปีกล่าง (21e) สำหรับห่อหุ้มตัวประกับ (19) เพื่อป้องกันทำลายตัวประกับดังกล่าว และ บริเวณลำตัวของหน้าแปลนโค้ง (21a) ได้ประดิษฐ์ให้มีแกน (21b) ยื่นออกไปสำหรับเป็นที่อยู่ของ สลักล็อค (22) ที่ซึ่งแกน (21b) ดังกล่าวถูกประดิษฐ์ให้เป็นรู (21i) สำหรับร้อยสปริง (23) และสลัก (22) เข้าไปภายใน
TH1503002081U 2015-12-08 อุปกรณ์ล็อคแกนพวงมาลัยรถยนต์ที่ซึ่งมีกลไกป้องกันการล็อคด้วยตัวเอง TH11753A3 (th)

Publications (2)

Publication Number Publication Date
TH11753C3 true TH11753C3 (th) 2016-07-22
TH11753A3 TH11753A3 (th) 2016-07-22

Family

ID=

Similar Documents

Publication Publication Date Title
EP3494268B1 (de) Türgriff mit einem bewegbaren notöffnungselement
EP3020892B1 (de) Türgriff mit abnehmbarer kappe
US7513133B2 (en) Padlock device for the shaft of two-wheeled vehicles
US7121124B1 (en) Oval swing lock mechanism
US9592792B2 (en) Swivel bar pedal lock
US5062282A (en) Automobile steering lock with a rod anti-releasing mechanism
TH11753C3 (th) อุปกรณ์ล็อคแกนพวงมาลัยรถยนต์ที่ซึ่งมีกลไกป้องกันการล็อคด้วยตัวเอง
TH11753A3 (th) อุปกรณ์ล็อคแกนพวงมาลัยรถยนต์ที่ซึ่งมีกลไกป้องกันการล็อคด้วยตัวเอง
TH11862C3 (th) อุปกรณ์ล็อคแกนพวงมาลัยรถยนต์ที่ซึ่งถูกกระตุ้นให้ทำการล็อคด้วยการบิดหรือหมุน
TH7335A3 (th) อุปกรณ์ล็อคเบรกและคลัตช์ของรถยนต์ ที่ซึ่งถูกกระตุ้นให้ทำงานล็อคด้วยการบิดหรือหมุน
TH7335C3 (th) อุปกรณ์ล็อคเบรกและคลัตช์ของรถยนต์ ที่ซึ่งถูกกระตุ้นให้ทำงานล็อคด้วยการบิดหรือหมุน
TH11862A3 (th) อุปกรณ์ล็อคแกนพวงมาลัยรถยนต์ที่ซึ่งถูกกระตุ้นให้ทำการล็อคด้วยการบิดหรือหมุน
TH10044C3 (th) กลไกป้องกันการใช้งานคันเร่งรถยนต์ สำหรับอุปกรณ์ล็อค
TH10044A3 (th) กลไกป้องกันการใช้งานคันเร่งรถยนต์ สำหรับอุปกรณ์ล็อค
TH7011C3 (th) อุปกรณ์ล็อคเบรกและคลัตช์ของรถยนต์ ที่ซึ่งถูกกระตุ้นให้ทำงานล็อคด้วยการดึงในวิถีทางที่ทิศทางการดึงทำมุมกับทิศทางการเคลื่อนที่ของชิ้นส่วนกลไกเพื่อทำการล็อค
TH12192A3 (th) อุปกรณ์ล็อคเบรกหรือคลัตซ์รถยนต์ที่ซึ่งมีวิถีทางการกระตุ้นให้ล็อคด้วยการกด
TH7011A3 (th) อุปกรณ์ล็อคเบรกและคลัตช์ของรถยนต์ ที่ซึ่งถูกกระตุ้นให้ทำงานล็อคด้วยการดึงในวิถีทางที่ทิศทางการดึงทำมุมกับทิศทางการเคลื่อนที่ของชิ้นส่วนกลไกเพื่อทำการล็อค
TH11514A3 (th) อุปกรณ์ล็อคเบรกและครัตซ์รถยนต์ที่ซึ่งมีกลไกป้องกันการล็อคด้วยตัวเอง
TH7014A3 (th) อุปกรณ์ล็อคเบรกและคลัตช์ของรถยนต์
TH12192C3 (th) อุปกรณ์ล็อคเบรกหรือคลัตซ์รถยนต์ที่ซึ่งมีวิถีทางการกระตุ้นให้ล็อคด้วยการกด
TH9961C3 (th) กลไกป้องกันการใช้งานคันเร่งรถยนต์ สำหรับอุปกรณ์ล็อค
TH10543C3 (th) อุปกรณ์ล็อคเบรก หรือคลัตช์ หรือคันเร่งรถยนต์
TH7012C3 (th) อุปกรณ์ล็อคเบรกและคลัตช์ของรถยนต์ที่ซึ่งถูกกระตุ้นให้ทำงานล็อคด้วยการบิดหรือหมุน
TH11514C3 (th) อุปกรณ์ล็อคเบรกและครัตซ์รถยนต์ที่ซึ่งมีกลไกป้องกันการล็อคด้วยตัวเอง
TH7012A3 (th) อุปกรณ์ล็อคเบรกและคลัตช์ของรถยนต์ที่ซึ่งถูกกระตุ้นให้ทำงานล็อคด้วยการบิดหรือหมุน