TH10543C3 - อุปกรณ์ล็อคเบรก หรือคลัตช์ หรือคันเร่งรถยนต์ - Google Patents

Abstract

DC60 (09/06/58) อุปกรณ์ล็อคเบรก หรือคลัตช์ หรือคันเร่งรถยนต์ ที่ซึ่งเป็นการออกแบบกลไกสำหรับกระตุ้นให้ เกิดการล็อคด้วยการบิดหรือหมุน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการโจรกรรม รวมถึงการจัดให้มีกลไกการล็อคที่ป้องกันไม่ให้ทำการล็อคด้วยตัวของมันเองในขณะที่รถยนต์กำลังวิ่ง หรือในขณะที่อุปกรณ์ล็อคอยู่ในสภาวะล็อค แก้ไข บทสรุป 09/06/2558 อุปกรณ์ล็อคเบรก หรือคลัตช์ หรือคันเร่งรถยนต์ ที่ซึ่งเป็นการออกแบบกลไกสำหรับกระตุ้นให้ เกิดการล็อคด้วยการบิดหรือหมุน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการโจรกรรม รวมถึงการจัดให้มีกลไกการล็อคที่ป้องกันไม่ให้ทำการล็อคด้วยตัวเองของมันเองในขณะที่รถยนต์กำลังวิ่ง หรือในขณะที่อุปกรณ์ล็อคอยู่ในสภาวะล็อค -------------------------------------------------------- อุปกรณ์ล็อคเบรก หรือคลัตช์ หรือคันเร่งรถยนต์ ที่ซึ่งเป็นการออกแบบกลไกสำหรับกระตุ้นให้ เกิดการล็อคด้วยการบิดหรือหมุน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการโจรกรรม รวมถึงการจัดให้มีกลไกรการล็อคที่ป้องกันไม่ให้ทำการล็อคด้วยตัวมันเองในขณะที่รถยนต์กำลังวิ่ง หรือในขณะที่อุปกรณ์ล็อคอยู่ในสภาวะล็อค

Claims (6)

ข้อถือสิทธฺ์ (ทั้งหมด) ซึ่งจะไม่ปรากฏบนหน้าประกาศโฆษณา :แก้ไข 9/6/2558

1. อุปกรณ์ล็อคเบรก หรือคลัตช์ หรือคันเร่งรถยนต์ ที่ซึ่งถูกกระตุ้นให้ทำการล็อคด้วยการบิด หรือหมุน ที่ซึ่งมีลักษณะเฉพาะดังนี้ ก. แกนกระบอกใน (1) ที่ซึ่งถูกประดิษฐ์ให้ป็นให้เป็นท่อโค้งสำหรับรองรับการร้อยลวดสลิง (3) เข้า ไปภายใน โดยบริเวณลำตัวส่วนปลาย (1a) ยังถูกประดิษฐ์ให้เป็นร่องยาว (1c) สำหรับรองรับการสอด อยู่ของเดือย (5c) ของแกนลูกเบี้ยว (5) และส่วนปลาย (1b) อีกด้านหนึ่งจะถูกสวมเข้ากับรู (82b) ของ แป้นยึด (8) ข. แกนกระบอกนอก (2) ที่ซึ่งถูกประดิษฐ์ให้เป็นปลายเปิดสองด้าน โดยส่วนปลายด้าน (2a) จะถูกสวมเข้ากับส่วนปลาย (1a) ของแกนกระบอกใน (1) แล้วเชื่อมติดเข้าด้วยกัน, ส่วนปลาย (2b) อีก ด้านหนึ่งถูกจัดไว้สำหรับนำแกนลูกเบี้ยว (5) และลูกเบี้ยว (6) มาประกอบรวมเข้าด้วยกัน, บริเวณ ลำตัวค่อนไปทางส่วนปลาย (2b) ได้ประดิษฐ์ให้เป็นเดือย (2c) ยื่นโผล่เข้าไปในสำหรับสวมเข้าไป ในร่องยาว (6c) ของลูกเบี้ยว (6), รวมถึงการประดิษฐ์ให้เป็นร่อง (2d) สำหรับรองรับการสอดเข้าของ สลักล็อค (61) ภายหลังจากถูกกระตุ้นให้ทำการล็อคด้วยการบิดหรือหมุนมือจับ ค. ลวดสลิง (3) ที่ซึ่งถูกร้อยผ่านสปริง (4) เข้าไปภายในแกนกระบอกใน (1) โดยที่ส่วนปลาย (3a) จะถูกเชื่อมติดกับส่วนปลาย (5b) ของแกนลูกเบี้ยว (5) และส่วนปลายอีกด้านหนึ่งถูกประดิษฐ์ให้ เป็นแกนล็อค (31) สำหรับค้ำก้านเบรกรถยนต์ หรือค้ำก้านคลัตช์รถยนต์ หรือค้ำก้านคันเร่งรถยนต์ไว้ ง. สปริง (4) ที่ซึ่งสปริงดังกล่าวถูกประกอบเข้าด้วยการสวมเข้ากับลวดสลิง (3) และปลายสปริง ด้านหนึ่งจะดันเข้ากับส่วนปลาย (5a) ของแกนลูกเบี้ยว (5) ส่วนปลายสปริงอีกด้านหนึ่งจะดันเข้ากับ ส่วนปลาย (1a) ของแกนกระบอกใน (1) จ. แกนลูกเบี้ยว (5) ที่ซึ่งถูกประดิษฐ์ให้เป็นเดือย (5c) ยื่นโผล่ออกมาสำหรับสอดเข้าไปอยู่ใน ร่องยาว (1c) ของแกนกระบอกใน (1), บริเวณส่วนปลาย (5a) ถูกจัดไว้สำหรับเชื่อมติดเข้ากับส่วน ปลาย (3a) ของลวดสลิง (3), ส่วนปลายอีกด้านหนึ่งได้ประดิษฐ์ให้เป็นแนวเฉียง (5b) ฉ. ลูกเบี้ยว (6) ที่ซึ่งบริเวณลำตัวค่อนไปทางส่วนปลาย (6a) ถูกประดิษฐ์ให้เป็นร่องยาว (6c) สำหรับรองรับการสวมเข้ากับเดือย (2c) ของแกนกระบอกนอก (2) นอกจากนี้บริเวณลำตัวยังถูก ประดิษฐ์ให้เป็นรู (6e) สำหรับรองรับการประกอบเข้ากับสลักล็อค (61), ส่วนปลายอีกด้านหนึ่งได้ ประดิษฐ์ให้เป็นแนวเฉียง (6b) ช. มือจับ (7) ที่ซึ่งประดิษฐ์ให้มีแกน (7a) สำหรับสวมอัดเข้ากับส่วนปลาย (6a) ของลูกเบี้ยว (6) ซ. แป้นยึด (8) ที่ซึ่งถูกประดิษฐ์ให้เป็นหน้าแปลนยาว (82) ยื่นออกไป รวมถึงจัดให้มีรู (82b) สำหรับร้อยผ่านส่วนปลาย (1b) ของแกนกระบอกใน (1) และจัดให้มีรูเกลียว (82a) สำหรับร้อยเกลียว (92) เพื่อยึดแป้นกันงัด (9) เข้ากับแป้นยึด (8) จ. แป้นกันงัด (9) ที่ซึ่งถูกประดิษฐ์ให้เป็นแผ่นดัดโค้ง โดยปลายด้านหนึ่งถูกประดิษฐ์ให้เป็น แป้นตั้ง (9b) สำหรับปิดนัดที่ยึดแป้นยึด (8) ไว้เพื่อป้องกันการคลายนัตดังกล่าว และบริเวณลำตัวด้าน เดียวกันกับแป้นตั้ง (9b) ได้ประดิษฐ์ให้มีรู (9a) สำหรับผ่านเกลียว (92) เพื่อยึดแป้นกันงัด (9) เข้า กับแป้นยึด (8) ต่อไป รวมถึงการประดิษฐ์ให้มีปลอก (91) สำหรับประกอบแกน (91a) เข้ากับส่วนปลาย (1b) ของแกนกระบอกใน (1) และปลอกดังกล่าวยังถูกประดิษฐ์ให้เป็นรู (91b) ทะลุสำหรับรองรับการ เคลื่อนที่ออกของแกนล็อค (31) ไปทำการค้ำก้านเบรกรถยนต์ไว้ 2. อุปกรณ์ล็อคเบรก หรือคลัตช์ หรือคันเร่งรถยนต์ ตามข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งแกนลูกเบี้ยว (5) ถูก ประดิษฐ์ให้เป็นแนวเฉียง (5b) โดยจะเอียงทำมุมอย่างน้อยห้าองศา 3. อุปกรณ์ล็อคเบรก หรือคลัตช์ หรือคันเร่งรถยนต์ ตามข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งแกนลูกเบี้ยว (6) ถูก ประดิษฐ์ให้เป็นแนวเฉียง (6b) โดยจะเอียงทำมุมอย่างน้อยห้าองศา 4. อุปกรณ์ล็อคเบรก หรือคลัตช์ หรือคันเร่งรถยนต์ ตามข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งมีลักษณะการทำงาน ล็อคเฉพาะคือ เมื่อถูกกระตุ้นมือจับ (7) ด้วยการบิดหรือหมุน ลูกเบี้ยว (6) ก็จะเคลื่อนที่ตามทิศทางการ บิดหรือหมุนดังกล่าวจนเป็นผลให้สปริง (62) ดันสลักล็อค (61) จนกระทั่งส่วนปลายของสลักล็อค (61) ดังกล่าวเข้าไปขัดอยู่ในร่อง (2d) ของแกนกระบอกนอก (2) ขณะเดียวกันส่วนปลาย (6d) ของลูกเบี้ยว (6) ก็จะเคลื่อนที่เป็นแนวโค้งตามทิศทางการบิดหรือหมุนเช่นกัน เพื่อบังคับให้ส่วนปลาย (5d) ของแกน ลูกเบี้ยว (5) เคลื่อนที่ไปตามแนวเฉียง (6b) ของลูกเบี้ยว (6) จนกระทั่งนั่งบ่าอยู่บนส่วนปลาย (6d) ของลูกเบี้ยว (6) การปฏิบัติดังกล่าวเป็นผลให้แกนลูกเบี้ยว (5) เคลื่อนที่ดันลวดสลิง (3) เคลื่อนที่ไป ตามรูของแกนกระบอกใน (1) เพื่อนำพาแกนสลัก (31) ให้โผล่พ้นปากรู (91b) ของปลอก (91) จนไปค้ำ ก้านเบรกรถยนต์ หรือค้ำก้านคลัตช์รถยนต์ หรือค้ำก้านคันเร่งรถยนต์ไว้จนใช้งานไม่ได้ตามปกติ 5. อุปกรณ์ล็อคเบรก หรือคลัตช์ หรือคันเร่งรถยนต์ ตามข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งมีลักษณะการ ทำงานปลดล็อคเฉพาะคือ เมื่อถูกกระตุ้นให้ปลดล็อคด้วยลูกกุญแจ (ในที่นี้มิได้แสดงไว้) บริเวณรอย บาก (71a) ของปลายแกน (71) ก็จะบังคับให้แกะสลักล็อค (61) เคลื่อนที่ออกจากร่อง (2d) ของแกน กระบอกนอก (2) ขณะเดียวกันสปริง (4) ก็จะดันแกนลูกเบี้ยว (5) ให้เคลื่อนที่เป็นแนวเส้นตรงตามทิศ ทางการดันของสปริง เพื่อบังคับให้ส่วนปลาย (5d) ของแกนลูกเบี้ยว (5) เคลื่อนที่ออกจากการนั่งบ่าอยู่ ทางการดันของสปริง เพื่อบังคับให้ส่วนปลาย (5d) ของแกนลูกเบี้ยว (5) เคลื่อนที่ออกจากการนั่งบ่าอยู่ บนส่วนปลาย (6d) ของลูกเบี้ยว (6) ดังกล่าวจนกระทั่งแนวฉียง (5b) ของแกนลูกเบี้ยว (5) และแนว เฉียง (6b) ของลูกเบี้ยว (6) แนบชิดกัน การปฏิบัติดังกล่าวเป็นผลให้ลวดสลิง (3) เคลื่อนที่ตามแกนลูก เบี้ยว (5) ไปด้วย เพื่อนำพาแกนสลัก (31) เคลื่อนที่ออกจากการค้ำก้านเบรกรถยนต์ หรือก้านคลัตช์ รถยนต์ หรือก้านคันเร่งรถยนต์ 6. อุปกรณ์ล็อคเบรก หรือคลัตช์ หรือคันเร่งรถยนต์ ตามข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งสปริง (4) มีลักษณะ การทำงานเฉพาะคือ ขณะที่อุปกรณ์ล็อคอยู่ในสภาวะปลดล็อค สปริง (4) ดังกล่าวจะทำงานดันลูกแกนลูก เบี้นว (5) ไว้ตลอดเวลาเพื่อป้องกันไม่ให้แกนล็อค (31) ของลวดสลิง (3) เคลื่อนที่ไปค้ำก้านเบรก รถยนต์ด้วยตัวของมันเอง ------------------------------------------------------------ 1.อุปกรณ์ล็อคเบรก หรือคลัตช์ หรือคันเร่งรถยนต์ ที่ซึ่งถูกกระตุ้นให้ทำการล็อคด้วยการบีบ หรือหมุน ที่ซึ่งมีลักษณะเฉพาะดังนี้ ก. แกนกระบอกใน (1) ที่ซึ่งถูกประดิษฐ์ให้เป็นท่อโค้งสำหรับรองรับการร้อยลวดสลิง (3) เข้า ไปภายใน โดยบริเวณลำตัวส่วนปลาย (1a) ยังถูกประดิษฐ์ให้เป็นร่องยาว (1c) สำหรับรองรับการสอด อยู่ช่องเดือย (5c) ของแกนลูกเบี้ยว (5) และส่วนปลาย (1b) อีกด้านหนึ่งจะถูกสวมเข้ากับรู (82b) ของ แป้นยึด (8) ข. แกนกระบอกนอก (2) ที่ซึ่งถูกประดิษฐ์ให้เป็นปลายเปิดสองด้าน โดยส่วนปลายด้าน (2a) จะถูกสวมเข้ากับส่วนปลาย (1a) ของแกนกระบอกใน (1) แล้วเชื่อมติดเข้าด้วยกัน ส่วนปลาย (2b) อีก ด้านหนึ่งถูกจัดไว้สำหรับนำแกนลูกเบี้ยว (5) และลูกเบี้ยว (6) มาประกอบรวมเข้าด้วยกัน บริเวณ ลำตัวค่อนไปทางส่วนปลาย (2b) ได้ประดิษฐ์ให้เป็นเดือย (2c) ยื่นโผล่เข้าไปภายในสำหรับสวมเข้าไป ในร่องยาว (6c) ของลูกเบี้ยว (6), รวมถึงการประดิษฐ์ให้เป็นร่อง (2d) สำหรับรองรับการสอดเข้าของ สลักล็อค (61) ภายหลังจากถูกกระตุ้นให้ทำการล็อคด้วยการปิดหรือหมุนมือจับ ค. ลวดสลิง (3) ที่ซึ่งถูกร้อยผ่านสลิง (4) เข้าไปภายในแกนกระบอกใน (1) โดยที่ส่วนปลาย (3a) จะถูกเชื่อมติดกับส่วนปลาย (5b) ของแกนลูกเบี้ยว (5) และส่วนปลายอีกด้านหนึ่งถูกประดิษฐ์ให้ เป็นแกนล็อค (31) สำหรับค้ำกานแบรกรถยนต์ หรือค้ำก้านคลัตช์รถยนต์ หรือค้ำก้านค้นเร่งรถยนต์ไว้ ง. สปริง (4) ที่ซึ่งสปริงดังกล่าวถูกประกอบเข้าด้วยการสวมเข้ากับลวดสลิง (3)และปลายสปริง ด้านหนึ่งจะดันเข้ากับส่วนปลาย (5a) ของแกนลูกเบี้ยว (5) ส่วนปลายสปริงอีกด้านหนึ่งจะดันเข้ากับ ส่วนปลาย (1a) ของแกนกระบอกใน (1) จ. แกนลูกเบี้ยว (5) ที่ซึ่งถูกประดิษฐ์ให้เป็นเดือย (5c) ยื่นโผล่ออกมาสำหรับสอดเข้าไปอยู่ใน ร่องยาว (1c) ของแกนกระบอกใน (1), บริเวณส่วนปลาย (5a) ถูกจัดไว้สำหรับเชื่อมติดเข้ากับส่วน ปลาย (3a) ของลวดสลิง (3), และปลายอีกด้านหนึ่งได้ประดิษฐ์ให้เป็นแนวเฉียง (5b) ฉ. ลูกเบี้ยว (6) ที่ซึ่งบริเวณลำตัวค่อนไปทางส่วนปลาย (6a) ถูกประดิษฐ์ให้เป็นร่องยาว (6c) สำหรับรองรับการสวมเข้ากับเดือย(2c) ของแกนกระบอกนอก (2) นอกจากนี้บริเวณลำตัวยังถูก ประดิษฐ์ให้เป็นรู (6e) สำหรับรองรับการประกอบเข้ากับสลักล็อค (61), ส่วนปลายอีกด้านหนึ่งได้ ประดิษฐ์ให้เป็นแนวเฉียง (6b) ช. มือจับ (7) ที่ซึ่งประดิษฐ์ให้มีแกน (7a) สำหรับสวมอัดเข้ากับส่วนปลาย (6a) ของลูกเบี้ยว (6) ซ. แป้นยึด (8) ที่ซึ่งประดิษฐ์ให้เป็นหน้าแปลนยาว (82) ยื่นออกไป รวมถึงจัดให้มีรู (82b) สำหรับร้อยผ่านส่วนปลาย (1b) ของแกนกระบอกใน (1) และจัดให้มีรูเกลียว (82a) สำหรับร้อยเกลียว (92) เพื่อยึดยึดแป้นกันงัด (9) เข้ากับแป้นยึด (8) จ. แป้นกันงัด (9) ที่ซึ่งถูกประดิษฐ์ให้เป็นแผ่นดัดโค้ง โดยปลายด้านหนึ่งถูกประดิษฐ์ให้เป็น แป้นตั้ง (9b) สำหรับปิดนัดที่ยึดแป้นยึด (8) ไว้เพื่อป้องกันการคลายนัดดังกล่าว และบริเวณลำตัวด้าน เดียวกันกับแป้นตั้ง (9b) ได้ประดิษฐ์ให้มีรู (9a) สำหรับร้อยผ่านเกลียว (92) เพื่อยึดแป้นกันงัด (9) เข้า กับแป้นยึด (8) ต่อไป รวมถึงการประดิษฐ์ให้มีปลอก (91) สำหรับประกอบแกน (91a) เข้ากับส่วนปลาย (1b) ของแกนกระบอกใน (1) และปลอกดังกล่าวยังถูกประดิษฐ์ให้เป็นรู (91b) ทะลุสำหรับรองรับการ เคลื่อนที่ออกของแกนล็อค (31) ไปทำการค้ำก้านเบรกรถยนต์ไว้

2. อุปกรณ์ล็อคเบรก หรือคลัตช์ หรือคันเร่งรถยนต์ ตามข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งแกนลูกเบี้ยว (5) ถูก ประดิษฐ์ให้เป็นแนวเฉียง (5b) โดยจะเอียงทำมุมอย่างน้อยห้าองศา

3. อุปกรณ์ล็อคเบรก หรือคลัตช์ หรือเร่งรถยนต์ ตามข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งลูกเบี้ยว (6) ถูก ประดิษฐ์ให้เป้นแนวเฉียง (6b) โดยจะเอียงทำมุมอย่างน้อยห้าองศา

4. อุปกรณ์ล็อคเบรก หรือคลัตช์ หรือคันเร่งรถยนต์ ตามข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งมีลักษณะการทำงาน ล็อคเฉพาะคือ เมื่อถูกกระตุ้นมือจับ (7) ด้วยการบิดหรือหมุน ลูกเบี้ยว (6) ก็จะเคลื่อนที่ตามทิศทางการ บิดหรือหมุนดังกล่าวจนเป็นผลให้สปริง (62) ดันสลักล็อค (61) จนกระทั่งส่วนปลายของสลักล็อค (61) ดังกล่าวเข้าไปขัดอยู่ในร่อง (2d) ของแกนกระบอกนอก (2) ขณะเดียวกันส่วนปลาย (6d) ของลูกเบี้ยว (6) ก็จะเคลื่อนที่เป็นแนวโค้งตามทิศทางการบิดหรือหมุนเช่นกัน เพื่อบังคับให้ส่วนปลาย (5d) ของแกน ลูกเบี้ยว (5) เคลื่อนที่ไปตามแนวเฉียง (6b) ของลูกเบี้ยว (6) จนกระทั่งนั่งบ่าอยู่บนส่วนปลาย (6d) ของลูกเบี้ยว (6) การปฏิบัติดังกล่าวเป้นผลให้แกนลูกเบี้ยว (5) เคลื่อนที่ดันลวดสลิง (3) เคลื่อนที่ไป ตามรูของแกนกระบอกใน (1) เพื่อนำพาแกนสลัก (31) ให้โผล่พ้นปากรู (91b) ของปลอก (91) จนไปค้ำ ก้านเบรกรถยนต์ หรือค้ำก้านคลัตช์รถยนต์ หรือค้ำก้านคันเร่งรถยนต์ไว้จนใช้งานไม่ได้ตามปกติ

5. อุปกรณ์ล็อคเบรก หรือคลัตช์ หรือคันเร่งรถยนต์ ตามข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งมีลักษณะการ ทำงานปลดล็อคเฉพาะคือ เมื่อถูกกระตุ้นให้ปลดล็อคด้วยลูกกุญแจ (ในที่นี้มิได้แสดงไว้) บริเวณรอย บาก (71a) ของปลายแกน (71) ก็จะบังคับให้สลักล็อค (61) เคลื่อนที่ออกจากร่อง (2d) ของแกน กระบอกนอก (2) ขณะเดียวกันสปริง (4) ก็ดันแกนลูกเบี้ยว (5) ให้เคลื่อนที่เป็นแนวเส้นตรงตามทิศ ทางการดันของสปริง เพื่อบังคับให้ส่วนปลาย (5d) ของแกนลูกเบี้ยว (5) เคลื่อนที่ออกจากการนั่งบ่าอยู่ บนส่วนปลาย (6d) ของลูกเบี้ยว (6) ดังกล่าวจนกระทั่งแนวเฉียง (5b) ของแกนลูกเบี้ยว (5) และแนว เฉียง (6b) ของลูกเบี้ยว (6) แนบชิดกัน การปฏิบัติดังกล่าวเป้นผลให้ลวดสลิง (3) เคลื่อนที่ตามแกนลูก เบี้ยว (5) ไปด้วย เพื่อนำพาแกนสลัก (31) เคลื่อนที่จากการค้ำก้านเบรกรถยนต์ หรือก้านคลัตซ์ รถยนต์ หรือก้านคันเร่งรถยนต์

6. อุปกรณ์ล็อคเบรก หรือคลัตช์ หรือคันเร่งรถยนต์ ตามข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งสปริง (4) มีลักษณะ การทำงานเฉพาะคือ ขณะที่อุปกรณ์ล็อคอยู่ในสภาวะปลดล็อค สปริง (4) ดังกล่าวจะทำงานดันแกนลูก เบี้ยว (5) ไว้ตลอดเวลาเพื่อป้องกันไม่ให้แกนล็อค (31) ของลวดสลิง (3) เคลื่อนที่ไปค้ำก้านเบรก รถยนต์ด้วยตัวของมันเอง