TH11862C3 - อุปกรณ์ล็อคแกนพวงมาลัยรถยนต์ที่ซึ่งถูกกระตุ้นให้ทำการล็อคด้วยการบิดหรือหมุน - Google Patents

Abstract

DC60 (02/07/58) อุปกรณ์ล็อคแกนพวงมาลัยรถยนต์ที่ซึ่งถูกกระตุ้นให้ทำการล็อคด้วยการบิดหรือหมุน เป็นการ ประดิษฐ์ที่นำลวดสลิงมาทำหน้าที่พาแกนล็อคให้เคลื่อนที่ไปสอดขัดกับร่องล็อคของตัวประกับ ที่ซึ่งตัว ประกับดังกล่าวได้ถูกติดตั้งเข้ากับแกนพวงมาลัยรถยนต์ไว้ ข้อเด่นของการนำลวดสลิงมาประยุกต์ใช้ กับการประดิษฐ์นี้คือ ลวดสลิงสามารถเคลื่อนที่ไปตามแนวโค้งของแกนกระบอกนอกได้โดยไม่ต้องใช้ ชิ้นส่วนกลไกซับซ้อน นอกจากนี้ยังออกแบบให้มีกลไกป้องกันการล็อคด้วยตัวของมันเองเมื่ออุปกรณ์ ล็อคถูกแรงกระทำอื่นที่ไม่ใช่แรงจากการบิดหรือหมุน ด้วยการนำสปริงมาทำหน้าที่ดันแกนลูกเบี้ยวที่ซึ่ง ส่วนปลายถูกเชื่อมติดกับลวดสลิงข้างต้น เพื่อป้องกันไม่ให้แกนล็อคเคลื่อนที่ไปสอดขัดกับร่องล็อคของ ตัวประกับด้วยตัวของมันเอง แก้ไขบทสรุปการประดิษฐ์ 2/07/58 อุปกรณ์ล็อคแกนพวงมาลัยรถยนต์ที่ซึ่งถูกระตุ้นให้ทำการล็อคด้วยการบิดหรือหมุน เป็นการ ประดิษฐ์ที่นำลวดสลิงมาทำหน้าที่พาแกนล็อคให้เคลื่อนที่ไปสอดขัดกับร่องล็อคของตัวประกับ ที่ซึ่งตัว ประกับดังกล่าวได้ถูกติดตั้งเข้ากับแกนพวงมาลัยรถยนต์ไว้ ข้อเด่นของการนำลวดสลิงมาประยุกต์ใช้ กับการประดิษฐ์นี้คือ ลวดสลิงสามารถเคลื่อนที่ไปตามแนวโค้งของแกนกระบอกนอกได้โดยไม่ต้องใช้ ล็อคถูกแรงกระทำอื่นที่ไม่ใช่แรงจากการบิดหรือหมุน ด้วยการนำสปริงมาทำหน้าที่ดันแกนลูกเบี้ยวที่ซึ่ง ส่วนปลายถูกเชื่อมติดกับลวดสลิงข้างต้น เพื่อป้องกันไม้ให้แกนล็อคเคลื่อนที่ไปสอดขัดกับร่องล็อคของ ตัวประกับด้วยตัวของมันเอง ------------------------------------------------------------------- อุปกรณ์ล็อคแกนพวงมาลัยรถยนต์ ที่ซึ่งถูกระตุ้นให้ทำการล็อคด้วยการบิดหรือหมุน เป็นการ ออกแบบกลไก การล็อคที่มีความซับซ้อนน้อยลง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกัน การโจรกรรม และกลไกการล็อคดังกล่าวจะต้องไม่ทำการล็อคด้วยตัวของมันเองในขณะที่รถยนต์กำลัง วิ่งหรือในขณะที่อุปกรณ์ล็อคอยู่ในสภาวะล็อค

Claims (4)

ข้อถือสิทธฺ์ (ทั้งหมด) ซึ่งจะไม่ปรากฏบนหน้าประกาศโฆษณา :แก้ไข 2/7/2558 1.อุปกรณ์ล็อคแกนพวงมาลัยรถยนต์ซึ่งถูกกระตุ้นให้ทำการล็อคด้วยการบิดหรือหมุน ที่ซึ่งมี ลักษณะเฉพาะดังนี้ ก. แกนกระบอกใน (1) ที่ซึ่งถูกประดิษฐ์ให้เป็นท่อโค้งปลายเปิดทั้งสองด้านสำหรับร้อยผ่าน ลวดสลิง (3) เข้าไปภายใน โดยบริเวณลำตัวส่วนปลาย (1a) ยังถูกประดิษฐ์ให้เป็นร่องยาว (1c) สำหรับ รองรับการสอดอยู่ช่องเดือย (5c) ของแกนลูกเบี้ยว (5) และส่วนปลาย (1b) อีกด้านหนึ่งจะถูกประกอบ เข้ากับแกน (91b) ของปลอก (91) นอกจากนี้บริเวณลำตัวยังถูกประดิษฐ์ให้เป็นหน้าแปลน (11) ยื่น ยาวออกไป โดยส่วนปลายสุดของหน้าแปลน (11) ดังกล่าวได้ประดิษฐ์ให้เป็นแป้นยึด (12) สำหรับยึด อุปกรณ์ล็อคเข้ากับรถยนต์ รวมถึงการประดิษฐ์ให้บริเวณลำตัวของแกนกระบอกใน (1) มีรูเกลียว (1d) สำหรับร้อยเกลียว (92) เพื่อยึดแป้นกันงัด (9) เข้ากับแกนกระบอกใน (1) ข. แกนกระบอกนอก (2) ที่ซึ่งถูกประดิษฐ์ให้เป็นปลายเปิดสองด้าน โดยส่วนปลายด้าน (2a) จะถูกสวมเข้ากับส่วนปลาย (1a) ของแกนกระบอกใน (1) แล้วเชื่อมติดเข้าด้วยกัน, ส่วนปลาย (2b) อีก ด้านหนึ่งถูกจัดไว้สำหรับนำแกนลูกเบี้ยว (5) และลูกเบี้ยว (6) มาประกอบรวมเข้าด้วยกัน, บริเวณ ลำตัวค่อนไปทางส่วนปลาย (2b) ได้ประดิษฐ์ให้เป็นเดือย (2c) ยื่นโผล่เข้าไปภายในสำหรับสวมเข้าไป ในร่องยาว (6c) ของลูกเบี้ยว (6) รวมถึงการประดิษฐ์ให้เป็นร่อง (2d) สำหรับรองรับการสอดเข้าของ สลักล็อค (61) ภายหลังจากถูกกระตุ้นให้ทำการล็อคด้วยการปิดหรือหมุนมือจับ (7) ค. ลวดสลิง (3) สำหรับทำหน้าที่ล็อคแกนพวงมาลัยรถยนต์ไว้ไม่ให้ใช้งานได้ตามปกติ ที่ซึ่ง ลวดสลิงดังกล่าวจะถูกร้อยผ่านสปริง (4) เข้าไปภายในแกนกระบอกใน (1) โดยที่ส่วนปลาย (3a) จะถูก เชื่อมติดกับส่วนปลาย (5b) ของแกนลูกเบี้ยว (5) และส่วนปลายอีกด้านหนึ่งถูกประดิษฐ์ให้เป็นแกน ล็อค (31) สำหรับสอดขัดเข้าไปในร่อง (8Lc) ของตัวประกับซ้าย (8L) เพื่อล็อคไม่ให้สามารถหมุน พวงมาลัยรถยนต์ได้ตามปกติ ง. สปริง (4) ที่ซึ่งถูกประดิษฐ์ให้มีขนาดความยาวของเส้นรอบวงสอดคล้องกับหน้าตัดของแกน ลูกเบี้ยว (5) โดยสปริงดังกล่าวถูกประกอบเข้าด้วยการสวมเข้ากับลวดสลิง (3) และปลายสปริงด้านหนึ่ง จะดันเข้ากับส่วนปลาย (5a) ของแกนลูกเบี้ยว (5) ส่วนปลายสปริงอีกด้านหนึ่งจะดันเข้ากับส่วนปลาย (1a) ของแกนกระบอกใน (1) จ. แกนลูกเบี้ยว (5) ที่ซึ่งถูกประดิษฐ์ให้เป็นเดือย (5c) ยื่นโผล่ออกมาสำหรับสอดเข้าไปอยู่ใน ร่องยาว (1c) ของแกนกระบอกใน (1), บริเวณส่วนปลาย (5a) ถูกจัดไว้สำหรับเชื่อมติดเข้ากับส่วน ปลาย (3a) ของลวดสลิง (3), ส่วนปลายอีกด้านหนึ่งได้ประดิษฐ์ให้เป็นแนวเฉียง (5b) รวมถึงการ ประดิษฐ์ให้เป็นแนวเฉียงข้างต้นต้องมีปลาย (5d) สำหรับรองรับการนั่งบ่ากับส่วนปลาย (6b) ของ ลูกเบี้ยว (6) ฉ. ลูกเบี้ยว (6) ที่ซึ่งบริเวณลำตัวค่อนไปทางส่วนปลาย (6a) ถูกประดิษฐ์ให้เป็นร่องยาว (6c) สำหรับรองรับการสวมเข้ากับเดือย (2c) ของแกนกระบอกนอก (2) นอกจากนี้บริเวณลำตัวยังถูก ประดิษฐ์ให้เป็นรู (6e) สำหรับรองรับการประกอบเข้ากับสลักล็อค (61), ส่วนปลายอีกด้านหนึ่งได้ ประดิษฐ์ให้เป็นแนวเฉียง (6b) ที่ซึ่งถูกประดิษฐ์ให้เป็นแนวเฉียงสอดคล้องกับแนวเฉียง (5b) ของแกน ลูกเบี้ยว (5) และปลายสุดของแนวเฉียง (6b) ดังกล่าวต้องประดิษฐ์ให้มีส่วนปลาย (6d) สำหรับรองรับ การนั่งบ่ากับส่วนปลาย (5b) ของแกนลูกเบี้ยว (5) ช. มือจับ (7) ที่ซึ่งประดิษฐ์ให้มีแกน (7a) สำหรับสวมอัดเข้ากับส่วนปลาย (6a) ของลูกเบี้ยว (6) และภายในถูกประดิษฐ์ให้เป็นรหัสแม่กุญแจที่ซึ่งมีส่วนแกน (71) ยื่นโผล่ออกมา โดยส่วนปลายของ แกน (71) ถูกประดิษฐ์ให้เป็นรอยบาก (71a) สำหรับทำหน้าที่ปลดสลักล็อค (61) ให้เคลื่อนที่ออกจาก ร่อง (2d) ของแกนกระบอกนอก (2) ซ. ปลอก (91) ที่ซึ่งถูกประดิษฐ์มีรูทะลุ (91a) สำหรับรองรับการเคลื่อนที่ออกของแกนล็อค (31) เพื่อไปสอดขัดเข้าไปในร่อง (8Lc) ของตัวประกับซ้าย (8L) เพื่อล็อคแกนพวงมาลัยรถยนต์ไว้ไม่ให้ สามารถใช้งานได้ตามปกติ และประดิษฐ์ให้ลำตัว (91b) สำหรับสวมอัดเข้ากับส่วนปลาย (1b) ของแกน กระบอกใน (1) รวมถึงประดิษฐ์ให้เป็นปีก (91c) สำหรับปิดร่อง (8Lc) และรู (8Lb) ของตัวประกับซ้าย (8L) ไว้เพื่อป้องกันการคลายสกรู (81) ออกเพื่อทำการโจรกรรม ฌ. ตัวประกับ (8) สำหรับยึดติดตั้งเข้ากับแกนพวงมาลัยของรถยนต์ โดยตัวประกับ (8) ดังกล่าวได้ประดิษฐ์ให้เป็นสองชิ้น (ตัวประกับด้านขวา (8R) และตัวประกับด้านขวา (8L) แยกออกจาก กัน ที่ซึ่งมีลักษณะเฉพาะคือ บริเวณลำตัวด้านนอกของตัวประกับด้านซ้าย (8L) ถูกประดิษฐ์ให้เป็นร่อง ล็อค (8Lc) เพื่อรองรับการล็อคเข้าของแกนล็อค (31) 2. อุปกรณ์ล็อคแกนพวงมาลัยรถยนต์ที่ซึ่งถูกกระตุ้นให้ทำการล็อคด้วยการบิดหรือหมุน ตาม ข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งแกนลูกเบี้ยว (5) ถูกประดิษฐ์ให้เป็นแนวเฉียง (5b) โดยจะเอียงทำมุมอย่างน้อยห้า องศา 3. อุปกรณ์ล็อคแกนพวงมาลัยรถยนต์ที่ซึ่งถูกกระตุ้นให้ทำการล็อคด้วยการบิดหรือหมุน ตาม ข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งลูกเบี้ยว (6) ถูกประดิษฐ์ให้เป็นแนวเฉียง (6b) โดยจะเอียงทำมุมอย่างน้อยห้าองศา 4. อุปกรณ์ล็อคแกนพวงมาลัยรถยนต์ที่ซึ่งถูกกระตุ้นให้ทำการล็อคด้วยการบิดหรือหมุน ตาม ข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งมีลักษณะการทำงานล็อคเฉพาะคือ เมื่อถูกกระตุ้นมือจับ (7) ด้วยการบิดหรือหมุน ลูก เบี้ยว (6) ก็จะเคลื่อนที่ตามทิศทางการบิดหรือหมุนดังกล่าวจนเป็นผลให้สปริง (62) ดันสลักล็อค (61) จนกระทั่งส่วนปลายของสลักล็อค (61) ดังกล่าวเข้าไปขัดอยู่ในร่อง (2d) ของแกนกระบอกนอก (2) ขณะเดียวกันส่วนปลาย (6d) ของลูกเบี้ยว (6) ก็จะเคลื่อนที่เป็นแนวโค้งตามทิศทางการบิดหรือหมุน เช่นกัน เพื่อบังคับให้ส่วนปลาย (5d) ของแกนลูกเบี้ยว (5) เคลื่อนที่ไปตามแนวเฉียง (6b) ของลูกเบี้ยว (6) จนกระทุ่งนั่งบ่าอยู่บนส่วนปลาย (6d) ของลูกเบี้ยว (6) การปฏิบัติดังกล่าวเป้นผลให้แกนลูกเบี้ยว (5) เคลื่อนที่ดันลวดสลิง (3) ไปตามรูของแกนกระบอกใน (1) เพื่อนำพาแกนสลัก (31) ให้โผล่พ้นบ่ากรู (91a) ของปลอก (91) ไปสอดขัดในร่อง (8Lc) ของตัวประกับซ้าย (8L) เพื่อล็อคไม่ให้สามารถหมุน พวงมาลัยรถยนต์ได้ตามปกติ 5. อุปกรณ์ล็อคแกนพวงมาลัยรถยนต์ที่ซึ่งถูกกระตุ้นให้ทำการล็อคด้วยการบิดหรือหมุน ตาม ข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่มีลักษณะการทำงานปลฃดล็อคเฉพาะคือ เมื่อถูกกระตุ้นให้ปลดล็อคด้วยลูกกุญแจ ปลายของแกน (71) บริเวณรอยบาก (71a) ก็จะบังคับให้สลักล็อค (61) เคลื่อนที่ออกจากร่าง (2d) ของ แกนกระบอกนอก (2) ขณะเดียวกันสปริง (4) ก็ดึงแกนลูกเบี้ยว (5) ให้เคลื่อนที่เป็นแนวเส้นตรงตาม ทิศทางการดันของสปริง เพื่อบังคับให้ส่วนปลาย (5d) ของแกนลูกเบี้ยว (5) เคลื่อนที่ออกจากการนั่งบ่า อยู่บนส่วนปลาย (6d) ของลูกเบี้ยว (6) ดังกล่าวจนกระทั่งแนวเฉียง (5b) ของแกนลูกเบี้ยว (5) และ แนวเฉียง (6b) ของลูกเบี้ยว (6) แนบชิดกัน การปฏิบัติดังกล่าวเป็นผลให้ลวดสลิง (3) เคลื่อนที่ตาม แกนลูกเบี้ยว (5) ไปด้วย เพื่อนำพาแกนสลัก (31) เคลื่อนที่ออกจากร่อง (8Lc) ของตัวประกับซ้าย (8L) จนสามารถหมุนพวงมาลัยรถยนต์ได้ตามปกติ 6. อุปกรณ์ล็อคแกนพวงมาลัยรถยนต์ที่ซึ่งถูกกระตุ้นให้ทำการล็อคด้วยการบิดหรือหมุน ตาม ข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งสปริง (4) มีลักษณะการทำงานเฉพาะคือ ขณะที่อุปกรณ์ล็อคอยู่ในสภาวะปลดล็อค สปริง (4) ดังกล่าวจะทำงานดันแกนลูกเบี้ยว (5) ไว้ตลอดเวลาเพื่อป้องกันไม่ให้แกนล็อค (31) ของ ลวดสลิง (3) เคลื่อนที่ไปสอดขัดเข้าไปในร่อง (8Lc) ของตัวประกับซ้าย (8L) ด้วยตัวของมันเอง -------------------------------------------------------------------

1.อุปกรณ์ล็อคแกนพวงมาลัยรถยนต์ซึ่งถูกกระตุ้นให้ทำการล็อคด้วยการบิดหรือหมุน ที่ซึ่งมี ลักษณะเฉพาะดังนี้ ก. แกนกระบอกใน (1) ที่ซึ่งถูกประดิษฐ์ให้เป็นท่อโค้งปลายเปิดทั้งสองด้านสำหรับร้อยผ่าน ลวดสลิง (3) เข้าไปภายใน โดยบริเวณลำตัวส่วนปลาย (1a) ยังถูกประดิษฐ์ให้เป็นร่องยาว (1c) สำหรับ รองรับการสอดอยู่ช่องเดือย (5c) ของแกนลูกเบี้ยว (5) และส่วนปลาย (1b) อีกด้านหนึ่งจะถูกประกอบ เข้ากับแกน (91b) ของปลอก (91) นอกจากนี้บริเวณลำตัวยังถูกประดิษฐ์ให้เป็นหน้าแปลน (11) ยื่น ยาวออกไป โดยส่วนปลายสุดของหน้าแปลน (11) ดังกล่าวได้ประดิษฐ์ให้เป็นแป้นยึด (12) สำหรับยึด อุปกรณ์ล็อคเข้ากับรถยนต์ รวมถึงการประดิษฐ์ให้บริเวณลำตัวของแกนกระบอกใน (1) มีรูเกลียว (1d) สำหรับร้อยเกลียว (92) เพื่อยึดแป้นกันงัด (9) เข้ากับแกนกระบอกใน (1) ข. แกนกระบอกนอก (2) ที่ซึ่งถูกประดิษฐ์ให้เป็นปลายเปิดสองด้าน โดยส่วนปลายด้าน (2a) จะถูกสวมเข้ากับส่วนปลาย (1a) ของแกนกระบอกใน (1) แล้วเชื่อมติดเข้าด้วยกัน, ส่วนปลาย (2b) อีก ด้านหนึ่งถูกจัดไว้สำหรับนำแกนลูกเบี้ยว (5) และลูกเบี้ยว (6) มาประกอบรวมเข้าด้วยกัน, บริเวณ ลำตัวค่อนไปทางส่วนปลาย (2b) ได้ประดิษฐ์ให้เป็นเดือย (2c) ยื่นโผล่เข้าไปภายในสำหรับสวมเข้าไป ในร่องยาว (6c) ของลูกเบี้ยว (6) รวมถึงการประดิษฐ์ให้เป็นร่อง (2d) สำหรับรองรับการสอดเข้าของ สลักล็อค (61) ภายหลังจากถูกกระตุ้นให้ทำการล็อคด้วยการปิดหรือหมุนมือจับ (7) ค. ลวดสลิง (3) สำหรับทำหน้าที่ล็อคแกนพวงมาลัยรถยนต์ไว้ไม่ให้ใช้งานได้ตามปกติ ที่ซึ่ง ลวดสลิงดังกล่าวจะถูกร้อยผ่านสปริง (4) เข้าไปภายในแกนกระบอกใน (1) โดยที่ส่วนปลาย (3a) จะถูก เชื่อมติดกับส่วนปลาย (5b) ของแกนลูกเบี้ยว (5) และส่วนปลายอีกด้านหนึ่งถูกประดิษฐ์ให้เป็นแกน ล็อค (31) สำหรับสอดขัดเข้าไปในร่อง (8Lc) ของตัวประกับซ้าย (8L) เพื่อล็อคไม่ให้สามารถหมุน พวงมาลัยรถยนต์ได้ตามปกติ ง. สปริง (4) ที่ซึ่งถูกประดิษฐ์ให้มีขนาดความยาวของเส้นรอบวงสอดคล้องกับหน้าตัดของแกน ลูกเบี้ยว (5) โดยสปริงดังกล่าวถูกประกอบเข้าด้วยการสวมเข้ากับลวดสลิง (3) และปลายสปริงด้านหนึ่ง จะดันเข้ากับส่วนปลาย (5a) ของแกนลูกเบี้ยว (5) ส่วนปลายสปริงอีกด้านหนึ่งจะดันเข้ากับส่วนปลาย (1a) ของแกนกระบอกใน (1) จ. แกนลูกเบี้ยว (5) ที่ซึ่งถูกประดิษฐ์ให้เป็นเดือย (5c) ยื่นโผล่ออกมาสำหรับสอดเข้าไปอยู่ใน ร่องยาว (1c) ของแกนกระบอกใน (1), บริเวณส่วนปลาย (5a) ถูกจัดไว้สำหรับเชื่อมติดเข้ากับส่วน ปลาย (3a) ของลวดสลิง (3), ส่วนปลายอีกด้านหนึ่งได้ประดิษฐ์ให้เป็นแนวเฉียง (5b) รวมถึงการ ประดิษฐ์ให้เป็นแนวเฉียงข้างต้นต้องมีปลาย (5d) สำหรับรองรับการนั่งบ่ากับส่วนปลาย (6b) ของ ลูกเบี้ยว (6) ฉ. ลูกเบี้ยว (6) ที่ซึ่งบริเวณลำตัวค่อนไปทางส่วนปลาย (6a) ถูกประดิษฐ์ให้เป็นร่องยาว (6c) สำหรับรองรับการสวมเข้ากับเดือย (2c) ของแกนกระบอกนอก (2) นอกจากนี้บริเวณลำตัวยังถูก ประดิษฐ์ให้เป็นรู (6e) สำหรับรองรับการประกอบเข้ากับสลักล็อค (61), ส่วนปลายอีกด้านหนึ่งได้ ประดิษฐ์ให้เป็นแนวเฉียง (6b) ที่ซึ่งถูกประดิษฐ์ให้เป็นแนวเฉียงสอดคล้องกับแนวเฉียง (5b) ของแกน ลูกเบี้ยว (5) และปลายสุดของแนวเฉียง (6b) ดังกล่าวต้องประดิษฐ์ให้มีส่วนปลาย (6d) สำหรับรองรับ การนั่งบ่ากับส่วนปลาย (5b) ของแกนลูกเบี้ยว (5) ช. มือจับ (7) ที่ซึ่งประดิษฐ์ให้มีแกน (7a) สำหรับสวมอัดเข้ากับส่วนปลาย (6a) ของลูกเบี้ยว (6) และภายในถูกประดิษฐ์ให้เป็นรหัสแม่กุญแจที่ซึ่งมีส่วนแกน (71) ยื่นโผล่ออกมา โดยส่วนปลายของ แกน (71) ถูกประดิษฐ์ให้เป็นรอยบาก (71a) สำหรับทำหน้าที่ปลดสลักล็อค (61) ให้เคลื่อนที่ออกจาก ร่อง (2d) ของแกนกระบอกนอก (2) ซ. ปลอก (91) ที่ซึ่งถูกประดิษฐ์มีรูทะลุ (91a) สำหรับรองรับการเคลื่อนที่ออกของแกนล็อค (31) เพื่อไปสอดขัดเข้าไปในร่อง (8Lc) ของตัวประกับซ้าย (8L) เพื่อล็อคแกนพวงมาลัยรถยนต์ไว้ไม่ให้ สามารถใช้งานได้ตามปกติ และประดิษฐ์ให้ลำตัว (91b) สำหรับสวมอัดเข้ากับส่วนปลาย (1b) ของแกน กระบอกใน (1) รวมถึงประดิษฐ์ให้เป็นปีก (91c) สำหรับปิดร่อง (8Lc) และรู (8Lb) ของตัวประกับซ้าย (8L) ไว้เพื่อป้องกันการคลายสกรู (81) ออกเพื่อทำการโจรกรรม ฌ. ตัวประกับ (8) สำหรับยึดติดตั้งเข้ากับแกนพวงมาลัยของรถยนต์ โดยตัวประกับ (8) ดังกล่าวได้ประดิษฐ์ให้เป็นสองชิ้น (ตัวประกับด้านขวา (8R) และตัวประกับด้านขวา (8L) แยกออกจาก กัน ที่ซึ่งมีลักษณะเฉพาะคือ บริเวณลำตัวด้านนอกของตัวประกับด้านซ้าย (8L) ถูกประดิษฐ์ให้เป็นร่อง ล็อค (8Lc) เพื่อรองรับการล็อคเข้าของแกนล็อค (31)

2. อุปกรณ์ล็อคแกนพวงมาลัยรถยนต์ที่ซึ่งถูกกระตุ้นให้ทำการล็อคด้วยการบิดหรือหมุน ตาม ข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งแกนลูกเบี้ยว (5) ถูกประดิษฐ์ให้เป็นแนวเฉียง (5b) โดยจะเอียงทำมุมอย่างน้อยห้า องศา

3. อุปกรณ์ล็อคแกนพวงมาลัยรถยนต์ที่ซึ่งถูกกระตุ้นให้ทำการล็อคด้วยการบิดหรือหมุน ตาม ข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งลูกเบี้ยว (6) ถูกประดิษฐ์ให้เป็นแนวเฉียง (6b) โดยจะเอียงทำมุมอย่างน้อยห้าองศา

4. อุปกรณ์ล็อคแกนพวงมาลัยรถยนต์ที่ซึ่งถูกกระตุ้นให้ทำการล็อคด้วยการบิดหรือหมุน ตาม ข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งมีลักษณะการทำงานล็อคเฉพาะคือ เมื่อถูกกระตุ้นมือจับ (7) ด้วยการบิดหรือหมุน ลูก เบี้ยว (6) ก็จะเคลื่อนที่ตามทิศทางการบิดหรือหมุนดังกล่าวจนเป็นผลให้สปริง (62) ดันสลักล็อค (61) จนกระทั่งส่วนปลายของสลักล็อค (61) ดังกล่าว -------------------------------------------------------------------