TH4365B - การผลิตผ้าเดนิมโดยกรรมวิธีเปียก - Google Patents

Abstract

ได้ให้กรรมวิธีทำให้ผ่าเดนินสีจางที่มีข้อดีแก่สภาวะแวดล้อมยิ่งขึ้น โดยใช้ผ้าที่อยู่ในรูปผ้าทอหรือหลังจากทำเป็น เครื่องแต่งกายแล้ว อาจเลือกทำให้ผ้าเดนินสีจางอย่าง สม่ำเสมอหรือทำให้สีจาง ในแบบสุ่มและซักด้วยหิน น้ำเสียจาก กรรมวิธีนี้ไม่มีค่า COD (ความต้องการออกซิเจนทางเคมี) สูง เหมือนกับกรรมวิธีสามัญซึ่งเป็นข้อเสีย

Claims (9)

1. กรรมวิธีสำหรับดำเนินการโดยวิธีเปียกกับผ้าเดนิมซึ่งมีพื้นที่ ซึ่งเป็นสีจากสีย้อมโดยกำจัดวัสดุประสาน (desizing) ของผ้าเดนิม, ซักผ้าซึ่งกำจัดวัสดุประสานแล้ว, ให้ผ้าที่ซักแล้วสัมผัสกับโพแทสเซียม เปอร์แมงกาเนทเพื่อ ออกซิไดซ์บางส่วนของพื้นที่ซึ่งเป็นสี ในผ้าเดนิมให้อยู่ใน รูปที่จะกำจัดออกจากผิวของผ้าได้ง่าย , ซึ่งทำให้ฟอกสี ผ้าเดนิม, และทำให้ผ้าเดนิมซึ่งฟอกสีแล้วเป็นกลาง โดยกำจัด โพแทสเซียม เปอร์แมงกาเนทที่เหลือและสีที่ถูกออกซิไดส์แล้ว ออกไป การปรับปรุงให้ดีขึ้นประกอบด้วย (a) ทำให้ผ้าเดนิน ที่ถูกออกซิไดซ์แล้วเป็นกลาง โดย (i) จุ่มผ้าเดนิมลงในน้ำ 5 ถึง 20 ส่วนโดยน้ำหนักต่อส่วนโดยน้ำหนักของผ้าเดนิม (ii) รักษาสารละลายในน้ำชนิดแรกที่กล่าวแล้วไว้ระหว่าง พี. เอช 3.0 และ 6.0 (iii) หลังจากนั้นเติมสารดีเลทชนิดมอนอเดนเทท หรือมัลติเดนเทท คาร์บอกซิลิค แอซิด หรือเกลือหรือสารผสม ของสารเหล่านั้น 2 ส่วนโดยน้ำหนักเพื่อให้ได้สารละลายในน้ำ ชนิดแรก , ลงไปในน้ำ, และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 1 ส่วนโดย น้ำหนักเพื่อให้ได้สารละลายในน้ำชนิดแรก, และ (iv) รักษา สารละลายในน้ำชนิดแรกที่กล่าวแล้วไว้ที่ 65*ซ ถึง 90*ซ เป็นเวลา 5 ถึง 15 นาที และ (b) ฟอกจางผ้าเดนิมที่ฟอกสี แล้วโดยให้ผ้าเดนิมที่กล่าวแล้ว สัมผัสกับสารละลายฟอกจาง ชนิดเป็นด่าง 5 ถึง 20 ส่วนโดยน้ำหนัก ซึ่งประกอบด้วย ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์จาก 0.6 ถึง 4 ส่วนโดยน้ำหนัก กับด่างที่เพียงพอซึ่งจะทำให้ได้ พี. เอช ประมาณ 8 ถึง 9 โดยให้สัมผัส 4 ถึง 8 นาที ที่ 65*ซ ถึง 90*ซ 2. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งนำผ้าเดนินมากำจัด วัสดุประสานโดยให้ผ้าเดนิมสัมผัสสารประกอบเปอร์ออกซิเจน ใน ปริมาณที่ทำให้เกิดผลกับสารลดแรงตึงผิว 0.2% ถึง 3% เทียบ กับน้ำหนักของผ้าที่ พี. เอช 7 - 12 ในเวลาที่เพียงพอซึ่ง จะกำจัดวัสดุประสานออกได้มาก 3. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อ 2 ซึ่งปริมาณที่ทำให้เกิดผล ของสารประกอบเปอร์ออกซิเจน คือ โซเดียม เปอร์ซัลเฟท 0.5% ถึง 3% เทียบกับน้ำหนักของผ้าที่ 4. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อ 2 ซึ่งปริมาณที่ทำให้เกิดผล ของสารประกอบเปอร์ออกซิเจน คือ โซเดียม เปอร์ซัลเฟท 0.5% ถึง 3% เทียบกับน้ำหนักของผ้า 5. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งมีลักษณะเฉพาะคือ ทำ ขั้นตอนการทำให้เป็นกลางที่กล่าวแล้วซ้ำด้วยสารละลาย ในน้ำ ชนิดที่สองซึ่งประกอบด้วยสารละลายในน้ำชนิดแรกที่กล่าวแล้ว ซึ่งมีสารซักฟอกชนิดเป็นกลางเพิ่มเติม 1 ถึง 4 ส่วนโดยน้ำ หนักเทียบกับน้ำหนักของผ้า 6. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งผ้าเดนิมประกอบในรูป ของเครื่องแต่งกาย 7. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อ 2 ซึ่งผ้าเดนินนั้นอยู่ใน รูปของเครื่องแต่งกาย 8. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อ 3 ซึ่งกำจัดวัสดุประสานจาก ผ้าเดนินที่ พี. เอช 7 ถึง 10 เป็นเวลา 10 ถึง 12 นาที 9. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อ 3 ซึ่งกำจัดวัสดุประสานจาก ผ้าเดนินที่ พี. เอช 7 ถึง 10 เป็นเวลา 10 ถึง 12 นาที 1 0. กรรมวิธีสำหรับดำเนินการโดยวิธีเปียกกับผ้าเดนิมซึ่งมี พื้นที่ ซึ่งเป็นสีจากสีย้อมโดยกำจัดวัสดุประสานของผ้าเด นิม, ซักผ้าซึ่งกำจัดวัสดุประสานแล้ว, ให้ผ้าที่ซักแล้ว สัมผัสกับโพแทสเซียม เปอร์แมงกาเนทเพื่อออกซิไดซ์บางส่วน ของพื้นที่ซึ่งเป็นสี ในผ้าเดนิมให้อยู่ในรูปที่จะกำจัดออก จากผิวของผ้าได้ง่าย , ซึ่งทำให้ฟอกสีผ้าเดนิม, และทำให้ ผ้าเดนิมซึ่งฟอกสีแล้วเป็นกลาง โดยกำจัดโพแทสเซียม เปอร์ แมงกาเนทที่เหลือและสีที่ถูกออกซิไดส์แล้วออกไป การปรับ ปรุงให้ดีขึ้นประกอบด้วย (a) ทำให้ผ้าเดนินที่ถูกออกซิไดซ์ แล้วเป็นกลาง โดย (i) จุ่มผ้าเดนิมลงในน้ำ 5 ถึง 20 ส่วน โดยน้ำหนักต่อส่วนโดยน้ำหนักของผ้าเดนิม (ii) รักษาสารละลายในน้ำชนิดแรกที่กล่าวแล้วไว้ระหว่าง พี. เอช 3.0 และ 6.0 (iii) หลังจากนั้นเติมสารดีเลทชนิดมอนอเดนเทท หรือมัลติเดนเทท คาร์บอกซิลิค แอซิด หรือเกลือหรือสารผสม ของสารเหล่านั้น 2 ส่วนโดยน้ำหนักเพื่อให้ได้สารละลายในน้ำ ชนิดแรก , ลงไปในน้ำ, และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 1 ส่วนโดย น้ำหนักเพื่อให้ได้สารละลายในน้ำชนิดแรก, และ (iv) รักษา สารละลายในน้ำชนิดแรกที่กล่าวแล้วไว้ที่ 65*ซ ถึง 90*ซ เป็นเวลา 5 ถึง 15 นาที และ (b) ฟอกจางผ้าเดนิมที่ฟอกสี แล้วโดยให้ผ้าเดนิมที่กล่าวแล้ว สัมผัสกับสารละลายฟอกจาง ชนิดเป็นด่าง 5 ถึง 20 ส่วนโดยน้ำหนัก ซึ่งประกอบด้วย ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์จาก 0.6 ถึง 4 ส่วนโดยน้ำหนัก กับด่างที่เพียงพอซึ่งจะทำให้ได้ พี. เอช ประมาณ 8 ถึง 9 โดยให้สัมผัส 4 ถึง 8 นาที ที่ 65*ซ ถึง 90*ซ 1

1. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อ 1 0ซึ่งกำจัดวัสดุประสานจากผ้าเดนิมโดยให้ผ้าเดนิมสัมผัสสารประกอบเปอร์ออกซิเจน ในปริมาณที่ทำให้เกิดผลกับสารลดแรงตึงผิว 0.2% ถึง 3% เทียบกับน้ำหนักของผ้าที่ พี. เอช 7 - 12 ในเวลาที่เพียงพอซึ่ง ทำให้กำจัดวัสดุประสานออกจากผ้าได้เป็นส่วนมาก 1

2. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้ 11 ซึ่งปริมาณของสารประกอบ เปอร์ออกซิเจนที่ทำให้เกิดผลคือ 0.5% ถึง 3% ของโซเดียม เปอร์ซัลเฟทโดยน้ำหนักของผ้า 1

3. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อ 11 ซึ่งปริมาณของสารประกอบ เปอร์ออกซิเจนที่ทำให้เกิดผลคือ 2% ถึง 6% ของโซเดียม เปอร์ซัลเฟทโดยน้ำหนักของผ้า 1

4. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งมีลักษณะเฉพาะคือ ทำ ขั้นตอนการทำให้เป็นกลางที่กล่าวแล้วซ้ำด้วยสารละลาย ในน้ำ ชนิดที่สองซึ่งประกอบด้วยสารละลายในน้ำชนิดแรกที่กล่าวแล้ว ซึ่งมีสารซักฟอกชนิดเป็นกลางเพิ่มเติม 1 ถึง 4 ส่วนโดยน้ำ หนักเทียบกับน้ำหนักของผ้า 1

5. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อ 10 ซึ่งเติมสารดีเทอร์เจนท์ 1 ถึง 4 ส่วน โดยน้ำหนักของผ้าลงในชั้นการทำให้เป็นกลาง 1

6. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อ 10 ซึ่งผ้าเดนินอยู่ในรูป ของเครื่องนุ่งห่ม 1

7. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อ 11 ซึ่งกำจัดวัสดุประสานจาก ผ้าเดนินที่ พี. เอช 7 ถึง 10 เป็นเวลา 10 ถึง 12 นาที 1

8. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อ 14 ซึ่งกำจัดวัสดุประสานจาก ผ้าเดนินที่ พี. เอช 7 ถึง 10 เป็นเวลา 10 ถึง 12 นาที 1

9. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อ 15 ซึ่งกำจัดวัสดุประสานจาก ผ้าเดนินที่ พี. เอช 7 ถึง 10 เป็นเวลา 10 ถึง 12 นาที (ข้อถือสิทธิ 19 ข้อ, 4 หน้า, 0 รูป)