TH10722B - การเตรียมพอลิยูรีเธนโฟมโดยไม่ใช้สารช่วยเป่า - Google Patents

Abstract

กรรมวิธีสำหรับการทำพอลิยูรีเธนสแลบสทอดโฟมชนิดความหนาแน่นต่ำและเลือกให้ยืดหดได้ต่ำ, อ่อนนุ่ม, ซึ่งงอโค้งได้ที่มีโครงสร้างเป็นชนิดเซลล์เปิดเป็นส่วนใหญ่โดยไม่มีการทำให้แตก,ไม่ต้องการช่วยเป่าชนิดเฉื่อยช่วยเหลือ, โดยการทำปฏิกิริยาภายใต้ภาวะซึ่งเปิดโอกาสให้โฟมฟูขึ้นอย่างเสรี, พอลิอีเธอร์ พอลิออลที่มีหมู่ไฮดรอกซิลสามัญอยู่ด้วยกับพอลิไอโซไซแอเนทที่ดรรชนีวิธีดำเนินการทำโฟมที่ประกอบด้วยตัวสารเชื่อมขวางและ/หรือตัวสารให้แผ่ขยายออกไปชนิดน้ำหนักสมมูลต่ำ และตัวสารที่ทำให้เซลล์เปิดตามที่ต้องการ

Claims (1)

1. กรรมวิธีสำหรับการทำพอลิยูรีเธนสแลบทอคโฟม (polyurethane slabstock foam)สามัญที่งอได้ที่มีความหนาแน่นต่ำกว่า 40.05 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เมตร (2.5 pof) และเซลล์ที่ต่อระหว่างกันอย่างเพียงพอที่จะให้อากาศผ่านทะลุ (โครงสร้างชนิดเซลล์เปิด) โดยไม่ทำให้แตก ซึ่งประกอบด้วยการให้ของผสมปฏิกิริยาในสภาพที่มีสารทำให้พอลิยูรีเธนโฟมเสถียรอย่างมาก และภายใต้สภาวะซึ่งเปิดดอกาสให้โฟมฟูขึ้นอย่างเสรี โดยถือว่าปราศจากสารช่วยเป่าชนิดคลอโรฟลูออโรคาร์บอน และ เมธิลีนคลอไรด์ ที่ประกอบไปด้วย : เอ) พอลิอีเธอร์พอลิออล หรือสารผสมพอลิออลที่มีน้ำหนักสมมูลอยู่ระหว่างประมาณ 500 และประมาณ 1500 และนอมินัลฟังก์ชันนัลลิที (nominal functionality) อย่างน้อยที่สุดสองหมู่, ปริมาณไพรมารี ไฮดรอกซิลน้อยกว่า 50% และปริมาณของเอธิลีนออกไซด์มีอยู่ในจำนวนที่น้อยกว่า 20% โดยน้ำหนัก; บี) น้ำในปริมาณตั้งแต่ 2.0 ส่วน ต่อ 12 ส่วนต่อร้อยส่วนของพอลิออล เอ); ซี) พอลิไอโซไซยาเนท อินทรีย์ที่มีฟังชั่นนัลลิทิประมาณ สองหมู่, ที่มีอยู่ในปริมาณที่ให้เกิดดรรชนีไอโซไซยาเนต ระหว่าง 60 และ 95; ดี) ตัวเร่งปฏิกิริยาพอลิยูรีเทนโฟมที่ประกอบด้วยตัวเร่งปฏิกิริยาเทอร์เชียรีแอมีน และตัวเร่งปฏิกิริยาออร์แกโนเมทัลลิก รวมกันในปริมาณระหว่าง 0.001 และ 5 เปอร์เซนต์โดยน้ำหนักขึ้นอยู่กับน้ำหนักของของผสมปฏิริยา; และ อี) สารช่วยกรรมวิธีทำโฟมที่ประกอบด้วย (1) วัสดุอย่างน้อยที่สุดหนึ่งชนิดที่เลือกจากสารทำให้เกิดการเชื่อมไขว้ (crosslinking agents) และสารทำให้ขยาย (extending agent) ที่มีค่าเฉลี่ยหมู่ว่องไวไอโซไซยาเนตอย่างน้อยที่สุดสองหมู่ต่อโมเลกุลหมู่ว่องไวดังกล่าวเลือกจากหมู่ไฮดรอกซิล, ไพรมารีอะมิโน และเซคันเดอรีอะมิโน และมีน้ำหนักสมมูลน้อยกว่า 200 ในปริมาณระหว่าง 0.2 และ 10 ส่วนต่อร้อยส่วนของพอลิออล เอ) เพื่อป้องกันการแยกออกของโฟม และอาจเลือก (2) สารเปิดเซลล์ (cell opening agent) ซึ่งประกอบด้วยวัสดุที่เลือกจากพอลิเอธีลีนออกไซด์โมนอลและพอลิออล ที่มีปริมาณของเอธิลีนออกไซด์มากกว่า 50% โดยน้ำหนัก และน้ำหนักสมมูล 200 ถึง 5000 ในปริมาณระหว่าง 0.1 และ 20 ส่วนต่อร้อยส่วนของพอลิออล เอ) โดยมีเงื่อนไขว่า มีพอลิเอทิลีนออกไซด์อย่างน้อยที่สุดหนึ่งหมู่ที่เป็นไปตามบทนิยาม อี) (1) หรือ อี) (2) และ อาจเลือกพอลิเมอร์ของแข็งที่มีการกระจายอย่างเสถียรที่ Tg อย่างน้อยที่สุด 40 องศาเซลเซียสในประกอบ เอ), บี) หรือ ซี) และใช้ที่ระดับจนถึง 50% โดยน้ำหนัดของโฟมขั้นสุดท้าย 2. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิ 1 โดยที่รวมพอลิเมอร์ของแข็งดังกล่าวไว้ด้วย และเป็นของแข็งที่กระจายอย่างเสถียรที่เกิดขึ้นจากพอลิเมอร์ไรเซชันของมอนอเมอร์ในแหล่งแรกเริ่มภายในพอลิออล เอ) 3. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิ 1 โดยที่พอลิออล a) มีน้ำหนักสมมูลระหว่าง 500 และ 1300 และปริมาณเอธีลินออกไซด์น้อยกว่า 15% และที่นิยมคือ พอลิอีเทอร์ไตรออล 4. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิ 1 ถึง 3 ข้อใดข้อหนึ่งโดยที่มีพอลิไอโซไซยาเนตที่ดรรชนีไอโซไซยาเนตระหว่าง 60 และ 90 5. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิ 1 โดยที่พอลิเอธิลีนออกไซด์โมนอล และ/หรือ พอลิออล มีปริมาณของเอธิลีนออกไซด์มากกว่า 60% โดยน้ำหนัก 6. กระบวนการตามข้อถือสิทธิ 1 ประกอบเพิ่มเติมด้วยพอลิเอคิลีนออกไซด์ที่ถูกกราฟท์ด้วยกรดแอลคีนออกที่ใช้ในปริมาณระหว่าง 0.01 ถึง 2.0 ส่วนต่อร้อยส่วนของพอลีออล เอ) 7. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิ 1 หรือ 2 โดบเลือกสารทำให้เชื่อมไขว้/สานทำให้ขยายจากกลุ่มที่ประกอบด้วยไดเอธานอบแอมีน, ไทรเอธานอลแอมีน, ไดไอโซโพรพานอลแอมีน, เอธิลีนไกลคอล, กลีเซอรีน, ไทรเมธิออลโพรเพน, ซอร์บิทอล, เออริธริทอล, ซูโครส, บิวเทนไดออล, ไอโซเมอร์ต่างๆ ของเฟนิลีนไดแอมีน, เฟนทาเออริทริทอล, 2,4,6-ไทรอะมิโนทอลูอีน, ไอโซโฟโรนไดแอมีน, ไดเอธิลทอลิลีนไดแอมีน, เอธานอลแอมีน, ไฮดราซีน, เอธีลินออกไซด์แอดดักท์ มวลโมเลกุลต่ำของ (1) พอลิฟังก์ชันนัลแอมีน, (2) พอลิฟังก์ชันนัลแอลกอฮอล์, (3)อะมิโนแอลกอฮอล์และ (4) แอลกอฮอล์แอมีน และของผสมของสารนั้น 8. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิ 1 หรือ 2 โดยที่สารทำให้เชื่อมไขว้/ทำให้ขยาย ได้แก่ไดเอธานอลแอมีน และ/หรือ เอธิลีนออกไซด์แอดดักท์ของกลีเซอรีน 9. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิ 1 หรือ 2 โดยที่สารทำให้เชื่อมไขว้/ทำให้ขยายมีหมู่ว่องไวไอโซไซยาเนตอย่างน้อยที่สุดสามหมู่ต่อโมเลกุล และถูกใช้ในปริมาณเท่ากับ 0.5 ถึง 10 ส่วนต่อร้อยส่วนของพอลิออล เอ) 1 0. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิ 1 หรือ 2 โดยที่ปริมาณของน้ำอยู่ในช่วงตั้งแต่ 4.0 ถึง 10 ส่วนต่อร้อยส่วนของพอลิออล เอ) 1 1. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิ 1 หรือ 2 โดยที่ตัวเร่งปฏิกิริยา คือสารผสมของ บิส (2.2\'-ไดเมธิลอะมิโน) เอธิลอีเทอร์ และสารประกอบออร์แกโนทิน 1 2. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิ 1 หรือ 2 โดยที่ออร์แกนิกพอลิไดโซไซยาเนต ส่วนใหญ่ประกอบด้วย TDI ,และนิยมมีอยู่ที่ดรรชนีไอโซไซยาเนตระหว่าง 65 และ 85 1 3. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิ 1 หรือ 2 โดยที่สารทำให้เสถียรพอลิยูรีเธนโฟม เป็นออร์แกโน-พอลิซิลออกแซนโตพอลิเมอร์ที่มีอะตอมซิลิกอนอย่างน้อยที่สุด 10 อะตอม ที่นิยมคือ พอลิซิลออกแซน-พอลิออกซีแอลไคลีนโคพอลิเมอร์ และใช้ในปริมาณช่วงตั้งแต่ 0.001 ถึง 5.0 เปอร์เซนต์ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของสารผสมปฏิกิริยา 1 4. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิ 1 หรือ 2 โดยที่พอลิออล เอ) ดังกล่าวคือมีพอลิอีเทอร์ไทรออล และพอลิไอโซไซยาเนตดังกล่าวที่ดรรชนีไอโซไซยาเนต ระหว่าง 60 และ 90 ที่นิยมคือระหว่าง 65 และ 85 1 5. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิ 12 หรือ 14 โดยที่ปริมาณของน้ำอยู่ในช่วงตั้งแต่ 5.0 ถึง 10 ส่วนต่อร้อยส่วนของพอลินอล เอ) 1 6. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิ 1 หรือ 2 โดยที่น้ำดังกล่าวคือ สารช่วยเป่าแต่เพียงอย่างเดียว 1 7. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิ 5 โดยที่พอลิเอธิลีนออกไซด์โมนอล และ/หรือ พอลิออลมีน้ำหนักสมมูลอยู่ระหว่าง 200 และ 1000 1 8. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิ 2 โดยที่สารเปิดเซลล์ประกอบด้วยพอลิแอลคิลีนออกไซด์ที่ถูกกราฟท์ด้วยกรดแอลคีนออิก 1 9. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิ 2 โดยที่พอลิออลประกอบด้วยพอลิเมอร์พอลิออลที่มีของแข็งอย่างน้อยที่สุด 2% โดยน้ำหนัก 2 0. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิ 1 โดยที่รวมพอลิเมอร์ของแข้งดังกล่าวและกระจายในน้ำ ซึ่งนิยมเป็สารช่วนเป่าแต่เพียงอย่างเดียว 2

1. พอลิยูรีเธนโฟมที่งอได้ที่ผลิตตามกระบวนการข้อถือสิทธิ 1 ถึง 20 ข้อใดข้อหนึ่ง