TH66010B - องค์ประกอบของออร์แกนโนโพลีไซลอกเซนที่บ่มได้ที่อุณหภูมิห้อง - Google Patents

Abstract

------18/05/2561------(OCR) หน้า 1 ของจำนวน 1 หน้า บทสรุปการประดิษฐ์ สิ่งที่ได้รับการจัดทำขึ้นคือ องค์ประกอบของออร์แกนโนโพลีไซลอกเซนที่บ่มได้ ที่อุณหภูมิห้อง องค์ประกอบนี้รวมถึง (A) ไดออร์แกนโนโพลีไซลอกเซนที่มีหมู่ไฮดรอกซิลหรื อหมู่ที่ไฮโดรไลซ์ได้สองหมู่ที่เชื่อมต่อกับอะตอมของซิลิคอนภายในแต่ละโมเลกุล ; (B): (B1) สาร อามีนดังสูตรทั่วไป (2): r1nH2 (2) ซึ่ง R1 ใช้แทนหมู่โมโนเวเลนท์ไฮโดรคาร์บอนที่มีคาร์บอน 12 ถึง 30 อะตอม) และ/หรือ สารอามีนที่มีสูตรทั่วไป (3) H2N-R2-NH2 (3) (ซึ่ง R2 ใช้แทนหมู่ไบเวเลนท์ไฮโดรคาร์บอนที่มีคาร์บอน 4 ถึง 30 อะตอม) หรือ (B2) สารซึ่งด้วย ปฏิกิริยาการไฮโดรไลซ์แล้ว สามารถให้ผลเป็นสารอามีน (Bl); (C) สารเชื่อมขวาง และ (D) สาร เร่งปฏิกิริยาการบ่ม องค์ประกอบนี้หลังจากการบ่มจะเกิดเป็นยางซิลิโคนซึ่งอาจนำสารเคลือบมาใส่ ได้โดยง่าย และซึ่งสารเคลือบนั้นไม่ถูกเอาออกได้ง่าย ------------ สิ่งที่ได้รับการจัดทำขึ้นคือ สารผสมของออร์แกนโนโพลีไซลอกเซนที่บ่มได้ที่ อุณหภูมิห้อง สารผสมนี้รวมถึง (A): ได ออร์แกนโนโพลีไซลอกเซนที่มีหมู่ไฮดรอกซิลหรือหมู่ที่ ไฮโดรไลซ์ได้สองหมู่ที่ เชื่อมต่อกับอะตอมของซิลิคอนภายในแต่ละโมเลกุล ; (B) : (B1) สารอามีน ดังสูตรทั่วไป (2): R1NH2 (2) ซึ่ง R1 ใช้แทนหมู่โมโนเวเลนท์ไฮโดรคาร์บอนที่มีคาร์บอน 12 ถึง 30 อะตอม) และ/หรือ สารอามีนที่มีสูตรทั่วไป (3) H2N-R2-NH2 (3) (ซึ่ง R2 ใช้แทนหมู่ไบเวเลนท์ไฮโดรคาร์บอนที่มีคาร์บอน 4 ถึง 30 อะตอม) หรือ (B2) สารซึ่งด้วย ปฏิกิริยาไฮโดรไลซ์ แล้ว สามารถให้ผลเป็นสารอามีน (B1); (C) สารเชื่อมข้ามเชน และ (D) สารเร่งปฏิกิริยาการบ่ม สารผสมนี้หลังจากการบ่มจะเกิดเป็นยางซิลิโคนซึ่งอาจนำสาร เคลือบมาใส่ ได้โดยง่าย และซึ่งสารเคลือบนั้นไม่ถูกเอาออก ได้ง่าย:

Claims (9)

ข้อถือสิทธฺ์ (ทั้งหมด) ซึ่งจะไม่ปรากฏบนหน้าประกาศโฆษณา :------18/05/2561------(OCR) หน้า 1 ของจำนวน 2 หน้า ข้อถือสิทธิ

1. องค์ประกอบของออร์แกนโนโพลีไซลอกเซนที่บ่มได้ที่อุณหภูมิห้องที่ประกอบด้วย (A) 100 ส่วนโดยนํ้าหนักของไดออร์แกนโนโพลีไซลอกเซนที่ถูกแทนโดยสูตรทั่วไป (1) ที่ ถูกแสดงไว้ข้างล่าง (โครงสร้างทางเคมี) (I) (ซึ่ง แต่ละ Y แทนหมู่ไฮดรอกซิล และแต่ละ R เป็นอิสระแทนหมู่โมโนเวเลนท์ ไฮโดรคาร์บอนที่ไม่ถูกแทนที่ หรือ ถูกแทนที่, แต่ละ X เป็นอิสระแทนอะตอมของออกซิเจน หรือ หมู่ไบเวเลนท์ไฮโดรคาร์บอนที่มีคาร์บอน 1 ถึง 8 อะตอมอย่างใดอย่างหนึ่ง, แต่ละ a เป็นอิสระแทน เลขจำนวนเต็มตั้งแต่ 1 ถึง 3 และ n แทนจำนวนซึ่งให้ผลลัพธ์ในความหนืดที่ 25 องศาเซลเซียส สำหรับไดออร์แกนโนโพลีไซลอกเซนดังกล่าวภายในช่วงตั้งแต่ 100 ถึง 1,000,000 ตารางมิลลิเมตร/ วินาที (B2) สารประกอบซึ่งให้ผลได้ผ่านการทำปฏิกิริยาไฮโดรไลซ์ (B1) สารประกอบอามีนอย่างน้อยหนึ่งชนิดที่ถูกเลือกจากหมู่ที่ประกอบด้วยสารประกอบ อามีนที่ถูกแทนโดยสูตรทั่วไป (2) ที่ถูกแสดงไว้ข้างล่าง R1NH2 (2) (ซึ่ง R1 แทนหมู่โมโนเวเลนท์ไฮโดรคาร์บอนที่มีคาร์บอน 12ถึง 30อะตอม และ สารประกอบอามีนที่ถูกแทนโดยสูตรทั่วไป (3) ที่ถูกแสดงไว้ข้างล่าง H2N-R2-NH2 (3) (ซึ่ง R2 แทนหมู่ไบเวเลนท์ไฮโดรคาร์บอนที่มีคาร์บอน 4 ถึง 30 อะตอม) ชิ่งปริมาณของ สารประกอบ (B2) ดังกล่าวเพียงพอเพื่อก่อให้เกิดส่วนประกอบ (B1) ดังกล่าวตั้งแต่ 0.1 ถึง 20 ส่วน โดยนํ้าหนักบนไฮโดรไลซ์ (C) ปริมาณที่มีประสิทธิผลของสารเชื่อมขวาง และ (D) ปริมาณที่มีประสิทธิผลของสารเร่งปฏิกิริยาการบ่ม

2. องค์ประกอบตามข้อถือสิทธิที่ 1 ซึ่งส่วนประกอบ (B2) ดังกล่าวคือผลผลิตการทำปฏิกิริยา การควบแน่นของส่วนประกอบ (B1) ดังกล่าว และสารประกอบคีโตนที่ถูกแทนโดยสูตรทั่วไป (4) ที่ ถูกแสดงไว้ข้างล่าง R3-(C=0)-R4 (4) (ซึ่ง R3 และ R4 คือหมู่โมโนเวเลนท์ไฮโดรคาร์บอนที่มีคาร์บอน 1 ถึง 6 อะตอมที่เหมือนกัน หรือ แตกต่างกันอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือ โดยทางเลือก R3 และ R4 ถูกเชื่อมเข้าด้วยกันเพื่อก่อรูปหมู่ ไดเวเลนท์ไฮโดรคาร์บอนที่มีคาร์บอน 3 ถึง 7 อะตอม) หน้า 2 ของจำนวน 2 หน้า

3. องค์ประกอบตามข้อถือสิทธิที่ 1 ซึ่งส่วนประกอบ (B2) ดังกล่าวคือผลผลิตการทำปฏิกิริยา การควบแน่นของส่วนประกอบ (B1) และสารเติมหมู่ไซลิล

4. องค์ประกอบตามข้อถือสิทธิที่ 3 ซึ่งสารเติมหมู่ไซลิลดังกล่าว คือ สารประกอบคลอโรไซ- เลนที่ถูกแทนโดยสูตรทั่วไป (5) R5bR6cSi(4-b-c) C1 (5) (ซึ่ง R5 และ R6 คือหมู่โมโนเวเลนท์ไฮโดรคาร์บอนที่มีคาร์บอน 1 ถึง 10 อะตอมที่เหมือนกัน หรือ แตกต่างกันอย่างใดอย่างหนึ่ง, b และ C แต่ละตัวแทนเลขจำนวนเต็มตั้งแต่ 0 ถึง 3 และผลรวม ของ b+c คือ 3)

5. องค์ประกอบตามข้อถือสิทธิที่ 3 ซึ่งสารเติมหมู่ไซลิลดังกล่าว คือ N,O-บิส(ไตรเมทธิลไซ- ลิล)อาเซตตามีด

6. องค์ประกอบตามข้อถือสิทธิที่ 1 ซึ่งส่วนประกอบ (B1) ดังกล่าว คือ สารประกอบอามีนที่มี จุดหลอมเหลว 20 ถึง 200 องศาเซลเซียส

7. องค์ประกอบตามข้อถือสิทธิที่ 1 ซึ่งสารเชื่อมขวางดังกล่าว คือ สารประกอบไซเลน หรือ ไซลอกเซนที่มีหมู่ที่ไฮโดรไลซ์ได้อย่างน้อยสองหมู่ภายในแต่ละโมเลกุล ------------

1. สารผสมของออร์แกนโนโพลีไซลอกเซนที่บ่มได้ที่อุณหภูมิห้อง ที่ประกอบ ด้วย : (A) 100 ส่วนโดยน้ำหนักของไดออร์แกน โนโพลีไซลอกเซนที่ใช้แทนได้โดยสูตร ทั่วไป (1) ที่แสดงไว้ ข้างล่าง (สูตรเคมี) (I) (ซึ่ง R แต่ละสัญลักษณ์ที่เป็นอิสระต่อกันนั้นใช้แทนหมู่โ มโนเวเลนท์ ไฮโดรคาร์บอนที่ไม่ถูกแทนที่หรือถูกแทนที่, X แต่ละสัญลักษณ์ที่เป็นอิสระต่อกันนั้นใช้แทน อะตอมของ ออกซิเจนหรือหมู่ไบเวเลนท์ไฮ โดรคาร์บอนที่มีคาร์บอน 1 ถึง 8 อะตอมอย่างใดอย่าง หนึ่ง, Y แต่ละสัญลักษณ์ที่เป็นอิสระต่อกันนั้นใช้แทนหมู่ไฮดรอกซิล หรือหมู่ที่ไฮโดรไลซ์ได้, a แต่ละสัญลักษณ์ที่เป็นอิสระต่อ กันนั้นใช้แทนเลขจำนวนเต็มตั้ง แต่ 1 ถึง 3 และ n แต่ละสัญลักษณ์ ที่เป็นอิสระต่อกันนั้น ใช้แทนตัวเลขหนึ่ง ซึ่งให้ผลเป็นความหนืดที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียสของ ไดออร์แกนโนโพลีไซลอกเซนภายในช่วงตั้งแต่ 100 ถึง 1,000,000 mm2/S) (B1) 0.1 ถึง 20 ส่วนโดยน้ำหนักของสารอามีนอย่างน้อยหนึ่ง ชนิดที่เลือกได้จาก กลุ่มที่ประกอบด้วย สารอามีนที่ใช้แทน ได้ด้วยสูตรทั่วไป (2) ที่แสดงไว้ข้างล่าง: R1NH2 (2) (ซึ่ง R1 ใช้แทนหมู่โมโนเวเลนท์ที่ไฮโดรคาร์บอนที่มี คาร์บอน 12 ถึง 30 อะตอม) และสารอามีนที่ใช้แทนได้ด้วยสูตร ทั่วไป (3) ที่แสดงไว้ข้างล่าง: H2N-R2-NH2 (3) (ซึ่ง R2 ใช้แทนหมู่ไบเวเลนท์ไฮโดรคาร์บอนที่มีคาร์บอน 4 ถึง 30 อะตอม) (C) ปริมาณที่มีประสิทธิผลของสารเชื่อมข้ามเชน และ (D) ปริมาณที่มีประสิทธิผลของสารเร่งปฏิกิริยาการบ่มในน้ำ

2. สารผสมตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 1 ซึ่งส่วนประกอบ (B1) ดังกล่าว มี จุดหลอมเหลว 20 ถึง 200 องศาเซลเซียส

3. สารผสมตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 1 ซึ่งสารเชื่อม ข้ามเซนดังกล่าวคือ สารไซเลนหรือไซลอกเซนที่มีหมู่ที่ ไฮโดรไลซ์ได้อย่างน้อย 2 หมู่ภายในแต่ละโมเลกุล

4. สารผสมของออร์แกนโนโพลีไซลลอกเซนที่บ่มได้ที่อุณหภูมิ ห้อง ที่ประกอบ ด้วย : (A) 100 ส่วนโดยน้ำหนักของไดออร์แกน โนโพลีไซลอกเซนที่ใช้แทนได้โดยสูตร ทั่วไป (1) ที่แสดงไว้ ข้างล่าง (สูตรเคมี) (1) (ซึ่ง R,X,Y, a และ n มีความหมายดังที่กำหนดไว้ข้างบนใน ส่วนที่เกี่ยวข้อง กับสูตรทั่วไป (1) ดังกล่าวที่กำหนดไว้ใน ข้อถือสิทธิที่ 1) (B2) สารซึ่งโดยปฏิบัติการไฮโดรไลซ์แล้วได้ผลเป็น : (B1) สารอามีนอย่างน้อยหนึ่งชนิดที่เลือกได้จากกลุ่มที่ ประกอบด้วย สาร อามีนที่ใช้แทนได้ด้วยสูตรทั่วไป (2) ที่ แสดงไว้ข้างล่าง; R1NH2 (2) (ซึ่ง R1 มีความหมายดังที่กำหนดไว้ข้างบนในส่วนที่เกี่ยว กับสูตรทั่วไป (2)) ดังกล่าว ที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 1) และสารอามีนที่ใช้แทนได้ด้วยสูตรทั่วไป (3) ที่แสดงไว้ ข้างล่าง H2N-R2-NH2 (3) (ซึ่ง R2 มีความหมายดังที่กำหนดไว้ข้างบนในส่วนที่เกี่ยว กับ สูตรทั่วไป (3) ดังกล่าวที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 1) ซึ่ง ปริมาณหนึ่งของสาร (B2 ) ดังกล่าว เพียงพอในการ ทำ ให้เกิดส่วนประกอบ (B1) ดังกล่าวตั้ง แต่ 0.1 ถึง 20 ส่วนโดยน้ำหนักเมื่อไฮโดรไลซ์ (C) ปริมาณที่มีประสิทธิผลของสารเชื่อมข้ามเชน และ (D) ปริมาณที่มีประสิทธิผลของสารเร่งปฏิกิริยาการบ่มในน้ำ

5. สารผสมตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 4 ซึ่งส่วนประกอบ (B2) ดังกล่าวคือ ผลผลิตของปฏิกิริยาการรวมตัวระหว่างส่วน ประกอบ (B1) ดังกล่าว และสารคีโตนที่ใช้แทนได้ด้วย สูตรทั่ว ไป (4) ที่แสดงไว้ข้างล่าง ; R3-(C=O)-R4 (4) (ซึ่ง R3 และ R4 หมู่โมโนเวเลนท์ไฮโดรคาร์บอนที่เหมือนกัน หรือต่างกันที่มีคาร์บอน 1 ถึง 6 อะตอม หรือตามทางเลือกอีก แบบหนึ่ง R3 และ R4 เชื่อมต่อกันแล้วเกิดหมู่ไดเวเลนท์ ไฮโดรคาร์บอนที่มีคาร์บอน 3 ถึง 7 อะตอม)

6. สารผสมตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 4 ซึ่งส่วนประกอบ (B2) ดังกล่าวคือ ผลผลิตของปฏิกิริยาการรวมตัวระหว่างส่วน ประกอบ (B1) กับสารเติมหมู่ไซลิล

7. สารผสมตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 6 ซึ่งสารเติม หมู่ไซลิลดังกล่าวคือ สารคลอโรไซเลนที่ใช้แทนได้ด้วยสูตร ทั่วไป (5): R5bR6cSI(4-b-c)CI (5) (ซึ่ง R5 และ R6 คือ หมู่โมโนเวเลนท์ไฮโดรคาร์บอนที่เหมือน กันหรือต่างกันที่มีคาร์บอน 1 ถึง 10 อะตอม, b และ c แต่ละ สัญลักษณ์ใช้แทนเลขจำนวนเต็มตั้งแต่ 0 ถึง 3 และผลบวกของ b+c เท่ากับ 3)

8. สารผสมตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 6 ซึ่งสารเติม หมู่ไซลิลดังกล่าวคือ N, O- บิส (ไตรเมทธิลไซลิล) อาเซตตา มีด

9. สารผสมตามที่กำหนดไว้ในแบบหนึ่งแบบใดของข้อถือสิทธิที่ 4 ซึ่งส่วน ประกอบ (B1) คือสารอามีนที่มีจุดหลอมเหลว 20 ถึง 200 องศาเซลเซียส 1

0. สารผสมตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 4 ซึ่งสารเชื่อม ข้ามเซนดังกล่าวคือ สารไซเลนหรือไซลอกเซนที่มีหมู่ที่ ไฮโดรไลซ์ได้อย่างน้อยสองหมู่ภายในแต่ละโมเลกุล