TH60303A - ผลิตภัณฑ์เชิงแสงซึ่งมีแผ่นแบบเศษหนึ่งส่วนสี่ความยาวคลื่นและวิธีการสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์เชิงแสง - Google Patents

ผลิตภัณฑ์เชิงแสงซึ่งมีแผ่นแบบเศษหนึ่งส่วนสี่ความยาวคลื่นและวิธีการสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์เชิงแสง

Info

Publication number
TH60303A
TH60303A TH201004829A TH0201004829A TH60303A TH 60303 A TH60303 A TH 60303A TH 201004829 A TH201004829 A TH 201004829A TH 0201004829 A TH0201004829 A TH 0201004829A TH 60303 A TH60303 A TH 60303A
Authority
TH
Thailand
Prior art keywords
layer
clause
layers
optical
optical product
Prior art date
Application number
TH201004829A
Other languages
English (en)
Other versions
TH64815B (th
Inventor
การอง นายปิแอร์
กาโน นายฌอง-ปอล
เกรตีเอร์ นายแอนเน็ตต์
Original Assignee
นายจักรพรรดิ์ มงคลสิทธิ์
นางสาวปรับโยชน์ ศรีกิจจาภรณ์
นายรุทร นพคุณ
Filing date
Publication date
Application filed by นายจักรพรรดิ์ มงคลสิทธิ์, นางสาวปรับโยชน์ ศรีกิจจาภรณ์, นายรุทร นพคุณ filed Critical นายจักรพรรดิ์ มงคลสิทธิ์
Publication of TH60303A publication Critical patent/TH60303A/th
Publication of TH64815B publication Critical patent/TH64815B/th

Links

Abstract

DC60 (18/11/59) ผลิตภัณฑ์เชิงแสงซึ่งประกอบรวมด้วยซับสเทรทซึ่งเป็นแก้วที่สกัดจากแร่หรือสารอินทรีย์ (1) และชั้นวัสดุพอลิเมอร์ แบบโปร่งใส (3) ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ว่า ผลิตภัณฑ์จะ ประกอบรวมด้วย ชั้นระหว่างกลาง (2) เป็นอย่างน้อยที่สุดใน การสัมผัสโดยตรงกับด้านหลักของซับสเทรทและชั้นวัสดุ พอลิเ มอร์ ชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) จะได้รับการทำขึ้นมาจาก อนุภาคของออกไซด์ของแร่ที่เป็น คอลลอยด์หนึ่งชนิดเป็นอย่าง น้อยที่สุดและในลักษณะที่เป็นทางเลือกแล้ว สารยึดเหนี่ยว ชั้นระหว่าง กลาง (หลายชั้น) ดังกล่าวซึ่งมีความพรุนในตอน เริ่มต้น และความพรุนในตอนเริ่มต้นของ ชั้นระหว่าง กลาง (หลายชั้น) จะได้รับการเติมด้วยวัสดุบางชนิดจากชั้นวัสดุพอ ลิ เมอร์ หรือด้วยวัสดุ ซึ่งเป็น ซับสเทรทอย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้าวัสดุซึ่งเป็นซับสเทรทได้รับการทำขึ้นมาจากแก้วที่สกัด จาก สารอินทรีย์และในลักษณะที่เป็นทางเลือกแล้ว โดยการที่ มีสารยึดเหนี่ยวอยู่บางส่วน ในลักษณะ ที่ว่าชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) หลังจากการเติมความพรุนในตอนเริ่มต้น แต่ละ อย่างนั้นจะทำให้ แผ่นแบบเศษหนึ่งส่วนสี่ความยาวคลื่นมีความ ยาวคลื่น อยู่ในช่วงจาก 400 ถึง 700 นาโนเมตร ถ้าจะให้ดี แล้วควรมีความยาวคลื่นอยู่ในช่วงระหว่าง 450 และ 650 นาโน เมตร

Claims (5)

ข้อถือสิทธฺ์ (ทั้งหมด) ซึ่งจะไม่ปรากฏบนหน้าประกาศโฆษณา :------05/02/2561------(OCR) หน้า 7 ของจำนวน 8 หน้า 6 0. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 59 ที่ซึ่งเคลือบผิวป้องกันการสึกกร่อนได้รับการก่อรูป ขึ้นมาผ่านการเคลือบผิวแบบจุ่มหรือการเหวี่ยงหนีศูนย์และการทำให้แข็ง 6 1. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 59 ซึ่งระบุต่อไปอีกโดยที่จะประกอบรวมด้วยขันตอนของ การก่อรูปขึ้นมาเป็นเคลือบผิวป้องกันการสะท้อนบนเคลือบผิวป้องกันการสึกกร่อน 6 2. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 32 ที่ซึ่งชั้นวัสดุพอณิมอร์ คือ ชันเคลือบผิวป้องกัน การสึกกร่อน 6 3. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 62 ที่ซึ่งเคลือบผิวป้องกันการสึกกร่อนได้รับการก่อรูป ขึนมาด้วยการทำให้แข็งของสารผสมซึ่งประกอบรวมด้วยอีพอกซิแอลคอกซิไซเลน ไดแอลคิล ไดแอลคอกซิไซเลน และซิลิกาที่เป็นคอลลอยด์หรือไฮโดรไลเสทของสารผสมดังกล่าว 6 4. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 62 ซึ่งระบุต่อไปอีกโดยที่จะประกอบรวมด้วยขันตอนของ การก่อรูปขืนมาเป็นเคลือบผิวป้องกันการสะท้อนบนเคลือบผิวป้องกันการสึกกร่อน 6 5. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิก่อนหน้านี ที่ซึ่งปริมาณของ ฟลูออรีนในวัสดุเพื่อการเติมแบบพอลิเมอร์จะตํ่ากว่า 5% โดยนำหนัก ถ้าจะให้ดีแล้วควรตํ่ากว่า 1% โดยนั้าหนัก ถ้าจะให้ดีมากไปกว่านั้นแล้วควรมีค่า 0% โดยนำหนัก 6 6. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิก่อนหน้านี ที่ซึ่งความพรุนของ ชันระหว่างกลาง หลังจากการเติมในตอนเริ่มด้นจะตํ่ากว่า 5% ถ้าจะให้ดีแล้วควรจะตํ่ากว่า 3% ถ้าจะให้ดีมากไปกว่านั้นแล้วควรเป็น 0% 6 7. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิก่อนหน้านี ที่ซึ่งชันวัสดุแบบ พอลิเมอร์เป็นชันรองพืนด้านทานการกระแทกที่มีความหนาจาก 0.50 ถึง 20 ไมโครเมตร ถ้าจะให้ดี แล้วควรมีความหนาจาก 0.5 ถึง 2 ไมโครเมตร 6 8. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิก่อนหน้านี ที่ซึ่งชันวัสดุแบบ พอลิเมอร์เป็นชันเคลือบผิวป้องกันการสึกกร่อนที่มีความหนาจาก 1 ถึง 15 ไมโครเมตร ถ้าจะให้ดี แล้วควรเป็นจาก 2 ถึง 6 ไมโครเมตร 6 9. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิก่อนหน้านี ที่ซึ่งมันประกอบรวม ด้วยหนึ่งชั้นระหว่างกลาง 7 0. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิก่อนหน้านี ที่ซึ่งชันวัสดุ พอลิเมอร์แบบโปร่งใสเป็นชันรองพืนด้านทานการกระแทก และผลิตภัณฑ์ประกอบรวมต่อไปอีกด้วย ------------ แก้ไข 18/11/2559 1. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงซึ่งประกอบรวมด้วย : ซับสเทรทซึ่งเป็นแก้วที่สกัดจากสารอินทรีย์หรือซับสเทรทซึ่งเป็นแก้วที่สกัดจากแร่ ซึ่งประกอบรวมด้วยด้านหลักอย่างน้อยที่สุดหนึ่งด้าน; ชั้นวัสดุพอลิเมอร์แบบโปร่งใส; และ ชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) หนึ่งชั้นหรือมากกว่านั้น โดยที่ชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) หนึ่งชั้นหรือมากกว่านันได้รับการระบุเป็น : ระหว่างและในการสัมผัสโดยตรงกับด้านหลักอย่างน้อยที่สุดหนึ่งด้านของซับสเทรทและ ชั้นวัสดุพอลิเมอร์; ซึ่งประกอบรวมด้วยอนุภาคของออกไซด์ของแร่ที่เป็นคอลลอยด์อย่างน้อยที่สุดหนึ่งชนิด; และ ซึ่งมีรูพรุนซึ่งได้รับการเติมอย่างน้อยที่สุดบางส่วนด้วยวัสดุจากชั้นวัสดุพอลิเมอร์หรือ วัสดุซึ่งเป็นซับสเทรทซึ่งเป็นแก้วที่สกัดจากสารอินทรีย์อย่างใดอย่างหนึ่ง; ที่ซึ่งชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) หนึ่งชั้นหรือมากกว่านั้นจะก่อรูปขึ้นมาเป็น แผ่นแบบเศษหนึ่งส่วนสี่ความยาวคลื่นซึ่งมีความยาวคลื่นอยู่ในช่วงจาก 400 ถึง 700 นาโนเมตร 2. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงของข้อถือสิทธิข้อ 1 ที่ซึ่งชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) หนึ่งชั้น หรือมากกว่านั้นจะก่อรูปขึ้นมาเป็นแผ่นแบบเศษหนึ่งส่วนสี่ความยาวคลื่นซึ่งมีความยาวคลื่นอยู่ ในช่วงจาก 450 ถึง 650 นาโนเมตร 3. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงของข้อถือสิทธิข้อ 1 ที่ซึ่งรูพรุนในชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) หนึ่งชั้นหรือมากกว่านั้นจะก่อรูปขึ้นมาอย่างน้อยที่สุด 40% โดยปริมาตรของชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) หนึ่งชั้นหรือมากกว่านั้น 4. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงของข้อถือสิทธิข้อ 3 ที่ซึ่งรูพรุนในชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) หนึ่งชั้นหรือมากกว่านั้นจะก่อรูปขึ้นมาอย่างน้อยที่สุด 50% โดยปริมาตรของชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) หนึ่งชั้นหรือมากกว่านั้น 5. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงของข้อถือสิทธิข้อ 1 ที่ซึ่งชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) หนึ่งชั้น หรือมากกว่านั้นประกอบรวมด้วยสารยึดเหนี่ยว 6. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงของข้อถือสิทธิข้อ 5 ที่ซึ่งรูพรุนของชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) หนึ่งชั้นหรือมากกว่านั้นได้รับการเติมอย่างน้อยที่สุดบางส่วนด้วยสารยึดเหนี่ยว 7. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงของข้อถือสิทธิข้อ 6 ที่ซึ่งโดยมีสารยึดเหนี่ยวอยู่ด้วยชั้นระหว่าง กลาง (หลายชั้น) หนึ่งชั้นหรือมากกว่านั้นจะมีความพรุนอย่างน้อยทีสุด 25% 8. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงของข้อถือสิทธิข้อ 7 ที่ซึ่งโดยมีสารยึดเหนี่ยวอยู่ด้วยชั้นระหว่าง กลาง (หลายชั้น) หนึ่งชั้นหรือมากกว่านั้นจะมีความพรุนอย่างน้อยทีสุด 30% 9. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงของข้อถือสิทธิข้อ 5 ที่ซึ่งสารยึดเหนี่ยวจะก่อรูปขึ้นมาถึง 30% โดยน้ำหนัก ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บนน้ำหนักรวมของออกไซด์ของแร่ในสภาพแห้งของชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) หนึ่งชั้นหรือมากกว่านั้น 1 0. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงของข้อถือสิทธิข้อ 5 ที่ซึ่งสารยึดเหนี่ยวจะก่อรูปขึ้นมาถึง 25% โดยน้ำหนัก ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บน้ำหนักรวมของออกไซด์ของแร่ในสภาพแห้งของชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) หนึ่งชั้นหรือมากกว่านั้น 1 1. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงของข้อถือสิทธิข้อ 5 ที่ซึ่งสารยึดเหนี่ยวจะก่อรูปขึ้นมา 10 ถึง 20% โดยน้ำหนัก ซึ่งมีพืนฐานอยู่บนน้ำหนักรวมของออกไซด์ของแร่ในสภาพแห้งของชั้นระหว่าง กลาง (หลายชั้น) หนึ่งชั้นหรือมากกว่านั้น 1 2. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงของข้อถือสิทธิข้อ 5 ที่ซึ่งสารยึดเหนี่ยว คือ พอลิยูรีเธนลาเทกซ์ 1 3. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงของข้อถือสิทธิข้อ 1 ที่ซึ่งขนาดของอนุภาคของออกไซด์ของแร่ ที่เป็นคอลลอยด์ (หลายชนิด) จะอยู่ในช่วงจาก 10 ถึง 80 นาโนเมตร 1 4. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงของข้อถือสิทธิข้อ 13 ที่ซึ่งขนาดของอนุภาคของออกไซด์ของแร่ ที่เป็นคอลลอยด์ (หลายชนิด) จะอยู่ในช่วงจาก 30 ถึง 80 นาโนเมตร 1 5. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงของข้อถือสิทธิข้อ 14 ที่ซึ่งขนาดของอนุภาคของออกไซด์ของแร่ ที่เป็นคอลลอยด์ (หลายชนิด) จะอยู่ในช่วงจาก 30 ถึง 60 นาโนเมตร 1 6. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงของข้อถือสิทธิข้อ 1 ที่ซึ่งออกไซด์ของแร่ที่เป็นคอลลอยด์ คือ SiO2, TiO2, ZrO2, SnO2, Sb2O3, Y2O3, Ta2O5 หรือของผสมซึ่งประกอบรวมด้วยสารเหล่านี้หนึ่งชนิด 1 7. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงของข้อถือสิทธิข้อ 16 ที่ซึ่งชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) ประกอบรวมด้วยของผสมของออกไซด์ของแร่ที่เป็นคอลลอยด์ดรรชนีตํ่าอย่างน้อยที่สุดหนึ่งชนิด (nD25 < 1.54) และออกไซด์ของแร่ที่เป็นคอลลอยด์ดรรชนีสูงอย่างน้อยที่สุดหนึ่งชนิด (nD25 (สูตร) 1.54) 1 8. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงของข้อถือสิทธิข้อ 17 ที่ซึ่งอัตราส่วนของน้ำหนักของออกไซด์ของ แร่ที่เป็นคอลลอยด์ดรรชนีตํ่าต่อออกไซด์ของแร่ดรรชนีสูงจะอยู่ในช่วงจาก 30/70 ถึง 70/30 1 9. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงซองข้อถือสิทธิข้อ 17 ที่ซึ่งของผสมออกไซด์ของแร่ที่เป็น คอลลอยด์ คือ ของผสมของ SiO2 และ TiO2 หรือของผสมของ SiO2 และ ZrO2 2 0. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงของข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งระบุต่อไปอีกโดยที่จะประกอบรวมด้วย ชั้นระหว่างกลางสองชั้น 2 1. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงของข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งระบุต่อไปอีกโดยที่จะประกอบรวมด้วย ซับสเทรทซึ่งเป็นแก้วที่สกัดจากสารอินทรีย์ที่ซึ่งซับสเทรทซึ่งเป็นแก้วที่สกัดจากสารอินทรีย์ ประกอบรวมด้วยไดเอธิลีนไกลคอลบิส(แอลลิลคาร์บอเนท) พอลิเมอร์ ไดเอธิลีนไกลคอลบิส (แอลลิลคาร์บอเนท) โคพอลิเมอร์ โฮโมพอลิคาร์บอเนท โคพอลิคาร์บอเนท พอลิ(เมธ)อะคริเลท พอลิไธโอ(เมธ)อะคริเลท พอลิยูรีเธน พอลิไธโอยูรีเธน พอลิอีพอกไซด์ หรือพอลิอีพิซัลไฟด์ 2 2. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงของข้อถือสิทธิข้อ 1 ที่ซึ่งซับสเทรทจะมีดรรชนีหักเห nD25 ซึ่งอยู่ในช่วงจาก 1.55 ถึง 1.80 2 3. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงของข้อถือสิทธิข้อ 22 ที่ซึ่งซับสเทรทจะมีดรรชนีหักเห nD25 ซึ่งอยู่ในช่วงจาก 1.60 ถึง 1.75 2 4. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงของข้อถือสิทธิข้อ 1 ที่ซึ่งชั้นวัสดุพอลิเมอร์ คือ ชั้นรองพื้น ด้านทานการกระแทก 2 5. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงของข้อถือสิทธิข้อ 24 ที่ซึ่งรองพื้นประกอบรวมด้วย (เมธ)อะคริลิกพอลิเมอร์ ไธโอ(เมธ)อะคริลิกพอลิเมอร์ พอลิเอสเทอร์ พอลิยูรีเธน หรือวัสดุซึ่งมี พอลิไธโอยูรีเธนเป็นพื้นฐาน 2 6. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงของข้อถือสิทธิข้อ 25 ที่ซึ่งวัสดุรองพื้นประกอบรวมด้วย พอลิ(เมธ)อะคริลิกหรือพอลิยูรีเธนลาเทกซ์ 2 7. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงของข้อถือสิทธิข้อ 24 ซึ่งระบุต่อไปอีกโดยที่จะประกอบรวมด้วย เคลือบผิวป้องกันการสึกกร่อนซึ่งนำมาใช้บนชั้นรองพื้นต้านทานการกระแทก 2 8. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงของข้อถือสิทธิข้อ 1 ที่ซึ่งชั้นวัสดุพอลิมอร์ ดือ ชั้นเคลือบผิว ป้องกันการสึกกร่อน 2 9. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงของข้อถือสิทธิข้อ 28 ที่ซึ่งเคลือบผิวป้องกันการสึกกร่อน จะเป็นผลจากการทำให้แข็งของสารผสมซึ่งประกอบรวมด้วยอีพอกชิแอลคอกซิไซเลน ไดแอลคิล ไดแอลคอกซิไซเลนและซิลิกาที่เป็นคอลลอยด์หรือไฮโดรไลเสทของส่วนประกอบดังกล่าวเป็น ส่วนประกอบหลัก 3 0. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงของข้อถือสิทธิข้อ 28 ซึ่งระบุต่อไปอีกโดยที่จะประกอบรวมด้วย เคลือบผิวป้องกันการสะท้อนซึ่งก่อรูปขึ้นมาบนเคลือบผิวป้องกันการสึกกร่อน 3 1. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงของข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งระบุต่อไปอีกเป็นเลนส์สายตา 3 2. วิธีการสำหรับการผลิตผลิตกัณฑ์เชิงแสงซึ่งประกอบรวมด้วย : การเคลือบผิวออกไซด์ของแร่ที่เป็นคอลลอยด์อย่างน้อยที่สุดหนึ่งชนิดบนพื้นผิวหลักอย่าง น้อยที่สุดหนึ่งพื้นผิวของส่วนรองรับเพื่อการก่อรูปขึ้นมาเป็นชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) หนึ่งชั้น หรือมากกว่านันซึ่งประกอบรวมด้วยออกไซด์ของแร่ที่เป็นคอลลอยด์อย่างน้อยที่สุดหนึ่งชนิด ที่ซึ่งชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) หนึ่งชั้นหรือมากกว่านั้นจะมีรูพรุน; และ การก่อรูปขึ้นมาบนชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) หนึ่งชั้นหรือมากกว่านั้นของชั้นวัสดุ พอลิเมอร์แบบโปร่งใสเชิงแสงหรือซับสเทรทซึ่งเป็นแก้วที่สกัดจากสารอินทรีย์อย่างใดอย่างหนึ่ง; ที่ซึ่งรูพรุนของชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) หนึ่งชั้นหรือมากกว่านั้นได้รับการเติม อย่างน้อยที่สุดบางส่วนด้วยวัสดุพอลิเมอร์ของชั้นหรือด้วยวัสดุซึ่งเป็นซับสเทรทและชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) หนึ่งชั้นหรือมากกว่านั้นจะก่อรูปขึ้นมาเป็นแผ่นแบบเศษหนึ่งส่วนสี่ความยาวคลื่นในช่วง จาก 400 ถึง 700 นาโนเมตร 3 3. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 32 ที่ซึ่งชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) หนึ่งชั้นหรือมากกว่า นั้นอย่างน้อยที่สุดหนึ่งชั้นจะก่อรูปขึ้นมาเป็นแผ่นแบบเศษหนึ่งส่วนสี่ความยาวคลื่นในช่วงจาก 450 ถึง 650 นาโนเมตร 3 4. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 32 ที่ซึ่งส่วนรองรับ คือ ซับสเทรทซึ่งเป็นแก้วที่สกัดจากแร่ หรือสารอินทรีย์ 3 5. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 32 ที่ซึ่งส่วนรองรับ คือ พื้นผิวเพื่อการหล่อหลักของ ส่วนแบบหล่อของแบบหล่อซึ่งประกอบรวมด้วยเคลือบผิวเป็นอย่างน้อยที่สุดซึ่งเป็นชั้นของ วัสดุพอลิเมอร์แบบโปร่งใสเชิงแสง และรูพรุนของชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) ได้รับการเติม อย่างน้อยที่สุดบางส่วนด้วยวัสดุจากซับสเทรทซึ่งเป็นแก้วที่สกัดจากสารอินทรีย์ 3 6. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 35 ที่ซึ่งซับสเทรทได้รับการก่อรูปขึ้นมาโดยการหล่อ สารผสมชนิดเหลวที่สามารถพอลิเมอไรซ์ได้ในแบบหล่อและการพอลิเมอไรเซชันของสารผสม 3 7. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 32 ที่ซึ่งชั้นวัสดุพอลิมอร์แบบโปร่งใสเชิงแสงหรือ ซับสเทรทซึ่งเป็นแก้วที่สกัดจากสารอินทรีย์ได้รับการปฏิบัติด้วยสารละลายพื้นฐานก่อนถึง การก่อเกิดขึ้นมาของชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) หนึ่งชั้นหรือมากกว่านั้น 3 8. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 32 ที่ซึ่งรูพรุนของชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) หนึ่งชั้น หรือมากกว่านั้นจะก่อรูปขึ้นมาอย่างน้อยที่สุด 40% โดยปริมาตรของชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) หนึ่งชั้นหรือมากกว่านั้น 3 9. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 32 ที่ซึ่งรูพรุนของชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) หนึ่งชั้น หรือมากกว่านั้นจะก่อรูปขึ้นมาอย่างน้อยที่สุด 50% โดยปริมาตรของชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) หนึ่งชั้นหรือมากกว่านั้น 4 0. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 32 ที่ซึ่งขนาดของอนุภาคของออกไซด์ของแร่ที่เป็น คอลลอยด์อย่างน้อยที่สุดหนึ่งชนิดหรือมากกว่านั้นจะอยู่ในช่วงจาก 10 ถึง 80 นาโนเมตร 4 1. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 40 ที่ซึ่งขนาดของอนุภาคของออกไซด์ของแร่ที่เป็น คอลลอยด์อย่างน้อยที่สุดหนึ่งชนิดหรือมากกว่านั้นจะอยู่ในช่วงจาก 30 ถึง 80 นาโนเมตร 4 2. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 41 ที่ซึ่งขนาดของอนุภาคของออกไซด์ของแร่ที่เป็น คอลลอยด์อย่างน้อยที่สุดหนึ่งชนิดหรือมากกว่านั้นจะอยู่ในช่วงจาก 30 ถึง 60 นาโนเมตร 4 3. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 32 ที่ซึ่งชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) หนึ่งชั้นหรือมากกว่า นั้นประกอบรวมต่อไปอีกด้วยสารยึดเหนี่ยว 4 4. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 32 ที่ซึ่งจะมีสารยึดเหนี่ยวถึง 30% ของชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) หนึ่งชั้นหรือมากกว่านั้น โดยน้ำหนัก ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บนน้ำหนักรวมของออกไซด์ของแร่ ในสภาพแห้ง 4 5. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 44 ที่ซึ่งจะมีสารยึดเหนี่ยวถึง 25% ของชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) หนึ่งชั้นหรือมากกว่านั้น โดยน้ำหนัก ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บนน้ำหนักรวมของออกไซด์ของแร่ ในสภาพแห้ง 4 6. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 45 ที่ซึ่งจะมีสารยึดเหนี่ยวจาก 10 ถึง 20% ของชั้นระหว่าง กลาง (หลายชั้น) หนึ่งชั้นหรือมากกว่านั้น โดยน้ำหนัก ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บนน้ำหนักรวมของออกไซด์ ของแร่ในสภาพแห้ง 4 7. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 43 ที่ซึ่งสารยึดเหนี่ยว คือ พอลิยูรีเธนลาเทกซ์ 4 8. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 32 ที่ซึ่งออกไซด์ของแร่ที่เป็นคอลลอยด์ประกอบรวมด้วย SiO2, TiOj, ZrOj, SnO2, Sb2O3, Y2O3 และ/หรือ Ta2O5 4 9. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 32 ที่ซึ่งชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) อย่างน้อยที่สุดหนึ่ง ชั้นประกอบรวมด้วยของผสมของออกไซด์ของแร่ที่เป็นคอลลอยด์ดรรชนีตํ่าอย่างน้อยที่สุดหนึ่งชนิด (nD25 < 1.54) และออกไซด์ของแร่ที่เป็นคอลลอยด์ดรรชนีสูงอย่างน้อยที่สุดหนึ่งชนิด (nD25 (สูตร) 1.54) 5 0. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 49 ที่ซึ่งอัตราส่วนของน้ำหนักของออกไซด์ของแร่ที่เป็น คอลลอยด์ดรรชนีต่ำต่อออกไซด์ของแร่ดรรชนีสูงจะอยู่ในช่วงจาก 30/70 ถึง 70/30 5 1. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 49 ที่ซึ่งของผสมออกไซด์ของแร,ที่เป็นคอลลอยด์ คือ ของผสมของ SiO2 และ TiO2 หรือของผสมของ SiO2 และ ZrO2 5 2. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 32 ซึ่งระบุต่อไปอีกโดยที่จะประกอบรวมด้วยการก่อรูป ขึ้นมาเป็นชั้นระหว่างกลางอย่างน้อยที่สุดสองชั้น 5 3. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 32 ที่ซึ่งชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) หนึ่งชั้นหรือมากกว่า นั้นได้รับการก่อรูปขึ้นมาบนซับสเทรทซึ่งเป็นแก้วที่สกัดจากสารอินทรีย์ และซับสเทรทซึ่งเป็นแก้ว ที่สกัดจากสารอินทรีย์ได้รับการระบุต่อไปอีกโดยที่จะประกอบรวมด้วยไดเอธิลีนไกลคอลบิส (แอลลิลคาร์บอเนท) พอลิเมอร์ ไดเอธิลีนไกลคอลบิส (แอลลิลคาร์บอเนท) โคพอลิเมอร์ โฮโมพอลิคาร์บอเนท โคพอลิคาร์บอเนท พอลิ(เมธ)อะคริเลท พอลิไธโอ(เมธ) อะคริเลท พอลิยูรีเธน พอลิไธโอยูรีเธน พอลิอีพอกไซด์ หรือพอลิอีพิซัลไฟด์ 5 4. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 32 ที่ซึ่งซับสเทรทจะมีดรรชนีหักเห nD25 ซึ่งอยู่ในช่วงจาก 1.55 ถึง 1.80 5 5. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 54 ที่ซึ่งซับสเทรทจะมีดรรชนีหักเห nD25 ซึ่งอยู่ในช่วงจาก 1.60 ถึง 1.75 5 6. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 32 ที่ซึ่งชันวัสดุพอลิมอร์ คือ ชั้นรองพื้นต้านทาน การกระแทก 5 7. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 56 ที่ซึ่งรองพื้นประกอบรวมด้วย (เมธ)อะคริลิกพอลิเมอร์ ไธโอ(เมธ)อะคริลิกพอลิเมอร์ พอลิเอสเทอร์ พอลิยูรีเธน หรือวัสดุซึ่งมีพอลิไธโอยูรีเธน เป็นพื้นฐาน 5 8. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 56 ที่ซึ่งวัสดุรองพื้น คือ พอลิ(เมธ)อะคริลิกหรือ พอลิยูรีเธนลาเทกซ์ 5 9. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 56 ซึ่งประกอบรวมต่อไปอีกด้วยการก่อรูปขึ้นมาเป็น เคลือบผิวป้องกันการสึกกร่อนบนชั้นรองพื้นต้านทานการกระแทก 6 0. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 59 ที่ซึ่งเคลือบผิวฟ้องกันการสึกกร่อนได้รับการก่อรูป ขึ้นมาผ่านการเคลือบผิวแบบจุ่มหรือการเหวี่ยงหนีศูนย์และการทำให้แข็ง 6 1. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 59 ซึ่งระบุต่อไปอีกโดยที่จะประกอบรวมด้วยขั้นตอนของ การก่อรูปขึ้นมาเป็นเคลือบผิวป้องกันการสะท้อนบนเคลือบผิวป้องกันการสึกกร่อน 6 2. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 32 ที่ซึ่งชั้นวัสดุพอลิเมอร์ คือ ขั้นเคลือบผิวป้องกัน การสึกกร่อน 6 3. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 62 ที่ซึ่งเคลือบผิวป้องกันการสึกกร่อนได้รับการก่อรูป ขึ้นมาด้วยการทำให้แข็งของสารผสมซึ่งประกอบรวมด้วยอีพอกซิแอลคอกซิไซเลน ไดแอลคิล ไดแอลคอกซิไซเลน และซิลิกาที่เป็นคอลลอยด์หรือไฮโดรไลเสทของสารผสมดังกล่าว 6 4. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 62 ซึ่งระบุต่อไปอีกโดยที่จะประกอบรวมด้วยขั้นตอนของ การก่อรูปขึ้นมาเป็นเคลือบผิวป้องกันการสะท้อนบนเคลือบผิวป้องกันการสึกกร่อน 6 5. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ที่ซึ่งปริมาณของ ฟลูออรีนในวัสดุเพื่อการเติมแบบพอลิเมอร์จะต่ำกว่า 5% โดยน้ำหนัก ถ้าจะให้ดีแล้วควรต่ำกว่า 1% โดยน้ำหนัก ถ้าจะให้ดีมากไปกว่านั้นแล้วควรมีค่า 0% โดยน้ำหนัก 6 6. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ที่ซึ่งความพรุนของ ชั้นระหว่างกลาง หลังจากการเติมในตอนเริ่มต้นจะต่ำกว่า 5% ถ้าจะให้ดีแล้วควรจะต่ำกว่า 3% ถ้าจะให้ดีมากไปกว่านั้นแล้วควรเป็น 0% 6 7. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ที่ซึ่งขั้นวัสดุแบบ พอลิเมอร์เป็นขั้นรองพื้นต้านทานการกระแทกที่มีความหนาจาก 0.05 ถึง 20 ไมโครเมตร ถ้าจะให้ดี แล้วควรมีความหนาจาก 0.5 ถึง 2 ไมโครเมตร 6 8. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ ที่ซึ่งชั้นวัสดุแบบ พอลิเมอร์เป็นขั้นเคลือบผิวป้องกันการสึกกร่อนที่มีความหนาจาก 1 ถึง 15 ไมโครเมตร ถ้าจะให้ดี แล้วควรเป็นจาก 2 ถึง 6 ไมโครเมตร 6 9. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ที่ซึ่งมันประกอบรวม ด้วยหนึ่งขั้นระหว่างกลาง 7 0. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ที่ซึ่งขั้นวัสดุ พอลิเมอร์แบบโปร่งใสเป็นชั้นรองพื้นต้านทานการกระแทก และผลิตภัณฑ์ประกอบรวมต่อไปอีกด้วย เคลือบผิวป้องกันการสึกกร่อนซึ่งนำมาใช้บนชั้นรองพื้นต้านทานการกระแทก, และเคลือบผิวป้องกัน การสะท้อนซึ่งก่อรูปขึ้นมาบนเคลือบผิวป้องกันการสึกกร่อน ---------------------------------------------------------------------------- 1. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงซึ่งประกอบรวมด้วยซับสเทรทซึ่งเป็นแก้วที่สกัดจากแร่หรือสารอินทรีย์ และชั้นวัสดุพอลิเมอร์แบบ โปร่งใส ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ว่าผลิตภัณฑ์จะประกอบรวม ด้วย ชั้นระหว่างกลางเป็นอย่างน้อยที่สุดในการสัมผัสโดยตรง กับด้านหลักของซับสเทรทและชั้นวัสดุ พอลิเมอร์ ชั้นระหว่าง กลาง (หลายชั้น) จะได้รับการทำขึ้นมาจากอนุภาคของออกไซด์ ของแร่ที่เป็น คอลลอยด์หนึ่งชนิดเป็นอย่างน้อยที่สุด และ ใน ลักษณะที่เป็นทางเลือกแล้ว สารยึดเหนี่ยว ชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) ดังกล่าวซึ่งมีความพรุนในตอนเริ่มต้น และความ พรุนในตอนเริ่มต้นของ ชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) จะได้รับ การเติมด้วยวัสดุจากชั้นวัสดุพอลิเมอร์ หรือด้วยวัสดุซึ่งเป็น ซับสเทรทอย่างใดอย่างหนึ่งถ้าวัสดุ ซึ่งเป็นซับสเทรทได้รับการทำขึ้นมาจากแก้วที่สกัดจาก สาร อินทรีย์และ ในลักษณะที่เป็นทางเลือกแล้ว โดยการที่มีสาร ยึดเหนี่ยวอยู่บางส่วน ในลักษณะ ที่ว่าชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) หลังจากการเติมความพรุนในตอนเริ่มต้น แต่ละ อย่างนั้นจะทำให้ แผ่นแบบเศษหนึ่งส่วนสี่ความยาวคลื่นมีความ ยาวคลื่นอยู่ในช่วงจาก 400 ถึง 700 นาโนเมตร ถ้าจะให้ดีแว ควรมีควายาวคลื่นอยู่ระหว่าง 450 และ 650 นาโนเมตร 2. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งมีลักษณะ เฉพาะตรงที่ว่าความพรุนโดยการที่ ไม่มีสารยึดเหนี่ยวของชั้น ระหว่างกลาง (หลายชั้น) อย่างน้อยที่สุดแล้วจะเป็น 40 % โดยปริมาตร ถ้าจะให้ดีแล้วอย่างน้อยที่สุดควรจะเป็น 50% โดยปริมาตร 3. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงตามข้อถือสิทธิข้อ 2 ซึ่งมีลักษณะ เฉพาะตรงที่ว่า โดยการที่มี สารยึดเหนี่ยวและก่อนการเติม ชั้นระหว่างกลางจะมีความพรุนอย่างน้อยที่สุดแล้ว 25 % ถ้า จะให้ดีแล้วอย่างน้อยควรเป็น 30 % โดยปริมาตร 4. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 3 ข้อใดข้อ หนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ว่า ขนาดของอนุภาคของออกไซด์ ของแร่ที่เป็นคอลลอยด์ (หลายชนิด) จะอยู่ในช่วงจาก 10 ถึง 80 นาโนเมตร ถ้าจะให้ดีแล้วควรอยู่ในช่วงจาก 30 ถึง 80 และ ถ้าจะให้ดีมากไปกว่านั้นแล้วควรอยู่ในช่วง จาก 30 ถึง 60 นา โนเมตร 5. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 4 ข้อใดข้อ หนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ว่าจะมี สารยึดเหนี่ยวถึง 30% ถ้าจะให้ดีแล้วควรจะมีถึง 25% ถ้าจะให้ดีมากไปกว่านั้นแล้ว ควรจะมี 10 % ถึง 20% โดยน้ำหนัก ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บนน้ำ หนักรวมของออกไซด์ของแร่ในสภาพแห้งของ ชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) 6. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงตามข้อถือสิทธิที่กล่าวมาแล้วข้อใดข้อ หนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ว่า สารยึดเหนี่ยว คือ พอลิยู รีเธนลาเทกซ์ 7. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงตามข้อถือสิทธิที่กล่าวมาแล้วข้อใดข้อ หนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ว่า ออกไซด์ของแร่ที่เป็นคอล ลอยด์จะได้รับการเลือกจากบรรดา SiO2, TiO2, ZrO2, SnO2, Sb2O3, Y2O3, Ta2O5 และของผสมนั้น 8. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงตามข้อถือสิทธิข้อ 7 ซึ่งมีลักษณะ เฉพาะตรงที่ว่าชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) จะประกอบรวมด้วย ของผสมของออกไซด์ของแร่ที่เป็นคอลลอยด์ดรรชนีต่ำเป็นอย่าง น้อย ที่สุด (n25D<1.54) และของออกไซด์ของแร่ที่เป็นคอลลอยด์ดรรชนีสูง เป็นอย่างน้อยที่สุด (n25D>หรือ=1.54) 9. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงตามข้อถือสิทธิข้อ 8 ซึ่งมีลักษณะ เฉพาะตรงที่ว่าอัตราส่วนของน้ำหนัก ของออกไซด์ของแร่ที่เป็น คอลลอยด์ดรรชนีต่ำต่อออกไซด์ของแร่ดรรชนีสูงจะอยู่ในช่วง จาก 30/70 ถึง 70/30 1 0. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงตามข้อถือสิทธิข้อ 8 หรือ 9 ข้อใดข้อ หนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ว่า ของผสมออกไซด์ของแร่ที่ เป็นคอลลอยด์ คือ ของผสมของ SiO2 และ TiO2 หรือของผสมของ SiO2 และ ZrO2 1 1. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงตามข้อถือสิทธิที่กล่าวมาแล้วข้อใด ข้อหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ว่า ผลิตภัณฑ์จะประกอบรวม ด้วยชั้นระหว่างกลางสองชั้น 1 2. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงตามข้อถือที่กล่าวมาแล้วข้อใดข้อ หนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ว่า ซับสเทรทซึ่งเป็นแก้วที่ สกัดจากสารอินทรีย์จะได้รับการเลือกจากบรรดาพอลิเมอร์และโค พอลิเมอร์ ของไดเอธิลีนไกลคอลบิส (แอลลิลคาร์บอเนท) โฮโม-และโคพอลิคาร์บอเนท พอลิ(เมธ) อะคริเลท พอลิไธโอ (เมธ) อะคริเลท พอลิยูรีเธน พอลิไธโอยูรีเธน พอลีอีพอกไซด์ พอ ลิอีพิซัลไฟด์และ การประกอบรวมเข้าด้วยกันนั้น 1 3. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงตามข้อถือสิทธิที่กล่าวมาแล้วข้อใด ข้อหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ว่า ซับสเทรทจะมีดรรชนีหัก เห N23D ซึ่งอยู่ในช่วงจาก 1.55 ถึง 1.80 ถ้าจะให้ดีแล้ว ควรอยู่ในช่วงจาก 1.60 ถึง 1.75 1 4.ผลิตภัณฑ์เชิงแสงตามข้อถือสิทธิที่กล่าวมาแล้วข้อใดข้อ หนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ว่า ชั้นวัสดุพอลิเมอร์ คือ ชั้นรองพื้นต้านทางการกระแทก 1 5. ผลิตภัณฑ์ตามข้อถือสิทธิข้อ 14 ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรง ที่ว่ารองพื้น คือ วัสดุซึ่งมีพื้นฐาน อยู่บน (เมธ) อะคริ ลิกพอลิเมอร์ ไธโอ (เมธ) อะคริลิกพอลิเมอร์ พอลิเอสเทอร์ พอลิยูรีเธน พอลิไธโอยูรีเธน หรือการประกอบรวมเข้าด้วยกันนั้น 1 6. ผลิตภัณฑ์ตามข้อถือสิทธิข้อ 15 ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรง ที่ว่าวัสดุรองพื้น คือ พอลิ (เมธ) อะคริลิกหรือพอลิยูรีเ ธนลาเทกซ์ 1 7. ผลิตภัณฑ์ตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 13 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ว่าชั้นวัสดุ พอลิเมอร์ คือ ชั้น เคลือบผิวป้องกันการสึกกร่อน 1 8. ผลิตภัณฑ์ตามข้อถือสิทธิข้อ 17 ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรง ที่ว่าเคลือบผิวป้องกันการ สึกกร่อนจะเป็นผลจากการบ่มของสาร ผสมซึ่งประกอบรวมด้วย แอลคอกซิไซเลนอีพอกซิ ไดแอลคิลไดแอล คอกซิไซเลนและซิลิกาที่เป็นคอลลอยด์หรือไฮโดรไลเสทของส่วน ประกอบ ดังกล่าว เป็นส่วนประกอบหลัก 1 9. ผลิตภัณฑ์ตามข้อถือสิทธิข้อ 14 ถึง 16 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ว่า ผลิตภัณฑ์จะประกอบรวมด้วยเคลือบ ผิวป้องกันการสึกกร่อนซึ่งทาบนชั้นรองพื้นต้านทาน การกระแทก 2 0. ผลิตภัณฑ์ตามข้อถือสิทธิข้อ 17 ถึง 19 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ว่า ผลิตภัณฑ์จะประกอบรวมด้วยเคลือบ ผิวป้องกันการสะท้อนซึ่งก่อรูปขึ้นมาบนเคลือบผิวป้องกัน การ สึกกร่อน 2 1. ผลิตภัณฑ์เชิงแสงตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 20 ข้อใดข้อ หนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ว่า ผลิตภัณฑ์ คือ เลนส์สายตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้ว เลนส์แก้ว 2 2. วิธีการสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์เชิงแสง ซึ่งมีลักษณะ เฉพาะตรงที่ว่าวิธีการจะประกอบ รวมด้วยขั้นตอนของ a) การก่อรูปขึ้นมาบนพื้นผิวหลักของส่วนรองรับเป็นอย่าง น้อยที่สุด โดยการประยุกต์ใช้งาน ของซอลของออกไซด์ของแร่ที่ เป็นคอลลอยด์เป็นอย่างน้อยที่สุด ในลักษณะที่เป็นทางเลือก แล้ว สารยึดเหนี่ยว ของชั้นระหว่างกลางเป็นอย่างน้อยที่สุด ของออกไซด์ของแร่ที่เป็นคอลลอยด์เป็นอย่าง น้อยที่สุดและใน ลักษณะที่เป็นทางเลือกแล้วจะมีความพรุนในตอนเริ่มต้น; b) การก่อรูปขึ้นมาของชั้นวัสดุพอลิเมอร์แบบโปร่งใสเชิง แสง หรือซับสเทรทซึ่งเป็นแก้วที่ สกัดจากสารอินทรีย์อย่างใด อย่างหนึ่ง บนชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) ; และ c) ความพรุนของชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) จะได้รับการ เติมอย่างใดอย่างหนึ่งด้วยวัสดุ อย่างใดอย่างหนึ่งของชั้น หรือของซับสเทรทซึ่งก่อรูปขึ้นมาที่ขั้นตอน (b) และใน ลักษณะที่เป็น ทางเลือกแล้ว ด้วยสารยึดเหนี่ยวในลักษณะที่ ว่าชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) หลังจากการเติม ความพรุนใน ตอนเริ่มต้น เป็นบางส่วน แต่ละอย่างนั้นจะทำให้แผ่นแบบเศษ หนึ่งส่วนสี่ ความยาวคลื่นมีความยาวคลื่นอยู่ในช่วงจาก 400 ถึง 700 นาโนเมตร ถ้าจะให้ดีแล้วควรอยู่ในช่วงจาก 450 ถึง 650 นาโนเมตร 2 3. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 22 ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ ว่าส่วนรองรับ คือ ซับสเทรท ซึ่งเป็นแก้วที่สกัดจากแร่หรือ สารอินทรีย์ 2 4. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 22 ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ ว่าส่วนรองรับ คือ พื้นผิวเพื่อการ หล่อหลักของส่วนแบบหล่อ ซึ่งประกอบรวมด้วยเคลือบผิวเป็นอย่างน้อยที่สุด ซึ่งประกอบ เป็นชั้นวัสดุ พอลิเมอร์แบบโปร่งใสเชิงแสงและความพรุนในตอน เริ่มต้นของชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) จะได้ รับการเติม ด้วยวัสดุจากซับสเทรทซึ่งเป็นแก้วที่สกัดจากสารอินทรีย์ 2 5. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 24 ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ ว่าซับสเทรทจะได้รับการก่อรูป ขึ้นมา โดยการหล่อสารผสมที่ สังเคราะห์เป็นพอลิเมอร์ได้ชนิดเหลวในแบบหล่อและการ สังเคราะห์ สารผสมให้เป็นพอลิเมอร์ 2 6. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 23 ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ ว่าวิธีการจะประกอบรวมด้วย ก่อนถึงขั้นตอน (a) การปฏิบัติ ของซับสเทรทด้วยสารละลายพื้นฐาน 2 7.วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 22 ถึง 26 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ว่าความพรุน ในตอนเริ่มต้นของชั้น ระหว่างกลาง (หลายชั้น) โดยการที่ไม่มีสารยึดเหนี่ยว จะ เป็น 40% โดย ปริมาตรเป็นอย่างน้อยที่สุด 2 8. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 22 ถึง 26 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ว่าความพรุน โดยการที่ไม่มีสารยึด เหนี่ยวของชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) จะเป็น 50 % โดย ปริมาตรเป็นอย่างน้อย ที่สุด 2 9. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 22 ถึง 28 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ว่าขนาดของ อนุภาคของออกไซด์ของแร่ ที่เป็นคอลลอยด์ (หลายชนิด) จะอยู่ในช่วงจาก 10 ถึง 80 นา โนเมตร ถ้าจะให้ดีแล้วควรอยู่ในช่วงจาก 30 ถึง 80 นาโนเมตร และถ้าจะให้ดีมากไปกว่านั้นแล้วควรอยู่ในช่วง จาก 30 ถึง 60 นาโนเมตร 3 0. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 22 ถึง 29 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ว่าจะมี สารยึดเหนี่ยวถึง 30 % ถ้า จะให้ดีแล้วควรถึง 25% ถ้าจะให้ดีมากไปกว่านั้นแล้วควรมี ค่าจาก 10% ถึง 20% โดยน้ำหนัก ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บนน้ำหนัก รวมของออกไซด์ของแร่ในสภาพแห้งของ ชั้นระหว่างกลาง (หลาย ชั้น) 3 1. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 22 ถึง 30 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ว่า สารยึดเหนี่ยว คือ พอลิยูรีเธน ลาเทกซ์ 3 2. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 22 ถึง 31 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ว่าออกไซด์ ของแร่ที่เป็นคอลลอยด์จะ ได้รับการเลือกจากบรรดา SiO2, TiO2, ZrO2, SnO2, Sb2O3, Y2O3, Ta2O5 และของผสมนั้น 3 3. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 22 ถึง 32 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ว่า ชั้นระหว่างกลาง (หลายชั้น) จะ ประกอบรวมด้วยของผสมของออกไซด์ของแร่ที่เป็นคอลลอยด์ ดรรชนี ต่ำเป็นอย่างน้อยที่สุด (n25D<1.54) และของออกไซด์ของแร่ที่เป็นคอล ลอยด์ดรรชนีสูงเป็น อย่างน้อยที่สุด (n25D>หรือ=1.54) 3 4. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 33 ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ ว่า อัตราส่วนของน้ำหนักของ ออกไซด์ของแร่ที่เป็นคอลลอยด์ดรรชนี ต่ำต่อออกไซด์ของแร่ดรรชนีสูงจะอยู่ในช่วงจาก 30/70 ถึง 70/30 3 5. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 33 ถึง 34 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ว่าของผสม ออกไซด์ของแร่ที่เป็นคอล ลอยด์ คือ ของผสมของ SiO2 และ TiO2 หรือของผสมของ SiO2 และ ZrO2 3 6. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 22 ถึง 33 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ว่าวิธีการจะ ประกอบรวมด้วยการก่อ รูปขึ้นมาเป็นชั้นระหว่างกลางสองชั้น 3 7. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 22 ถึง 36 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ว่าซับสเทรท ซึ่งเป็นแก้วที่สกัดจาก สารอินทรีย์จะได้รับการเลือกจากบรรดาพอลิเมอร์และโคพอลิเ มอร์ของ ไดเอธิลีนไกลคอลบิส (แอลลิลคาร์บอเนท) โฮโม-และพอลิ คาร์บอเนท พอลิ (เมธ) อะคริเลท พอลิไธโอ (เมธ) อะคริเลท พอ ลิยูรีเธน พอลิไธโอยูรีเธน พอลิอีพอกไซต์ พอลิอีพิซัลไฟด์ และ การประกอบรวมเข้าด้วยกันนั้น 3 8. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 22 ถึง 37 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ว่าซับสเทรท จะมีดรรชนีหักเห N25D ซึ่งอยู่ในช่วงจาก 1.55 ถึง 1.80 ถ้าจะให้ดีแล้วควรอยู่ใน ช่วงจาก 1.60 ถึง 1.75 3 9. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 22 ถึง 38 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ว่าชั้นวัสดุ พอลิเมอร์ คือ ชั้นรอง พื้นต้านทางการกระแทก 4 0. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 39 ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ ว่า รองพื้น คือ วัสดุซึ่งมีพื้นฐาน อยู่บน (เมธ) อะคริลิกพอลิเ มอร์ ไธโอ (เมธ) อะคริลิกพอลิเมอร์ พอลิเอสเทอร์ พอลียูรีเ ธน พอลิไธโอยูรีเธน หรือการประกอบรวมเข้าด้วยกันนั้น 4
1. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 40 ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ ว่าวัสดุรองพื้น คือ พอลิ (เมธ) อะคริลิกหรือพอลิยูรีเธนลา เทกซ์ 4
2. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 22 ถึง 38 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ว่าชั้นวัสดุ พอลิเมอร์ คือ ชั้น เคลือบผิวป้องกันการสึกกร่อน 4
3. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 42 ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ ว่าเคลือบผิวป้องกันการสึกกร่อน จะเป็นผลจากการบ่มของสารผสม ซึ่งประกอบรวมด้วย แอลคอกซิไซเลนอีพอกซิ ไดแอลคิลไดแอลคอก ซิไซเลนและซิลิกาที่เป็นคอลลอยด์หรือไฮโดรไลเสทของส่วน ประกอบ ดังกล่าว เป็นส่วนประกอบหลัก 4
4. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 39 ถึง 41 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ว่าวิธีการจะ ประกอบรวมด้วยการก่อรูป ขึ้นมาเป็นชั้นรองพื้นป้องกันการกระแทกด้วยการจุ่มหรือการพ อกพูน แบบเหวี่ยงหนีศูนย์และการบ่มของเคลือบผิวป้องกันการ สึกกร่อน 4
5. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 42 ถึง 44 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตรงที่ว่าวิธีการจะ ประกอบรวมด้วยการก่อ รูปขึ้นมาเป็นเคลือบผิวป้องกันการสะท้อนบนเคลือบผิวป้องกัน การสึกกร่อน
TH201004829A 2002-12-24 ผลิตภัณฑ์เชิงแสงซึ่งมีแผ่นแบบเศษหนึ่งส่วนสี่ความยาวคลื่นและวิธีการสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์เชิงแสง TH64815B (th)

Publications (2)

Publication Number Publication Date
TH60303A true TH60303A (th) 2004-01-09
TH64815B TH64815B (th) 2018-09-12

Family

ID=

Similar Documents

Publication Publication Date Title
CN101414015B (zh) 光学物品及光学物品的制造方法
TWI518156B (zh) 抗反射及抗炫塗佈組成物、抗反射及抗炫薄膜以及其製備方法
JP5932652B2 (ja) 光学構造物
EP2535184A2 (en) Sheet for forming hard coating
EP1561765A1 (en) Radiation curing resin composition and cured product thereof
EP0609061B1 (en) Polymerizable composition, polymer, organic glass and ophthalmic lens
EP1447427A4 (en) PHOTOPOLYMERIZABLE COMPOSITION, AND CURED PRODUCT AND LAMINATE RESULTING THEREFROM
CA2334603A1 (en) Low reflective films
US8049965B2 (en) Display member
CN105121564A (zh) 涂料组合物
CN107073886A (zh) 塑料薄膜层压制件
CN105102549A (zh) 涂料组合物
JP2010195891A (ja) 多層構造球状粒子
TH60303A (th) ผลิตภัณฑ์เชิงแสงซึ่งมีแผ่นแบบเศษหนึ่งส่วนสี่ความยาวคลื่นและวิธีการสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์เชิงแสง
JP3383039B2 (ja) 干渉縞の発生を防止するハードコート層を有する光学材料用プラスチックフィルム、その製造方法及び反射防止フィルム
JP4249634B2 (ja) 放射線硬化性樹脂組成物及び放射線硬化性樹脂組成物の製造方法
WO2013048205A2 (ko) 향상된 내찰상성을 제공하는 반사 방지 코팅용 조성물, 이를 사용한 반사 방지 필름 및 그 제조 방법
TW201422733A (zh) 低折射層用塗覆組合物及包含該塗覆組合物的透明導電膜
US9873819B2 (en) Curable composition and photochromic composition
JP5272217B2 (ja) 重合性組成物、重合体およびプラスチックレンズ
US20220299678A1 (en) Article with an optical surface with engineered functions
US20130288002A1 (en) Polymerizable composition and optical sheet comprising cured resin layer formed therefrom
JP2005003772A (ja) 光学材料用組成物および光学素子
TH64815B (th) ผลิตภัณฑ์เชิงแสงซึ่งมีแผ่นแบบเศษหนึ่งส่วนสี่ความยาวคลื่นและวิธีการสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์เชิงแสง
JP2013507274A (ja) 単一および複層における高反射率、耐引っ掻き性TiO2被膜