TH5277B

TH5277B - เครื่องจักรสำหรับใช้ดึงเส้นลวด

Info

Publication number: TH5277B
Application number: TH8801000296A
Authority: TH
Inventors: ไออูระ นายคาซูโอ; โยชิดา นายคินไซ; ยามาโมโต นายอาคิระ
Original assignee: นายชลลิต อัตถศาสตร์
Filing date: 1988-04-25
Publication date: 1996-03-08

Abstract

เครื่องประดิษฐ์การดึงเส้นลาดแบบหนึ่งสำหรับใช้ดึงเกลียวลวดจำนวนหนึ่งไปพร้อมๆ กันตามการทำงานตอนท้าย โดยผ่านกลุ่ม ของเครื่องทำเหล็กเป็นเกลียวจำนวนหนึ่งซึ่งเครื่องทำเหล็ก เป็นเกลียวหนึ่งเครื่องจะใช้สำหรับเกลียวลวดแต่ละเส้น แต่ ละกลุ่มของเครื่องทำเหล็กเป็นเกลียวเหล่านี้ได้ถูกยึดอยู่ ในกรรมวิธีของการกั้นซึ่งประกอบด้วยส่วนแรกและส่วนที่สอง ซึ่งได้ถูกปรับปรุงสำหรับการเคลื่อนที่เข้าหากันและออกจาก กัน เมื่อกรรมวิธีของการกั้นอยู่ในตำแหน่งที่เปิดออกซึ่ง ได้ถูกทำให้เคลื่อนที่ออกจากกันแล้ว เครื่องทำเหล็กเป็น เกลียวจำนวนหนึ่งอาจจะถูกเคลื่อนย้ายออกได้โดยไม่มีการ เคลื่อนย้ายอกหรือการแทนที่กับเครื่องทำเหล้กเป็นเกลียว เครื่องอื่นๆ ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันเลย เมื่อส่วนเหล่านี้ ได้ถูกทำให้เคลื่อนที่เข้าหากันแล้ว ส่วนเหล่านี้จะวางซ้อน อยู่บนเครื่องทำเหล็กเป็นเกลียวอย่างน้อยก็บางส่วนที่อยู่ ในกลุ่มนั้น และจะกั้นเครื่องทำเหล็กเป็นเกลียวเหล่านี้ให้ อยู่ตำแหน่งได้

Claims

1. เครื่องประดิษฐ์สำหรับใช้ดึงเส้นลวด ซึ่งประกอบไปด้วยแหล่งให้ของเกลียวจำนวนหนึ่ง (a ถึง g) ที่จะถูกดึงไปใน ทิศทางของการทำงานตอนท้าย อย่างน้อยหนึ่งกลุ่มของเครื่องทำเหล็กเป็นเกลียว (30) ที่ ประกอบด้วยเครื่องทำเหล็กเป็นเกลียวที่แยกจากกันจำนวนหนึ่ง (10a ถึง 10g) ซึ่งจะมีเครื่องทำเหล็กเป็นเกลียวเครื่อง หนึ่ง (10) ในกลุ่มดังกล่าวที่จะใช้กับเกลียวลวดดังกล่าว แต่ละเส้นและเครื่องทำเหล็กเป็นเกลียวแต่ละเครื่อง (10a ถึง 10g) จะเคลื่อนที่ได้ในทิศทางที่กลับกันกับทิศทางของ การทำงานตอนท้าย โดยที่เมื่อเครื่องทำเหล็กเป็นเกลียวดัง กล่าวทิศทางกลับกันเพื่อที่จะวางพิงกันและกัน กรรมวิธี (5,6,24) สำหรับการดึงเกลียวลวดดังกล่าวให้ผ่าน หมุนของเครื่องทำเหล็กเป็นเกลียวดังกล่าว กรรมวิธีของการกั้น (16a , 16b) สำหรับกลุ่มของเครื่องทำ เหล็กเป็นเกลียวดังกล่าวแต่ละกลุ่ม ซึ่งกรรมวิธีของการกั้น ดังกล่าวแต่ละกรรมวิธี (16) จะประกอบด้วยส่วนแรก (15) และ ส่วนที่สอง (17) ซึ่งถูกดัดแปลงสำหรับการเคลื่อนที่ซึ่ง สัมพันธ์กันและกันระหว่างตำแหน่งที่เปอดออกและตำแหน่งที่ ถูกปิดลง กรรมวิธีของการกั้นดังกล่าว (16) เมื่ออยู่ใน ตำแหน่งของการเปิดออกของมันนั้นจะมีส่วนแรกและส่วนที่สอง ของมัน (15,17) ถูกเว้นระยะห่างกันเป็นระยะที่มากกว่าใน ตำแหน่งที่ถูกปิดลงดังกล่าวเพื่อที่เมื่อกรรมวิธีของการ กั้นดังกล่าว (16) อยู่ในตำแหน่งที่ปิดลงดังกล่าวนั้นมันจะ มีอย่างน้อยบางส่วนที่วางซ้อนอยู่บนกลุ่มของเครื่องทำเหล็ก เป็นเกลียวดังกล่าว (30) เพื่อที่กลุ่มของเครื่องทำเหล็ก เป็นเกลียวดังกล่าว (30) จะถูกยึดอยู่ในเครื่องประดิษฐ์ สำหรับใช้ดึงเส้นลวดดังกล่าว และเมื่อกรรมวิธีของการกั้น ดังกล่าว (17) อยู่ในตำแหน่งที่เปิดออกดังกล่าว เครื่องทำ เหล็กเป็นเกลียวดังกล่าว (10a ถึง 10g) เครื่องใดเครื่อง หนึ่งในกลุ่มดังกล่าว (30) ถูกนำออกไปได้อย่างสิ้นเชิงโดย ไม่ต้องนำเครื่องทำเหล็กเป็นเกลียวที่เหลือตัวใดตัวหนึ่ง (10a ถึง 10g) ในกลุ่มดังกล่าว

2. เครื่องประดิษฐ์ตามข้อถือสิทธิ 1 มีลักษณะพิเศษที่ว่า ส่วนแรกดังกล่าว (15) จะประกอบด้วยของส่วนแรก (15b) ซึ่ง อยู่ตรงข้ามซอกส่วนที่สอง (17b) ในส่วนที่สองดังกล่าว (17) ซอกดังกล่าว (15b, 17b) จะต่อยื่นยาวออกไปในทิศทางที่กลับ กันกับทิศทางของการทำงานตอนท้ายดังกล่าว และถูกดัดแปลงเอา ไว้เพื่อรองรับกลุ่มของเครื่องทำเหล็กเป็นเกลียวดังกล่าว (10) เมื่อกรรมวิธีของการกั้นดังกล่าว (16) อยู่ในตำแหน่ง ที่ปิดลงดังกล่าว

3. เครื่องประดิษฐ์ตามข้อถือสิทธิ 1 มีลักษณะพิเศษว่าจะ ถูกจัดให้มีกลุ่มของเครื่องทำเหล็กเป็นเกลียวดังกล่าว (10) จำนวนหนึ่ง และกรรมวิธีดังกล่าว สำหรับดึงจะถูกดัดแปลงให้ ดึงเกลียวลวดดังกล่าวผ่านกลุ่มของเครื่องทำเหล็กเป็นเกลียว จำนวนหนึ่งดังกล่าวตามลำดับ

4. เครื่องประดิษฐ์ตามข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งก่อนหน้า นี้ซึ่งมีลักษณะพิเศษที่ว่ากรรมวิธีดังกล่าวสำหรับการดึงจะ ประกอบด้วยกว้านที่ถูกขับเคลื่อนด้วยพลังงาน (12) ในการทำ งานตอนท้ายของกลุ่มของเครื่องทำเหล็กเป็นเกลียวดังกล่าว (30) อย่างน้อยหนึ่งกลุ่ม กว้านดังกล่าว (12) จะถูกดัดแปลง ให้รองรับห่วงหนึ่งของเกลียวลวดดังกล่าวแต่ละ เส้น (a ถึง g)

5. เครื่องประดิษฐ์ตามข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งก่อนหน้า นี้มีลักษณะพิเศษที่ว่าก้านจำนวนหนึ่ง (91 ถึง 98 , 101 ถึง 108) ถูกติดตั้งไว้ทางตอนต้นของการทำงานของกลุ่มของ เครื่องทำเหล็กเป็นเกลียวดังกล่าว (30) ก้านดังกล่าว (91 ถึง 98, 101 ถึง 108) จะมีแกนที่ตั้งฉากกับระนาบที่ผ่านไป ตามเกลียวลวดดังกล่าวโดยตลอด ซึ่งก้านเหล่านี้ (91 ถึง 98, 101 ถึง 108) จะถูกเว้นระยะห่างกันเอาไว้ในทิศทางหนึ่งที่ ขนานกับระนาบดังกล่าวเพื่อสร้างเป็นเส้นทางอยู่ระหว่างนี้ ซึ่งเส้นทางดังกล่าวแต่ละเส้นทางถูกดัดแปลงให้มีเกลียวลวด ดังกล่าวเส้นหนึ่งผ่านไปตามเส้นทางนี้โดยตลอด

6. เครื่องประดิษฐ์ตามข้อถือสิทธิ 4 มีลักษณะพิเศษว่า กว้านดังกล่าว (12) จะถูกจัดให้มีพื้นผิวที่ยอมให้เกลียว ลวดดังกล่าว (a ถึง g) เลื่อนไถลตามแนวแกนไปบนนั้นได้

7. เครื่องประดิษฐ์ตามข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งก่อนหน้า นี้มีลักษณะพิเศษที่ว่าเกลียวลวดดังกล่าว (a ถึง g) จะเป็น เส้นลวดโลหะ

8. วิธีการเปลี่ยนเกลียวที่แตกหักในเครื่องประดิษฐ์สำหรับ ใช้ดึงเส้นลวดตามข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งของข้อที่ 1 ถึง 7 ซึ่งวิธีการดังกล่าวประกอบด้วยขั้นตอนของ การหยุดกรรมวิธีการดึงดังกล่าว (5,6,24) การเคลื่อนกรรมวิธีของการกั้นดังกล่าว (16) ที่กั้นกลุ่ม ของเครื่องทำเหล็กเป็นเกลียวกลุ่มที่หนึ่ง (30) ซึ่งอยู่ ทางตอนต้นของการทำงานที่ไกลที่สุดให้อยู่ในตำแหน่งที่เปิด ออกดังกล่าว การนำเครื่องทำเหล็กเป็นเกลียว (10) ที่มีเกลียวลวดที่แตก หักดังกล่าว (a ถึง g) ออก การเคลื่อนเครื่องทำเหล็กเป็น เกลียวที่เหลืออยู่ (10a ถึง 10g) ในกลุ่มของเครื่องทำ เหล็กเป็นเกลียวกลุ่มที่หนึ่งดังกล่าว (30) ในทิศทางกลับ กันกับทิศทางการดึงของการทำงานตอนท้ายที่อยู่ห่างจาก เครื่องปฏิบัติการ การเคลื่อนที่เกลียวลวดที่แตกหักดังกล่าวผ่านเครื่องทำ เหล็กเป็นเกลียว (10) ที่ถูกเคลื่อนไป การสอดเครื่องทำเหล็กเป็นเกลียวที่ถูกนำออกเข้าไปร่วมกับ เกลียวลวดที่ถูกสอดกลับเข้าไปในกลุ่มของเครื่องทำเหล็กเป็น เกลียวดังกล่าว (30) ที่ตำแหน่งที่ใกล้กับเครื่องปฏิบัติ การดังกล่าวมากที่สุด การเชื่อมต่อเกลียวลวดที่แตกหักดังกล่าวเข้ากับกรรมวิธี สำหรับการดึงดังกล่าว (5,6,24) การเคลื่อนกรรมวิธีของการกั้นดังกล่าว (16) ที่กั้นกลุ่ม ของเครื่องทำเหล็กเป็นเกลียวดังกล่าวกลุ่มที่หนึ่ง (30) ไป ยังตำแหน่งที่ปิดลงดังกล่าว และ การทำซ้ำขั้นตอนข้างต้นสำหรับกลุ่มของเครื่องทำเหล้กเป็น เกลียวดังกล่าวแต่ละกลุ่มตามทิศทางของการทำงานตอนท้าย

9. วิธีการตามข้อถือสิทธิ 8 ที่ลักษณะสำคัญที่ว่า ข้นตอน การสอดดังกล่าวจะประกอบด้วยการเปิดกรรมวิธีการล็อค (18,21,23) ที่ปลายของกลุ่มของเครื่องทำเหล็กเป็นเกลียว กลุ่มที่หนึ่งดังกล่าว (30) ที่ใกล้กับเครื่องปฏิบัติการ ดังกล่าวมากที่สุดการสอดเครื่องทำเหล็กเป็นเกลียวที่ถูกนำ ออกมาดังกล่าว และการปิดกรรมวิธีการล็อคดังกล่าว (18,21,23) 1

0. วิธีการตามข้อถือสิทธิ 8 ที่ลักษณะพิเศษคือการเคลื่อน เกลียวลวดที่แตกหักดังกล่าวไปยังเส้นทางระหว่างก้านที่อยู่ ใกล้กันสองก้าน (90,100) ซึ่งอยู่ใกล้กับเครื่องปฏิบัติดัง กล่าวมากที่สุดและมีแกนที่ตั้งฉากกับระนาบที่ผ่านตลอด เกลียวลวดดังกล่าว (a ถึง g) (ข้อถือสิทธิ 10 ข้อ, 3 หน้า, 9 รูป)