TH7875A - สารผสมชนิดอนุภาคที่มีสารฟอกจางและสารทำให้สดใสเมื่อได้รับแสงและกรรมวิธีสำหรับการผลิตของสารนี้ - Google Patents

Abstract

ขอถือสิทธิกรรมวิธีการผลิตและสารผสมสำหรับเนื้อหาของสารผสมหนึ่งที่ประกอบด้วยโซเดียม คาร์บอเนท, โซเดียม คาร์บอเนท เพอร์ไฮเดรท, ตัวสารที่ทำให้ขาวเรืองแสงและไดฟอสโฟนิค แอวิด กรรมวิธีนี้ประกอบด้วยการนำเอาตัวสารที่ทำให้ขาวเรืองแสงและไดฟอสโฟนิค แอซิดใส่เข้ารวมในไฮโดรเจน เพอร์ออกไซด์ในน้ำ, นำเอาสารละลายไฮโดรเจน เพอร์ออกไซด์นี้ใส่อย่างสม่ำเสมอลงบนโซเดียม คาร์บอเนทที่เป็นอนุภาคเพื่อให้เกิดของผสมที่ทำปฏิกิริยากัน, การเร่งเอาไอน้ำออกไปจากพื้นผิวของของผสมที่ทำปฏิกิริยากัน และรักษาอุณหภูมิของของผสมที่ทำปฏิกิริยากันให้อยู่ระหว่างประมาณ 35 ซ และ 80 ซ

Claims (2)

1. กรรมวิธีสำหรับการผลิตสารผสมพาหะชนิดโซดาแอชเพอร์ออกซิเจนที่ประกอบด้วย การนำเอาตัวสารที่ทำให้ขาวเรืองแสงชนิดบิส (สไทริล) อะโรมาทิค, ไดฟอสโฟนิค แอซิด หรือ เกลือที่มีสูตร (สูตรเคมี) ซึ่ง Y เป็นไฮโดรเจนหรือไฮดรอกซิล, Rเป็นไฮโดรเจนหรือหมู่แอลิเฟทิค ไฮโดรคาร์บอนที่มีคาร์บอน 1ถึง 6 อะตอมใส่รวมลงไปในสารละลายในน้ำของไฮโดรเจน เทอร์ออกไซด์ชนิด 50% ถึง 80% โดยน้ำหนัก เพื่อให้เกิดเป็นสารละ ลายที่ผสมกัน ซึ่งนำเอาสารละลายที่ได้ผสมกันนี้ใส่อย่างสม่ำเสมอลงที่ของผสมชนิดอนุภาคแข็งที่ทำปฏิกิริยากัน โดยเริ่มแรกประกอบไปด้วยอนุภาคของโซเดียมคาร์บอเนทที่ถือว่าไร้น้ำโดยแท้ พร้อมกับการเร่งเอาไอน้ำจากผิวพื้นของของผสมที่ทำปฏิกิริยากันออกไป, รักษาอุณหภูมิของของผสมที่ทำปฏิกิริยากันนี้ไว้ระหว่างประมาณ 35 ซ และ 80 ซ นำเอาตัวสารที่ทำให้ขาวเรืองแสงในปริมาณที่มีประสิทธิผลใส่เข้าไปเพื่อจัดทำเป็น 0.1% ถึง 5.0% โดยน้ำหนักเมื่อนำเอาเข้ารวมในสูตรผสมและไดฟอสโฟนิค แอซิด หรือ เกลือมีอยู่ในปริมาณที่มีประสิทธิผลเพื่อจัดให้มีโซเดียมคาร์บอเนทอยู่ระหว่าง 1 และ 5 โมล ในสารผสมสำหรับทุกๆ โมลของน้ำที่ถือได้ว่ามีอยู่มากพอในอนุภาคเกือบทั้งหมดในสารผสมนี้ น้ำที่มีอยู่มากพอดังกล่าวนี้รวมไปถึงน้ำที่มีมากพอที่เกิดขึ้นโดยทางเคมี เช่น ไฮโตรเจน เพอร์ออกไซด์, น้ำที่เกิดจากการเป็นผลึกของน้ำผลึกของโซเดียมคาร์บอเนท(Sodium carbonatehydrates) และน้ำชนิดอิสระซึ่งอาจมีอยู่ชั่วคราว (temporarily) ในสารผสมนี้ 2. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิที่ 1 ซึ่งใส่ตัวสารที่ทำให้ขาวเรืองแสงจำนวนเพียงพอร่วมเข้าไปในไฮโดรเจนเทอร์ออกไซด์ในปริมาณที่จัดทำให้มีอยู่ 0.1% ถึง 0.5% โดยน้ำหนักอยู่ในสูตรผสมสำหรับซักฟอก 3. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิที่ 1 ซึ่งตัวสารที่ทำให้ขาวเรืองแสงคือตัวสารที่ทำให้ขาวเรืองแสงชนิด บิส(สไทริล)ไบเฟนิล 4. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิที่ 2 ซึ่งตัวสารที่ทำให้ขาวเรืองแสงคือตัวสารที่ทำให้ขาวเรืองแสงชนิด บิส(สไทริล)ไบเฟนิล 5. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิที่ 1 ซึ่งเลือกตัวสารที่ทำให้ขาวเรืองแสงได้จากกลุ่มที่ประกอบด้วย 1,4-บิส(สไทริล-2-ซัลโฟนิค แอซิด) เบนซีน, 4,4-บิส(สไทริล-2-ซัลโฟนิค แอซิด) ไบพิริดิล หรือเกลือของสารเหล่านี้ 6. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิที่ 2 ซึ่งเลือกตัวสารที่ทำให้ขาวเรืองแสงได้จากกลุ่มที่ประกอบด้วย 1,4-บิส(สไทริล-2-ซัลโฟนิค แอวิด) เบนซีน และ 4,4\' -บิส(สไทริล-2-ซับโฟนิค แอซิด)ไบทิริดิล และเกลือต่างๆ ของสารเหล่านี้ 7. สารผสมพาหะชนิดโซดา แอช เพอร์ออกซิเจนที่ทำให้เสถียรอยู่ได้ซึ่งประกอบด้วยจำนวนอนุภาคมากมาย ซึ่งจำนวนอนุภาคเกือบทั้งหมดนี้ประกอบด้วย โซเดียม คาร์บอเนท เพอร์ไฮเดรทปริมาณที่มีประสิทธิผลของตัวสารช่วยทำให้ขาวเรืองแสงชนิดบิส(สไทริล) อะโรมาทิด เพื่อจัดทำให้มีอยู่ 0.1% ถึง 5%โดยน้ำหนักในสูตรผสมและไดฟอสโฟนิค แอซิด หรือเกลือ 0.1%ถึงประมาณ 3% โดยน้ำหนักที่มีสูตร (สูตรเคมี) ซึ่ง Y เป็นไฮโดรเจนหรือไฮดรอกซิล, R เป็นไฮโดรเจนหรือหมู่แอลิเฟทิดไฮโดรคาร์บอนที่มีคาร์บอน 1 ถึง 6 อะตอม, โวเดียมคาร์บอเนทที่มีจำนวนเพียงพอมีอยู่ในสารผสมนี้เพื่อจัดทำให้มีโซเดียมคาร์บอเนทอยู่ระหว่าง 1 และ 5 โมล สำหรับทุกๆ โมลของน้ำที่มีอยู่มากพอในสารผสมนี้ น้ำที่มีอยู่มากพอดังกล่าวรวมไปถึงน้ำที่มีมากพอที่เกิดขึ้นโดยทางเคมีเช่นไฮโดรเจน เพอร์ออกไซด์ น้ำที่เกิดจากการเป็นผลึกของน้ำผลึกของโซเดียม คาร์บอเนท และน้ำชนิดอิสระซึ่งอาจมีอยู่ชั่วคราวในสารผสมนี้ 8. สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 7 บ่งลักษณะเฉพาะอยู่ที่ว่าตัวสารที่ทำให้ขาวเรืองแสงจำนวนเพียงพอนี้มีอยู่เพื่อจัดทำให้มีตัวสารที่ทำให้ขาวเรืองแสง 0.1% ถึง 0.5% โดยน้ำหนักในสูตรผสม 9. สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 7 บ่งลักษณะเฉพาะอยู่ที่ว่าตัวสารที่ทำให้ขาวเรืองแสงนี้คือบิส(สไทริล)เบนซีน 1 0. สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 8 บ่งลักษณะเฉพาะอยู่ที่ว่าตัวสารที่ทำให้ขาวเรืองแสงคือบิส(สไทริล)เบนซีน 1 1. สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 7 บ่งลักษณะเฉพาะอยู่ที่ว่าตัวสารที่ทำให้ขาวเรืองแสงคือบิส(สไทริล)ไบพิริดิล 1 2. สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 8 บ่งลักษณะเฉพาะอยู่ที่ว่าตัวสารที่ทำให้ขาวเรืองแสงคือบิส(สไทริล)ไบพิริดิล 1 3. สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 7 บ่งลักษณะเฉพาะอยู่ที่ว่าเลือกตัวสารที่ทำให้ขาวเรืองแสงได้จากกลุ่มที่ประกอบด้วย 1,4-บิส(สไทริล-2-ซับโฟนิค แอซิด)เบนซีน, 4,4\' -บิส(สไทริล-2-ซัลโฟนิค แอซกิด)ไบพิริดิล หรือเกลือต่างๆของสารนั้น 1 4. สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 8 บ่งลักษณะเฉพาะอยู่ที่ว่าเลือกตัวสารที่ทำให้ขาวเรืองแสงได้จากกลุ่มที่ประกอบด้วย 1,4-บิส(สไทริล-2-ซับโฟนิค แอซิด)เบนซีน, 4,4\' -บิส(สไทริล-2-ซัลโฟนิค แอซกิด)ไบพิริดิลและเกลือต่างๆของสารนั้น 1 5. สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 7 บ่งลักษณะเฉพาะอยู่ที่ว่าสารผสมนี้วิเคราะห์พบโซเดียม คาร์บอเนท เพอร์ออกไซด์อยู่ระหว่าง 45% และ 75% 1 6. สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 8 บ่งลักษณะเฉพาะอยู่ที่ว่าสารผสมนี้วิเคราะห์พบโซเดียม คาร์บอเนท เพอร์ออกไซด์อยู่ระหว่าง 45% และ 75% 1 7. สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 9 บ่งลักษณะเฉพาะอยู่ที่ว่าสารผสมนี้วิเคราะห์พบโซเดียม คาร์บอเนท เพอร์ออกไซด์อยู่ระหว่าง 45% และ 75% 1 8. สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 10 บ่งลักษณะอยู่ที่ว่าสารผสมนี้วิเคราะห์พบโซเดียม คาร์บอเนท เพอร์ออกไซด์อยู่ระหว่าง 45% และ 75% 1 9. สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 11 บ่งลักษณะเฉพาะอยู่ที่ว่าสารผสมนี้วิเคราะห์พบโซเดียม คาร์บอเนท เพอร์ออกไซด์อยู่ระหว่าง 45% และ 75% 2 0. สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 12 บ่งลักษณะเฉพาะอยู่ที่ว่าสารผสมนี้วิเคราะห์พบโซเดียม คาร์บอเนท เพอร์ออกไซด์อยู่ระหว่าง 45% และ 75% 2

1. สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 13 บ่งลักษณะเฉพาะอยู่ที่ว่าสารผสมนี้วิเคราะห์พบโซเดียม คาร์บอเนท เพอร์ออกไซด์อยู่ระหว่าง 45% และ 75% 2

2. สารผสมพาหะชนิดโซดาแอช เพอร์ออกวิเจนที่ทำให้เสถียรอยู่ได้ ซึ่งบ่งลักษณะเฉพาะโดย "ของแข็งที่เป็นอนกุภาค"ของแข็งที่เป็นอนุภาคดังกล่าวประกอบไปด้วยตัวสารที่ทำให้ขาวเรืองแสง 0.2 ถึง 10% โดยน้ำหนัก ซึ่งเลือกได้จาก1,4-บิส(สไทริล-2-ซัลโฟนิค แอซิด)เบนซีน และ 4,4\' -บิส(สไทริล-2-ซัลโฟนิค แอซิด)ไบพิริดิล และเกลือต่างๆของสารนั้นและไดฟอสโฟนิค แอซกดิดหรือเกลือ 0.1% ถึง 3% โดยน้ำหนักที่ มีสูตร (สูตรเคมี) ซึ่ง Y เป็นไฮโดรเจนหรือไฮดรอกซิล, Rเป็นไฮโดรเจนหรือหมู่แอลิเฟทิค ไฮโดรคาร์บอนที่มีคาร์บอน 1 ถึง 6 คาร์บอน,โซเดียมคาร์บอเนทที่มีจำนวนเพียงพอมีอยู่ในสารผสมนี้เพื่อจัดทำให้มีโซเดียมคาร์บอเนทอยู่ระหว่าง 1 และ 5 โมล สำหรับทุกๆ โมลของน้ำที่มีอยู่ในสารผสมนี้