TH64113B - กรรมวิธี และชุดอุปกรณ์สำหรับการทำโพลิเมอไรเซชันของเอทิลีน - Google Patents

กรรมวิธี และชุดอุปกรณ์สำหรับการทำโพลิเมอไรเซชันของเอทิลีน

Info

Publication number
TH64113B
TH64113B TH601000444A TH0601000444A TH64113B TH 64113 B TH64113 B TH 64113B TH 601000444 A TH601000444 A TH 601000444A TH 0601000444 A TH0601000444 A TH 0601000444A TH 64113 B TH64113 B TH 64113B
Authority
TH
Thailand
Prior art keywords
gas
propane
ethylene
polymer particles
reactor
Prior art date
Application number
TH601000444A
Other languages
English (en)
Other versions
TH81947A (th
TH81947B (th
Inventor
อาหมัดซาดียูสเซฟี นายไซรัส
คาเรอร์ นายไรเนอร์
เปนโซ นายกิวเซปเป
นีเคน นายอูลริช
Original Assignee
นางสาวปรับโยชน์ ศรีกิจจาภรณ์
นายจักรพรรดิ์ มงคลสิทธิ์
นายต่อพงศ์ โทณะวณิก
นายบุญมา เตชะวณิช
นายบุญมา เตชะวณิช นายจักรพรรดิ์ มงคลสิทธิ์ นางสาวปรับโยชน์ ศรีกิจจาภรณ์ นายต่อพงศ์ โทณะวณิก
Filing date
Publication date
Application filed by นางสาวปรับโยชน์ ศรีกิจจาภรณ์, นายจักรพรรดิ์ มงคลสิทธิ์, นายต่อพงศ์ โทณะวณิก, นายบุญมา เตชะวณิช, นายบุญมา เตชะวณิช นายจักรพรรดิ์ มงคลสิทธิ์ นางสาวปรับโยชน์ ศรีกิจจาภรณ์ นายต่อพงศ์ โทณะวณิก filed Critical นางสาวปรับโยชน์ ศรีกิจจาภรณ์
Publication of TH81947A publication Critical patent/TH81947A/th
Publication of TH81947B publication Critical patent/TH81947B/th
Publication of TH64113B publication Critical patent/TH64113B/th

Links

Abstract

DC60 (28/04/49) การประดิษฐ์นี้ เสนอกรรมวิธีสำหรับการทำโพลิเมอไรเซชันของเอทิลีน หรือของเอทิลีน กับ 1-โอเลฟินอื่น โดยที่เอทิลีนถูกโพลิเมอไรซ์ ในสภาวะที่มีตัวเร่งปฏิกิริยาในเครื่องปฏิกรณ์เฟสแก๊ส และแก๊สจากปฏิกิริยา ซึ่งประกอบรวมด้วยโพรเพน และเอทิลีนที่ไม่ถูกโพลิเมอร์ไรซ์ ถูกทำให้ไหล เวียน เพื่อกำจัดความร้อนของการทำโพลิเมอร์ไรเซชัน ทั้งนี้ อนุภาคโพลิเมอร์ถูกถ่ายออกจากเครื่อง ปฏิกรณ์อย่างต่อเนื่อง หรือไม่ต่อเนื่องก็ได้, อนุภาคโพลิเมอร์ดังกล่าว ถูกแยกออกจากส่วนหลักของ แก๊สที่ถูกถ่ายออกในขณะเดียวกัน และอนุภาคโพลิเมอร์ดังกล่าว ถูกกำจัดแก๊สออก แก๊สดังกล่าว ถูก ทำให้ปราศจากอนุภาคขนาดเล็กที่จะติดปนมาด้วย และถูกแยกออกจากส่วนของสารจุดเดือดต่ำ ซึ่ง ประกอบรวมด้วยเอทิลีน หรือถูกแยกออกจากส่วนของสารสุดเดือดสูง ซึ่งมี 1-โอเลฟิน หรืออัลเคน อื่น ซึ่งมีคาร์บอน 4 ถึง 12 อะตอม ในขั้นตอนแยกสารขั้นตอนแรก ส่วนของโพรเพนจะถูกแยกออก ในขั้นตอนแยกสารขั้นตอนที่สอง และโพรเพนส่วนนี้ถูกใช้สำหรับการกำจัดแก๊สออกจากอนุภาค โพลิเมอร์ที่ถูกถ่ายออกจากเครื่องปฏิกรณ์ โดยที่สัดส่วนของเอทิลีนในส่วนโพรเพนมีค่าน้อยกว่า 1 โมล% และสัดส่วนของ 1-โอเลฟิน และอัลเคน ซึ่งมีคาร์บอน 4 ถึง 12 อะตอม ในส่วนของโพรเพนมี ค่าน้อยกว่า 4 โมล% โดยคิดเทียบกับส่วนโพรเพนทั้งหมดในแต่ละกรณี นอกจากนี้ การประดิษฐ์นี้ยัง ได้เสนอชุดอุปกรณ์สำหรับดำเนินกรรมวิธีตามการประดิษฐ์นี้ ในลักษณะวิธีตามการประดิษฐ์นี้ ทำให้สามารถถ่ายความร้อนในปริมาณสูงออกจากเครื่อง ปฏิกรณ์, สามารถกำจัดแก๊สออกจากอนุภาคโพลิเมอร์ที่ถูกถ่ายออกในระดับที่น่าพอใจ, และสามารถ เก็บกลับคืนแก๊สจากปฏิกิริยาที่ถูกถ่ายออกควบคู่กับอนุภาคโพลิเมอร์ รวมถึง สามารถได้แก๊สที่ถูกใช้ สำหรับการกำจัดแก๊สออกจากอนุภาคโพลิเมอร์ แก้ไข 21/02/2560 การประดิษฐ์นี้ เสนอกรรมวิธีสำหรับการทำโพลิเมอไรเซชันเอทิลีนหรือเอทีลีนกับ 1-โอเลฟินอื่น โดยที่เอทิลีนถูกโพลิเมอไรซ์ในสภาวะที่มีตัวเร่งปฏิกิริยาอยู่ในเครื่องปฏิกรณ์เฟสแก๊ส และแก๊สปฏิกิริยาซึ่งประกอบรวมด้วยโพรเพนและเอทิลีนที่ไม่ถูกโพลิเมอไรซ์ถูกทำให้ไหลเวียน เพื่อ กำจัดความร้อนของการทำโพลิเมอไรเซชัน โดยที่อนุภาคโพลิเมอร์ถูกถ่ายออกจากเครื่องปฏิกรณ์ อย่างต่อเนื่องหรือไม่ต่อเนื่องก็ได้, อนุภาคโพลิเมอร์ถูกแยกออกจากส่วนหลักของแก๊สที่ถูกถ่ายออก ในขณะเดียวกัน และอนุภาคโพลิเมอร์ถูกกำจัดแก๊สออก แก๊สถูกทำให้ปราศจากอนุภาคขนาดเล็กที่จะ ติดปนมาด้วย และถูกแยกออกจากส่วนของสารจุดเดือดตํ่า ซึ่งประกอบรวมด้วยเอทิลีนหรือถูกแยก ออกจากส่วนของสารสุดเดือดสูง ซึ่งมี 1-โอเลฟิน หรืออัลเคนอื่น ซึ่งมีคาร์บอน 4 ถึง 12 อะตอม ใน ขั้นตอนแยกสารขั้นตอนแรก ส่วนของโพรเพนจะถูกแยกออกในขั้นตอนแยกสารขั้นตอนที่สอง และ โพรเพนส่วนนี้ถูกใช้สำหรับการกำจัดแก๊สออกจากอนุภาคโพลิเมอร์ที่ถูกถ่ายออกจากเครื่องปฏิกรณ์ โดยที่สัดส่วนของเอทิลีนในส่วนของโพรเพนมีค่าน้อยกว่า 1 โมล% และสัดส่วนของ 1-โอเลฟิน และ อัลเคน ซึ่งมีคาร์บอน 4 ถึง 12 อะตอม ในส่วนของโพรเพนมีค่าน้อยกว่า 4 โมล% โดยคิดเทียบกับ ส่วนของโพรเพนทั้งหมดในแต่ละกรณี นอกจากนี้ การประดิษฐ์นี้ยังได้เสนอชุดอุปกรณ์สำหรับ ดำเนินกรรมวิธีตามการประดิษฐ์นี้ ในลักษณะวิธีตามการประดิษฐ์นี้ ทำให้สามารถถ่ายความร้อนในปริมาณสูงออกจากเครื่อง ปฏิกรณ์, สามารถกำจัดแก๊สออกจากอนุภาคโพลิเมอร์ที่ถูกถ่ายออกในระดับที่น่าพอใจ, และสามารถ เก็บกลับคืนแก๊สปฏิกิริยาที่ถูกถ่ายออกควบคู่กับอนุภาคโพลิเมอร์ และยังสามารถได้แก๊สที่ถูกใช้ สำหรับการกำจัดแก๊สออกจากอนุภาคโพลิเมอร์ --------- การประดิษฐ์นี้ เสนอกรรมวิธีสำหรับการทำโพลิเมอไรเซชันของเอทิลีน หรือของเอทิลีน กับ 1- โอเลฟินอื่น โดยที่เอทิลีนถูกโพลิเมอไรซ์ ในสภาวะที่มีตัวเร่งปฏิกิริยาในเครื่องปฏิกรณ์เฟสแก๊ส และแก๊สจากปฏิกิริยา ซึ่งประกอบรวมด้วยโพรเพน และเอทิลีนที่ไม่ถูกโพลิเมอร์ไรซ์ ถูกทำให้ไหล เวียน เพื่อกำจัดความร้อนของการทำโพลิเมอร์เรเซชัน ทั้งนี้ อนุภาคโพลิเมอร์ถูกถ่ายออกจากเครื่อง ปฏิกรณ์อย่างต่อเนื่อง หรือไม่ต่อเนื่องก็ได้, อนุภาคโพลิเมอร์ดังกล่าว ถูกแยกออกจากส่วนหลักของ แก๊สที่ถูกถ่ายออกในขณะเดียวกัน และอนุภาคโพลิเมอร์ดังกล่าว ถูกกำจัดแก๊สออก แก๊สดังกล่าว ถูก ทำให้ปราศจากอนุภาคขนาดเล็กที่จะติดปนมาด้วย และถูกแยกออกจากส่วนของสารจุดเดือดต่ำ ซึ่ง ประกอบรวมด้วยเอทิลีน หรือถูกแยกออกจากส่วนของสารสุดเดือดสูง ซึ่งมี 1-โอเลฟิน หรืออัลเคน อื่น ซึ่งมีคาร์บอน 4 ถึง 12 อะตอม ในขั้นตอนแยกสารขั้นตอนแรก ส่วนของโพรเพนจะถูกแยกออก ในขั้นตอนแยกสารขั้นตอนที่สอง และโพรเพนส่วนนี้ถูกใช้สำหรับการกำจัดแก๊สออกจากอนุภาค โพลิเมอร์ที่ถูกถ่ายออกจากเครื่องปฏิกรณ์ โดยที่สัดส่วนของเอทิลีน ในส่วนโพรเพนมีค่าน้อยกว่า 1 โมละ% และสัดส่วนของ 1-โอเลฟิน และอัลเคน ซึ่งมีคาร์บอน 4 ถึง 12 อะตอม ในส่วนของโพรเพนมี ค่าน้อยกว่า 4 โมล% โดยคิดเทียบกับส่วนโพรเพนทั้งหมดในแต่ละกรณี นอกจากนี้ การประดิษฐ์นี้ยัง ได้เสนอชุดอุปกรณ์สำหรับดำเนินกรรมวิธีตามการประดิษฐ์นี้ ในลักษณะวิธีตามการประดิษฐ์นี้ ทำให้สามารถ่ายความร้อนในปริมาณสูงออกจากเครื่อง ปฏิกรณ์, สามารถกำจัดแก๊สออกจากอนุภาคโพลิเมอร์ที่ถูกถ่ายออกในระดับที่น่าพอใจ, และสามารถ เก็บกลับคืนแก๊สจากปฏิกิริยาที่ถูกถ่ายออกควบคู่กับอนุภาคโพลิเมอร์ รวมถึง สามารถได้แก๊สที่ถูกใช้ สำหรับการกำจัดแก๊สออกจากอนุภาคโพลิเมอร์

Claims (8)

ข้อถือสิทธฺ์ (ทั้งหมด) ซึ่งจะไม่ปรากฏบนหน้าประกาศโฆษณา :แก้ไข 21/02/2560 1. กรรมวิธีสำหรับการโพลิเมอไรซ์เอทิลีนหรือเอทิลีนกับ 1-โอเลฟินอื่น โดยที่เอทิลีนถูก โพลิเมอไรซ์ในสภาวะที่มีตัวเร่งปฏิกิริยาอยู่ในเครื่องปฏิกรณ์เฟสแก๊ส เพื่อทำให้เกิดอนุภาคโพลิเมอร์ ซึ่งเครื่องปฏิกรณ์เฟสแก๊สประกอบรวมด้วยแก๊สปฏิกิริยา ซึ่งประกอบรวมด้วยโพรเพนและเอทิลีน ที่ไม่ถูกโพลิเมอไรซ์ และแก๊สปฏิกิริยาจะถูกทำให้ไหลเวียนเพื่อกำจัดความร้อนของการทำ โพลิเมอไรเซชัน ซึ่งกรรมวิธีประกอบรวมด้วย: อนุภาคโพลิเมอร์ถูกถ่ายออกจากเครื่องปฏิกรณ์ อย่างต่อเนื่อง หรือไม่ต่อเนื่อง, อนุภาคโพลิเมอร์ถูกแยกออกจากส่วนหลักของแก๊สที่ถูกถ่ายออกในขณะเดียวกัน และอนุภาค โพลิเมอร์ถูกกำจัดแก๊สออก, แก๊สถูกทำให้ปราศจากอนุภาคขนาดเล็กที่จะติดปนมาด้วย ในขั้นตอนการแยกสารขั้นตอนแรก แก๊สถูกแยกออกจากส่วนของสารจุดเดือดตํ่า ซึ่ง ประกอบรวมด้วยเอทิลีนหรือแยกออกจากส่วนของสารจุดเดือดสูง ซึ่งประกอบรวมด้วย 1-โอเลฟิน หรืออัลเคนอื่น ซึ่ง 1-โอเลฟินหรืออัลเคนประกอบรวมด้วยคาร์บอน 4 ถึง 12 อะตอม, ในขั้นตอนแยกสารขั้นตอนที่สอง ส่วนของโพรเพน ถูกแยกออก และส่วนของโพรเพนนี้ ถูกใช้สำหรับการกำจัดแก๊สออกจากอนุภาคโพลิเมอร์ที่ถูกถ่ายออกจากเครื่องปฏิกรณ์, โดยที่ความดันย่อยของเอทิลีนในส่วนของโพรเพนที่ใช้สำหรับการกำจัดแก๊สมีค่าน้อยกว่า 6000 Pa และความดันย่อยของผลรวมของ 1-โอเลฟิน และอัลเคนอื่น ซึ่งประกอบรวมด้วยคาร์บอน 4 ถึง 12 อะตอม ในส่วนของโพรเพนมีค่าน้อยกว่า 10000 Pa 2. กรรมวิธีตามข้อถึอสิทธิที่ 1 โดยที่ 1-โอเลฟินถูกเลือกจาก 1-บิวทีน, 1-เฮกซีน และ 1-ออกทีน และอัลเคนถูกเลือกจากนอร์มัล-บิวเทน, นอร์มัล-เพนเทน, ไอโซเพนเทน, นอร์มัล-เฮกเซน และนอร์มัล-ออกเทน 3. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิที่ 1 โดยที่ส่วนของโพรเพนจะประกอบรวมด้วยน้อยกว่า 0.5 โมล% ของสัดส่วนของเอทิลีน 4. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิที่ 1 โดยที่ส่วนของโพรเพนจะประกอบรวมด้วยน้อยกว่า 0.2 โมล% ของสัดส่วนของเอทิลีน 5. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิที่ 1 โดยที่ความดันย่อยของเอทิลีนในส่วนของโพรเพนมีค่า น้อยกว่า 750 Pa 6. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิที่ 1 โดยที่ความดันย่อยของเอทิลีนในส่วนของโพรเพนมีค่า น้อยกว่า 300 Pa 7. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิที่ 1 โดยที่สัดส่วนของ 1-โอเลฟีน และอัลเคน ซึ่งประกอบรวม ด้วยคาร์บอน 4 ถึง 12 อะตอม ในส่วนของโพรเพนมีค่าน้อยกว่า 0.1 โมล% 8. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิที่ 1 โดยที่สัดส่วนของ 1-โอเลฟิน และอัลเคน ซึ่งประกอบรวม ด้วยคาร์บอน 4 ถึง 12 อะตอม ในส่วนของโพรเพนมีค่าน้อยกว่า 0.01 โมล% 9. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิที่ 1 โดยที่ความดันไอของ 1-โอเลฟิน และอัลเคน ซึ่งประกอบ รวมด้วยคาร์บอน 4 ถึง 12 อะตอม ในส่วนของโพรเพนมีค่าน้อยกว่า 150 Pa 1 0. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิที่ 1 โดยที่ความดันไอของ 1-โอเลฟิน และอัลเคน ซึ่งประกอบ รวมด้วยคาร์บอน 4 ถึง 12 อะตอม ในส่วนของโพรเพนมีค่าน้อยกว่า 15 Pa 1 1. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิที่ 1 โดยที่กรรมวิธีจะประกอบรวมเพิ่มเติมด้วยแก๊สที่ไหลเวียน, ซึ่งแก๊สที่ไหลเวียนประกอบรวมด้วย โพรเพนในปริมาณอย่างน้อย 20 โมล% 1 2. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิที่ 1 โดยที่กรรมวิธีจะประกอบรวมเพิ่มเติมด้วยแก๊สที่ไหลเวียน, ซึ่งแก๊สที่ไหลเวียนประกอบรวมด้วย โพรเพนในปริมาณอย่างน้อย 30 โมล% 1 3. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิที่ 1 โดยที่แก๊ส หรือของเหลวอื่นที่มีอยู่นอกเหนือจาก เอทิลีน, 1-โอเลฟินอื่น, ไฮโดรเจน และโพรเพนในเครื่องปฏิกรณ์ มีปริมาณสูงสุด 10 โมล% 1 4. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิที่ 1 โดยที่แก๊ส หรือของเหลวอื่นที่มีอยู่ นอกเหนือจาก เอทิลีน, 1-โอเลฟินอื่น, ไฮโดรเจน และโพรเพนในเครื่องปฏิกรณ์ มีปริมาณสูงสุด 5 โมล% 1 5. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิที่ 1 โดยที่การกำจัดแก๊สออกจากอนุภาคโพลิเมอร์ โดยใช้ส่วน ของโพรเพน และการแยกอนุภาคโพลิเมอร์ออกจากส่วนหลักของแก๊สที่ถูกถ่ายออกจะถูกกระทำใน ขณะเดียวกัน, ในสถานที่เดียวกัน หรือในขณะเดียวกัน และในสถานที่เดียวกัน 1 6. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิที่ 1 โดยที่แก๊สปฏิกิริยาถูกดึงออกจากเครื่องปฏิกรณ์, และส่วน ของแก๊สปฏิกิริยาถูกทำให้ควบแน่น และไหลเวียนกลับควบคู่กัน หรือแยกจากแก๊สปฏิกรณ์ที่ไม่ถูก ควบแน่น 1 7. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิที่ 1 โดยที่ส่วนของสารจุดเดือดตํ่า ซึ่งถูกแยกออกในขั้นตอนแยก สารขั้นตอนแรก ถูกทำให้ไหลเวียนกลับเข้าสู่เครื่องปฏิกรณ์ 1 8. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิที่ 1 โดยที่ส่วนของสารจุดเดือดสูง ซึ่งประกอบรวมด้วย 1-โอเลฟิน หรืออัลเคนอื่น ซึ่งประกอบรวมด้วยคาร์บอน 4 ถึง 12 อะตอม ถูกทำให้ไหลเวียนกลับเข้าสู่ เครื่องปฏิกรณ์ 1 9. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิที่ 1 โดยที่อย่างน้อยส่วนของเอทิลีนที่ถูกแยกออกในขั้นตอนแยก สารขั้นตอนแรก จะถูกถ่ายออก 2 0. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิที่ 1 โดยที่ส่วนของโพรเพนถูกใช้สำหรับการเติมแบบตวงวัดของ ตัวเร่งปฏิกิริยาอย่างน้อยหนึ่งชนิด 2 1. ชุดอุปกรณ์สำหรับการดำเนินกรรมวิธีสำหรับการโพลิเมอไรซ์เอทิลีน หรือเอทิลีนกับ 1-โอเลฟินอื่น โดยที่เอทิลีนถูกโพลิเมอไรซ์โดยมีตัวเร่งปฏิกิริยาอยู่ในเครื่องปฏิกรณ์เฟสแก๊สเพื่อทำ ให้เกิดอนุภาคโพลิเมอร์ ซึ่งเครื่องปฏิกรณ์เฟสแก๊สประกอบรวมด้วย แก๊สปฏิกิริยา ซึ่งประกอบรวม ด้วยโพรเพน และเอทิลีนที่ไม่ถูกโพลิเมอไรซ์ และแก๊สปฏิกิริยาถูกทำให้ไหลเวียนเพื่อกำจัดความร้อน ของการทำโพลิเมอไรเซชัน ซึ่งกรรมวิธีประกอบรวมด้วย: อนุภาคโพลิเมอร์ถูกถ่ายออกจากเครื่องปฏิกรณ์อย่างต่อเนื่องหรือไม่ต่อเนื่อง; อนุภาคโพลิเมอร์ถูกแยกออกจากส่วนหลักของแก๊สที่ถูกถ่ายออกในขณะเดียวกัน และอนุภาค โพลิเมอร์ถูกกำจัดแก๊สออก; แก๊สถูกทำให้ปราศจากอนุภาคขนาดเล็กที่จะติดปนมาด้วย; ในขั้นตอนการแยกสารขั้นตอนแรก แก๊สถูกแยกออกจากส่วนของสารจุดเดือดตํ่า ซึ่ง ประกอบรวมด้วยเอทิลีน หรือแยกออกจากส่วนของสารจุดเดือดสูง ซึ่งประกอบรวมด้วย 1-โอเลฟิน หรืออัลเคนอื่น, 1-โอเลฟิน หรืออัลเคนซึ่งประกอบรวมด้วยคาร์บอน 4 ถึง 12 อะตอม; ในขั้นตอนแยกสารขั้นตอนที่สอง ส่วนของโพรเพนถูกแยกออก และส่วนของโพรเพนนี้ ถูกใช้สำหรับการกำจัดแก๊สออกจากอนุภาคโพลิเมอร์ที่ถูกถ่ายออกจากเครื่องปฏิกรณ์; โดยที่ความดันย่อยของเอทิลีนในส่วนของโพรเพนที่ใช้สำหรับการกำจัดแก๊ส มีค่าน้อยกว่า 6000 Pa และความดันย่อยของผลรวมของ 1-โอเลฟิน และอัลเคนอื่น ซึ่งประกอบรวมด้วยคาร์บอน 4 ถึง 12 อะตอม ในส่วนของโพรเพนมีค่าน้อยกว่า 10000 Pa ซึ่งชุดอุปกรณ์ประกอบรวมด้วย เครื่องปฏิกรณ์เฟสแก๊ส ซึ่งประกอบรวมด้วย เบดของอนุภาคโพลิเมอร์; แนวท่อแก๊สรีไซเคิล ซึ่งเชื่อมต่อกับเครื่องปฏิกรณ์ สำหรับการดึงออก และทำให้เกิดการ ไหลเวียนกลับของแก๊สปฏิกิริยา โดยที่แก๊สปฏิกิริยาจะประกอบรวมด้วยโพรเพน และเอทิลีนทีไม่ถูก โพลิเมอไรซ์, แนวท่อดึงผลิตภัณฑ์ออกสำหรับการดึงอนุภาคโพลิเมอร์ออกจากเครื่องปฏิกรณ์อย่างต่อเนื่อง หรือไม่ต่อเนื่อง โดยที่แนวท่อดึงผลิตภัณฑ์ออกถูกเชื่อมต่อกับเวสเซลกำจัดแก๊สสำหรับการแยก อนุภาคโพลิเมอร์และแก๊สออกจากกัน; หน่วยตกตะกอนอนุภาค ซึ่งเชื่อมต่อกับเวสเซลกำจัดแก๊สสำหรับทำให้แก๊สปราศจากอนุภาค ขนาดเล็กที่จะติดปนมาด้วย; หน่วยแยกสารหน่วยแรก ซึ่งเชื่อมต่อกับหน่วยตกตะกอนอนุภาค สำหรับการแยกส่วนของ สารจุดเดือดตํ่าออก ซึ่งประกอบรวมด้วยเอทิลีน และอีเทน; หน่วยแยกสารหน่วยที่สอง ซึ่งเชื่อมต่อกับตอนล่างของหน่วยแยกสารหน่วยแรกสำหรับการ แยกส่วนของโพรเพนออก; แนวท่อโพรเพน ซึ่งเชื่อมต่อทางตอนบนของหน่วยแยกสารหน่วยที่สอง และเป็นลำดับ ถูกเชื่อมต่อเข้ากับเวสเซลกำจัดแก๊ส เพื่อกำจัดแก๊สออกจากอนุภาคโพลิเมอร์ โดยการใช้ส่วนของ โพรเพน; โดยที่หน่วยแยกสารหน่วยแรก มีลักษณะที่ว่าความดันย่อยของเอทิลีนในส่วนของโพรเพน ที่เข้าสู่เวสเซลกำจัดแก๊สมีค่าน้อยกว่า 6000 Pa และหน่วยแยกสารหน่วยที่สอง มีลักษณะที่ว่าความดัน ย่อยของ 1-โอเลฟิน และอัลเคนที่ประกอบรวมด้วยคาร์บอน 4 ถึง 12 อะตอม ในส่วนของโพรเพนที่ เข้าสู่เวสเซลกำจัดแก๊สมีค่าน้อยกว่า 10000 Pa 2 2. ชุดอุปกรณ์สำหรับการดำเนินกรรมวิธีสำหรับการโพลิเมอไรซ์เอทิลีนหรือเอทิลีนกับ 1-โอเลฟินอื่น โดยที่เอทิลีนถูกโพลิเมอไรซ์โดยมีตัวเร่งปฏิกิริยาอยู่ในเครื่องปฏิกรณ์เฟสแก๊ส เพื่อทำ ให้เกิดอนุภาคโพลิเมอร์ ซึ่งเครื่องปฏิกรณ์เฟสแก๊สประกอบรวมด้วยแก๊สปฏิกิริยา ซึ่งประกอบรวม ด้วยโพรเพนและเอทิลีนที่ไม่ถูกโพลิเมอไรซ์ และแก๊สปฏิกิริยาถูกทำให้ไหลเวียนเพื่อกำจัดความร้อน ของการทำโพลิเมอไรเซชัน ซึ่งกรรมวิธีประกอบรวมด้วย: อนุภาคโพลิเมอร์ถูกถ่ายออกจากเครื่องปฏิกรณ์อย่างต่อเนื่องหรือไม่ต่อเนื่อง; อนุภาคโพลิเมอร์ถูกแยกออกจากส่วนหลักของแก๊สที่ถูกถ่ายออกในขณะเดียวกัน และอนุภาค โพลิเมอร์ถูกกำจัดแก๊สออก; แก๊สถูกทำให้ปราศจากอนุภาคขนาดเล็กที่จะติดปนมาด้วย; ในขั้นตอนการแยกสารขั้นตอนแรก แก๊สถูกแยกออกจากส่วนของสารจุดเดือดตํ่า ซึ่ง ประกอบรวมด้วยเอทิลีนหรือแยกออกจากส่วนของสารจุดเดือดสูง ซึ่งประกอบรวมด้วย 1-โอเลฟิน หรืออัลเคนอื่น, ซึ่ง 1-โอเลฟิน หรืออัลเคนประกอบรวมด้วยคาร์บอน 4 ถึง 12 อะตอม, ในขั้นตอนแยกสารขั้นตอนที่สอง ส่วนของโพรเพนถูกแยกออก และส่วนของโพรเพนนี้ ถูกใช้สำหรับการกำจัดแก๊สออกจากอนุภาคโพลิเมอร์ที่ถูกถ่ายออกจากเครื่องปฏิกรณ์; โดยที่ความดันย่อยของเอทิลีนในส่วนของโพรเพนที่ใช้สำหรับการกำจัดแก๊สมีค่าน้อยกว่า 6000 Pa และความดันย่อยของผลรวมของ 1-โอเลฟิน และอัลเคนอื่น ซึ่งประกอบรวมด้วยคาร์บอน 4 ถึง 12อะตอม ในส่วนของโพรเพนมีค่าน้อยกว่า 10000 Pa ซึ่งชุดอุปกรณ์ประกอบรวมด้วย: เครื่องปฏิกรณ์เฟสแก๊ส ซึ่งประกอบรวมด้วย เบดของอนุภาคโพลิเมอร์; แนวท่อแก๊สรีไซเคิล ซึ่งเชื่อมต่อกับเครื่องปฏิกรณ์ สำหรับการดึงออก และทำให้เกิดการ ไหลเวียนกลับของแก๊สปฏิกิริยา โดยที่แก๊สปฏิกิริยาจะประกอบรวมด้วยโพรเพน และเอทิลีนที่ไม่ถูก โพลิเมอไรซ์; แนวท่อดึงผลิตภัณฑ์ออก สำหรับการดึงอนุภาคโพลิเมอร์ออกจากเครื่องปฏิกรณ์แบบ ต่อเนื่องหรือไม่ต่อเนื่อง โดยที่แนวท่อดึงผลิตภัณฑ์ออกถูกเชื่อมต่อกับเวสเซลกำจัดแก๊สสำหรับการ แยกอนุภาคโพลิเมอร์ และแก๊สออกจากกัน; หน่วยตกตะกอนอนุภาค ซึ่งเชื่อมต่อกับเวสเซลกำจัดแก๊สสำหรับทำให้แก๊สปราศจากอนุภาค ขนาดเล็กที่จะติดปนมาด้วย; หน่วยแยกสารหน่วยแรก ซึ่งเชื่อมต่อกับหน่วยตกตะกอนอนุภาค สำหรับการแยกส่วนของ สารจุดเดือดสูง ซึ่งประกอบรวมด้วย 1-โอเลฟิน, อัลเคนอื่นที่ประกอบรวมด้วยคาร์บอน 4 ถึง 10 อะตอม หรือของผสมของมัน; หน่วยแยกสารหน่วยที่สอง ซึ่งเชื่อมต่อกับตอนบนของหน่วยแยกสารหน่วยแรกสำหรับการ แยกส่วนของโพรเพนออก; แนวท่อโพรเพน ซึ่งเชื่อมต่อทางตอนล่างของหน่วยแยกสารหน่วยที่สอง และเป็นลำดับ ถูกเชื่อมต่อเข้ากับเวสเซลกำจัดแก๊ส เพื่อกำจัดแก๊สออกจากอนุภาคโพลิเมอร์ โดยการใช้ส่วนของ โพรเพนภายหลังจากการผ่านหน่วยระเหยเป็นไอ; โดยที่หน่วยแยกสารหน่วยแรก มีลักษณะที่ว่าความดันย่อยของเอทิลีนในส่วนของโพรเพน ที่เข้าสู่เวสเซลกำจัดแก๊สมีค่าน้อยกว่า 6000 Pa และหน่วยแยกสารหน่วยที่สอง มีลักษณะที่มีความดัน ย่อยของ 1-โอเลฟิน และอัลเคนที่ประกอบรวมด้วยคาร์บอน 4 ถึง 12 อะตอม ในส่วนของโพรเพนที่ เข้าสู่เวสเซลกำจัดแก๊สมีค่าน้อยกว่า 10000 Pa 2 3. ชุดอุปกรณ์ตามข้อถือสิทธิที่ 21 โดยที่หน่วยแยกสารหน่วยแรก, หน่วยแยกสารหน่วย ที่สอง หรือการรวมกันของมัน กระทำการแยกสารโดยการกลั่น 2 4. ชุดอุปกรณ์ตามข้อถือสิทธิที่ 22 โดยที่หน่วยแยกสารหน่วยแรก, หน่วยแยกสารหน่วย ที่สอง หรือการรวมกันของมัน กระทำการแยกสารโดยการกลั่น 2 5. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิที่ 1 โดยที่แก๊สปฏิกิริยาจะประกอบรวมด้วยโพรเพน, เอทิลีน น้อยกว่า 1 โมล% และสัดส่วนของ 1-โอเลฟิน และอัลเคนซึ่งประกอบรวมด้วยคาร์บอน 4 ถึง 12 อะตอมน้อยกว่า 4 โมล% ------- 1. กรรมวิธีสำหรับการทำโพลิเมอไรเซชันของเอทิลีน หรือของเอทิลีน กับ 1- โอเลฟินอื่น โดยที่ เอทิลีนถูกโพลิเมอไรซ์ในสภาวะที่มีตัวเร่งปฏิกิริยาในเครื่องปฏิกิริยาแฟสแก๊ส (1) เพื่อทำให้ เกิดอนุภาคโพลิเมอร์ และแก๊สจากปฏิกิริยา ซึ่งประกอบรวมด้วยโพรเพน และเอทิลีนที่ไม่ถูก โพลิเมอร์ไรซ์ ถูกทำให้ไหลเวียน เพื่อกำจัดความร้อนของการทำโพลิเมอไรเซชัน ทั้งนี้โดยที่ - อนุภาคโพลิเมอร์ ถูกถ่ายออกจากเครื่องปฏิกรณ์ (1) อย่างต่อเนื่อง หรือไม่ต่อเนื่อง, - อนุภาคโพลิเมอร์ ถูกแยกออกจากส่วนหลักของแก๊สที่ถูกถ่ายออกในขณะเดียวกัน และอนุภาคโพลิเมอร์ถูกกำจัดแก๊สออก, - แก๊สถูกทำให้ปราศจากอนุภาคขนาดเล็กที่จะติดปนมาด้วย - แก๊สถูกแยกออกจากส่วนของสารจุดเดือดต่ำ ซึ่งประกอบรวมด้วยเอทิลีน หรือ แยกออกจากส่วนของสารจุดเดือดสูง ซึ่งมี 1-โอเลฟิน หรืออัลเคนอื่น ซึ่งมีคาร์บอน 4 ถึง 12 อะตอม ในขั้นตอนการแยกสารขั้นตอนแรก, - ส่วนของโพรเพน ถูกแยกออกในขั้นตอนแยกสารขั้นตอนที่สอง และโพรเพนที่ได้นี้ ถูกใช้สำหรับการกำจัดแก๊สออกจากอนุภาคโพลิเมอร์ที่ถูกถ่ายออกจากเครื่อง ปฏิกรณ์, ทั้งนี้ โดยที่ความดันย่อยของเอทิลีนในส่วนของโพรเพนที่ใช้สำหรับการกำจัดแก๊ส มีค่าน้อยกว่า 6000 Pa และความดันย่อยของผลรวมของ 1-โอเลฟิน และอัลเคนอื่น ซึ่งมี คาร์บอน 4 ถึง 12 อะตอม ในส่วนของโพรเพนมีค่าน้อยกว่า 10,000 Pa 2. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิที่ 1 โดยที่ 1-ดอเลฟิน ถูกเลือกจากบรรดาสารประเภท 1-บิวทีน, 1-เอกซีน และ 1-ออกทีน และ/หรือ อัลเคน ถูกเลือกจากบรรดาสารประเภทนอมร์มัล-บิวเทน, นอร์มัล-เพนเทน, ไอโซเพนเทน, นอร์มัล-เฮกเซน และ นอร์มัล-ออกเทน 3. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ข้อใดข้อหนึ่ง โดยที่สัดส่วนของเอธิลีน ในส่วนของ โพรเพนมีค่าน้อยกว่า 0.5 โมล% โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีค่าน้อยกว่า 0.2 โมล% 4. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ข้อใดข้อหนึ่ง โดยที่ความดันย่อยของเอทิลีนในส่วนของ โพรเพนมีค่าน้อยกว่า 750 Pa โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีค่าน้อยกว่า 300 Pa 5. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ข้อใดข้อหนึ่ง โดยที่สัดส่วนของ 1-โอเลฟิน และอัลเคน ซึ่งมีคาร์บอน 4 ถึง 12 อะตอม ในส่วนของโพรเพนมีค่าน้อยกว่า 0.1 โมล% โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง มีค่าน้อยกว่า 0.01 โมล% 6. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ข้อใดข้อหนึ่ง โดยที่ความดันไอของ 1-โอเลฟิน และ อัลเคน ซึ่งมีคาร์บอน 4 ถึง 12 อะตอม ในส่วนของโพรเพนมีค่าน้อยกว่า 150 Pa โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง มีค่าน้อยกว่า 15 Pa 7. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ข้อใดข้อหนึ่ง โดยที่แก๊สที่ไหลเวียนประกอบรวมด้วย โพรเพนในปริมาณอย่างน้อย 20 โมล% โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีปริมาณอย่างน้อย 30 โมล% 8. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ข้อใดข้อหนึ่ง โดยที่แก๊ส หรือของงเหลวอื่นที่มีอยู่ นอกเหนือจาก เอทิลีน, 1-โอเลฟินอื่นๆ ไฮโดรเจน และโพรเพนในเครื่องปฎิกรร์ (1) มี ปริมาณสูงสุด 10 โมล% และโดยนิยทแล้ว มีปริมาณสูงสุด 5 โมล% 9. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ข้อใดข้อหนึ่ง โดยที่การกำจัดแก๊สออกจากอนุภาค โพลิเมอร์ โดยอาศัยส่วนของโพรเพน และการแยกอนุภาคโพลิเมอร์ออกจากส่วนหลักของ แก๊สที่ถูกถ่ายออกจะถูกกระทำในขณะเดียวกัน และ/หรือ ในสถานที่เดียวกัน 1 0. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ข้อใดข้อหนึ่ง โดยที่แก๊สจากปฏิกิริยาถูกดึงออกจากเครื่อง ปฏิกรณ์ (1), ส่วนของแก๊สจากปกิกิริยาถูทำให้ควบแน่น และไหลเวียนกลับเข้าสู่เครื่อง ปฏิกรณ์ควบคู่กันกับ หรือแยกจากแก๊สที่ไม่ถูกควบแน่น 1
1. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ข้อใดข้อหนึ่ง โดยที่ส่วนของสารจุดเดือดต่ำ ซึ่งถูกแยก ออกในขั้นตอนแยกสารขันตอนแรก ถูกทำให้ไหลเวียนกลับเข้าสู่เครื่องปฏิกรณ์ (1) 1
2. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ข้อใดข้อหนึ่ง โดยที่ส่วนของสารจุดเดือดสูง ซึ่งมี 1-โอเลฟิน หรืออัลเคนอื่น ซึ่งมีคาร์บอน 4 ถึง 12 อะตอม ซึ่งออกจากขั้นตอนแยกสาร ขั้นตอนที่สองถูกทำให้ไหลเวียนกลับเข้าสู่เครื่องปฏิกรณ์ (1) 1
3. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ข้อใดข้อหนึ่ง โดยที่อย่างน้อยส่วนของอีเทนที่ถูกแยกออก ในขั้นตอนแยกสารขั้นตอนแรก จะถูกถ่ายออก 1
4. กรรมวิธีตาข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ข้อใดข้อหนึ่ง โดยที่ส่วนของโพรเพนถูกใช้สำหรับการ เติมแบบตวงวัดของตัวเร่งปฏิกิริยา หรือมากกว่า 1
5. ชุดอุปกรณ์สำหรับการดำเนินกรรมวิธีตามข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งประกอบ รวมด้วย - เครื่องปฏิกรณ์เฟสแก๊ส (1) ซึ่งมีเบดของอนุภาคโพลิเมอร์, - แนวท่อแก๊สรีไซเคิล (3) วึ่งเชื่อมต่อกับเครื่องปฏิกรณ์ สำหรับการดึงออก และทำให้ เกิดการไหลเวียนกลับของแก๊สจากปฏิกิริยา ซึ่งประกอบรวมด้วยโพรเพน และ เอทิลีนที่ไม่ถูกโพลิเมอไรซ์, - แนวท่อดึงผลิตภัณฑ์ออก (2) สำหรับการดึงอนุภาคโพลิเมอร์ออกจากเครื่องปฏิกรณ์ (1) แบบต่อเนื่อง หรือไม่ต่อเนื่อง โดยที่แนวท่อดังกล่าวเชื่อมต่อกับอุปกรณ์กำจัด แก๊ส (5) สำหรับการแยกอนุภาคโพลิเมอร์ และแก๊สออกจากกัน - หน่วยตกตะกอนอนุภาค (9) สำหรับทำให้แก๊สปราศจากอนุภาคขนาดเล็กที่จะติดปน มาด้วย ซึ่งเชื่อมต่อกับอุปกรณ์กำจัดแก๊ส (5), - หน่วยแยกสารหน่วยแรก (12) สำหรับการแยกส่วนของสารจุดเดือดต่ำออก ซึ่ง ประกอบรวมด้วยเอทิลีน และอีเทน โดยที่หน่วยแยกวสารดังกล่าว เชื่อมต่อกับหน่วย ตกตะกอยอนุภาค (9), - หน่วยแยกสารหน่วยที่สอง (15) สำหรับการแยกส่วนโพรเพนออก โดยเชื่อมต่อกับ ตอนล่างของหน่วยแยกสารหน่วยแรก (12) - แนวท่อโพรเพน ซึ่งเชื่อมต่อทางตอนบนของหน่วยแยกสารหน่วยที่สอง (15) และ โพรเพนที่ได้ดังกล่าว ถูกเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์กำจัดแก๊ส (5) เพื่อทำให้สามารถ กำจัดแก๊สออกจากอนุภาคโพลิเมอร์ โดยอาศัยส่วนของโพรเพน, ทั้งนี้ โดยที่หน่วยแยกสารหน่วยแรก (12) ได้รับการออกแบบ เพื่อให้ความดันย่อย ของเอทิลีน ในส่วนของโพรเพนที่เข้าสู่อุปกรณ์กำจัดแก๊สที่ค่าน้อยกว่า 6000 Pa และหน่วย แยกสารหน่วยที่สอง (15) ได้รับการออกแบบ เพื่อให้สัดส่วนของ 1-โอเลฟิน และอัลเคนที่มี คาร์บอน 4 ถึง 12 อะตอม ในส่วนโพรเพนที่เข้าสู่อุปกรณ์กำจัดแก๊สมีค่าน้อยกว่า 10,000 Pa 1
6. ชุดอุปกรณ์สำหรับการดำเนินกรรมวิธีตามข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 14 ซึ่งประกอบรวมด้วย - เครื่องปฏิกรณ์เฟสแก้ว ซึ่งมีเบดอนุภาคโพลิเมอร์, - แนวท่อแก๊สรีไซเคิล ซึ่งเชื่อมต่อกับเครื่องปฏิกรณ์สำหรับการดึงออก และทำให้เกิด การไหลเวียนกลับของแก๊สจากปฏิกิริยา ซึ่งประกอบรวมด้วยโพรเพน และเอทิลีน ที่ไม่ถูกโพลิเมอรไรซ์, - แนวท่อดึงผลิตภัณฑ์ออกสำหรับการดึงอนุภาคโพลิเมอร์ออกจากเครื่องปฏิกรณ์แบบ ต่อเนื่อง หรือไม่ต่อเนื่อง โดยที่แนวท่อดังกล่าวถูกเชื่อมต่อกับอุปกรณ์กำจัดแก๊ส สำหรับการแยกอนุภาคโพลิเมอร์ และแก๊สออกจากกัน, - หน่วยตกตะกอนอนุภาคสำหรับทำให้แก๊สปราศจากอนุภาคขนาดเล็กที่จะติดปนมา ด้วย ซึ่งหน่วยดังกล่าวเชื่อมต่อกับอุปกรณ์กำจัดแก๊ส, - หน่วยแยกสารหน่วยแรกสำหรับการแยกส่วนของสารจุดเดือดสูง ซึ่งประกอบรวม ด้วย 1-โอเลฟิน และ/หรือ อัลเคนอื่น ซึ่งมีคาร์บอน 4 ถึง 10 อะตอม โดยที่หน่วย ดังกล่าวเชื่อมต่อกับหน่วยตกตะกอนอนุภาค (9), - หน่วยแนกสารหน่วยที่สองสำหรับการแยกส่วนโพรเพนออก ซึ่งหน่วยดังกล่าวเชื่อม ต่อกับทางตอนบนของหน่วยแยกสารหน่วยแรก, - แนวท่อโพนเพน ซึ่งเชื่อมต่อกับตอนล่างของหน่วยแยกสารหน่วยที่สอง และ โพรเพนที่ได้ดังกล่าว เชื่อมต่อกับอุปกรณ์กำจัดแก๊ส (5) เพื่อทำให้สามารถกำจัดแก๊ส ออกจากอนุภาคโพลิเมอร์ โดยอาศัยส่วนของโพรเพนภายหลังจากหน่วยระเหยเป็น ไอ, ทั้งนี้ โดยที่หน่วยแยกสารหน่วยแรก ได้รับการออกแบบ เพื่อให้ความดันย่อยของ เอทิลีน ในส่วนโพรเพนที่เข้าสู่อุปกรณ์กำจัดแก๊สมีค่าน้อยกว่า 6000 Pa และหน่วยแยกสาร หน่วยที่สอง ได้รับการออกแบบ เพื่อมห้สัดส่วนของ 1-โอเลฟิน และอัลเคน ซึ่งมีคาร์บอน ตั้งแต่ 4 ถึง 12 อะตอม ในส่วนโพรเพนที่เข้าสู่อุปกรณ์กำจัดแก๊สมีค่าน้อยกว่า 10,000 Pa 1
7. ชุดอุปกรณ์ตามข้อถือสิทธิที่ 15 หรือ 16 โดยที่หน่วยแยกสารหน่วยแรก และ/หรือ หน่วยแยก สารหน่วยที่สองกระทำการแยกสารโดยการกลั่น 1
8. การใช้โพรเพน ซึ่งมีสัดส่วนของเอทิลีนน้อยกว่า 1 โมล% และมีสัดส่วนของ 1-โอเลฟิน และอัลเคน ซึ่งมีคาร์บอน 4 ถึง 12 อะตอม น้อยกว่า 4 โมล% โดยคิดเทียบกับปริมาณรวมของ แก๊ส ในแต่ละกรณี โดยที่โพรเพนดังกล่าว ได้จากแก๊สที่ถูกถ่ายออกจากเครื่องปฏิกรณ์ โพลิเมอไรเซชัน ในเฟสแก๊สคาบคู่กับอนุภาคโพลิเมอร์ สำหรับการกำจัดแก๊สออกจาก โฮโมโพลอเมอร์ หรือ โคโพลิเมอร์ของเอทิลีน
TH601000444A 2006-02-02 กรรมวิธี และชุดอุปกรณ์สำหรับการทำโพลิเมอไรเซชันของเอทิลีน TH64113B (th)

Publications (3)

Publication Number Publication Date
TH81947A TH81947A (th) 2006-12-21
TH81947B TH81947B (th) 2006-12-21
TH64113B true TH64113B (th) 2018-08-08

Family

ID=

Similar Documents

Publication Publication Date Title
JP5625056B2 (ja) オレフィン系ポリマーのための重合方法
RU2007129830A (ru) Способ и устройство для полимеризации этилена
JP4624569B2 (ja) オレフィンポリマー組成物の製造法
CN100431682C (zh) 供给催化剂湿润剂的稀释剂滑流
EA020150B1 (ru) Способ рециркуляции потоков продукта, отделенных от содержащего углеводороды сырьевого потока
RU2051923C1 (ru) Способ получения полиолефинов и устройство для его осуществления
RU2629942C2 (ru) Способ полимеризации
CA2832717C (en) System and method for processing reactor polymerization effluent
CN107849168A (zh) 从烯烃聚合方法中回收未反应的单体
US20150259441A1 (en) Monomer/Diluent Recovery
EA012732B1 (ru) Способ полимеризации
US20110152474A1 (en) Polyolefin manufacturing process
EP3160638B2 (en) Heat transfer in a polymerization reactor
JP6955832B2 (ja) 気相重合反応器からポリオレフィン粒子を排出することを含む重合方法
US9272979B2 (en) Process for separating vinyl esters from a gas stream comprising ethylene and vinyl esters
EP2825570A1 (en) Processes and apparatus for continuous solution polymerization
EP3074428A1 (en) Process and apparatus to determine the degree of separation of two solution streams
US20220220233A1 (en) Suspension process for preparing ethylene polymers comprising work-up of the suspension medium
TH64113B (th) กรรมวิธี และชุดอุปกรณ์สำหรับการทำโพลิเมอไรเซชันของเอทิลีน
JP4584465B2 (ja) オレフィンポリマーの製造法
TH81947A (th) กรรมวิธี และชุดอุปกรณ์สำหรับการทำโพลิเมอไรเซชันของเอทิลีน
KR102567106B1 (ko) 중합체 입자의 건조를 포함하는 에틸렌 중합체의 제조를 위한 현탁 방법
RU2787996C1 (ru) Суспензионный способ получения полимеров этилена на основе сушки полимерных частиц
RU2786358C1 (ru) Суспензионный способ получения полимеров этилена на основе переработки суспензионной среды
US20230133399A1 (en) Suspension process for preparing ethylene polymers comprising workup of the suspension medium