TH2001002475A - วัคซีนจากซิกาและองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกและวิธีการใช้สิ่งดังกล่าว - Google Patents

วัคซีนจากซิกาและองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกและวิธีการใช้สิ่งดังกล่าว

Info

Publication number
TH2001002475A
TH2001002475A TH2001002475A TH2001002475A TH2001002475A TH 2001002475 A TH2001002475 A TH 2001002475A TH 2001002475 A TH2001002475 A TH 2001002475A TH 2001002475 A TH2001002475 A TH 2001002475A TH 2001002475 A TH2001002475 A TH 2001002475A
Authority
TH
Thailand
Prior art keywords
vaccine
immunogenic composition
subjects
virus
immunogenic
Prior art date
Application number
TH2001002475A
Other languages
English (en)
Inventor
โมเออร์ลูเซ เดอ
เท เท
เฮทัล
แกรี่
แจคกี
แฮนซี
กอมมาเรดดี
เอ จิลล์
ซุชมา
ดีน
ดูบิน
พาเทล
มาร์คส์
ราแมน
ราโอ
ลอร์เรนซ์
ลีฟเวนกู๊ด
ฮัน
Original Assignee
ทาเคดะ วัคซีนส์ อิงค์
Filing date
Publication date
Application filed by ทาเคดะ วัคซีนส์ อิงค์ filed Critical ทาเคดะ วัคซีนส์ อิงค์
Publication of TH2001002475A publication Critical patent/TH2001002475A/th

Links

Abstract

DEPCT64 การเปิดเผยนี้เกี่ยวข้องกับวัคซีนและองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกจากไวรัสซิกาที่มีแอนติเจน หนึ่งชนิดหรือมากกว่าจากไวรัสซิกา(เช่นสิ่งเพาะแยกเชิงโคลนของไวรัสซิกา,ไวรัสซิกาที่ถูกปรับ ให้เหมาะกับเซลล์ที่ไม่ใช่ของมนุษย์เป็นต้น)และวิธีการบำบัดและการใช้วัคซีนนั้น

Claims (54)

  1. DEPCT64 1.วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกซึ่งประกอบรวมด้วยขนาดยา1ไมโครกรัมถึง40 ไมโครกรัมของแอนติเจนหนึ่งชนิดจากไวรัสซิกาที่ซึ่งแอนติเจนคือไวรัสทั้งตัวที่ถูกทำให้หมดฤทธิ์
  2. 2.วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกตามข้อถือสิทธิที่1ไวรัสซิกาที่มีการกลายพันธุ์ที่ ตำแหน่ง98ของSEQIDNO:1หรือที่ตำแหน่งที่สอดคล้องกับตำแหน่ง98ของSEQIDNO:1
  3. 3.วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกตามข้อถือสิทธิที่1หรือ2ที่ซึ่งแอนติเจนถูกทำให้ บริสุทธิ์
  4. 4.วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกตามข้อถือสิทธิที่3ที่ซึ่งพีคหลักของแอนติเจนที่ถูก ทำให้บริสุทธิ์ในโครมาโทกราฟีแบบคัดขนาดมีมากกว่า85%ของพื้นที่ทั้งหมดภายใต้เส้นกราฟใน โครมาโทกราฟีแบบคัดขนาด
  5. 5.วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกตามข้อถือสิทธิข้อที่1ถึง5ข้อใดข้อหนึ่งที่ซึ่งวัคซีน หรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกประกอบรวมด้วยขนาดยาประมาณ2ไมโครกรัมของไวรัสทั้งตัวที่ ถูกทำให้หมดฤทธิ์ที่ถูกทำให้บริสุทธิ์
  6. 6.วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกตามข้อถือสิทธิข้อที่1ถึง5ข้อใดข้อหนึ่งที่ซึ่งวัคซีน หรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกประกอบรวมด้วยขนาดยาของประมาณ5ไมโครกรัมของไวรัส ทั้งตัวที่ถูกทำให้หมดฤทธิ์ที่ถูกทำให้บริสุทธิ์
  7. 7.วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกตามข้อถือสิทธิข้อที่1ถึง5ข้อใดข้อหนึ่งที่ซึ่งวัคซีน หรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกประกอบรวมด้วยขนาดยาประมาณ10ไมโครกรัมของไวรัสทั้งตัว ที่ถูกทำให้หมดฤทธิ์ที่ถูกทำให้บริสุทธิ์
  8. 8.วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกตามข้อถือสิทธิข้อที่1ถึง7ข้อใดข้อหนึ่งที่ซึ่งการ กลายพันธุ์สำหรับการปรับให้เหมาะหนึ่งอย่างเป็นอย่างน้อยหรือการกลายพันธุ์คือการกลายพันธุ์ Trp98Gly
  9. 9.วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกตามข้อถือสิทธิข้อที่1ถึง8ข้อใดข้อหนึ่งที่ซึ่งไวรัส ซิกามาจากสายพันธุ์PRVABC59
  10. 10.วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกตามข้อถือสิทธิข้อที่1ถึง9ข้อใดข้อหนึ่งซึ่ง ประกอบรวมเพิ่มเติมด้วยตัวเสริม
  11. 11.วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกตามข้อถือสิทธิที่10ที่ซึ่งตัวเสริมคืออะลูมินัมไฮดร อกไซด์
  12. 12.วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกตามข้อถือสิทธิที่11ที่ซึ่งวัคซีนหรือองค์ประกอบ อิมมูโนเจนิกประกอบรวมด้วยอะลูมินัมไฮดรอกไซด์100ไมโครกรัมถึง600ไมโครกรัมหรือ อะลูมินัมไฮดรอกไซด์100ไมโครกรัมถึง300ไมโครกรัมหรืออะลูมินัมไฮดรอกไซด์150 ไมโครกรัมถึง250ไมโครกรัมหรืออะลูมินัมไฮดรอกไซด์ประมาณ200ไมโครกรัม
  13. 13.วัคซีนตามข้อถือสิทธิที่1ถึง12ข้อใดข้อหนึ่งที่ซึ่งไวรัสซิกาคือสิ่งเพาะแยกเชิงโคลน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสิ่งเพาะแยกไวรัสซิกาเชิงโคลนที่ถูกทำให้บริสุทธิ์ของพลาก
  14. 14.วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกตามข้อถือสิทธิที่1ถึง13ข้อใดข้อหนึ่งซึ่งประกอบ รวมด้วย ขนาดยาประมาณ10ไมโครกรัมของไวรัสทั้งตัวที่ถูกทำให้หมดฤทธิ์ที่ถูกทำให้ บริสุทธิ์ อะลูมินัมไฮดรอกไซด์ประมาณ200ไมโครกรัม สารบัฟเฟอร์และอย่างเลือกได้ น้ำตาลอย่างเช่นซูโครส
  15. 15.วิธีการบำบัดหรือการป้องกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันการติดเชื้อไวรัสซิกาในผู้รับ การทดลองที่มีความต้องการการบำบัดนั้นซึ่งประกอบรวมด้วยการบริหารให้แก่ผู้รับการทดลอง ด้วยวัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกตามข้อถือสิทธิที่1ถึง14ข้อใดข้อหนึ่ง
  16. 16.วิธีการเหนี่ยวนำการตอบสนองภูมิคุ้มกันต้านแอนติเจนของซิกาในผู้รับการทดลองที่มี ความต้องการการเหนี่ยวนำนั้นซึ่งประกอบรวมด้วยการบริหารให้แก่ผู้รับการทดลองด้วยวัคซีน หรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกตามข้อถือสิทธิที่1ถึง14ข้อใดข้อหนึ่ง
  17. 17.วิธีการป้องกันโรคจากไวรัสซิกาในทารกในครรภ์หรือทารกแรกเกิดที่มีความต้องการการ ป้องกันนั้นซึ่งประกอบรวมด้วยการบริหารให้แก่ผู้รับการทดลองที่ตั้งครรภ์หรือผู้รับการทดลอง ซึ่งโน้มเอียงที่จะตั้งครรภ์หรือสตรีที่มีศักยภาพที่จะมีบุตรด้วยวัคซีนตามข้อถือสิทธิที่1ถึง14ข้อใด ข้อหนึ่ง
  18. 18.วิธีการป้องกันโรคจากซิกาในผู้รับการทดลองที่มีความต้องการการป้องกันนั้นซึ่ง ประกอบรวมด้วยการบริหารให้แก่ผู้รับการทดลองด้วยวัคซีนตามข้อถือสิทธิที่1ถึง14ข้อใดข้อ หนึ่ง
  19. 19.วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่15ถึง18ข้อใดข้อหนึ่งที่ซึ่งผู้รับการทดลองคือผู้ที่ตั้งครรภ์ หรือโน้มเอียงที่จะตั้งครรภ์หรือในสตรีที่มีศักยภาพศักยภาพที่จะมีบุตร
  20. 20.วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่15ถึง19ข้อใดข้อหนึ่งที่ซึ่งเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์รุนแรง ถูกหลีกเลี่ยง
  21. 21.วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่15ถึง19ข้อใดข้อหนึ่งที่ซึ่งไข้ที่39องศาเซลเซียสและสูงกว่าถูกหลีกเลี่ยง
  22. 22.วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่15ถึง21ข้อใดข้อหนึ่งที่ซึ่งวัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจ นิกถูกบริหารให้โดยการบริหารให้ในกล้ามเนื้อหรือใต้หนัง
  23. 23.วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่15ถึง22ข้อใดข้อหนึ่งที่ซึ่งวัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโน เจนิกถูกบริหารให้หนึ่งครั้งหรือมากกว่า
  24. 24.วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่15ถึง23ข้อใดข้อหนึ่งที่ซึ่งวัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจ นิกซึ่งประกอบรวมด้วยขนาดยา10ไมโครกรัมถูกบริหารให้หนึ่งครั้ง
  25. 25.วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่23ถึง24ที่ซึ่งที่14และ/หรือ28วันหลังจากการบริหารให้ วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกครั้งที่หนึ่งการทำให้เกิดขึ้นของไตเตอร์ของแอนติบอดีใน การทำลายฤทธิ์ต่อไวรัสซิกาในผู้รับการทดลองที่มีมากกว่า200หรือที่มีมากกว่า250ถูกเหนี่ยวนำ ตามที่กำหนดหาโดยการทดสอบการทำลายฤทธิ์สำหรับการลดลงของพลาก(PRNT)
  26. 26.วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่15ถึง22ข้อใดข้อหนึ่งที่ซึ่งวัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจ นิกซึ่งประกอบรวมด้วยขนาดยา10ไมโครกรัมถูกบริหารให้ในลักษณะเป็นการบริหารให้ครั้งที่ หนึ่ง(กระตุ้นเบื้องต้น)และครั้งที่สอง(กระตุ้น)
  27. 27.วิธีการตามข้อถือสิทธิที่26ที่ซึ่งการบริหารให้แบบกระตุ้นเบื้องต้นและแบบกระตุ้น เกิดขึ้นห่างกันตั้งแต่ประมาณ1ถึงประมาณ16สัปดาห์
  28. 28.วิธีการตามข้อถือสิทธิที่26และ27ที่ซึ่งการบริหารให้ครั้งที่สอง(กระตุ้น)ถูกบริหารให้ 28วันเป็นอย่างน้อยหลังจากการบริหารให้ครั้งที่หนึ่ง(กระตุ้นเบื้องต้น)
  29. 29.วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่26ถึง28ข้อใดข้อหนึ่งที่ซึ่ง14และ/หรือ28วันหลังจากการ บริหารให้ของวัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกแบบกระตุ้นการทำให้เกิดขึ้นของไตเตอร์ของ แอนติบอดีในการทำลายฤทธิ์ต่อไวรัสซิกาในผู้รับการทดลองที่มีมากกว่า1000หรือที่มีมากกว่า 1500หรือที่มีมากกว่า2000หรือที่มีมากกว่า3000ถูกเหนี่ยวนำตามที่ถูกกำหนดหาโดยการ ทดสอบการทำลายฤทธิ์สำหรับการลดลงของพลาก(PRNT)
  30. 30.วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่15ถึง29ข้อใดข้อหนึ่งที่ซึ่งผู้รับการทดลองมาจากบริเวณที่มี โรคประจำถิ่นจากซิกาอย่างเลือกได้นำไปสู่การระบาด
  31. 31.วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่15ถึง29ข้อใดข้อหนึ่งที่ซึ่งผู้รับการทดลองมาจากบริเวณที่ไม่ มีโรคประจำถิ่นจากซิกาซึ่งเดินทางไปยังบริเวณที่มีโรคประจำถิ่น
  32. 32.วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่15ถึง31ข้อใดข้อหนึ่งที่ซึ่งผู้รับการทดลองมีอายุ18ถึง29ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ซึ่งผู้รับการทดลองคือผู้รับการทดลองที่เป็นเพศหญิง
  33. 33.วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่15ถึง31ข้อใดข้อหนึ่งที่ซึ่งผู้รับการทดลองมีอายุ30ถึง49ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ซึ่งผู้รับการทดลองคือผู้รับการทดลองที่เป็นเพศหญิง
  34. 34.วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกตามข้อถือสิทธิข้อที่1ถึง14ข้อใดข้อหนึ่งสำหรับ การใช้ในวิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่15ถึง33ข้อใดข้อหนึ่ง
  35. 35.การใช้วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกตามข้อถือสิทธิข้อที่1ถึง14ข้อใดข้อหนึ่งใน การผลิตตัวยาสำหรับวิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่15ถึง33ข้อใดข้อหนึ่ง
  36. 36.วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกซึ่งประกอบรวมด้วยแอนติเจนหนึ่งชนิดจากไวรัสซิ กาสำหรับการใช้ในวิธีการบำบัดหรือการป้องกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันการติดเชื้อไวรัสซิ กาในประชากรของผู้รับการทดลองที่มีความต้องการการป้องกันนั้นซึ่งประกอบรวมด้วยการบริ หารให้แก่ผู้รับการทดลองเฉพาะรายของประชากรของผู้รับการทดลองดังกล่าวด้วยวัคซีนหรือ องค์ประกอบอิมมูโนเจนิกซึ่งประกอบรวมด้วยแอนติเจนหนึ่งชนิดจากไวรัสซิกาที่ซึ่งวัคซีนหรือ องค์ประกอบอิมมูโนเจนิกถูกบริหารให้ในลักษณะเป็นการบริหารให้ครั้งที่หนึ่ง(กระตุ้นเบื้องต้น) และครั้งที่สอง(กระตุ้น)ห่างกันประมาณ1ถึงประมาณ16สัปดาห์และที่ซึ่งการบริหารให้ของ วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกเหนี่ยวนำไตเตอร์ของแอนติบอดีในการทำลายฤทธิ์เฉลี่ย เรขาคณิตที่14และ/หรือ28วันหลังจากการบริหารให้แบบกระตุ้นในประชากรของผู้รับการ ทดลองที่ไม่เคยได้รับการกระตุ้นด้วยฟลาวิไวรัส20รายเป็นอย่างน้อยและ/หรือผู้รับการทดลองที่มี เลือดลบของไวรัสซิกา20รายเป็นอย่างน้อยมีค่ามากกว่า1500หรือมากกว่า2000หรือมากกว่า 3000ตามที่ถูกกำหนดหาโดยการทดสอบการทำลายฤทธิ์สำหรับการลดลงของพลาก(PRNT)
  37. 37.วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกซึ่งประกอบรวมด้วยแอนติเจนหนึ่งชนิดจากไวรัสซิ กาสำหรับการใช้ในวิธีการบำบัดหรือการป้องกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันการติดเชื้อไวรัสซิ กาในประชากรของผู้รับการทดลองที่มีความต้องการการป้องกันนั้นซึ่งประกอบรวมด้วยการบริ หารให้แก่ผู้รับการทดลองเฉพาะรายของประชากรของผู้รับการทดลองดังกล่าวด้วยวัคซีนหรือ องค์ประกอบอิมมูโนเจนิกซึ่งประกอบรวมด้วยแอนติเจนหนึ่งชนิดจากไวรัสซิกาที่ซึ่งวัคซีนหรือ องค์ประกอบอิมมูโนเจนิกถูกบริหารให้ในลักษณะเป็นการบริหารให้ครั้งที่หนึ่ง(กระตุ้นเบื้องต้น) และครั้งที่สอง(กระตุ้น)ห่างกันประมาณ1ถึงประมาณ16สัปดาห์และที่ซึ่งการบริหารให้ของ วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกเหนี่ยวนำอัตราซีโรคอนเวอร์ชันเป็น100%ที่14และ/หรือ28 วันหลังจากการบริหารให้แบบกระตุ้นในประชากรของผู้รับการทดลองที่มีเลือดลบของไวรัสซิกา 20รายเป็นอย่างน้อย
  38. 38.วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกซึ่งประกอบรวมด้วยแอนติเจนหนึ่งชนิดจากไวรัสซิ กาสำหรับการใช้ในวิธีการบำบัดหรือการป้องกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันการติดเชื้อไวรัสซิ กาในประชากรของผู้รับการทดลองที่มีความต้องการการป้องกันนั้นซึ่งประกอบรวมด้วยการ บริหารให้แก่ประชากรเฉพาะรายของประชากรของผู้รับการทดลองดังกล่าวด้วยวัคซีนหรือ องค์ประกอบอิมมูโนเจนิกซึ่งประกอบรวมด้วยแอนติเจนหนึ่งชนิดจากไวรัสซิกาที่ซึ่งวัคซีนหรือ องค์ประกอบอิมมูโนเจนิกถูกบริหารให้ในลักษณะเป็นการบริหารให้ขนาดยาเดี่ยวหรือแบบกระตุ้น เบื้องต้นและที่ซึ่งการบริหารให้ของวัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกเหนี่ยวนำไตเตอร์ของ แอนติบอดีในการทำลายฤทธิ์เฉลี่ยเรขาคณิตที่14และ/หรือ28วันหลังจากการบริหารให้ขนาดยา เดี่ยวหรือแบบกระตุ้นเบื้องต้นในประชากรของผู้รับการทดลองที่ไม่เคยได้รับการกระตุ้นด้วยฟลาวิ ไวรัส20รายเป็นอย่างน้อยและ/หรือผู้รับการทดลองที่มีเลือดลบของไวรัสซิกา20รายเป็นอย่าง น้อยมีค่ามากกว่า200หรือมากกว่า250ตามที่ถูกกำหนดหาโดยการทดสอบการทำลายฤทธิ์ สำหรับการลดลงของพลาก(PRNT)
  39. 39.วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกซึ่งประกอบรวมด้วยแอนติเจนหนึ่งชนิดจากไวรัสซิ กาสำหรับการใช้ในวิธีการบำบัดหรือการป้องกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันการติดเชื้อไวรัสซิ กาในประชากรของผู้รับการทดลองที่มีความต้องการการป้องกันนั้นซึ่งประกอบรวมด้วยการ บริหารให้แก่ผู้รับการทดลองเฉพาะรายของประชากรของผู้รับการทดลองดังกล่าวด้วยวัคซีนหรือ องค์ประกอบอิมมูโนเจนิกซึ่งประกอบรวมด้วยแอนติเจนหนึ่งชนิดจากไวรัสซิกาที่ซึ่งวัคซีนหรือ องค์ประกอบอิมมูโนเจนิกถูกบริหารให้ในลักษณะเป็นการบริหารให้ขนาดยาเดี่ยวหรือแบบกระตุ้น เบื้องต้นและที่ซึ่งการบริหารให้ของวัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกเหนี่ยวนำอัตราซีโรคอน เวอร์ชันเป็น60%,70%,80%หรือ90%ที่14และ/หรือ28วันหลังจากการบริหารให้ขนาดยาเดี่ยว หรือแบบกระตุ้นเบื้องต้นในประชากรของผู้รับการทดลองที่มีเลือดลบของไวรัสซิกา20รายเป็น อย่างน้อย
  40. 40.วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกสำหรับการใช้ตามข้อถือสิทธิข้อที่36ถึง39ข้อใด ข้อหนึ่งที่ซึ่งวัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกประกอบรวมด้วยขนาดยา1ไมโครกรัมถึง40 ไมโครกรัมของแอนติเจนที่ซึ่งแอนติเจนคือไวรัสทั้งตัวที่ถูกทำให้หมดฤทธิ์
  41. 41.วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกสำหรับการใช้ตามข้อถือสิทธิที่40ไวรัสซิกาที่มีการ กลายพันธุ์ที่ตำแหน่ง98ของSEQIDNO:1หรือที่ตำแหน่งที่สอดคล้องกับตำแหน่ง98ของSEQ IDNO:1
  42. 42.วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกสำหรับการใช้ตามข้อถือสิทธิที่40ถึง41ที่ซึ่ง แอนติเจนถูกทำให้บริสุทธิ์และที่ซึ่งพีคหลักของแอนติเจนที่ถูกทำให้บริสุทธิ์ในโครมาโทกราฟี แบบคัดขนาดมากกว่า85%ของพื้นที่ทั้งหมดภายใต้เส้นกราฟในโครมาโทกราฟีแบบคัดขนาด
  43. 43.วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกสำหรับการใช้ตามข้อถือสิทธิข้อที่36ถึง42ข้อใด ข้อหนึ่งที่ซึ่งผู้รับการทดลองมาจากบริเวณที่มีโรคประจำถิ่นจากซิกาอย่างเลือกได้นำไปสู่การ ระบาด
  44. 44.วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกสำหรับการใช้ตามข้อถือสิทธิข้อที่36ถึง42ข้อใด ข้อหนึ่งที่ซึ่งผู้รับการทดลองมาจากบริเวณที่ไม่มีโรคประจำถิ่นจากซิกาซึ่งเดินทางไปยังบริเวณที่ มีโรคประจำถิ่น
  45. 45.วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกสำหรับการใช้ตามข้อถือสิทธิข้อที่36ถึง44ข้อใด ข้อหนึ่งที่ซึ่งผู้รับการทดลองมีอายุ18ถึง29ปีโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ซึ่งผู้รับการทดลองคือสตรีที่มี ศักยภาพที่จะมีบุตร
  46. 46.วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกสำหรับการใช้ตามข้อถือสิทธิข้อที่36ถึง44ข้อใด ข้อหนึ่งที่ซึ่งผู้รับการทดลองมีอายุ30ถึง49ปีโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ซึ่งผู้รับการทดลองคือสตรีที่มี ศักยภาพที่จะมีบุตร
  47. 47.วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกซึ่งประกอบรวมด้วยแอนติเจนหนึ่งชนิดจากไวรัสซิ กาสำหรับการใช้ในวิธีการบำบัดหรือการป้องกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันการติดเชื้อไวรัสซิ กาในประชากรของผู้รับการทดลองที่มีความต้องการการป้องกันนั้นซึ่งประกอบรวมด้วยการบริ หารให้แก่ผู้รับการทดลองเฉพาะรายของประชากรของผู้รับการทดลองดังกล่าวด้วยวัคซีนหรือ องค์ประกอบอิมมูโนเจนิกซึ่งประกอบรวมด้วยแอนติเจนหนึ่งชนิดจากไวรัสซิกาที่ซึ่งวัคซีนหรือ องค์ประกอบอิมมูโนเจนิกถูกบริหารให้ในลักษณะเป็นการบริหารให้ครั้งที่หนึ่ง(กระตุ้นเบื้องต้น) และครั้งที่สอง(กระตุ้น)ห่างกันประมาณ1ถึงประมาณ16สัปดาห์และที่ซึ่งการบริหารให้ของ วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกเหนี่ยวนำไตเตอร์ของแอนติบอดีในการทำลายฤทธิ์เฉลี่ย เรขาคณิตที่14และ/หรือ28วันหลังจากการบริหารให้แบบกระตุ้นในประชากรของผู้รับการ ทดลองที่ไม่เคยได้รับการกระตุ้นด้วยฟลาวิไวรัส20รายเป็นอย่างน้อยและหรือผู้รับการทดลองที่มี เลือดลบของไวรัสซิกา20รายเป็นอย่างน้อยซึ่งสูงกว่าไตเตอร์ของแอนติบอดีในการทำลายฤทธิ์ เฉลี่ยเรขาคณิตเหนี่ยวนำ28วันหลังจากการบริหารให้แบบกระตุ้นเบื้องต้น10เท่าเป็นอย่างน้อย หรือ15เท่าเป็นอย่างน้อยหรือ20เท่าเป็นอย่างน้อยหรือ25เท่าเป็นอย่างน้อยตามที่ถูกกำหนด หาโดยการทดสอบการทำลายฤทธิ์สำหรับการลดลงของพลาก(PRNT)
  48. 48.วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกสำหรับการใช้ตามข้อถือสิทธิที่47ที่ซึ่งวัคซีนหรือ องค์ประกอบอิมมูโนเจนิกประกอบรวมด้วยขนาดยา1ไมโครกรัมถึง40ไมโครกรัมของแอนติเจน ที่ซึ่งแอนติเจนคือไวรัสทั้งตัวที่ถูกทำให้หมดฤทธิ์
  49. 49.วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกสำหรับการใช้ตามข้อถือสิทธิที่48ไวรัสซิกาที่มีการ กลายพันธุ์ที่ตำแหน่ง98ของSEQIDNO:1หรือที่ตำแหน่งที่สอดคล้องกับตำแหน่ง98ของSEQ IDNO:1
  50. 50.วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกสำหรับการใช้ตามข้อถือสิทธิข้อที่47ถึง49ข้อใด ข้อหนึ่งที่ซึ่งแอนติเจนถูกทำให้บริสุทธิ์และที่ซึ่งพีคหลักของแอนติเจนที่ถูกทำให้บริสุทธิ์ในโคร มาโทกราฟีแบบคัดขนาดมากกว่า85%ของพื้นที่ทั้งหมดภายใต้เส้นกราฟในโครมาโทกราฟีแบบ คัดขนาด
  51. 51.วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกสำหรับการใช้ตามข้อถือสิทธิข้อที่47ถึง50ข้อใด ข้อหนึ่งที่ซึ่งผู้รับการทดลองมาจากบริเวณที่มีโรคประจำถิ่นจากซิกาอย่างเลือกได้นำไปสู่การ ระบาด
  52. 52.วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกสำหรับการใช้ตามข้อถือสิทธิข้อที่47ถึง50ข้อใด ข้อหนึ่งที่ซึ่งผู้รับการทดลองมาจากบริเวณที่ไม่มีโรคประจำถิ่นจากซิกาซึ่งเดินทางไปยังบริเวณที่มี โรคประจำถิ่น
  53. 53.วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกสำหรับการใช้ตามข้อถือสิทธิข้อที่47ถึง52ข้อใด ข้อหนึ่งที่ซึ่งผู้รับการทดลองมีอายุ18ถึง29ปีโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ซึ่งผู้รับการทดลองคือสตรีที่มี ศักยภาพที่จะมีบุตร
  54. 54.วัคซีนหรือองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกสำหรับการใช้ตามข้อถือสิทธิข้อที่47ถึง52ข้อใด ข้อหนึ่งที่ซึ่งผู้รับการทดลองมีอายุ30ถึง49ปีโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ซึ่งผู้รับการทดลองคือสตรีที่มี ศักยภาพที่จะมีบุตร
TH2001002475A 2018-11-05 วัคซีนจากซิกาและองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกและวิธีการใช้สิ่งดังกล่าว TH2001002475A (th)

Publications (1)

Publication Number Publication Date
TH2001002475A true TH2001002475A (th) 2023-10-16

Family

ID=

Similar Documents

Publication Publication Date Title
Zrzavy et al. Vaccination in multiple sclerosis: friend or foe?
Cesaro et al. Guidelines on vaccinations in paediatric haematology and oncology patients
ES2350043T3 (es) Composiciones para producir, incrementar y mantener las respuestas inmunes contra epítopos restringidos de mhc de clase i, con fines profilácticos o terapéuticos.
JP6499592B2 (ja) B型肝炎ワクチン
JPH07504683A (ja) Gm−csfのワクチンアジュバントとしての利用
Wumkes et al. Serum antibody response to influenza virus vaccination during chemotherapy treatment in adult patients with solid tumours
Koutsonanos et al. Enhanced immune responses by skin vaccination with influenza subunit vaccine in young hosts
JP2009523721A (ja) ポリイノシン酸−ポリシチジル酸に基づくアジュバントを含む、免疫原性物質
JP2021502350A5 (th)
JP2019515005A (ja) 水酸化アルミニウムゲル−塩化ナトリウム複合免疫学的アジュバント、並びにその調製方法及びその使用
DiStefano et al. Immunogenicity of a reduced-dose whole killed rabies vaccine is significantly enhanced by ISCOMATRIX™ adjuvant, Merck amorphous aluminum hydroxylphosphate sulfate (MAA) or a synthetic TLR9 agonist in rhesus macaques
Takano et al. Evaluation of protective efficacy of the synthetic peptide vaccine containing the T-helper 1 epitope with CpG oligodeoxynucleotide against feline infectious peritonitis virus infection in cats
WO2011005183A1 (en) New composition
US11771759B2 (en) Immunopotentiator, immunotherapeutic pharmaceutical composition and its preparation and use
TH2001002475A (th) วัคซีนจากซิกาและองค์ประกอบอิมมูโนเจนิกและวิธีการใช้สิ่งดังกล่าว
WO2018166298A1 (en) Immunopotentiator, immunotherapeutic pharmaceutical composition and its preparation and use
Sordo et al. Humoral and cellular immune response in mice induced by the classical swine fever virus E2 protein fused to the porcine CD154 antigen
US20090087456A1 (en) Adjuvanted vaccine
CN117897487A (zh) 人工合成的含CpG单链脱氧寡核苷酸在疫苗中的应用
KR20220054590A (ko) 비강에 바이러스 특이적 항체를 유도 가능한 계절성 인플루엔자 백신
KR102254615B1 (ko) 바바킨을 포함하는 신규 백신용 면역보조제 조성물
Silva et al. Challenges and insights in immunization in patients with demyelinating diseases: a bench-to-bedside and evidence-based review
EP1987840A1 (en) Prime-boost vaccine for the protection of equines against viral infection
Torresi et al. Vaccine‐preventable diseases
Halbert et al. Vaccine‐Preventable Disease