TH62122B - วิธีการของการจัดให้มีความร้อนสำหรับการเปลี่ยนรูปสารเคมีและกระบวนการและระบบการใช้วิธีการสำหรับการผลิตโอเลฟิน - Google Patents

Abstract

DC60 (25/08/54) วิธีการและระบบสำหรับการจัดให้มีความร้อนแก่กระบวนการของการเปลี่ยนรูปสารเคมี ที่ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการผลิตโอเลฟิน โดยการดีไฮโดนจีเนชั่นแบบเร่งปฏิกิริยาของ ไฮโดรคาร์บอนที่สอดคล้องกัน กระบวนการไฮโดรจีเนชั่นแบบเร่งปฏิกิริยาใช้ไอน้ำเจือจางในการ ดำเนินการที่อัตราส่วนของไอน้ำต่อน้ำมัน ซึ่งสามารถเป็น 1.0 หรือต่ำกว่า และอุณหภูมิของเตาเผา ชนิดเครื่องทำความร้อนยิ่งยวดแบบไอน้ำ มีค่าค่อนข้างต่ำ กระบวนการและระบบถูกนำมาใช้ ประโยชน์สำหรับการผลิตสไตรีนโดยการดีไฮโดรจีเนชั่นแบบเร่งปฏิกิริยาของเอทธิลเบนซีน วิธีการและระบบสำหรับการจัดให้มีความร้อนแก่กระบวนการของการเปลี่ยนรูปสารเคมี ที่ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการผลิตโอเลฟิน โดยการดีไฮโดนจีเนชั่นแบบเร่งปฏิกิริยาของ ไฮโดรคาร์บอนที่สอดคล้องกัน กระบวนการไฮโดรจีเนชั่นแบบเร่งปฏิกิริยาใช้ไอน้ำเจือจางในการ ดำเนินการที่อัตราส่วนของไอน้ำต่อน้ำมัน ซึ่งสามารถเป็น 1.0 หรือต่ำกว่า และอุณหภูมิของเตาเผา ชนิดเครื่องทำความร้อนยิ่งยวดแบบไอน้ำ มีค่าค่อนข้างต่ำ กระบวนการและระบบถูกนำมาใช้ ประโยชน์สำหรับการผลิตสไตรีนโดยการดีไฮโดรจีเนชั่นแบบเร่งปฏิกิริยาของเอทธิลเบรซีน

Claims (3)

ข้อถือสิทธฺ์ (ทั้งหมด) ซึ่งจะไม่ปรากฏบนหน้าประกาศโฆษณา :แก้ไข 13 ก.ค. 2560 1. วิธีการสำหรับการจัดให้มีความร้อนแก่กระแสกระบวนการของการเปลี่ยนรูปสารเคมี (chemical conversion process strearm) ที่มีสารตั้งต้นทางเคมี (chemical reactant) อย่างน้อย ที่สุดหนึ่งชนิด, ที่ประกอบด้วยขั้นตอนของ: a) การให้ความร้อนยิ่งยวดจากของไหล ถ่ายโอนความร้อน (heat transfer fluid); b) การถ่ายโอนความร้อนจากของไหลถ่ายโอนความร้อนที่ผ่านการให้ความร้อนยิ่งยวดไปยัง กระแสกระบวนการ; c) การแบ่งแยก อย่างน้อยบางส่วนของของไหลที่ถ่ายโอนความร้อนหลังจากการถ่ายโอนความ ร้อนในขั้นตอน b ให้เป็นส่วนที่หนึ่งและส่วนที่สอง; d) การให้แรงดันแก่ส่วนที่หนึ่งของของไหลถ่ายโอนความร้อน; e) การรีไซเคิลส่วนที่หนึ่งของของไหลถ่ายโอนความร้อนที่ผ่านการให้แรงดัน ไปยังขั้นตอน ให้ความร้อนยิ่งยวด (a); และ f) การชักนำส่วนที่สองของของไหลถ่ายโอนความร้อนเข้าสู่กระแสกระบวนการ ----------------------------------------------------------------------------------- 1.วิธีการสำหรับการจัดให้มีความร้อนแก่กระแสกระบวนการของการเปลี่ยนรูปสารเคมี (chemical conversion process strearm) ที่มีสารตั้งต้นทางเคมี (chemical reactant) อย่างน้อย ที่สุดหนึ่งชนิด, ที่ประกอบด้วยขั้นตอนของ: a) การให้ความร้อนยิ่งยวดจากของไหล ถ่ายโอนความร้อน (heat transfer fluid); b) การถ่ายโอนความร้อนจากของไหลถ่ายโอนความร้อนที่ผ่านการให้ความร้อนยิ่งยวดไป ยังกระแสกระบวนการ; c) การแบ่งแยก อย่างน้อยบางส่วนของของไหลที่ถ่ายโอนความร้อนให้เป็นส่วนที่หนึ่งและ ส่วนที่สอง; d) การให้แรงดันแก่ส่วนที่หนึ่งของของไหลถ่ายโอนความร้อน; e) การรีไซเคิลส่วนที่หนึ่งของของไหลถ่ายโอนความร้อนที่ผ่านการให้แรงดัน ไปยังขั้นตอน การให้ความร้อนยิ่งยวด (a); และ f) การชักนำส่วนที่สองของของไหลถ่ายโอนความร้อนเข้าสู่กระแสกระบวนการ 2. วิธีการของข้อถือสิทธิ 1 ที่ประกอบเพิ่มเติมด้วย ขั้นตอนการดึงออก อย่างน้อยที่สุด ส่วนที่สามของของไหลถ่ายโอนความร้อน หลังจากขั้นตอนการถ่ายโอนความร้อน (b) และก่อน ขั้นตอนการแบ่งแยก (c) 3. วิธีการของข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งดำเนินการขั้นตอนรีไซเคิลที่จำนวนมากครั้ง 4. วิธีการของข้อถือสิทธิ 1 ที่ประกอบเพิ่มเติมด้วย ขั้นตอนของการให้ความร้อนยิ่งยวดแก่ ส่วนที่สองของของไหลถ่ายโอนความร้อนก่อนขั้นตอน (f) 5. วิธีการของข้อถือสิทธิ 1 ที่ประกอบเพิ่มเติมด้วย ขั้นตอนของการให้ความร้อนยิ่งยวดแก่ ส่วนที่สองของของไหลถ่ายโอนความร้อนก่อนขั้นตอน (f) 6. วิธีการของข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่ง ขั้นตอน (d) ของการให้แรงดันแก่ส่วนที่หนึ่งของของไหล ถ่ายโอนความร้อน ประกอบด้วย การนำส่วนที่หนึ่งของของไหลถ่ายโอนความร้อนไปยังเทอร์โม คอมเพรสเซอร์ (thermocompressor) และการชักนำของไหลที่มีการอัดเข้าไปในเทอร์โม คอมเพรสเซอร์, ของไหลที่มีการอัดมีความดันอยู่ที่ความดันสูงกว่า สว่นที่หนึ่งของของไหลถ่ายโอน ความร้อน 7. วิธีการของข้อถือสิทธิ 6 ที่ซึ่ง ของไหลถ่ายโอนความร้อนและของไหลที่มีการอัด คือ ไอ น้ำ 8. วิธีการของข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่ง ของไหลถ่ายโอนความร้อน คือ ไอน้ำ 9. วิธีการของข้อถือสิทธิ 8 ที่ซึ่ง กระบวนการเปลี่ยนรูปทางเคมี ประกอบด้วย การดีไฮโดร จีเนชั่น (dehydrogenation) และสารตั้งต้นทางเคมี คือ สารประกอบที่เลือกได้จากกลุ่มที่ ประกอบด้วย เอทธิลเบนซีน, เอทธิลโทลูอีน, โพรเพนและบิวเทน 1 0. วิธีการของข้อถือสิทธิ 9 ที่ซึ่ง กระบวนการเปลี่ยนรูปสารเคมีประกอบด้วย การผลิต สไตรีนโดยการดีไฮโดรจีเนชั่นของเอทธิลเบนซีน 1 1. กระบวนการสำหรับการผลิตโอเลฟีน โดยการดีไฮโดรจีเนชั่นแบบเร่งปฎิกิริยา (catalytic dehydrogenation) ของไฮโดรคาร์บอน ซึ่งประกอบด้วย a) การให้ความร้อนยิ่งยวด กระแสสารป้อนไอน้ำในเครื่องทำความร้อนที่ประกอบด้วย จำนวนมากของโซนการให้ความร้อน; b) การถ่ายโอนความร้อนจากไอน้ำที่ผ่านการให้ความร้อนยิ่งยวดไปยังกระแสกระบวนการ ที่ประกอบด้วย ไอน้ำที่เจือจางและไฮโดรคาร์บอน, ความร้อนที่เพียงพอมีผลต่อการดีไฮโดรจีเนชั่น แบบเร่งปฎิกิริยาของไฮโดรคาร์บอน อย่างน้อยที่สุดส่วนหนึ่งในโซปฎิกิริยา, ที่ซึ่ง หลังจากการ ถ่ายโอนความร้อนไอน้ำที่ผ่านการให้ความร้อนยิ่งยวด จะกลายเป็นไอน้ำที่ถูกใช้แล้ว; c) การแบ่งแยกกระแสที่ถูกใช้แล้วดังกล่าว ออกเป็นส่วนที่หนึ่งและส่วนที่สอง; d) การให้แรงดันแก่ส่วนที่หนึ่งของไอน้ำที่ถูกใช้แล้วดังกล่าว; e) การรีไซเคิลส่วนที่หนึ่งผ่านการให้แรงดันของไอน้ำที่ถูกใช้แล้ว ไปยังโซนการให้ความ ร้อนที่หนึ่งในเครื่องทำความร้อน; f) การรีไซเคิลส่วนที่สอง ซึ่งเป็นส่วนแยก (section) ที่แตกต่างกันของเครื่องทำความร้อน ไปยังโซนการให้ความร้อนที่สอง ในเครื่องทำความร้อนว g) การให้ความร้อนส่วนที่สองของไอน้ำที่ถูกใช้แล้ว เพื่อรีเจเนเรตไอน้ำที่ผ่านการให้ความ ร้อนยิ่งยวดในโซนการให้ความร้อนที่สอง; และ h) การรวมอย่างน้อยที่สุด หนึ่งของไอน้ำที่ผ่านการให้ความร้อนยิ่งยวด เข้ากับกระแส กระบวนการ 1 2. กระบวนการของข้อถือสิทธิ 11 ที่ซึ่ง ขั้นตอนของการถ่ายโอนความร้อน จะดำเนินการ ในอย่างน้อยที่สุดหนึ่งชนิดของเครื่องแลกเปลี่ยนความร้อน (heat exchanger) ที่สัมพันธ์กับโซน ปฎิกิริยาดังกล่า 1 3. กระบวนการของข้อถือสิทธิ 11 ที่ซึ่ง ขั้ตอนการให้แรงดันส่วนหนึ่งของไอน้ำที่ถูกใช้ แล้ว ประกอบด้วย: การชักนำส่วนของไอน้ำที่ถูกใช้แล้วดังกล่าว เข้าไปในเทอร์โมคอมเพรสเซอร์, และ การชักนำไอน้ำที่มีการอัดเข้าไปในเทอร์โมคอมเพรสเซอร์, ไอน้ำที่มีการอัดความดันอยู่ที่ ความดันสูงกว่าส่วนไอน้ำที่ถูกใช้แล้ว 1 4. กระบวนการของข้อถือสิทธิ 13 ที่ซึ่ง โอเลฟินที่ถูกผลิตขึ้น คือ สไตรีนและ ไฮโดรคาร์บอน คือ เอทธิลเบนซีน 1 5. กระบวนการของข้อถือสิทธิ 11 ที่ซึ่ง โอเลฟินที่ถูกผลิตขึ้น คือ สไตรีนและ ไฮโดรคาร์บอน คือ เอทธิลเบนซีน 1 6. ในกระบวนการสำหรับการผลิตสไตรีนในโซนปฎิกิริยา โดยการสัมผัสส่วนผสมของไอ น้ำและเอทธิลเบนซีนที่มีอัตราส่วนมวลไอน้ำ/น้ำมัน กับตัวเร่งปฎิกิริยาดีไฮโดรจีเนชั่นที่อุณหภูมิ ของปฎิกิริยาดีไฮโดรจีเนชั่น, การปรับปรุงประกอบด้วย: การรวมไอน้ำที่เจือจางอย่างเพียงพอกับเอทธิลเบนซีน เพื่อลดอัตราส่วนมวลไอน้ำ/น้ำมัน ให้เป็นไม่มากกว่า ; องศา ที่ซึ่งไอน้ำที่ผ่านการให้ความร้อนยิ่งยวดที่อุณหภูมิน้อยกว่า ถูกนำมาใช้เพื่อถ่ายโอน ความร้อนที่เพียงพอจนเพิ่มเอทธิลเบนซีน และไอน้ำที่เจือจางให้ถึงอุณหภูมิของปฎิกิริยา และที่ซึ่ง อย่างน้อยที่สุดส่วนหนึ่งของไอน้ำที่ผ่านการให้ความร้อนยิ่งยวดดังกล่าว จะถูกรวมเข้ากับเอทธิลเบน ซีน เพื่อจัดให้มีอย่างน้ยอที่สุด ส่วนหนึ่งของไอน้ำที่เจือจาง 1 7. กระบวนการของข้อถือสิทธิ 16 ที่ซึ่ง ไอน้ำที่ถูกใช้แล้วได้มาจากถ่ายโอนความร้อน ไปยังเอทธิลเบนซีน และไอน้ำที่เจือจางจะถูกส่งไปยังเครื่องทำความร้อน เพื่อให้รีเจเนเรตไอน้ำที่ ผ่านการให้ความร้อนอย่างยิ่งยวด 1 8. กระบวนการของข้อถือสิทธิ 17 ที่ซึ่ง ไอน้ำที่ถูกใช้แล้ว จะถูแบ่งแยกออกเป็นสอง ส่วน, ที่อย่างน้อยที่สุดหนึ่งสว่น ถูกให้แรงดันในเทอร์โมคอมเพรสเซอร์ 1 9. กระบวนการสำหรับการผลิตสไตรีน โดยการดีไฮโดรจีเนชั่นแบบเร่งปฎิกิริยาของ เอทธิลเบนซีน กระบวนการดังกล่าวประกอบด้วย: a) การจัดให้มีอย่างน้อยที่สุด โซนปฎิกิริยาที่หนึ่งและที่สอง, แต่ละโซนปฎิกิริยาที่มี ความสัสมพันธ์กับปริมาณที่มีผลต่อการเร่งปฎิกิริยาของตัวเร่งปฎิกิริยาดีไฮโดรจีเนชั่น; b) การจัดให้เตาเผา (furnace) ที่มีจำนวนมากของโซการให้ความร้อน; c) การจัดให้มีกระแสสารป้อนที่มีส่วนผสมที่ระเหยเป็นไอของน้ำ และเอทธิลเบนซีน ที่มี อัตราส่วนน้ำหนักของไอน้ำ/น้ำมัน เป็นไม่มากกว่าประมาณ 0.5; d) การรวมกระแสสารป้อนกับกระแสที่หนึ่งของไอน้ำที่ผ่านการให้ความร้อนยิ่งยวด เพื่อจัด ให้มีกระแสของไหลที่มีอัตราส่วนน้ำหนักไอน้ำ/น้ำมัน เป็นไม่มากกว่าประมาณ 1.0; e) การสัมผัสกระแสของไหลกับตัวเร่งปฎิกิริยาดีไฮโดรจีเนชั่น ในโซนปฎิกิริยาที่หนึ่ง ภายใต้สภาวะของปฎิกิริยาดีไฮโดรจีเนชั่น เพื่อจัดให้มีน้ำทิ้งชนิดที่หนึ่ง (first effluent); f) การถ่ายโอนความร้อนจากกระแสที่สอง ของไอน้ำที่ผ่านการให้ความร้อนยิ่งยวด ไปยังน้ำ ทิ้งชนิดที่หนึ่งในโซการถ่ายโอนความร้อนที่สัมพันธ์กับโซนปฎิกิริยาที่สอง, กระแสที่สองของไอน้ำ ที่ผ่านการให้ความาร้อนยิ่งยวด จะกลายเป็นกระแสของไอน้ำที่ถูกใช้แล้วหลังจากการถ่ายโอนความ ร้อนของมัน ไปยังน้ำทิ้งชนิดที่หนึ่ง; g) การสัมผัสน้ำทิ้งชนิดที่หนึ่ง ที่ผ่านการให้ความร้อนกับตัวเร่งปฎิกิริยาดีไฮโดรจีเนชั่น ใน โซนปฎิกิริยาที่สอง ภายใต้สภาวะของปฎิกิริยาดีไฮโดรจีเนชั่น เพื่อจัดให้มีกระแสผลิตภัณฑ์ที่มี สไตรีนว h) การแบ่งแยกกระแสของไอน้ำที่ถูกใช้แล้วให้เป็นส่วนที่สอง; i) การให้แรงดันแก่กระแสของไอน้ำที่ถูกใช้แล้ว; j) การให้ความร้อนส่วนที่หนึ่งที่ผ่านการให้แรงดันของไอน้ำที่ถูกใช้แล้ว ในโซนการให้ความ ร้อนที่หนึ่งในเตาเผา เพื่อจัดให้มีกระแสที่สองของไอน้ำที่ผ่านการให้ความร้อนยิ่งยวด ซึ่งเป็น กระแสด้านบนที่ถูกรีไซเคิล (recycled upstream) ไปยังโซนการถ่ายโอนความร้อนที่สัมพันธ์กับ โซนปฎิกิริยาที่สอง; k) การให้ความร้อนแก่ส่วนที่สองของไอน้ำที่ถูกใช้แล้ว ในโซนการให้ความร้อนที่สองใน เตาเผา เพื่อจัดให้มีกระแสที่หนึ่งของไอน้ำที่ผ่านการให้ความร้อนยิ่งยวด 2 0. กระบวนการของข้อถือสิทธิ 19 ประกอบเพิ่มเติมด้วย: การให้ความร้อนส่วนที่สองของไอน้ำที่ถูกใช้แล้ว จะถูกให้ความร้อนในโซนการให้ความ ร้อนที่สองในเตาเผา เพื่อจัดให้มีกระแสที่สามของไอน้ำที่ผ่านการให้ความร้อนยิ่งยวด; การถ่ายโอนความร้อนจากกระแสที่สามของไอน้ำที่ผ่านการให้ความร้อนยิ่งยวด ไปยัง กระแสของไหลในโซนการให้ความร้อนที่สัมพันธ์กับโซนปฎิกิริยาที่หนึ่ง, กระแสที่สามของไอน้ำที่ ผ่านการให้ความร้อนยิ่งยวด จะกลายเป้นกระแสที่สองของไอน้ำที่ถูกใช้แล้ว บนการถ่ายโอนความ ร้อนของมันไปยังกระแสของไหล; การให้ความร้อนแก่กระแสที่สองของไอน้ำที่ถูกใช้แล้ว ในโซนการให้ความร้อนที่สามใน เตาเผา เพื่อจัดให้มีกระแสที่หนึ่งของไอน้ำที่ผ่านการให้ความร้อนยิ่งยวด ซึ่งรวมกันกับสารป้อน 2

1. กระบวนการของข้อถือสิทธิ 19 ที่ซึ่ง ขั้นตอนการให้แรงดันแก่ส่วนที่หนึ่งของไอน้ำ ที่ถูกใช้แล้ว ประกอบด้วย การชักนำส่วนของไอน้ำที่ถูกใช้แล้ว เข้าไปในเทอร์โมคอมเพรสเซอร์ และ การชักนำไอน้ำที่มีการอัดเข้าไปในเทอร์โมคอมเพรสเซอร์, ไอน้ำที่มีการอัดความดันอยู่ที่ความดัน สูงกว่าไอน้ำที่ถูกใช้แล้ว 2

2. กระบวนการของข้อถือสิทธิ 19 ที่ซึ่ง กระแสผลิตภัณฑ์ที่มีสไตรีน จะถูกแยกออกเป็น ส่วนประกอบที่หนึ่ง ที่มีสไตรีนที่ถูกทำให้บริสุทธิ์แล้ว และส่วนประกอบที่สองที่มีเอทธิลเบนซีน 2

3. กระบวนการของข้อถือสิทธิ 19 ที่ซึ่ง อัตราส่วนไอน้ำ/น้ำมัน เป็นไม่มากกว่าประมาณ 1.15 และไอน้ำที่ผ่านการให้ความร้อนยิ่งยวด อยู่ที่อุณหภูมิไม่มากกว่าประมาณ 815 ซ