TH62103B - สารผสมการอัดแบบเซมิแอรอแมทิคพอลิแอมิด และการใช้ของสารเหล่านั้น - Google Patents

Abstract

DC60 (21/12/58) บรรยายถึงสารผสมการอัดแบบพอลิแอมิด ด้วยการปรุงแต่งต่อไปนี้ (A) จาก 30 ถึง 100% โดยน้ำหนักของอย่างน้อยหนึ่ง 10T/6T โคพอลิแอมิด, ซึ่งสิ่งนี้ ประกอบด้วย (A1) จาก 40 ถึง 95% โดยโมลของหน่วย 10T, ที่ก่อรูปจากมอนอเมอร์ 1,10-เดเคนไดแอมีน และเทเรฟแธลิคแอซิด (A2) จาก 5 ถึง 60% โดยโมลของหน่วย 6T, ที่ก่อรูปจากมอนอเมอร์ 1,6-เฮกเซนไดแอมีน และเทเรฟแธลิคแอซิด (B) จาก 0 ถึง 70% โดยน้ำหนักของ วัสดุ และ/หรือ ตัวเติมที่เสริมแรง (C) จาก 0 ถึง 50% โดยน้ำหนักของสารเติมแต่ง และ/หรือ พอลิเมอร์เพิ่มเติม เมื่อทั้งหมดของส่วนประกอบ A ถึง C เป็น 100%, ด้วยข้อแม้ที่ว่า ในส่วนประกอบ (A) สูงถึง 30% โดยโมล, โดยใช้ทั้งหมดของไดคาร์บอกซิลิคแอซิดนั้นเป็นพื้นฐาน, ของเทเรฟแธลิคแอซิดนั้น สามารถถูกแทนได้โดยแอรอแมทิค, แอลิแฟทิค, หรือไซโคลแอลิแฟทิคไดคาร์บอกซิลิคแอซิด, และ ด้วยข้อแม้ที่ว่าในส่วนประกอบ (A) สูงถึง 30% โดยโมลของ 1,10-เดเคนไดแอมีน และตามลำดับ 1,6-เฮกเซนไดแอมีน, โดยใช้ทั้งหมดของไดแอมีนนั้นเป็นฐาน, สามารถถูกแทนได้โดยไดแอมีนอื่น, และด้วยข้อแม้ที่ว่าสามารถทำให้ก่อรูปไม่มากกว่า 30% โดยโมล ในส่วนประกอบ (A), โดยใช้ ทั้งหมดของมอนอเมอร์นั้นเป็นฐาน, สามารถผ่านแลคแทม หรืออะมิโนแอซิด นอกจากนั้นได้บรรยาย ถึงการใช้ของสารผสมการอัดแบบพอลิแอมิด, ที่บรรยายด้วยเช่นกันคือ กรรมวิธีสำหรับการเตรียม ของ สารผสมการอัดแบบพอลิแอมิดเหล่านี้ บรรยายถึงสารผสมการอัดแบบพอลิแอมิด ด้วยการปรุงแต่งต่อไปนี้: (A) จาก 30 ถึง 100% โดยน้ำหนักของอย่างน้อยหนึ่ง 10T/6T โคพอลิแอมิด, ซึ่งสิ่งนี้ ประกอบด้วย (A1) จาก 40 ถึง 95% โดยโมลของ 10T หน่วย, ที่ก่อเกิดจากมอนอเมอร์ 1,10-เดเคนไดแอมีน และเทเรฟแธลิคแอซิด (A2) จาก 5 ถึง 60% โดยโมลของ 6T หน่วย, ที่ก่อเกิดจากมอนอเมอร์ 1,6-เฮกเซนไดแอมีน และเทเรฟแธลิคแอซิด (B) จาก 0 ถึง 70% โดยน้ำหนักของ วัสดุ และ/หรือ ตัวเติมที่เสริมแรง (C) จาก 0 ถึง 50% โดยน้ำหนักของสารเติมแต่ง และ/หรือ พอลิเมอร์นอกจากนั้น เมื่อทั้งหมดขององค์ประกอบ A ถึง C เป็น 100%, ด้วยข้อแม้ที่ว่า ในองค์ประกอบ (A) สูงถึง 30% โดยโมล, โดยใช้เป็นฐานด้วยทั้งหมดของไดคาร์บอกซิลิคแอซิดนั้น, ของเทเรฟแธลิคแอซิดนั้น สามารถถูกแทนได้โดยแอรอแมทิค, แอลิแฟทิค, หรือไซโคลแอลิแฟทิคไดคาร์บอกซิลิคแอซิด, และ ด้วยข้อแม้ที่ว่าในองค์ประกอบ (A) สูงถึง 30% โดยโมลของ 1,10-เดเคนไดแอมีน และตามลำดับ 1,6-เฮกเซนไดแอมีน, โดยใช้เป็นฐานด้วยทั้งหมดของไดแอมีนนั้น, สามารถถูกแทนได้โดยไดแอมีน, และด้วยข้อแม้ที่ว่าสามารถทำให้เกิดไม่มากกว่า 30% โดยโมล ในองค์ประกอบ (A), โดยใช้ทั้งหมด ของมอนอเมอร์นั้นเป็นฐาน, สามารถผ่านแลคแทม หรืออะมิโนแอซิด นอกจากนั้น ได้บรรยายถึงการ ใช้ของสารผสมการอัดแบบนี้พอลิแอมิด, ที่บรรยายด้วยเช่นกันคือ กรรมวิธีสำหรับการเตรียมของ สารผสมการอัดแบบพอลิแอมิดเหล่านี้:

Claims (2)

1. สารผสมการอัดแบบพอลิแอมิด ด้วยการปรุงแต่งต่อไปนี้: (A) จาก 30 ถึง 100% โดยน้ำหนักของอย่างน้อยหนึ่งโคพอลิแอมิด 10T/6T, ซึ่งสิ่งนี้ ประกอบด้วย (A1) จาก 40 ถึง 95% โดยโมลของ 10T หน่วย, ที่ก่อเกิดจากมอนอเมอร์ 1,10-เดเคนไดแอมีน และเทเรฟแธลิคแอซิด (A2) จาก 5 ถึง 60% โดยโมลของ 6T หน่วย, ที่ก่อเกิดจากมอนอเมอร์ 1,6-เฮกเซนไดแอมีน และเทเรฟแธลิคแอซิด (B) จาก 0 ถึง 70% โดยน้ำหนักของวัสดุ และ/หรือ ตัวเติมที่เสริมแรง (C) จาก 0 ถึง 50% โดยน้ำหนักของสารเติมแต่ง และ/หรือ พอลิเมอร์นอกจากนั้น เมื่อทั้งหมดขององค์ประกอบ A ถึง C เป็น 100%, ด้วยข้อแม้ที่ว่าในองค์ประกอบ (A), โดยเป็นอิสระจากกันและกัน, ใน (A1) และ/หรือ (A2) สูงถึง 30% โดยโมล, โดยใช้ทั้งหมดของไดคาร์บอกซิลิคแอซิดนั้นเป็นฐาน, ของเทเรฟแธลิคแอซิด นั้น สามารถถูกแทนได้โดยแอรอแมทิค, แอลิแฟทิค, หรือไซโคลแอลิแฟทิคไดคาร์บอกซิลิคแอซิด, ที่ มีจาก 6 ถึง 36 คาร์บอนอะตอม, และด้วยข้อแม้ที่ว่าในองค์ประกอบ (A), โดยเป็นอิสระจากกันและกัน, ใน (A1) และ/หรือ (A2) สูงถึง 30% โดยโมลของ 1,10-เดเคนไดแอมีน และตามลำดับ 1,6-เฮกเซนไดแอมีน, โดยใช้ ทั้งหมดของไดแอมีนนั้นเป็นฐาน, สามารถถูกแทนได้โดยไดแอมีน ที่มีจาก 4 ถึง 36 คาร์บอนอะตอม, และด้วยข้อแม้ที่ว่า สามารถทำให้เกิดไม่มากกว่า 30% โดยโมล ในองค์ประกอบ (A), โดยใช้ ทั้งหมดของมอนอเมอร์นั้นเป็นฐาน, ผ่านแลคแทม หรืออะมิโนแอซิด, และด้วยข้อแม้ที่ว่าความเข้มข้นของทั้งหมดของมอนอเมอร์นั้น ซึ่งแทนเทเรฟแธลิคแอซิด, 1,6-เฮกเซนไดแอมีน, และ 1,10-เดเคนไดแอมีน ไม่เกิน 30% โดยโมล, โดยใช้ทั้งหมดของ มอนอเมอร์ที่ใช้ในองค์ประกอบ A เป็นฐาน 2. สารผสมการอัดแบบพอลิแอมิดตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 1, ซึ่งจุด หลอมเหลว และตามลำดับอุณหภูมิของการเบน ต่อ ISO-R 75, วิธีการ A (DIN 53 461) ของ องค์ประกอบ (A) และ/หรือ ของสารผสมการอัดแบบพอลิแอมิดทั้งหมดอยู่เหนือ 260 ํซ. หรือเหนือ 270 ํซ, ที่ควรใช้คือ ในช่วงจาก 270 ถึง 320 ํซ, ที่ควรใช้โดยเฉพาะคือ ในช่วงจาก 270 ถึง 310 ํซ. 3. สารผสมการอัดแบบพอลิแอมิดตามที่ขอถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อ ก่อนหน้านี้, ซึ่งการดูดซึมน้ำขององค์ประกอบ (A) และ/หรือ ของสารผสมการอัดแบบพอลิแอมิด ทั้งหมดน้อยกว่า 5% โดยน้ำหนัก, โดยเฉพาะน้อยกว่า 4% โดยน้ำหนัก, หลังจาก 240 ชั่วโมง ในน้ำที่ 95 ํซ 4. สารผสมการอัดแบบพอลิแอมิดตามที่ขอถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อ ก่อนหน้านี้, ซึ่งอัตราส่วนของโมดูลัสแรงดึงของสภาพยืดหยุ่น เปียก:แห้ง มากกว่าหรือเท่ากับ 0.95, ที่ ควรใช้คือมากกว่าหรือเท่ากับ 1.00 5. สารผสมการอัดแบบพอลิแอมิดตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อก่อนหน้านี้, ซึ่ง อัตราส่วนของความทนแรงดึงมากที่สุด เปียก:แห้ง มากกว่าหรือเท่ากับ 0.85, ที่ควรใช้คือมากกว่าหรือ เท่ากับ 0.90 6. สารผสมการอัดแบบพอลิแอมิดตามที่ขอถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อ ก่อนหน้านี้, ซึ่ง, ภายในองค์ประกอบ (A), ส่วนย่อย (A1) ใส่ประกอบจาก 40 ถึง 90% โดยโมล และ ส่วนย่อย (A2) ใส่ประกอบจาก 10 ถึง 60% โดยโมล, และด้วยที่ควรใช้คือส่วนย่อย (A1) ใส่ประกอบ จาก 40 ถึง 80% โดยโมล และส่วนย่อย (A2) ใส่ประกอบจาก 20 ถึง 60% โดยโมล, และด้วยสิ่งที่ควร ใช้โดยเฉพาะคือส่วนย่อย (A1) ใส่ประกอบจาก 40 ถึง 75% โดยโมล และส่วนย่อย (A2) ใส่ประกอบ จาก 25 ถึง 60% โดยโมล 7. สารผสมการอัดแบบพอลิแอมิดตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อก่อนหน้านี้, ซึ่ง 10T/6T โดพอลิแอมิด ขององค์ประกอบ (A) เป็นโดยเฉพาะอย่างเดียวในส่วนสำคัญ, ที่ควรใช้คือ เฉพาะอย่างเดียวโดยสมบรูณ์, ใช้เฟเรฟแธลิคแอซิด เป็นไดคาร์บอกซิลิคแอซิดเป็นฐาน 8. สารผสมการอัดแบบพอลิแอมิดตามที่ขอถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 6, ซึ่งได้เลือก แอรอแมทิค, แอลิแฟทิค, หรือไซโคลแอลิแฟทิคไดคาร์บอกซิลิค แอซิด ที่มีจาก 6 ถึง 36 คาร์บอนอะตอม, ซึ่งถึงบางขอบเขตแทนเทเรฟแธลิคแอซิด, จากหมู่ที่เลือกต่อไปนี้: แนฟธาลีน ไดคาร์บอกซิลิคแอซิด (NDA), ไอโซฟแธลิคแอซิด (IPS), แอดิพิคแอซิด, ซูเบริคแอซิด, อะแซเลอิค แอซิด, เซแบซิคแอซิด, อุนเดเคนไดอออิคแอซิด, โดเดเคนไดโออิคแอซิด, แบรสซิลิคแอซิด, เททระเด เคนไดโออิคแอซิด, เพนทะเดเคนไดโออิคแอซิด, เฮกซะเดเคนไดโออิค แอซิด, ออคทะเดเคนไดโออิค แอซิด, ไดเมอร์แอซิด, ซิส- และ/หรือ แทรนส์-ไซโคลเฮกเซน-1,4-ไดคาร์บอกซิลิคแอซิด, ซิส- และ/หรือ แทรนส์-ไซโคลเฮกเซน-1,3-ไดคาร์บอกซิลิคแอซิด (CHDA), และการผสมรวมกันของสาร เหล่านั้น 9. สารผสมการอัดแบบพอลิแอมิดตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 8, ซึ่ง, สำหรับ อุณหภูมิการเปลี่ยนผ่านแก้วที่สูงกว่า, ได้เลือกแอรอแมทิค, แอลิแฟทิค, หรือไซโคลแอลิแฟทิคไดคาร์ บอกซิลิคแอซิดที่มีจาก 6 ถึง 36 คาร์บอนอะตอม, ซึ่งถึงบางขอบเขตแทนเทเรฟแธลิคแอซิด, ได้เลือก จากหมู่ต่อไปนี้: แนฟธาลีนไดคาร์บอกซิลิคแอซิด (NDA), ไอโซฟแธลิคแอซิด (IPS), แทรนส์-ไซโคลเฮกเซน-1,3-ไดคาร์บอกซิลิคแอซิด (CHDA) หรือการผสมรวมกันของสารเหล่านั้น, ซึ่งที่ควรใช้ได้แก่ แนฟธาลีนไดคาร์บอกซิลิคแอซิด (NDA), และสำหรับอุณหภูมิการเปลี่ยนผ่านแก้ว ที่ต่ำกว่า ได้เลือกสารเหล่านั้นจากหมู่ต่อไปนี้: โดเดเคนไดโออิคแอซิด, แบรสซิลิคแอซิด, เททระเดเคนไดโออิคแอซิด, เพนทะเดเคนไดโออิคแอซิด, เฮกซะเดเคนไดโออิคแอซิด, ออคทะเดเคน ไดโออิคแอซิด, ไดเมอร์แอซิด, หรือการผสมรวมกันของสารเหล่านั้น, ซึ่งที่ควรใช้ได้แก่ โดเดเคนได โออิคแอซิด 1 0. สารผสมการอัดแบบพอลิแอมิดตามที่ขอถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อ ก่อนหน้านี้, ซึ่ง 10T/6T โดพอลิแอมิด ขององค์ประกอบ (A) เป็นโดยเฉพาะอย่างเดียวในส่วนสำคัญ, ที่ควรใช้คือ เฉพาะอย่างเดียวโดยสมบรูณ์, ใช้ 1,10-เดเคนไดแอมีน เป็นฐานสำหรับ (A1) และใช้ 1,6-เฮกเซนไดแอมีน เป็นฐานสำหรับ (A2), เป็นไดแอมีน 1 1. สารผสมการอัดแบบพอลิแอมิดตามที่ขอถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 9, ซึ่งได้เลือกไดแอมีนที่มีจาก 4 ถึง 36 คาร์บอนอะตอม ซึ่งในองค์ประกอบ (A), โดยเป็นอิสระ จากกันและกัน, ใน (A1) และ/หรือ (A2) แทนสูงถึง 30% โดยโมลของ 1,10-เดเคนไดแอมีน และ ตามลำดับ 1,6-เฮกเซนไดแอมีน, โดยใช้ทั้งหมดของไดแอมีนนั้นเป็นฐาน, ไดเลือกจากหมู่ต่อไปนี้: แอลิแฟทิคไดแอมีน, เชิงเส้นหรือเป็นกิ่ง, ดังเช่น 1,4-บิวเทนไดแอมีน, 1,5-เพนเทนไดแอ มีน, 2-เมธิล-1,5-เพนเทนไดแอมีน (MPMD), 1,8-ออคเทน-ไดแอมีน (OMDA), 1,9-โนเนนไดแอมีน (NMDA), 2-เมธิล-1,8- ออคเทนไดแอมีน (MODA), 2,2,4-ไทรเมธิล-เฮกซะเมธิลีนไดแอมีน (TMHMD), 2,4,4-ไทรเมธิลเฮกซะ-เมธิลีนไดแอมีน (TMHMD), 5-เมธิล-1,9-โนเนน-ไดแอมีน, 1,11-ไทรเดเคนไดแอมีน, 2-บิวทิล-2-เอธิล-1,5-เพนเทนไดแอมีน, 1,12-โดเดเคนไดแอมีน, 1,13-ไทรเดเคนไดแอมีน, 1,14-เททระเดเคนไดแอมีน, 1,16-เฮกซะเดเคนไดแอมีน, 1,18-ออคทะเดเคนไดแอมีน, ไซโคลแอลิแฟทิคไดแอมีน ดังเช่น ไซโคลเฮกเซนไดแอมีน, 1,3-บิส(อะมิโนเมธิล)ไซโคลเฮกเซน (BAC), ไอโซโฟโรน-ไดแอมีน, นอร์บอร์เนนไดเมธิลแอมีน, 4,4\'-ไดอะมิโน-ไดไซโคลเฮกซิลเมเธน (PACM), 2,2-(4,4\'-ไดอะมิโน-ไดไซโคลเฮกซิล)โพรเพน (PACP), และ 3,3\'-ไดเมธิล-4,4\'-ไดอะมิโนไดไซโคลเฮกซิลเมเธน (MACM), แอแรลิแฟทิคไดแอมีน, ดังเช่น m-ไซลิลีนไดแอมีน (MXDA), และการผสมรวมกันของสารเหล่านั้น 1 1.12-โดเดเคนไดแอมีน, 1,13-ไทรเดเคนไดแอมีน, 1,14-เททระเดเคนไดแอมีน, 1,16-เฮกซะเดเคน ไดแอมีน, 1,18-ออคทะเดเคนไดแอมีน, และการผสมรวมกันของสารเหล่านั้น, ที่ควรใช้ในที่นี้ได้แก่ 1,12-โดเดเคนไดแอมีน, 1 3. สารผสมการอัดแบบพอลิแอมิดตามที่ขอถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อ ก่อนหน้านี้, ซึ่งองค์ประกอบ (A) เป็นเฉพาะอย่างเดียวในส่วนสำคัญ, ที่ควรใช้คือ เฉพาะอย่างเดียว โดยสมบรูณ์, ที่ประกอบด้วยส่วนประกอบ (A1) และ (A2) 1 4. สารผสมการอัดแบบพอลิแอมิดตามที่ขอถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 12, ซึ่งได้เลือก แลคแทม หรืออะมิโนแอซิด ได้เลือกจากหมู่ต่อไปนี้: คาโพรแลคแทม (CL), (สูตร), (สูตร)-อะมิโนคาโพรอิคแอซิด, (สูตร), (สูตร)-อะมิโนโนนาโนอิคแอซิด, (สูตร), (สูตร)-อะมิโนอุนเดคะโนอิกแอซิด (AUA), ลอโรแลคแทม (LL), (สูตร)-อะมิโนโดเดคะโนอิคแอซิด (ADA), และการผสมรวมกันของสาร เหล่านี้ 1 5. สารผสมการอัดแบบพอลิแอมิดตามที่ขอถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อ ก่อนหน้านี้, ซึ่งองค์ประกอบ (B) เป็นอย่างน้อยถึงบางขอบเขตเส้นใยแก้ว และ/หรือ เส้นใยคาร์บอน, ซึ่งสิ่งเหล่านี้ที่ควรใช้อาจเกี่ยวข้องกับเส้นใยสั้น, ดังเช่น แก้วที่ตัดซึ่งความยาวเป็นจาก 2 ถึง 50 มิลลิเมตร, หรือเส้นใยยาวต่อเนื่อง, และซึ่งที่ควรใช้ต่อไปอีกได้แก่ เส้นใยซึ่งมีภาคตัดขวางที่ไม่เป็น วงกลม และซึ่งมีอัตราส่วนทางมิติแกนตัดขวางหลัก: แกนตัดขวางทุติยภูมิ มากกว่า 2, ที่ควรใช้คือ ในช่วงจาก 2 ถึง 8, โดยเฉพาะจาก 2 ถึง 5 1 6. สารผสมการอัดแบบพอลิแอมิดตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 15, ซึ่ง องค์ประกอบ (B) เกี่ยวข้องกับเส้นใยสั้น และ/หรือ เส้นใยยาวต่อเนื่องในรูปของเส้นใยแก้ว, ซึ่งที่ควร ใช้คือสิ่งเหล่านี้มีเส้นผ่าศูนย์กลางจาก 10 ถึง 20 ไมโครเมตร, ที่ควรใช้โดยเฉพาะคือจาก 12 ถึง 18 ไมโครเมตร, และซึ่งภาคตัดขวางของเส้นใยแก้วอาจกลม, รูปไข, หรือเป็นมุม 1 7. สารผสมการอัดแบบพอลิแอมิดตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 16, ซึ่งเกี่ยวข้อง กับเส้นใยสั้น และ/หรือ เส้นใยแก้วใยยาวต่อเนื่อง ซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลาง เป็นจาก 10 ถึง 14 ไมโครเมตร, โดยเฉพาะบรรดาเส้นใยซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลางเป็นจาก 10 ถึง 12 ไมโครเมตร 1 8. สารผสมการอัดแบบพอลิแอมิดตามที่ขอถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อ ก่อนหน้านี้, ซึ่งองค์ประกอบ (C) เกี่ยวข้องกับสารเติมแต่ง และ/หรือ พอลิเมอร์นอกจากนั้น ที่เลือก จากหมู่ต่อไปนี้: สารดัดแปรการกระแทก, สารส่งเสริมการยึดติด หรือสารช่วยให้เข้ากันได้, สารเร่ง การตกผลึก หรือสารชะลอการตกผลึก, สารช่วยการไหล, สารหล่อลื่น, สารช่วยปลดแม่แบบ, สารสี, สีย้อม และตัวทำเครื่องหมาย, แพลสทิไซเซอร์, สารเพิ่มความเสถียร, สารช่วยดำเนินกรรมวิธี, สารเติมแต่งสารชะลอไฟ, ที่ควรใช้คือสารเติมแต่งสารชะลอไฟปราศจากเฮโลเจน, สารช่วยต้านไฟฟ้า สถิต, อนุภาคนาโนในรูปเป็นชั้นบาง, สารเติมแต่งสภาพนำ, ดังเช่น คาร์บอนแบล็ค, ผงแกรไฟต์, หรือ คาร์บอนนาโนไฟบริล, ส่วนเหลือจากกรรมวิธีการพอลิเมอไรซ์, ตัวอย่างเช่น ตัวเร่งปฏิกิริยา, เกลือ และอนุพันธ์ของสารเหล่านั้น, และสารควบคุม, ดังเช่น มอนอแอซิด, มอนอแอมีน 1 9. สารผสมการอัดแบบพอลิแอมิดตามที่ขอถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อ ก่อนหน้านี้, ซึ่งความเข้มข้นของทั้งหมดของมอนอเมอร์นั้น ซึ่งแทนเทเรฟแธลิคแอซิด, 1,6-เฮกเซนได แอมีน, และ 1,10-เดเคนไดแอมีน ไม่เกิน 20% โดยโมล, ที่ควรใช้คือ 10% โดยโมล, โดยใช้ ทั้งหมด ของมอนอเมอร์ที่ใช้ในองค์ประกอบ A เป็นฐาน 2 0. ของผสมพอลิแอมิดซึ่งประกอบรวมด้วยสารผสมการอัดแบบพอลิแอมิดตามที่ขอถือ สิทธิในข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อก่อนหน้านี้ 2 1. ของผสมพอลิแอมิดซึ่งประกอบรวมด้วยสารผสมการอัดแบบพอลิแอมิดตามที่ขอ ถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อก่อนหน้านี้ และพอลิเฟนิลีนอีเธอร์, โดยเฉพาะในรูปของ โฮโมพอลิเมอร์, ของโคพอลิเมอร์, ของแกรฟท์โคพอลิเมอร์, ของบล็อคโคพอลิเมอร์, หรือของ ไอออนอเมอร์, ที่ควรใช้โดยเฉพาะคือ พอลิ(2,6-ไดเอธิล-1,4-เฟนิลีน)อีเธอร์, พอลิ(2-เมธิล-6-เอธิล- 1,4-เฟนิลีน)อีเธอร์, พอลิ(2-เมธิล-6-โพรพิล-1,4-เฟนิลีน)อีเธอร์, พอลิ(2,6-ไดโพรพิล-1,4-เฟนิลีน) อีเธอร์, พอลิ(2-เอธิล-6-โพรพิล-1,4-เฟนิลีน)อีเธอร์, หรือโคพอลิเมอร์ ดังเช่น บรรดาสารซึ่งมี 2,3,6-ไทรเมธิลเฟนอล, หรือของผสมของสารเหล่านั้น, ซึ่งที่ควรใช้โดยเฉพาะในที่นี้ได้แก่ การมีอยู่ จาก 10 ถึง 45% โดยน้ำหนักของพอลิเฟนิลีนอีเธอร์ และ, ถ้าเหมาะสมสูงถึง 30% โดยน้ำหนัก, ที่ควร ใช้คือสูงถึง 15% โดยน้ำหนัก, ของสารดัดแปรการกระแทกในของผสมนั้น 2 2. วัสดุที่ทำให้เป็นเพลเล็ท, โดยเฉพาะเส้นใยยาวที่เสริมแรง วัสดุที่ทำให้เป็นเพลเล็ทที่ ยืดยาว, หรือผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จ, หรือการอัดแบบ, ที่ประกอบด้วยสารผสมการอัดแบบพอลิแอมิด ตามที่ขอถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 19, หรือที่ประกอบด้วยของผสมพอลิแอมิด ตามที่ขอถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อ 21 และ 20, ที่ควรใช้โดยเฉพาะคือ สำหรับการใช้ ในสิ่งแวดล้อมชื้น และ/หรือ เปียก 2 3. ผงที่ประกอบด้วยส่ารผสมการอัดแบบพอลิแอมิดตามที่ขอถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่ง ของข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 19, หรือที่ประกอบด้วยของผสมพอลิแอมิดตามที่ขอถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่ง ของข้อถือสิทธิข้อ 21 และ 20, ที่ควรใช้โดยเฉพาะคือ ด้วยขนาดเม็ดเฉลี่ยจาก 30 ถึง 200 ไมโครเมตร 2 4. ผงตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 23, ซึ่งมีความหนืดสารละลายที่ 0.5% โดย น้ำหนัก ใน m-ครีซอล ที่ 20 ํซ. อยู่ในช่วงจาก 1.3 ถึง 2.0, ซึ่งที่ควรใช้คือได้ควบคุมสารผสมการอัด แบบพอลิแอมิด, ที่ควรใช้โดยเฉพาะคือโดยใช้อัตราส่วนหมู่ปลายสุดคาร์บอกซิ: หมู่ปลายสุดอะมิโน มากกว่าหรือเท่ากับ 1:2 และตามลำดับ 2:1, ที่ควรใช้คือมากกว่าหรือเท่ากับ 1:3 และตามลำดับ 3:1 2 5. ผงตามที่ขอถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อ 23 และ 24, ซึ่งเกี่ยวข้องกับ ของผสมของ PA10T/6T ที่ควบคุมแล้วอย่างสองทำหน้าที่ตรงข้ามกัน ที่ประกอบด้วยอนุภาคผงที่ ควบคุม-คาร์บอกซิ และที่ควบคุม-แอมีน โดยแยกกัน 2 6. ผงตามที่ขอถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อ 23 ถึง 25, ซึ่งประกอบรวม ด้วย, พร้อมกับอนุภาค 10T/6T โคพอลิแอมิด, ตัวเติมนอกจากนั้น, ที่ควรใช้โดยเฉพาะคือ ในรูปของ บีดแก้วของแข็ง หรือบีดแก้วกลวง, ที่ควรใช้คือ ด้วยเส้นผ่าศูนย์กลางเฉลี่ยจาก 20 ถึง 80 ไมโครเมตร 2 7. การใช้ของผงตามที่ขอถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อ 23 ถึง 26 ใน กรรมวิธีการซินเทอร์-เลเซอร์ที่เลือกคัด 2 8. การอัดแบบที่ผลิตโดยใช้สารผสมการอัดแบบพอลิแอมิดตามที่ขอถือสิทธิในข้อใด ข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 19, ซึ่งใช้ของผสมพอลิแอมิดตามที่ขอถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่งของ ข้อถือสิทธิข้อ 20 ถึง 21, ซึ่งใช้วัสดุที่ทำให้เป็นเพลเล็ทตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 22, หรือซึ่ง ใช้ผงตามที่ขอถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อ 23 ถึง 26, ในกรณีหลัง ที่ควรใช้คือผลิตใน กรรมวิธีการซินเทอร์-เลเซอร์ที่เลือกคัด 2 9. กรรมวิธีสำหรับการเตรียมของสารผสมการอัดแบบพอลิแอมิดตามที่ขอถือสิทธิใน ข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 19, ซึ่งประกอบรวมด้วยการเติม, แก่ของผสมมอนอนอเมอร์, ระหว่างการเตรียมขององค์ประกอบ (A), สัดส่วนจาก 0.005 ถึง 1.5% โดยน้ำหนักของอย่างน้อยหนึ่ง ตัวเร่งปฏิกิริยาพอลิคอนเดนเซชัน, ซึ่งที่ควรใช้คือสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับสารประกอบฟอสฟอรัส, ดังเช่น ฟอสฟอริคแอซิด, ฟอสฟอรัสแอซิด, ไฮโพฟอสฟอรัสแอซิด, เฟนิลฟอสโฟนิค แอซิด, เฟนิลฟอส ฟินิคแอซิด, และ/หรือ เกลือของสารเหล่านั้นด้วยแคทไอออนที่มีเวเลนซีจาก 1 ถึง 3, ตัวอย่างเช่น Na, K, Mg, Ga, Zn, หรือ Al, และ/หรือ เอสเทอร์ของสารเหล่านั้น, ดังเช่น ไทรเฟนิลฟอสเฟท, ไทรเฟนิล ฟอสไฟท์, หรือ ทริส(โนนิลเฟนิล)ฟอสไฟท์, หรือของผสมของสารเหล่านั้น 3 0. กรรมวิธีตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิข้อ 29, ซึ่งตัวเร่งปฏิกิริยาพอลิคอนเดนเซชัน นั้น เกี่ยวข้องกับไฮโพฟอสฟอรัสแอซิด และโซเดียมไฮโดรเจนไฮโพฟอสไฟท์มอนอไฮเดรท ใน ปริมาณจาก 100 ถึง 500 ส่วนต่อล้านส่วนของฟอสฟอรัส, โดยใช้เซมิแอรอแมทิค 10T/6T โคพอลิแอมิด (A) เป็นฐาน 3

1. กรรมวิธีตามที่ขอถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อ 29 และ 30, ซึ่ง, เพื่อ ชดเชยการสูญเสียไดแอมีนล เติมไดแอมีนเกินจาก 1 ถึง 8% โดยน้ำหนัก, โดยใช้ทั้งหมดของไดแอมีน นั้นเป็นฐาน, แก่ของผสมมอนอเมอร์นั้น 3

2. กรรมวิธีตามที่ขอถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อ 29 ถึง 31, ซึ่ง, สำหรับ การควบคุมของมวลต่อโมล, ของความหนืดสัมพัทธ์ และตามลำดับของความสามารถไหลได้ หรือ MVR, เติมสารควบคุมแก่ของผสม และ/หรือ แก่พรีคอนเดนเซท และสารเหล่านี้อาจเกี่ยวข้องกับ มอนอแอซิด หรือมอนอแอมีน, ที่ควรใช้คือเลือกจากหมู่ต่อไปนี้: แอลิแฟทิค, ไซโคลแอลิแฟทิค หรือ แอรอแมทิค มอนอคาร์บอกซิลิคแอซิด, หรือมอนอแอมีน, ตัวอย่างเช่น แอซีติกแอซิด, โพรพิออนิค แอซิด, บิวทิริคแอซิด, วาเลริคแอซิด, คาโพรอิคแอซิด, ลอริคแอซิด, สเทียริคแอซิด, 2-เอธิลเฮกแซ โนอิคแอซิด, ไซโคลเฮกแซโนอิคแอซิด, เบนโซอิคแอซิด, บิวทิลแอมีน, เพนทิลแอมีน, เฮกซิลแอมีน, 2-เอธิลเฮกซิลแอมีน, (สูตร)-ออคทิลแอมีน, (สูตร)-โดเดซิลแอมีน, (สูตร)-เททระเดซิลแอมีน, (สูตร)-เฮกซะเดซิลแอมีน, สเทียริลแอมีน, ไซโคลเฮกซิลแอมีน, 3-(ไซโคลเฮกซิลอะมิโน)โพรพิลแอมีน, เมธิลไซโคลเฮกซิล แอมีน, ไดเมธิลไซโคลเฮกซิลแอมีน, เบนซิลแอมีน, 2-เฟนิลเอธิลแอมีน, และตามลำดับ การผสม รวมกันของสิ่งเหล่านั้น, หรือสารประกอบมอนอฟังก์ชันแนล ซึ่งสามารถทำปฏิกิริยากับหมู่อะมิโน หรือหมู่กรด, ตัวอย่างเช่น แอนไฮไดรด์, ไอโซไซยาเนท, แอซิลเฮไลด์, หรือเอสเทอร์, และตามลำดับ การผสมรวมกันของสารเหล่านี้, เมื่อปริมาณที่ใช้ของสารควบคุม ที่ควรใช้คือจาก 10 ถึง 200 มิลลิโมล/กิโลกรัม - สารควบคุม/พอลิเมอร์.