TH40162A3 - สูตรผสมของไกลโฟเสท - Google Patents

Abstract

DC60 (29/10/42) สารเข้มข้นแอคเควียสไกลโฟเสทที่มีความแรงสูงซึ่งมีความคงตัวในการเก็บ, ที่ควรมี ไกลโฟเสทมากกว่า 400 กรัม/ลิตร ซึ่งแสดงในรูปกรด, ประกอบรวมด้วยเกลือโพแทสเซียมของ ไกลโฟเสท, สารลดแรงตึงผิวแอลคิลไกลโคไซด์และสารลดแรงตึงผิวแอลคอกซิเลเทด แอลคิแลมีน ที่ความเข้มข้นทั้งหมดที่ควรใช้ของแอลคิลไกลโคไซด์และแอลคอกซิเลเทด แอลคิแลมีนจาก ประมาณ 160 ถึง 300 กรัม/ลิตร และที่อัตราส่วนที่ควรใช้ของแอลคิลไกลโคไซด์ต่อแอลคอกซิเลเทด แอลคิแลมีนคือแอลคิลไกลโคไซด์จากประมาณ 1 ส่วนโดยน้ำหนักต่อแอลคอกซิเลเทด แอลคิแลมีน 1 ส่วนโดยน้ำหนัก ถึง แอลคิลไกลโคไซด์จากประมาณ 5 ส่วนโดยน้ำหนักต่อแอลคอกซิเลเทด แอลคิแลมีน 1 ส่วนโดยน้ำหนัก สารเข้มข้นแอคเควียสไกลโฟเสทที่มีความแรงสูงซึ่งมีความคงตัวในการเก็บ, ที่ควรมี ไกลโฟเสทมากกว่า 400 กรัม/ลิตร ซึ่งแสดงในรูปกรด, ประกอบรวมด้วยเกลือโพแทสเซียมของ ไกลโฟเสท, สารลดแรงตึงผิวแอลคิลไกลโคไซด์และสารลดแรงตึงผิวแอลคอกซิเลเทด แอลคิแลมีน ที่ความเข้มข้นทั้งหมดที่ควรใช้ของแอลคิลไกลโคไซด์และแอลคอกซิเลเทด แอลคิแลมีนจาก ประมาณ 160 ถึง 300 กรัม/ลิตร และที่อัตราส่วนที่ควรใช้ของแอลคิลไกลโคไซด์ต่อแอลคอกซิเลเทด แอลคิแลมีนคือแอลคิลไกลโคไซด์จากประมาณ 1 ส่วนโดยน้ำหนักต่อแอลคอกซิเลเทด แอลคิแลมีน 1 ส่วนโดยน้ำหนัก ถึง แอลคิลไกลโคไซด์จากประมาณ 5 ส่วนโดยน้ำหนักต่อแอลคอกซิเลเทด แอลคิแลมีน 1 ส่วนโดยน้ำหนัก

Claims (8)

1. สารเข้มข้นแอคเควียสไกลโฟเสทที่มีความแรงสูง ซึ่งประกอบรวมด้วยเกลือ โพแทสเซียมของไกลโฟเสท, สารลดแรงตึงผิวแอลคิลไกลโคไซด์และสารลดแรงตึงผิว แอลคอกซิเลเทด แอลคิแลมีน ซึ่งความเข้มข้นของไกลโฟเสทมากกว่า 400 กรัม/ลิตร บนพื้นฐาน ของปริมาณกรดไกลโฟเสท 2. สารเข้มข้นไกลโฟเสทตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งความเข้มข้นของเกลือโพแทสเซียมของ ไกลโฟเสทมากกว่า 400 กรัม/ลิตร บนพื้นฐานของปริมาณกรดไกลโฟเสท, ความเข้มข้นทั้งหมด ของสารลดแรงตึงผิวแอลคิลไกลโคไซด์ และสารลดแรงตึงผิวแอลคอกซิเลเทด แอลคิแลมีนใน สารเข้มข้นแอคเควียส คือ จาก 160 ถึง 300 กรัม/ลิตร และอัตราส่วนของสารลดแรงตึงผิวแอลคิล ไกลโคไซด์ต่อสารลดแรงตึงผิวแอลคอกซิเลเทด แอลคิแลมีน คือ จาก 1 ส่วนโดยน้ำหนักของ สารลดแรงตึงผิวแอลคิลไกลโคไซด์ต่อ 1 ส่วนโดยน้ำหนักของสารลดแรงตึงผิวแอลคอกซิเลเทด แอลคิแลมีน ถึง 5 ส่วนโดยน้ำหนักของสารลดแรงตึงผิวแอลคิลไกลโคไซด์ ต่อ 1 ส่วน โดยน้ำหนัก ของสารลดแรงตึงผิวแอลคอกซิเลเทด แอลคิแลมีน 3. สารเข้มข้นไกลโฟสเทตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งความเข้มข้นของไกลโฟเสท คือ จาก 440 ถึง 540 กรัม/ลิตร บนพื้นฐานของปริมาณกรดไกลโฟเสท 4. สารเข้มข้นไกลโฟเสทตามข้อถือ 1 ซึ่งปริมาณทั้งหมดของระบบสารลดแรงตึงผิว แอลคิลไกลโคไซด์ และสารลดแรงตึงผิวแอลคอกซิเลเทด แอลคิแลมีนคือจาก 160 คือ 300 กรัม/ลิตร 5. สารเข้มข้นไกลโฟเสทตามข้อถือสิทธิข้อ 4 ซึ่งอัตราส่วนของสารลดแรงตึงผิวแอลคิล ไกลโคไซด์ต่อสารลดแรงตึงผิวแอลคอกซิเลเทด แอลคิแลมีนจาก 1 ส่วนโดยน้ำหนักของสารลดแรง ตึงผิวแอลคิลไกลโคไซด์ต่อ 1 ส่วนโดยน้ำหนักของสารลดแรงตึงผิวแอลคอกซิเลเทด แอลคิแลมีน ถึง 5 ส่วนโดยน้ำหนักของสารลดแรงตึงผิว แอลคิลไกลโคไซด์ต่อ 1 ส่วนโดยน้ำหนักของสารลดแรง ตึงผิวแอลคอกซิเลเทด แอลคิลแลมีน 6. สารเข้มข้นไกลโฟเสทตามข้อถือสิทธิข้อ 5 ซึ่งอัตราส่วนของสารลดแรงตึงผิวแอลคิล ไกลโคไซด์ต่อสารลดแรงตึงผิวแอลคอกซิเลเทด แอลคิแลมีน คือ จาก 2 ส่วน โดยน้ำหนักของ สารลดแรงตึงผิวแอลคิลไกลโคไซด์ต่อ 1 ส่วนโดยน้ำหนักของสารลดแรงตึงผิวแอลคอกซิเลเทด แอลคิแลมีน ถึง 4 ส่วนโดยน้ำหนักของสารลดแรงตึงผิวแอลคิลไกลโคไซด์ต่อ 1 ส่วนโดยน้ำหนัก ของสารลดแรงตึงผิวแอลคอกซิเลเทด แอลคิแลมีน 7. สารเข้มข้นไกลโฟเสทตามข้อถือสิทธิข้อ 5 ซึ่งอัตราส่วนของสารลดแรงตึงผิวแอลคิล ไกลโคไซด์ ต่อสารลดแรงตึงผิวแอลคอกซิเลเทด แอลคิแลมีน คือ จาก 1.5 ส่วนโดยน้ำหนักของ สารลดแรงตึงผิวแอลคิลไกลโคไซด์ ต่อ 1 ส่วนโดยน้ำหนักของสารลดแรงตึงผิวแอลคอกซิเลเทด แอลคิแลมีน ถึง 4 ส่วนโดยน้ำหนักของสารลดแรงตึงผิวแอลคิลไกลโคไซด์ ต่อ 1 ส่วน โดยน้ำหนัก ของสารลดแรงตึงผิวแอลคอกซิเลเทด แอลคิแลมีน 8. สารเข้มข้นไกลโฟเสทตามข้อถือสิทธิข้อ 4 ซึ่งปริมาณทั้งหมดของสารลดแรงตึงผิว ไกลโคไซด์ และสารลดแรงตึงผิวแอลคอกซิเลเทดแอลคิแลมีน คือ จาก 200 ถึง 270 กรัม/ลิตร 9. สารเข้มข้นไกลโฟเสทตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งสารลดแรงตึงผิวแอลคิลไกลโคไซด์ มีสูตร (สูตรเคมี) ซึ่ง n คือระดับของการพอลิเมอไรส์ และอยู่ในช่วงจาก 1 ถึง 3 และ R5 คือหมู่แอลคิลโซ่กิ่ง หรือโซ่ตรงที่มีคาร์บอนจาก 4 ถึง 18 อะตอม หรือของผสมของหมู่แอลคิลที่มีค่าเฉลี่ยของคาร์บอน จาก 4 ถึง 18 อะตอม 1 0. สารเข้มข้นไกลโฟเสทตามข้อถือสิทธิข้อ 9 ซึ่ง R5 คือ 2-เอธิล-1-เฮกซิล และ n คือ จาก 1 ถึง 2 1 1. สารเข้มข้นไกลโฟเสทตามข้อถือสิทธิข้อ 10 ซึ่ง n คือ จาก 1.5 ถึง 1.9 1 2. สารเข้มข้นไกลโฟเสทตามข้อถือสิทธิข้อ 11 ซึ่ง n คือ 1.75 1 3. สารเข้มข้นไกลโฟเสทตามข้อถือสิทธิข้อ 9 ซึ่ง n คือ ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1.7 และ R5 คือ ของผสมของออกทิล 45% และเดซิล 55% 1 4. สารเข้มข้นไกลโฟเสทตามข้อถือสิทธิข้อ 9 ซึ่ง n คือค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1.6 และ R5 คือ ของผสมของโนนิล 20%, เดซิล 55% และอันเดซิล 40% 1 5. สารเข้มข้นไกลโฟเสทตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งสารลดแรงตึงผิวแอลคอกซิเลเทด แอลคิแลมีน คือ เอธอกซิเลเทด หรือ โพรพอกซิเลเทด หรือเอธอกซิเลเทดและโพรพอกซิเลเทดผสม C8 ถึง 22 แอลคิแลมีน ที่มีระดับของการแอลคอกซิเลทจาก 1 ถึง 15 1 6. สารเข้มข้นไกลโฟเสทตามข้อถือสิทธิข้อ 15 ซึ่งระดับของการแอลคอกซิเลท คือ จาก 4 ถึง 12 1 7. สารเข้มข้นไกลโฟเสทตามข้อถือสิทธิข้อ 15 ซึ่งสารลดแรงตึงผิวแอลคอกซิเลเทด แอลคิแลมีน คือ เอธอกซิเลเทด หรือโพรพอกซิเลเทด หรือเอธอกซิเลเทด และ โพรพอกซิเลเทดผสม C10 ถึง 20 แอลคิแลมีน ที่มีระดับของการแอลคอกซิเลทจาก 1 ถึง 15 1 8. สารเข้มข้นไกลโฟเสทตามข้อถือสิทธิข้อ 15 ซึ่งสารลดแรงตึงผิวแอลคอกซิเลเทด แอลคิแลมีน คือ อนุพันธ์เอธอกซิเลเทดของโคโคแอมีน, อนุพันธ์แอลคอกซิเลเทดของแทลโลเเวมีน, อนุพันธ์แอลคอกซิเลเทดของโอเลอิลแลมีน, อนุพันธ์แอลคอกซิเลเทดของสเทียริแลมีน หรือ ของผสมของสารเหล่านี้ 1 9. สารเข้มข้นไกลโฟเสทตามข้อถือสิทธิข้อ 15 ซึ่งสารลดแรงตึงผิวแอลคอกซิเลเทด แอลคิแลมีน คือ เอธอกซิเลเทด C8 ถึง 22 แอลคิแลมีน ที่มีระดับของการแอลคอกซิเลทจาก 1 ถึง 15 2 0. สารเข้มข้นไกลโฟเสทตามข้อถือสิทธิข้อ 19 ซึ่งสารลดแรงตึงผิวแอลคอกซิเลเทด แอลคิแลมีน คือ เอธอกซิเลเทด C10 ถึง 20 แอลคิแลมีน ที่มีระดับของการแอลคอกซิเลทจาก 4 ถึง 12 2

1. สารเข้มข้นไกลโฟเสทตามข้อถือสิทธิข้อ 20 ซึ่งสารลดแรงตึงผิวแอลคอกซิเลเทด แอลคิแลมีน คือ เอธอกซิเลเทด C10 ถึง 20 แอลคิแลมีน ที่มีระดับของการแอลคอกซิเลทเท่ากับ 5 2

2. สารเข้มข้นไกลโฟเสทตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งความเข้มข้นไกลโฟเสท คือ จากมากกว่า 400 กรัม/ลิตร ถึง 550 กรัม/ลิตร บนพื้นฐานของกรดไกลโฟเสท 2

3. สารเข้มข้นไกลโฟเสทตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งประกอบรวมต่อไปด้วยสารช่วยปรับ ความหนืด 2

4. สารเข้มข้นไกลโฟเสทตามข้อถือสิทธิข้อ 23 ซึ่งสารช่วยปรับความหนืด คือ โพรพิลีน ไกลคลอ 2

5. สารเข้มข้นไกลโฟเสทตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งประกอบรวมต่อไปด้วยสารต้านการ เกิดฟอง 2

6. กรรมวิธีของการทำลายวัชพืชอย่างรุนแรงหรือฆ่าวัชพืชซึ่งประกอบรวมด้วยการเตรียม สารผสมเจือจางโดยการเจือจางสารเข้มข้นไกลโฟเสทตามข้อถือสิทธิข้อ 1 และใช้สารผสมที่เจือจาง ดังกล่าวในปริมาณที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าวัชพืชแก่พืชนั้น 2

7. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 26 ซึ่งสารผสมเจือจางในปริมาณที่มีประสิทธิภาพในการ ฆ่าวัชพืช คือ จาก 0.001 ถึง 20 กิโลกรัม ต่อเฮคเตอร์ 2

8. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 27 ซึ่งสารผสมเจือจางในปริมาณที่มีประสิทธิภาพในการ ฆ่าวัชพืช คือ จาก 0.025 ถึง 10 กิโลกรัม ต่อเฮคเตอร์