TH24553A - วิธีสำหรับการฟื้นฟูของตัวเร่งปฏิกิริยา - Google Patents

Abstract

ซีโอไลต์ซึ่งบรรจุด้วยอะตอมไทเทเนียมใช้เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับการเตรียมอี พอกไซด์จากโอเลฟินและไฮโดรเจนเพอรอกไซด์ถูกฟื้นฟูโดยการนำตัวเร่งปฏิกิริยาซึ่งใช้ แล้วทำปฏิกิริยากับไฮโดรเจนเพอรอกไซด์ในที่ซึ่งไม่มีโอเลฟินและได้ใช้ ตัวเร่งปฏิกิริยา ซึ่งฟื้นฟูอีกสำหรับการอีพอกซิเดชัน

Claims (1)

1. วิธีการสำหรับการฟื้นฟูสารเร่งปฏิกิริยาซึ่งเป็นซิโอไลท์ที่มีไทเทเนียมอะตอมซึ่งได้ใช้ เป็นสารเร่งปฏิกิริยาสำหรับปฏิกิริยาในการเตรียมอีพอกไซด์จากโอเลฟินและไฮโดรเจนเพอ รอกไซด์ ,ซึ่งประกอบด้วย : การบำบัดสารเร่งปฏิกิริยาดังกล่าว, หลังจากที่ประสิทธิภาพการเร่งปฏิกิริยาของสาร เร่งปฏิกิริยาอย่างน้อยที่สุดบางส่วนได้หมดลง, ที่อุณหภูมิที่เพียงพอและสำหรับระยะเวลาที่พอ เพียงเพื่อฟื้นฟูสารเร่งปฏิกิริยาดังกล่าวด้วยไฮโดรเจนเพอรอกไซด์โดยไม่มีส่วนร่วมของ โอเลฟิน 2. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1, โดยที่ สารเร่งปฏิกิริยาได้ถูกฟื้นฟูโดยการบำบัดด้วย สารละลายไฮโดรเจนเพอรอกไซด์ในน้ำซึ่งมีไฮโดรเจนเพอรอกไซด์ระหว่าง 0.01 ถึง 70% โดยน้ำหนัก 3. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่ 2, โดยที่ สารเร่งปฏิกิริยาได้ถูกฟื้นฟูโดยการบำบัดด้วย สารละลายไฮโดรเจนเพอรอกไซด์ในน้ำซึ่งมีไฮโดรเจนเพอรอกไซด์ระหว่าง 1 ถึง 45% โดย น้ำหนัก 4. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1,โดยที่ การบำบัดดังกล่าวนั้นได้ดำเนินการที่อุณหภูมิ ระหว่าง 0 ถึง 200 องศาเซลเซียส 5. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่ 4, โดยที่การบำบัดดังกล่าวนั้นได้ดำเนินการที่อุณหภูมิ ระหว่าง 40 ถึง 120 องศาเซลเซียส 6. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1, ซึ่งยังประกอบด้วยการเวียนกลับซึ่งสารเร่งปฏิกิริยาดัง กล่าวหลังจากการฟื้นฟูไปยังปฏิกิริยาดังกล่าวสำหรับการทำอีพอกซิเดชั่น (epoxidation, ปฏิกิริยาการทำให้เป็นอีพอกซี) ของโอเลฟิน 7. วิธีการสำหรับการเตรียมอีพอกซีซึ่งประกอบด้วยการทำปฏิกิริยากันของโอเลฟิน กับ ไฮโดรเจนเพอรอกไซด์ในการมีส่วนร่วมของซิโอไลท์ที่มีไทเทเนียมอะตอมซึ่งเป็นสารเร่ง ปฏิกิริยาเพื่อให้ได้การทำอีพอกซิเดชั่นของโอเลฟินดังกล่าว, และโดยที่ประสิทธิภาพการเร่ง ปฏิกิริยาของสารเร่งปฏิกิริยาลดลง, จึงทำการฟื้นฟูให้กับสารเร่งปฏิกิริยาดังกล่าวโดยการ บำบัดสารเร่งปฏิกิริยาดังกล่าวนั้นด้วยไฮโดรเจนเพอรอกไซด์โดยไม่มีส่วนร่วมของโอเลฟินดัง กล่าวเพื่อให้ได้สารเร่งปฏิกิริยาที่ได้ฟื้นฟูดังกล่าว 8. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่ 7, โดยที่ โอเลฟินดังกล่าวเป็นโพรพิลีน 9. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่ 7, โดยที่ ปฏิกิริยาการทำอีพอกซิเดชั่นนั้นได้ดำเนินการ ในตัวทำละลายผสมของเมธานอลและน้ำ 1 0. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่ 7, โดยที่ สารเร่งปฏิกิริยาดังกล่าวนั้นอยู่ในรูปของสาร ละลายแขวนลอย 1 1. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่ 7, โดยที่ สารเร่งปฏิกิริยาดังกล่าวได้ถูกฟื้นฟูโดยการ บำบัดด้วยสารละลายไฮโดรเจนเพอรอกไซด์ในน้ำซึ่งมีไฮโดรเจนเพอรอกไซด์ระหว่าง 10 ถึง 45% โดยน้ำหนัก, และของสารผสมของสารเร่งปฏิกิริยาและไฮโดรเจนเพอรอกไซด์ที่ได้จากการ ฟื้นฟูดังกล่าวนั้นได้นำไปใช้ปฏิกิริยาอีพอกซิเดชั่นโดยปราศจากซึ่งการแยกออกจากกันก่อน หน้า 1 2. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่ 7, โดยที่ สารเร่งปฏิกิริยาดังกล่าวอยู่ในรูปของฟิกซ์เบค (fixed bed, การจัดเรียงให้เป็นชั้นที่อยู่กับที่) 1 3. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่ 7, ซึ่งยังประกอบด้วยการหมุนเวียนสารละลายไฮโดรเจน เพอรอกไซด์ไปบนฟิกซ์เบดดังกล่าวในช่วงระหว่างการทำการฟื้นฟู 1 4. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่ 8, โดยที่ ปฏิกิริยาการทำอีพอกซิเดชั่นนั้นได้ดำเนินการ ในตัวทำละลายผสมของเมธานอลและน้ำ 1 5. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่ 8, โดยที่ สารเร่งปฏิกิริยาดังกล่าวนั้นในรูปของสาร ละลายแขวนลอย 1 6. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่ 9, โดยที่ สารเร่งปฏิกิริยาดังกล่าวนั้นอยู่ในรูปของสาร ละลายแขวนลอย 1 7. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่ 8, โดยที่ สารเร่งปฏิกิริยาดังกล่าวได้ถูกฟื้นฟูโดยการ บำบัดด้วยสารละลายไฮโดรเจนเพอรอกไซด์ในน้ำมีไฮโดรเจนเพอรอกไซค์ระหว่าง 10 ถึง 45% โดยน้ำหนัก, และของฟสมของสารเร่งปฏิกิริยาและไฮโดรเจนเพอรอกไซด์ที่ได้จากการ ฟื้นฟูดังกล่าวนั้นได้นำไปใช้ในปฏิกิริยาอีพอกซิเดชั่นโดยปราศจากซึ่งการแยกออกจากกันก่อน หน้า 1 8. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่ 9, โดยที่ สารเร่งปฏิกิริยาดังกล่าวได้ฟื้นฟูโดยการ บำบัดด้วยสารละลายไฮโดรเจนเพอรอกไซด์ในน้ำซึ่งมีไฮโดรเจนเพอรอกไซด์ระหว่าง 10 ถึง 45% โดยน้ำหนัก, และของผสมของสารเร่งปฏิกิริยาและไฮโดรเจนเพอรอกไซด์ที่ได้จากการ ฟื้นฟูดังกล่าวนั้นได้นำไปใช้ในปฏิกิริยาอีพอกซิเดชั่นโดยปราศจากซึ่งการแยกออกจากกันก่อน หน้า 1 9. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่ 10, โดยที่ สารเร่งปฏิกิริยาดังกล่าวได้ถูกฟื้นฟูโดยการ บำบัดด้วยสารละลายไฮโดนเจนเพอรอกไซด์ในน้ำซึ่งมีไฮโดรเจนเพอรอกไซด์ระหว่าง 10 ถึง 45% โดยน้ำหนัก, และของผสมของสารเร่งปฏิกิริยาและไฮโดรเจนเพอรอกไซด์ที่ได้จากการ ฟื้นฟูดังกล่าวนั้นได้นำไปใช้ในปฏิกิริยาอีพอกซิเดชั่นโดยปราศจากซึ่งการแยกออกจากกันก่อน หน้า 2 0. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1, โดยที่ การบำบัดดังกล่าวนั้นได้ดำเนินการโดยการทำ สารเร่งปฏิกิริยาดังกล่าวให้ร้อนภายใต้การทำรีฟักซ์ (reflux, การต้มเดือดและควบแน่นกลับ นาน 15 นาทีถึง 4 ชั่วโมง 2

1. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1, โดยที่ การบำบัดดังกล่าวนั้นได้ดำเนินการที่อุณหภูมิที่ เพียงพอและสำหรับระยะเวลาที่พอเพียงเพื่อบรรลุซึ่งประสิทธิภาพที่ชี้ได้โดยสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ว่าเป็นค่าที่เหมือนกันกับประสิทธิภาพของสารเร่งปฏิกิริยาก่อนปฏิกิริยาดังกล่าว ***********