TH1768B - สารเพิ่มความหนืดที่ละลายน้ำได้และสารผสมสำหรับซักล้างที่มีสารเหล่านี้เป็นองค์ประกอบ - Google Patents

Abstract

สารเพิ่มความหนืดที่ละลายน้ำได้ซึ่งประกอบด้วยสารหลักที่เป็น(i)เอสเทอร์ที่เกิดจากสารที่ได้จากการรวมตัวของเอทธิลี นออกไซด์40ถึง400โมลกับอัลกอฮอล์ประเภทโพลีไฮริคและกรดไข มันเชนแตาแขนงชนิดC8-36(ii)เอสเทอร์ที่เกิดจากโพลีเอทธิล ลีนไกลคอลที่มีน้ำหนักโมเลกุลโดยเฉลี่ย2,000ถึง20,000และ กรดไขมันเชนแตแขนงชนิดC8-36และ(iii)สารที่ได้จากการรวมตัว ระหว่างเอทธิลลีนออกไซด์40ถึง400โมลกับเอสเทอร์ที่เกิด จากอัลกอฮอล์ประเภทโพลีไฮดริคกับกรดไขมันเชนแตแขนง ชนิดC8-36สารเพิ่มความหนืดนี้สามารถเพิ่มความหนืดของสารละ ลายของสารลดแรงตึงผิวชนิดต่างๆได้ในขณะเดียวกันก็สามารถ รักษาคุณสมบัติทางด้านความเสถียรและความสามารถในการละลาย ในสารละลายไว้ได้อีกด้วย

Claims (1)

1. ข้อถือสิทธฺ์ (ทั้งหมด) ซึ่งจะไม่ปรากฏบนหน้าประกาศโฆษณา :ที่มีคาร์บอน2ถึง16อะตอม 3.สารเพิ่มความหนืดที่ละลายน้ำได้ดังในข้อถือสิทธิ1ที่ ซึ่งโพลีไฮดริคอัลกอฮอล์ดังกล่าวเป็นอัลกอฮอล์ชนิดไตรวา เลนท์เป็นอย่างน้อย 4.สารผสมสำหรับซักล้างที่เป็นของเหลวซึ่งประกอบไปด้วยองค์ ประกอบ(A)และ(B)ที่ซึ่ง (A)คือสารลดแรงตึงผิวซึ่งมีคุณสมบัติด้านการซัก ล้าง5ถึง40%โดยน้ำหนักและ (B)คือเอสเทอร์ของกรดไขมันที่แตกแขนงที่(อักษร เคมี)0.1ถึง10%โดยน้ำหนักอย่างน้อยหนึ่งชนิดซึ่งเลือกจาก กลุ่มที่ประกอบด้วย (i)เอสเทอร์ของแอดดักท์ของเอทธิลีนออกไซด์40ถึง400โมลกับ โพลีไฮดริคอัลกอฮอล์หนึ่งโมลและกรดไขมันที่แตกแขนง ที่(อักษรเคมี)ซึ่งมีคาร์บอน8ถึง36อะตอม (ii)เอสเทอร์ของโพลีเอทธิลีนไกลคอลที่มีน้ำหนักโมเลกุลโดย เฉลี่ย2000ถึง20,000และกรดไขมันที่แตกแขนงที่(อักษร เคมี)ซึ่งมีคาร์บอน8ถึง36อะตอมและ (iii)แอดดักท์ของเอทธิลีนออกไซด์40ถึง400โมลกับเอสเทอร์ ของโพลีไฮดริคอัลกอฮอล์และกรดไขมันที่แตกแขนงที่(อักษร เคมี)ซึ่งมีคาร์บอน8ถึง36อะตอม ซึ่งเป็นองค์ประกอบสารลดแรงตึงผิว(A)ดังกล่าวเลือกจาก กลุ่มที่ประกอบด้วย (1)อัลคีลเบนซินซัลโฟเนทเซนตรงหรือแตกแขนงซึ่งมี หมู่อัลคิลที่มีจำนวนคาร์บอนโดยเฉลี่ยนเป็น10ถึง16อะตอม (2)อัลคิลหรืออัลเค็นนิลอีเธอร์ซัลเฟตที่เติมลงใน0.5ถึง8โ มลต่อโมเลกุลโดยเฉลี่ยของเอทธิลีนออกไซด์โปรปิลีนออกไซด์ บิวทิลลีนออกไซด์เอทธิลีนออกไซด์/โปรปิลีนออกไซด์ที่อัตรา ส่วน0.1/9.9ถึง9.9/0.1หรือเอทธิลีนออกไซด์บิวทิลีนออกไซด์ ที่อัตราส่วน0.1/9.9ถึง9.9/0.1ซึ่งซัลเฟตดังกล่าวมี หมู่อัลคิลหรืออัลเค็นนิลที่มีจำนวนคาร์บอนโดย เฉลี่ย10ถึง20อะตอม (3)อัลคิลหรือัอลเค็นนิลซัลเฟตที่มีหมู่อัลคิลหรืออัลเค็น นิลซึ่งมีจำนวนคาร์บอนโดยเฉลี่ย10ถึง20อะตอม (4)โอลีฟินซัลโฟเนทที่มีจำนวนคาร์บอนโดยเฉลี่ยน10ถึง20อ ตะมต่อหนึ่งโมเลกุล (5)อัลเคนซัลโฟเนทที่มีจำนวนคาร์บอนโดยเฉลี่ยน10ถึง20อตะม ต่อหนึ่งโมเลกุล (6)เกลือของกรดไขมันอิ่มตัวหรือไม่อิ่มตัวที่มีจำนวน คาร์บอนโดยเฉลี่ย10ถึง24อะตอมต่อหนึ่งโมเลกุล (7)อัลคิลหรืออัลเค็นนิลอีเธอร์คาร์บอกซิเลทที่เติมลง ใน0.5ถึง8โมลต่อโมเลกุลโดยเฉลี่ยของเอทธิลีนออกไซด์โปรปิลี นออกไซด์บิวทิลออกไซด์เอทธิลีนออกไซด์/โปรปิลีนออกไซด์ที่ อัตราส่วน0.1/9.9ถึง9.9/0.1หรือเอทธิลีนออกไซด์/บิวทิลลีนอ อกไซด์ที่อัตรส่วน0.1/9.9ถึง9.9/0.1ซึ่งคาร์บอกซิเทลดัง กล่าวมีหมู่อัลคิลหรืออัลคีนิลซึ่งมีจำนวนคาร์บอนโดย เฉลี่ย10ถึง20อะตอม (8)เกลือของกรด(อักษรเคมี)ซัลโฟแฟตตี้ที่มีสูตร (สูตรเคมี) ซึ่งYคือหมู่อัลคิลที่มีคาร์บอนจาก1ถึง3อะตอมหรืออิออนตรง กันข้าม(counter ion)Zคืออิออนตรงกันข้ามและR7คือ หมู่อัลคิลหรืออัลเค็นนิลที่มีคาร์บอนจาก10ถึง20อะตอมหรือ เอสเทอร์ของสารนี้ (9)สารลดแรงตึงผิวประเภทกรดอมิโนที่มีสูตรต่างๆดังนี้ (สูตรเคมี) ซึ่งR8คือหมู่อัลคิลหรืออัลเค็นนิลที่มีคาร์บอน จาก8ถึง24อะตอมR9คือไฮโดรเจนหรือหมู่อัลคิลที่มี คาร์บอน1หรือ2อะตอมR10คือส่วนที่เป็นหมู่กรดอมิโนและXคืออิ ออนของโลหะอัลคาไลหรือโลหะอัลคาไลน์เอิร์ธ (สูตรเคมี) ซึ่งR8,R9และXมีความหมายดังข้างต้นและnlเป็นเลขจำนวนเต็ม ตั้งแต่1ถึง5 (สูตรเคมี) ซึ่งR8และXมีความหมายดังข้างต้นและmlเป็นเลขจำนวนเต็มตั้ง แต่1ถึง8 (สูตรเคมี) ซึ่งR8,R10และXมีความหมายดังข้างต้นและR11คือไฮโดรเจนหรือ หมู่อัลคิลหรือไฮดรอกซีอัลคิลที่มีคาร์บอน1ถึง2อะตอม (สูตรเคมี) ซึ่งR9,R10และXมีความหมายดังข้างต้นและR12คือหมู่(อักษร เคมี)-ไฮดรอกซีอัลคิลหรือ(อักษรเคมี)-ไฮดรอกซีอัลเค็นนิล ที่มีคาร์บอน6ถึง28อะตอมและ (สูตรเคมี) ซึ่งR9,R10และXมีความหมายดังข้างต้น (10)สารลดแรงตึงผิวประเภทเอสเทอร์ของกรดฟอสฟอริคซึ่งเลือก จากหมู่ที่ประกอบด้วย (i)เอสเทอร์ของกรดอัลคิล-หรืออัลเค็นนิลฟอสฟอริคที่มี ฤทธิ์เป็นกรดซึ่งมีสูตร (สูตรเคมี) ซึ่งR8มีความหมายดังข้างต้นและn2และm2คือค่าที่เป็นไปตาม สมการn2+m2=3โดยมีเงื่อนไขว่าn2คือค่าตั้งแต่1หรือ2 (ii)เอสเทอร์ของกรดอัลคิล-หรืออัลเค็นนิลฟอสฟอริคที่ใช้ แทนด้วยสูตร (สูตรเคมี) ซึ่งR8มีความหมายดังข้างต้น (iii)เกลือของเอสเทอร์ของกรดอัลคิลหรืออัลเค็นนิลฟอสฟอริค ที่มีสูตร (สูตรเคมี) ซึ่งR8มีความหมายดังข้างต้นnหมายถึงโซเดียมโปแตสเซียมหรือ แคลเซียมและn3และm3คือค่าที่เป็นไปตามสมการn3+m3=3โดยมี เงื่อนไขว่าn3คือค่าจาก1ถึง3 (11)สารลดแรงตึงผิวที่ถือประจุทั้งบวกและลบในประเภท กรดซัลโฟนิคที่เลือกจากหมู่ที่ประกอบด้วย (สูตรเคมี) ซึ่งR8มีความหมายดังข้างต้นR13คือหมู่อัลคิลลีนที่มี คาร์บอน1ถึง5อะตอมR14คือหมู่อัลคิลที่มีคาร์บอน1ถึง4อะตอม และR15คือหมู่อัลคิลลีนหรือไฮดรอกซีอัลคิลที่มี คาร์บอน1ถึง4อะตอม (สูตรเคมี) ซึ่งR8และR15มีความหมายดังข้างต้นR16และR17โดยเป็นอิสระต่อ กันต่างใช้แทนหมู่อัลคิลที่มีคาร์บอน8ถึง24อะตอมหรือ หมู่อัลเค็นนิลที่มีคาร์บอน1ถึง5อะตอม (สูตรเคมี) ซึ่งR8และR15มีความหมายดังข้างต้นและm4เป็นเลขจำนวนเต็ม ตั้งแต่1ถึง20 (12)สารลดแรงตึงผิวที่ถือประจุทั้งบวกและลบในประเภทมีเทน ซึ่งเลือกจากหมู่ที่ประกอบด้วย (สูตรเคมี) ซึ่งR18คือหมู่อัลคิลอัลเค็นนิล(อักษรเคมี)-อัลคอกซีอัลคิล หรือ(อักษรเคมี)-ไฮดรอกซีอัลเค็นนิลที่มีคาร์บอน จาก8ถึง24อะตอมR19คือหมู่C1-4อัลคิลR20คือหมู่อัลคิลลีน หรือไฮดรอกซีอัลคิลลีนที่มีคาร์บอนจาก1ถึง6อะตอม (สูตรเคมี) ซึ่งR18,R20และnมีความหมายดังข้างต้นและ (สูตรเคมี) ซึ่งR18,R20มีความหมายดังข้างต้นและR21-คือหมู่คาร์บอก ซีอัลคิลหรือไฮดรอกซีอัลคิล (13)โพลีออกซีเอทธิลลีนอัลคิลหรืออัลเค็นนิลอีเธอร์ที่ เติมเอทธิลลีนออกไซด์จาก1ถึง20โมลและหมีหมู่อัลคิล หรืออัลเค็นนิลที่มีคาร์บอนโดยเฉลี่ยตั้งแต่10ถึง20อะตอม (14)โพลีออกซีเอทธิลลีนอัลคิลเฟนนิลอีเธอร์ที่เติมเอทธิล ลีนออกไซด์จาก1ถึง20โมลและมีหมู่อัลคิลที่มีจำนวนคาร์บอน โดยเฉลี่ย6ถึง12อะตอม (15)โพลีออกซีโปรปิลลีนอัลคิลหรืออัลเค็นนิลอีเธอร์ที่ เติมโปรปิลลีนออกไซด์จาก1ถึง20โมลและมีหมู่อัลคิล หรืออัลเค็นนิลที่มีจำนวนคาร์บอนโดยเฉลี่ยตั้ง แต่10ถึง20อะตอม (16)โพลีออกซีโปรปิลลีนอัลคิลหรืออัลเค็นนิลอีเธอร์ที่ เติมบิวทิลลีนออกไซด์จาก1ถึง20โมลและมีหมู่อัลคิล หรืออัลเค็นนิลที่มีจำนวนคาร์บอนโดยเฉลี่ยจาก10ถึง20อะตอม (17)สารลดแรงตึงผิวประเภทไม่ถือประจุที่เป็นสารที่ได้จาก การเติมเอทธิลลีนออกไซด์/โปรปิลลีนออกไซด์หรือเอทธิลลีนออก ไซด์/บิวทิลลีนออกไซด์รวมทั้งสิ้น1ถึง30โมลโดยที่อัตราส่วน ของเอทธิลลีนออกไซด์/โปรปิลลีนออกไซด์หรือเอทธิลลีนออก ไซด์/บิวทิลลีนออกไซด์อยู่ในช่วง0.1/9.9ถึง9.9/0.1และเป็น สารซึ่งมีหมู่อัลคิลหรืออัลเค็นนิลที่มีจำนวนคาร์บอนโดย เฉลี่ยจาก10ถึง20อะตอม (18)อัลคานอลลามีดของกรดไขมันที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูงที่มี สูตร (สูตรเคมี) ซึ่งR7มีความหมายดังข้างต้นR22คือไฮโดรเจนหรือเมทธิลn5ใช้ แทนเลขจำนวนเต็มจาก1ถึง3และm5ใช้แทนเลขจำนวนเต็ม จาก0ถึง3หรือสารที่ได้จากการรวมตัวระหว่างอัลคิลลีนออกไซด์ กับสารเหล่านี้ (19)กลีเวอรอลโมโนเอสเทอร์ของกรดไขมันที่มีจำนวนคาร์บอน โดยเฉลี่ยจาก10ถึง20อะตอม (20)อัลคิลลามีนออกไซด์ที่มีสูตร (สูตรเคมี) ซึ่งR7มีความหมายดังข้างต้นR23และR24โดยเป็นอิสระต่อกัน ต่างใช้แทนหมู่อัลคิลลีนที่มีคาร์บอน1ถึง3อะตอมและ (21)สารลดแรงตึงผิวประเภทถือประจุบวกที่มีสูตร (สูตรเคมี) ซึ่งอย่างน้อยหนึ่งสัญลักษณ์ของR25,R26,R27และR28คือ หมู่อัลคิลหรืออัลเค็นนิลที่มีคาร์บอนจาก8ถึง24อะตอมและ หมู่Rที่เหลือต่างเป็นหมู่อัลคิลที่มีคาร์บอน1ถึง5อะตอม และX\'คือฮาโลเจน (สูตรเคมี) ซึ่งR25,R26,R27และX\'มีความหมายดังข้างต้นและ (สูตรเคมี) ซึ่งR25,R26,X\'และnมีความหมายดังข้างต้นและR28เป็น หมู่อัลคิลลีนนที่มีคาร์บอน2ถึง3อะตอม 5.สารเพิ่มความหนืดที่ละลายน้ำได้ดังในข้อถือสิทธิ4ที่ ซึ่งกรดไขมันที่แตกแขนงที่ตำแหน่ง(อักษรเคมี)ดังกล่าวมี สูตร (สูตรเคมี) ซึ่งR1คือหมู่อัลคิลหรืออัลเค็นนิลประเภทเชนตรงหรือแตกแขนง ที่มีคาร์บอน4ถึง18อะตอมและR2เป็นหมู่อัลคิลหรืออัลเค็นนิล ประเภทเชนตรงหรือแตกแขนงที่มีคาร์บอน2ถึง16อะตอม 6.สารเพิ่มความหนืดที่ละลายน้ำได้ดังในข้อถือสิทธิ4ที่ซึ่ โพลีไฮดริคอัลกอฮอล์ดังกล่าวเป็นอัลกอฮอล์ชนิดไตรวาเลนท์ เป็นอย่างน้อย 7.สารเพิ่มความหนืดที่ละลายน้ำได้ดังในข้อถือสิทธิ4ที่ ซึ่งกรดไขมันที่แตกแขนงที่ตำแหน่ง(อักษรเคมี)ดังกล่าวเลือก จากหมู่ที่ประกอบด้วยกรด2-เอทธิลเฮกซาโนอิคกรด2-เอทธิลไอ โซ-เฮกซาโนอิคกรด2-โปรปิลเฮปตาโนอิคกรด2-โปรปิล-ไอโซ-เฮปตา โนอคิกรด2-บิวทิลออคตาโนอิคกรด2-ไอโซบิวทิลออคตาโนอิค กรด2-เทนติลโนนาโนอิคกรด2-ไอโซ-เพนติลโนนาโนอิคกรด2-เฮก ซิลเตคคาโนอิคกรด2-เฮกซิล-ไอโวเดคคาโนอิคกรด2-บิวทิลโดเดค คาโนอิคกรด2-ไอโซ-บิวทิล-โดเดคคาโนอิคกรด2-เฮปติลอันเดคคา โนอิคกรด2-ไอโซเฮปติลอับเดคคาโนิคกรด2-ไอโซเฮปติล-ไอ โซ-อันเดคคาโนอิคกรด2-โคเดคซิลเฮกซาโนอิคกรด2-ไอโซ-โดเดค ซิลเฮกซาโนอิคกรด2-ออคติลโดเดคคาโนอิคกรด2-ไอโซ-ออคติล โดเดคคา โนอิคกรด2-ออคติล-ไอโซ-โดเดคคาโนอิคกรด2-โนนิลไตตเดคคา โนอิคกรด2-ไอโซโนนิล-ไอโซ-ไตรเดคคาโนอิคกรด2-เดคซิล-โดเดค คาโนอิคกรด2-ไอโว-เดคซิลโดเดคคาโนอิคกรด2-เดคซิล-ไอ โซ-โดเดคคาโนอิคกรด2-เดคซิลเตตราเดคคาโนอิคกรด2-ออกติลเฮก ซาเดคคาโนอิคกรด2-ไอโซ-ออกติลเฮกซาเดคคาโนอิคกรด2-อันเดค ซิลเพนตาเดคคาโนอิคกรด2-ไอโวอันเดคซิลเพนตาเดคคาโนอิค กรด2-โดเดคซิลเฮปตาเดคคาโนอิคกรด2-ไอโซ-โดเดคซิล-ไอโซ-เฮป ตาเดคคาโนอิค กรด2-เดคซิลออกตาเดคคาโนอิคกรด2-เดคซิล-ไอ โซ-ออกซาเดคคาโนอิคกรด2-ไตรเดคซิลเฮปตาเดคคาโนอิคกรด2-ไอ โซ-ไตรเดคซิล-ไอโซ-เฉปตาเดคคาโนอิคกรด2-เตตราเดคซิลออก ตาเดคคาโนอิคกรด2-ไอโซ-เตตราเดคซิลออคตาเดคคาโนอิคกรด2-เฮก วาเดคซิล-ไอ โซ-เฮกซาเดคคาโนอิค กรด2-ไอโซ-เฮกวาเดคซิล-เฮกซาเดคคาโนอิค กรด2-เพนตาเดคซิลโนนาเดคคาโนอิคกรด2-ไอโซ-เพนตาเดคซิล-ไอ โซ-โนนาเดคคาโนอิคกรด2-เตตราเดคซิลมีเฮนิคกรด2-ไอโซ-เต ตราเดคซิลบีเฮนิคกรด2-ไอโซ-เตตราเดคซิลบีเฮนิคกรด2-เต ตราเดคซิล-ไอโซ-บีเฮนิคและกรด2-ไอโซ-เตตราเดคซิล-ไอโซ-บีเฮ นิค 8.สารผสมสำหรับซักล้างที่เป็นของเหลวดังในข้อถือสิทธิ4ที่ ซึ่งโพลีไฮดริคอัลกอฮอล์ดังกล่าวคือกลีเซอรอลไตรเมทธิลลอล โปรเปนเพนตาอีริลไธรตอลอาราบินิตอลไซลิตอลซอร์บิตอลแมนนิ ตอลแกแลคติตอลเฮปตีตอลอินอสตอลซอร์บิแทนซอร์ไบด์กลูโคสแก แลคโตสแมนโนสมอลโตสฟรุคโตสซูโครสแลคโตรสบอลติตอลแลคติ ตอลเมทธิลกลูโคไซด์เมทธิลแกแลคโตไซด์เมทธิลแมนโนไซด์ และเมทธิลมอลโตไซด์ 9.สารผสมสำหรับซักล้างที่เป็นของเหลวดังในข้อถือสิทธิ4ที่ ซึ่งองค์ประกอบสารลดแรงตึงผิว(A)เป็นสารลดแรงตึง ผิวอัลคิลซัลเฟตประเภทถือประจุลบชนิดเชตรงหรือแตกแขนงที่มี จำนวนคาร์บอนโดยเฉลี่ยจาก10ถึง16อะตอมโพลีออกซีเทธิล ลีนอัลคิลซัลเฟตมีอยู่เป็น0.5ถึง8โมลของPOEที่เติมต่อ โมเลกุลและมีหมู่อัลคิลซึ่งมีจำนวนคาร์บอนโดยเฉลี่ยอยู่ใน ช่วงจาก8ถึง20อะตอมอัลคิลฟอสเฟตที่มีจำนวนคาร์บอนโดยเฉลี่ย จาก8ถึง16อะตอมโอเลฟินซัลโฟเนทที่มีจำนวนคาร์บอนโดยเฉลี่ย จาก10ถึง16อะตอมสารลดแรงตึงผิวไม่ถือประจุของโมโนหรือไดอัล คานอลอามีดของกรดไขมันที่มีน้ำหนักโมเลกุลซึ่งมีจำนวน คาร์บอนโดยเฉลี่ยจาก10ถึง14อะตอมหรือสารลดแรงตึงผิวที่ถือ ประจุทั้งบวก และลบประเภทอัลคิลลามีนออกไซด์อังคิลบีเทนหรืออิมิดาโซลีน ซึ่งต่างก็มีจำนวนคาร์บอนโดยเฉลี่ยจาก10ถึง14อะตอม (ข้อถือสิทธิ 9 ข้อ, 15 หน้า, รูป)