TH1505B

TH1505B - การออกซิเดชั่นมีเธนไปเป็นไฮโดรคาร์บอนขนาดใหญ่ขึ้นชนิดต่างๆ

Info

Publication number: TH1505B
Application number: TH8601000279A
Authority: TH
Inventors: เบลีย์ คิมเบิล นายเจมส์; เฮนรี โคลท์ซ นายจอห์น
Original assignee: นายดำเนิน การเด่น
Filing date: 1986-06-05
Publication date: 1989-09-12

Abstract

วิธีการสำหรับการแปลงเปลี่ยนเชิงออกซิเดทีฟสารป้อนชนิดหนึ่ง ซึ่งประกอบด้วยมีเธน เช่น ก๊าซธรรมชาติ ไปเป็นสารไฮโดรคาร์บอนขนาดใหญ่ขึ้นชนิดต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอธิลีน และเอเธน และโดยความตั้งใจแล้วให้เป็นเอธิลีน ที่ซึ่งสารป้อนถูกให้สัมผัสกับวัสดุสัมผัสชนิดหนึ่งซึ่งประกอบด้วยโคบอลต์, โลหะซึ่งเลือกจากกลุ่มซึ่งประกอบด้วยเซอร์โคเนียม,สังกะสี, ไนโอเปียม, อินเดียม, ตะกั่ว และบิสมัท อย่างน้อยที่สุดตัวหนึ่ง ซึ่งโดยเหมาะแล้วเป็นเซอร์โคเนียม, ฟอสฟอรัส, โลหะกรุ๊ฟ IA อย่างน้อยที่สุดตัวหนึ่ง และออกซิเจนภายใต้สภาวะการแปลงเปลี่ยนเชิงออกซิเดทีฟที่เพียงพอต่อการแปลงเปลี่ยนมีเธนไปเป็นสารไฮโดรคาร์บอนขนาดใหญ่ขึ้นชนิดต่างๆ การปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างมากในการแปลงเปลี่ยนมีเธน และซิเลคทิวิทีไปเป็นเอธิลีน และเอเธนจะได้รับโดยการเติมคลอรีนให้ค่าวัสดุสัมผัส การเติมซัลเฟอร์เพิ่มเข้าไปอีกให้แก่วัสดุสัมผัสยังช่วยปรับปรุงการแปลงเปลี่ยนและซิเลคทิวิทีให้ดีขึ้นอีกด้วย และยังยอมให้วิธีการดังกล่าวดำเนินการโดยหลักแล้วเป็นแบบต่อเนื่อง โดยมีก๊าซที่มีออกซิเจนอิสระชนิดหนึ่งอยู่ด้วย

Claims

1. วิธีการแปลงเปลี่ยนเชิงออกซิเดทีฟ ของมีเธน ไปเป็นสารไฮโดรคาร์บอนขนาดใหญ่ขึ้นชนิดต่างๆ ซึ่งประกอบด้วย การให้สารป้อนชนิดหนึ่งซึ่งประกอบด้วยมีเธนสัมผัสกับวัสดุสัมผัสของ แข็งชนิดหนึ่งซึ่งประกอบด้วย โคบอลต์; อย่างน้อยที่สุดโลหะชนิดหนึ่งที่เลือกจากกลุ่มอันประกอบด้วยเซอร์โคเนียม สังกะสี ไนโอเปียม อินเดียม ตะกั่ว และบิสมัท ฟอสฟอรัส โลหะกลุ่ม IA อย่างน้อยที่สุดหนึ่งชนิด และออกชิเจน ภายใต้สภาพการแปลงเปลี่ยนเชิงออกซิเดทีฟ ที่เพียงพอที่จะแปลงเปลี่ยนมีเธนดังกล่าวไปเป็นสารไฮโดรคาร์บอนขนาดใหญ่ขึ้นดังกล่าว

2. วิธีการตามข้อถือสิทธิ์ข้อที่ 1 ที่ซึ่งสารป้อนคือก๊าซธรรมชาติ

3. วิธีการตามข้อถือสิทธิ์ข้อที่ 1 ที่ซึ่งโลหะที่เลือกจากกลุ่มอันประกอบ ด้วย เซอร์โคเนียม, สังกะสี, ไนโอเบียม,อินเดียม, ตะกั่ว และบิสมัท หรือเซอร์โคเนียม

4. วิธีการตามข้อถือสิทธิ์ข้อที่ 1 ที่ซึ่งโลหะกลุ่ม IA โซเดียม

5. วิธีการตามข้อถือสิทธิ์ข้อที่ 1 ที่ซึ่งวัสดุสัมผัสได้รับการเตรียมขึ้นโดย การรวมสารประกอบชนิดต่างๆ ของธาตุต่างๆ แล้วแคลไซน์สารประเภทที่รวมกันนั้นในบรรยากาศที่ปราศจากออกซิเจน

6. วิธีการตามข้อถือสิทธิ์ข้อที่ 1 ที่ซึ่งวัสดุสัมผัสได้รับการเตรียมขึ้นโดย การรวมสารประกอบต่างๆ ของธาตุต่างๆ การแคลไซน์สารประกอบที่รวมกันนั้นในก๊าซที่มีออกซิเจนอิสระชนิดหนึ่ง การบรรจุวัสดุสัมผัสที่ถูกแคลไซน์แล้วนั้นไว้ในเขตปฏิกิริยาเขตหนึ่ง ปฏิบัติการขั้นต้นต่อวัสดุสัมผัสนั้นโดยการผ่านรีดิวซิงก๊าซชนิดหนึ่งไปยังวัสดุสัมผัสในเขตปฏิกิริยาดังกล่าวและแล้ว ผ่านสารป้อนไปยังวัสดุสัมผัสนั้น

7. วิธีการตามข้อถือสิทธิ์ข้อที่ 6 ที่ซึ่งรีดิวซิงก๊าซคือมีเธน

8. วิธีการตามข้อถือสิทธิ์ข้อที่ 1 ที่ซึ่งอุณหภูมิของการสัมผัสอย่างน้อยที่สุดเท่ากับประมาณ 500 ซ.

9. วิธีการตามข้อถือสิทธิ์ข้อที่ 1 ที่ซึ่งอุณหภูมิของการสัมผัสอยู่ระหว่างประมาณ 500 ซ. กับ 1500 ซ. 1

0. วิธีการตามข้อถือสิทธิ์ข้อที่ 1 ที่ซึ่งวัสดุสัมผัสนั้นยั้งประกอบต่อไปอีกด้วยสารอย่างน้อยที่สุดหนึ่งชนิดที่เลือกจากกลุ่มอันประกอบด้วยเฮโลเจน และ ซัลเฟอร์ 1

1. วิธีการตามข้อถือสิทธิ์ข้อที่ 10 ที่ซึ่งวัสดุสัมผัสยังประกอบต่อไปด้วยคลอรีน 1

2. วิธีการตามข้อถือสิทธิ์ข้อที่ 1 ที่ซึ่งวัสดุสัมผัสประกอบด้วยโพแทสเซียมเพิ่มขึ้นอีกชนิดหนึ่ง 1

3. วิธีการตามข้อถือสิทธิ์ข้อที่ 10 ที่ซึ่งวัสดุสัมผัสยังประกอบต่อไปอีกด้วยซัลเฟอร์ 1

4. วิธีการตามข้อถือสิทธิ์ข้อที่ 10 ที่ซึ่งวัสดุสัมผัสยังประกอบต่อไปอีกด้วยทั้งคลอรีนและซัลเฟอร์ 1

5. วิธีการตามข้อถือสิทธิ์ข้อที่ 10 ที่ซึ่งวัสดุสัมผัสยังประกอบต่อไปอีกด้วยทั้งเฮโลเจนและซัลเฟอร์ 1

6. วิธีการตามข้อถือสิทธิ์ข้อที่ 10 ที่ซึ่งวัสดุสัมผัสยังประกอบต่อไปด้วยเฮโลเจนชนิดหนึ่ง 1

7. วิธีการตามข้อถือสิทธิ์ข้อที่ 13 ที่ซึ่งสารป้อนสัมผัสกับวัสดุสัมผัสในที่มีก๊าซที่มีออกซิเจนอิสระหนึ่งชนิด 1

8. วิธีการตามข้อถือสิทธิ์ข้อที่ 17 ที่ซึ่งดำเนินวิธีการในลักษณะซึ่งโดยหลักแล้วต่อเนื่อง 1

9. วิธีการตามข้อถือสิทธิ์ข้อที่ 17 ที่ซึ่งอัตราส่วนเชิงปริมาตรของมีเธนต่อออกซิเจนอิสระอย่างน้อยที่สุดเท่ากับประมาณ 1/1 2

0. วิธีการตามข้อถือสิทธิ์ข้อที่ 17 ที่ซึ่งอัตราส่วนเชิงปริมาตรของมีเธนต่อออกซิเจนอิสระอยู่ระหว่างประมาณ 1/1 กับประมาณ 30/1