TH127401A - กรรมวิธีสำหรับการผลิตไดเมธิลคาร์บอเนตความบริสุทธิ์สูง - Google Patents

Abstract

DC60 (21/03/61) กรรมวิธีสำหรับการผลิตไดเมธิลคาร์บอเนตความบริสุทธิ์สูง, ประกอบรวมด้วย - การทำให้ไคเมธิลคาร์บอเนตเกรดทางการค้าอย่างน้อยที่สุดหนึ่งชนิดที่มีปริมาณคลอรีน สูงกว่า 1 ส่วนในล้านส่วน, ถ้าจะให้ดีคือในช่วงจาก 10 ถึง 100 ส่วนในล้านส่วน, อยู่ภายใต้การทำให้ เย็น ซึ่งปฏิบัติการที่อุณหภูมิการทำให้เย็นในช่วงจาก +6องศาเซลเซียส ถึง -5องศาเซลเซียส, ถ้าจะให้ดีคือในช่วงจาก +5องศาเซลเซียส ถึง -3องศาเซลเซียส และที่อัตราการทำให้เย็นในช่วงจาก 0.5องศาเซลเซียส/ชั่วโมง ถึง 2องศาเซลเซียส/ชั่วโมง, ถ้าจะให้ดีคือในช่วงจาก 0.8องศาเซลเซียส/ชั่วโมง ถึง 1.5องศาเซลเซียส/ชั่วโมง, เพื่อทำให้ได้มาซึ่งไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของแข็ง; - การทำให้ไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของแข็งดังกล่าวอยู่ภายใต้การให้ความร้อนครั้งที่หนึ่ง, ซึ่งปฏิบัติการที่อุณหภูมิการให้ความร้อนในช่วงจาก -5องศาเซลเซียส ถึง +6องศาเซลเซียส, ถ้าจะให้ดีคือในช่วงจาก -3องศาเซลเซียส ถึง +5องศาเซลเซียส และที่อัตราการให้ความร้อนในช่วงจาก 1องศาเซลเซียส/ชั่วโมง ถึง 5องศาเซลเซียส/ชั่วโมง, ถ้าจะให้ดีคือใน ช่วงจาก 1.5องศาเซลเซียส/ชั่วโมง ถึง 4องศาเซลเซียส/ชั่วโมง, เพื่อทำให้ได้มาซึ่งของผสมที่ประกอบรวมด้วยไดเมธิล คาร์บอเนตในรูปของแข็ง และไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของเหลวในปริมาณตามที่กำหนดไว้ก่อน ล่วงหน้า; - การแยกไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของเหลวดังกล่าวออกจากของผสมดังกล่าวเพื่อทำให้ ได้มาซึ่งไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของแข็ง; - การทำให้ไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของแข็งดังกล่าวอยู่ภายใต้การให้ความร้อนครั้งที่สอง, ซึ่งปฏิบัติการที่อุณหภูมิการให้ความร้อนในช่วงจาก 20องศาเซลเซียส ถึง 40องศาเซลเซียส, ถ้าจะให้ดีคือในช่วงจาก 25องศาเซลเซียส ถึง 35องศาเซลเซียส เพื่อให้ได้มาซึ่งไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของเหลว, ไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของเหลว ดังกล่าวมีระดับขั้นความบริสุทธิ์สูงกว่า 99.99% และมีปริมาณคลอรีนตํ่ากว่าหรือเท่ากับ 1 ส่วนใน ล้านส่วน ไดเมธิลคาร์บอเนตดังกล่าวสามารถนำมาใช้โดยเฉพาะเป็นตัวทำละลายอินทรีย์ใน อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิก, อย่างจำเพาะเจาะจงยิ่งไปกว่านั้นคือเป็นตัวทำละลายอินทรีย์สำหรับ การผลิตอิเล็กโทรไลต์ของลิเทียมแบตเตอรี่ ------21/03/2561------(OCR) หน้า 1 ของจำนวน 1 หน้า บทสรุปการประดิษฐ์ กรรมวิธีสำหรับการผลิตไดเมธิลคาร์บอเนตความบริสุทธิสูง, ประกอบรวมด้วย: - การทำให้ไคเมธิลคาร์บอเนตเกรดทางการค้าอย่างน้อยที่สุดหนึ่งชนิดที่มีปริมาณคลอรีน สูงกว่า 1 ส่วนในล้านส่วน,ถ้าจะให้ดีคือในช่วงจาก 10ถึง 100ส่วนในล้านส่วน,อยู่ภายใต้การทำให้ เย็น ซึ่งปฏิบัติการที่อุณหภูมิการทำให้เย็นในช่วงจาก +6?ซ ถึง -5?ซ, ล้าจะให้ดีคือในช่วงจาก +5๐ซ ถึง -3?ซ และที่อัตราการทำให้เย็นในช่วงจาก 0.5๐ซ/,ชั่วโมง ถึง 2๐'ช/'ชั่วโมง, ล้าจะให้ดีคือในช่วงจาก 0.8?ซ/'ชั่วโมง ถึง 1.5?ซ/ชั่วโมง, เพื่อทำให้ได้มาซึ่งไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของแข็ง; - การทำให้ไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของแข็งดังกล่าวอยู่ภายใต้การให้ความร้อนครังที่หนึ่ง, ซึ่งปฏิบัติการที่อุณหภูมิการให้ความร้อนในช่วงจาก -5๐ซ ถึง +6๐ซ, ล้าจะให้ดีคือในช่วงจาก -3?ซ ถึง +5?ซ และที่อัตราการให้ความร้อนในช่วงจาก 1๐ซ/ชั่วโมง ถึง 5๐ช/'ชั่วโมง, ล้าจะให้ดีคือใน ช่วงจาก 1.5?ซ/'ชั่วโมง ถึง 4๐ซ/ชั่วโมง, เพื่อทำให้ได้มาซึ่งของผสมที่ประกอบรวมด้วยไดเมธิล คาร์บอเนตในรูปของแข็ง และไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของเหลวในปริมาณตามที่กำหนดไว้ก่อน ล่วงหน้า; - การแยกไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของเหลวดังกล่าวออกจากของผสมดังกล่าวเพื่อทำให้ ได้มาซึ่งไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของแข็ง; - การทำให้ไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของแข็งดังกล่าวอยู่ภายใต้การให้ความร้อนครังที่สอง, ซึ่งปฏิบัติการที่อุณหภูมิการให้ความร้อนในช่วงจาก 20๐ช ถึง 40?ซ, ล้าจะให้ดีคืลในช่วงจาก 25๐ซ ถึง 35๐ซ เพื่อให้ได้มาซึ่งไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของเหลว, ไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของเหลว ดังกล่าวมีระดับขันความบริสุทธิสูงกว่า 99.99% และมีปริมาณคลอรีนตํ่ากว่าหรือเท่ากับ 1 ส่วนใน ล้านส่วน ไดเมธิลคาร์บอเนตดังกล่าวสามารถนำมาใช้โดยเฉพาะเป็นตัวทำละลายอินทรีย์ใน อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิก, อย่างจำเพาะเจาะจงยิ่งไปกว่าบันคือเป็นตัวทำละลายอินทรีย์สำหรับ การผลิตอิเล็กโทรไลต์ของลิเทียมแบตเตอรี่ ------------ แก้ไข 17/01/2560 กรรมวิธีสำหรับการผลิตไดเมธิลคาร์บอเนตความบริสุทธิ์, สูงประกอบรวมด้วย: - การทำให้ไดเมธิลคาร์บอเนตเกรดทางการค้าอย่างน้อยที่สุดหนึ่งชนิดที่มีปริมาณคลอรีน สูงกว่า 1 ส่วนในล้านส่วน, ถ้าจะให้ดีคือในช่วงจาก 10 ถึง 100 ส่วนในล้านส่วน, อยู่ภายใต้การทำให้ เย็น ซึ่งปฎิบัติการที่อุณหภูมิการทำให้เย็นในช่วงจาก +6ํซ ถึง -5ํซ, ถ้าจะให้ดีคือในช่วงจาก +5ํซ ถึง -3ํซ และที่อัตราการทำให้เย็นในช่วงจาก 0.5ํซ/ชั่วโมง ถึง 2ํซ/ชั่วโมง, ถ้าจะให้ดีคือจาก 0.8ํซ/ชั่วโมง ถึง 1.5ํซ/ชั่วโมง, เพื่อทำไห้ได้มาซึ่งไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของแข็ง; - การทำให้ไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของแข็งดังกล่าวอยู่ภายใต้การให้ความร้อนครั้งที่หนึ่ง, ซึ่งปฏิบัติการที่อุณหภูมิการให้ความร้อนในช่วงจาก -5ํซ ถึง +6ํซ, ถ้าจะให้ดีคือในช่วงจาก -3ํซ ถึง +5ํซ และที่อัตราการให้ความร้อนในช่วงจาก 1ํซ/ชั่วโมง ถึง 5ํซ/ชั่วโมง, ถ้าจะให้ดีคือใน ช่วงจาก 1.5ํซ/ชั่วโมง ถึง 4ํซ/ชั่วโมง, เพื่อทำให้ได้มาซึ่งของผสมที่ประกอบรวมด้วยไดเมธิล คาร์บอเนตในรูปของแข็ง และไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของเหลวในปริมาณตามที่กำหนดไว้ก่อน ล่วงหน้า; - การแยกไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของเหลวดังกล่าวออกจากของผสมดังกล่าวเพื่อทำให้ ได้มาซึ่งไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของแข็ง; - การทำให้ไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของแข็งดังกล่าวอยู่ภายใต้การให้ความร้อนครั้งที่สอง, ซึ่งปฏิบัติการที่อุณหภูมิการให้ความร้อนในช่วงจาก 20ํซ ถึง 40ํซ, ถ้าจะให้ดีคือในช่วงจาก 25ํซ ถึง 35ํซ เพื่อให้ได้มาซึ่งไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของเหลว, ไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของเหลว ดังกล่าวมีระดับขั้นความบริสุทธิสูงกว่า 99.99% และมีปริมาณคลอรีนตํ่ากว่าหรือเท่ากับ 1 ส่วนใน ล้านส่วน ไดเมธิลคาร์บอเนตดังกล่าวสามารถนำมาใช้โดยเฉพาะเป็นตัวทำละลายอินทรีย์ใน อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิก, อย่างจำเพาะเจาะจงยิ่งไปกว่านั้นคือเป็นตัวทำละลายอินทรีย์สำหรับ การผลิตอิเล็กโทรไลต์ของลิเทียมแบตเตอรี่ ------------------------------------------------------------------------------- กรรมวิธีสำหรับการผลิตไดเมธิลคาร์บอเนตความบริสุทธิ์สูงประกอบรวมด้วย - การทำให้ไดเมธิลคาร์บอเนตเกรดทางการค้าอย่างน้อยที่สุดหนึ่งชนิดที่มีปริมาณคลอรีนสูง กว่า 1 ส่วนในล้านส่วน, ถ้าจะให้ดีคือในช่วงจาก 10 ถึง 100 ส่วนในล้านส่วน, อยู่ภายใต้การทำให้เย็น ซึ่งปฏิบัติการที่อุณหภูมิการทำให้เย็นในช่วงจาก +6 ํซ ถึง -5 ํซ, ถ้าจะให้ดีคือในช่วงจาก +5 ํซ ถึง ซึ่งปฏิบัติการที่อุณหภูมิการทำให้เย็นในช่วงจาก 0.5 ํซ/ชั่วโมง ถึง 2 ํซ/ชั่วโมง, ถ้าจะให้ดีคือจาก 0.8 ํซ/ชั่วโมง ถึง 1.5 ํซ/ชั่วโมง เพื่อทำให้ได้มาซึ่งไอเมธิลคาร์บอเนตในรูปของแข็ง - การทำให้ไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของแข็งดังกล่าวอยู่ภายใต้การให้ความร้อนครั้งที่หนึ่ง, ซึ่งปฏิบัติการที่อุณหภูมิการให้ความร้อนในช่วงจาก -5 ํซ ถึง +6 ํซ, ถ้าจะให้ดีคือในช่วงจาก -3 ํซ ถึง +5 ํซ และที่อัตราการให้ความร้อนในช่วงจาก 1 ํซ/ชั่วโมง ถึง 5 ํซ/ชั่วโมง, ถ้าจะให้ดีคือในช่วงจาก 1.5 ํซ/ชั่วโมง ถึง 4 ํซ/ชั่วโมง เพื่อทำให้ได้มาซึ่งของผสมที่ประกอบรวมด้วยไดเมธิคาร์บอเนตในรูป ของแข็งและไดเมธิคาร์บอเนตในรูปของเหลวในปริมาณตามที่กำหนดไว้ก่อนล่วงหน้า -การแยกไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของเหลวดังกล่าวออกจากของผสมดังกล่าวเพื่อทำให้ ได้มาซึ่งไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของแข็ง - การทำให้ไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของแข็งดังกล่าวอยู่ภายใต้การให้ความร้อนครั้งที่สอง, ซึ่งปฏิบัติการที่อุณหภูมิการให้ความร้อนในช่วงจาก 20 ํซ ถึง 40 ํซ. ถ้าจะให้ดีคือในช่วงจาก 25 ํซ ถึง 35 ํ ซ เพื่อให้ได้มาซึ่งไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของเหลว, ไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของเหลวดังกล่าวมี ระดับขั้นความบริสุทธิ์สูงกว่า 99.99% และมีปริมาณคลอรีนต่ำกว่าหรือเท่ากับ 1 ส่วนในล้านส่วน ไดเมธิลคาร์บอตดังกล่าวสามารถนำมาใช้โดยเฉพาะเป็นตัวทำละลายอินทรีย์ใน อุตสาหกรรมอิเล็ทรอนิก, อย่างจำเพาะเจาะจงยิ่งไปกว่านั้นคือเป็นตัวทำละลายอินทรีย์สำหรับการ ผลิตอิเล็กโทรไลต์ของลิเทียมแบตเตอรี่:

Claims (9)

ข้อถือสิทธฺ์ (ทั้งหมด) ซึ่งจะไม่ปรากฏบนหน้าประกาศโฆษณา :------21/03/2561------(OCR) หน้า 1 ของจำนวน 3 หน้า ข้อถือสิทธิ 1. กรรมวิธีสำหรับการผลิตไดเมธิลคาร์บอเนตความบริสุทธิสูง, ซึ่งกรรมวิธีประกอบ รวมด้วย: (I) การทำให้ไดเมธิลคาร์บอเนตเกรดทางการค้าซึ่งประกอบรวมด้วยคลอรีนสูงกว่า 1 ส่วนในล้านส่วนเย็นโดยปฏิบัติการของไหลสำหรับการทำให้เย็นที่อุณหภูมิการทำให้เย็นในช่วงจาก +6?ซ ถึง -5?ซ ที่อัตราการทำให้เย็นในช่วงจาก 0.5๐ซ/ชั่วโมง ถึง 2๐ซ/ชั่วโมง, เพื่อทำให้ได้มา ซึ่งไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของแข็ง; (II) การทำให้ไคเมธิลคาร์บอเนตในรูปของแข็งร้อน, ในการให้ควานร้อนครังที่หนึ่ง, โดยปฏิบัติการของไหลสำหรับการทำให้เย็นที่อุณหภูมิการให้ความร้อนในช่วงจาก -5๐ซ ถึง +6?ซ ที่อัตราการให้ความร้อนในช่วงจาก 1๐ซ/\'ชั่วโมง ถึง 5?ซ/1ชั่วโมง, เพื่อทำให้ได้มาซึ่งของผสมที่ ประกอบรวมด้วยไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของแข็ง และไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของเหลวในปริมาณ ตามที่กำหนดไว้ก่อนล่วงหน้า, ที่ซึ่งไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของเหลวอยู่ในของผสมในปริมาณ ในช่วงจาก 15% ถึง 30% โดยนาหนัก โดยสัมพัทธ์กับนึ่าหนักโดยรวมของไดเมธิลคาร์บอเนตเกรด ทางการค้า; (III) การแยกไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของเหลวออกจากของผสม, เพื่อทำให้ได้มาซึ่ง ไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของแข็ง; และ (IV) การทำให้ไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของแข็งร้อน, ในการให้ความร้อนครังที่สอง, โดยปฏิบัติการของไหลสำหรับการทำให้เย็นที่อุณหภูมิการให้ความร้อนในช่วงจาก 20๐ช ถึง 40๐ซ, เพื่อให้ได้มาซึ่งไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของเหลว, ซึ่งไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของเหลวมีระคับขัน ความบริสุทธิสูงกว่า 99.99% และมีปริมาณคลอรีนตํ่ากว่าหรือเท่ากับ 1 ส่วนในล้านส่วน 2. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อที่ 1, ที่ซึ่งไดเมธีลคาร์บอเนตเกรดทางการค้ามีปริมาณ คลอรีนในช่วงจาก 10 ส่วนในล้านส่วน ถึง 100 ส่วนในล้านส่วน 3. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อที่ 1, ที่ซึ่งการทำให้เย็น (I) ได้รับการดำเนินการที่อุณหภูมิ ในช่วงจาก +5?ซ ถึง -3?ซ และที่ซึ่งการให้ความร้อน (II) ได้รับการดำเนินการที่อุณหภูมิในช่วงจาก -3?ซ ถึง +5๐ซ หน้า 2 ของจำนวน 3 หน้า 4. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อที่ 1, ที่ซึ่งการทำให้เย็น (I) ได้รับการดำเนินการที่อัตรา การทำให้เย็นในช่วงจาก 0.8?ซ/\'ชั่วโมง ถึง 1.5๐ซ/ชั่วโมง 5. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อที่ 1, ที่ซึ่งการให้ความร้อน (II) ได้รับการดำเนินการ ที่อัตราการให้ ความร้อนในช่วงจาก 1.5๐\'ช/ชั่วโมง ถึง 4๐ซ/ชั่วโมง 6. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อที่ 1, ที่ซึ่งการให้ความร้อน (IV) ได้รับการดำเนินการ ที่อุณหภูมิในช่วงจาก 25๐\'ช ถึง 35๐ช 7. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อที่ 1, ที่ซึ่งการทำให้เย็น (I) ได้รับการดำเนินการเป็น ระยะเวลาในช่วงจาก 1 ชั่วโมง ถึง 20 ชั่วโมง 8. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อที่ 7, ที่ซึ่งการทำให้เย็น (I) ได้รับการดำเนินการเป็น ระยะเวลาในช่วงจาก 5 ชั่วโมง ถึง 15 ชั่วโมง 9. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อที่ 1, ที่ซึ่งการให้ความร้อน (II) ได้รับการดำเนินการเป็น ระยะเวลาในช่วงจาก 2 ชั่วโมง ถึง 10 ชั่วโมง 1 0. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อที่ 9, ที่ซึ่งการให้ความร้อน (II) ได้รับการดำเนินการเป็น ระยะเวลาในช่วงจาก 3 ชั่วโมง ถึง 8 ชั่วโมง 1 1. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อที่ 1, ที่ซึ่งการให้ความร้อน (II) จะเริ่มด้นก่อนที่ไดเมธิล คาร์บอเนตเกรดทางการค้าในการทำให้เย็น (I) มีอุณหภูมิไปถึงตํ่ากว่า -2๐ซ 1 2. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อที่ 11, ที่ซึ่งการให้ความร้อน (II) จะเริ่มด้นเมื่อไดเมธิล คาร์บอเนตเกรดทางการค้าที่ในการทำให้เย็น (I) มีอุณหภูมิไปถึงในช่วงจาก -1.8?ซ ถึง -1?ช 1 3. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อที่ 1, ที่ซึ่งไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของเหลวมีอยู่ใน ของผสมที่ได้มาภายหลังการให้ความร้อน (II) ในปริมาณในช่วงจาก 18% โดยนาหนัก ถึง 25% โดยนำหนัก, โดยสัมพัทธ์กับนำหนักโดยรวมของไดเมธีลคาร์บอเนตเกรดทางการค้า 1 4. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อที่ 1, ที่ซึ่งไดเมธีลคาร์บอเนตในรูปของเหลวที่มีอยู่ใน ของผสมที่ได้มาภายหลังการให้ความร้อน (II) มีปริมาณคลอรีนสูงกว่าหรือเท่ากับ 4 ส่วนในล้านส่วน หน้า 3 ของจำนวน 3 หน้า 1 5. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อที่ 14, ที่ซึ่งไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของเหลวที่มีอยู่ใน ของผสมที่ได้มาภายหลังการให้ความร้อน (II) มีปริมาณคลอรีนในช่วงจาก 40 ส่วนในล้านส่วน ถึง 500 ส่วนในล้านส่วน ------------ แก้ไข 17/01/2560 1. กรรมวิธีสำหรับการผลิตไดเมธิลคาร์บอเนตความบริสุทธิ์สูง, ซึ่งกรรมวิธีประกอบรวมด้วย: (I) การทำให้ไดเมธิลคาร์บอเนตเกรดทางการค้าซึ่งประกอบรวมด้วยคลอรีนสูงกว่า 1 ส่วนในล้านส่วนเย็นโดยปฏิบัติการของไหลสำหรับการทำให้เย็นที่อุณหภูมิการทำให้เย็นในช่วงจาก +6ํซ ถึง -5ํซ ที่อัตราการทำให้เย็นในช่วงจาก 0.5ํซ/ชั่วโมง ถึง 2ํซ/ชั่วโมง, เพื่อทำให้ได้มา ซึ่งไคเมธิลคาร์บอเนตในรูปของแข็ง; (II) การทำให้ไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของแข็งร้อน, ในการให้ความร้อนครั้งที่หนึ่ง, โดยปฏิบัติการของไหลสำหรับการทำให้เย็นที่อุณหภูมิการให้ความร้อนในช่วงจาก -5ํซ ถึง +6ํซ ที่อัตราการให้ความร้อนในช่วงจาก 1ํซ/1ชั่วโมง ถึง 5ํซ/ชั่วโมง, เพื่อทำให้ได้มาซึ่งของผสมที่ ประกอบรวมด้วยไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของแข็งที่สอง และไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของเหลว ที่หนึ่งในปริมาณตามที่กำหนดไว้ก่อนล่วงหน้า, ที่ซึ่งไดเมธิลคาร์บอเนตที่หนึ่งในรูปของเหลวอยู่ใน ของผสมในปริมาณในช่องจาก 15% ถึง 30% โดยน้ำหนัก โดยสัมพัทธ์กับน้ำหนักโดยรวมของ ไดเมธิลคาร์บอเนตเกรดทางการค้า; (III) การแยกไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของเหลวที่หนึ่งออกจากของผสม, เพื่อทำให้ได้มา ซึ่งไดเมธิลคาร์บอเนตที่สองในรูปของแข็ง; และ (IV) การทำให้ไดเมธิลคาร์บอเนตที่สองในรูปของแข็งร้อน, ในการให้ความร้อนครั้งที่สอง, โดยปฏิบัติการของไหลสำหรับการทำให้เย็นที่อุณหภูมิการให้ความร้อนในช่วงจาก 20ํซ ถึง 40ํซ, เพื่อให้ได้มาซึ่งไดเมธิล-คาร์บอเนตที่สองในรูปของเหลว, ซึ่งไดเมธิลคาร์บอเนตที่สองในรูป ของเหลวมีระดับขั้นความบริสุทธ์สูงกว่า 99.99% และมีปริมาณคลอรีนต่ำกว่าหรือเท่ากับ 1 ส่วน ในล้านส่วน 2. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อที่ 1, ที่ซึ่งไดเมธิลคาร์บอเนตเกรดทางการค้ามีปริมาณคลอรีน ในช่วงจาก 10 ส่วนในล้านส่วน ถึง 100 ส่วนในล้านส่วน 3. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อที่ 1, ที่ซึ่งการทำให้เย็น (I) ได้รับการดำเนินการที่อุณหภูมิในช่วง จาก +5ํซ ถึง -3ํซ และที่ซึ่งการให้ความร้อน (II) ได้รับการดำเนินการที่อุณหภูมิในช่วงจาก -3ํซ ถึง +5ํซ 4. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อที่ 1, ที่ซึ่งการทำให้เย็น (I) ได้รับการดำเนินการที่อัตราการทำให้ เย็นในช่วงจาก 0.8ํซ/ชั่วโมง ถึง 1.5ํซ/ชั่วโมง 5. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อที่ 1, ที่ซึ่งการให้ความร้อน (I) ได้รับการดำเนินการที่อัตราการให้ ความร้อนในช่วงจาก 1.5ํซ/ชั่วโมง ถึง 4ํซ/ชั่วโมง 6. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อที่ 1, ที่ซึ่งการให้ความร้อน (IV) ได้รับการดำเนินการที่อุณหภูมิ ในช่วงจาก 25ํซ ถึง 35ํซ 7. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อที่ 1, ที่ซึ่งการทำให้เย็น (I) ได้รับการดำเนินการเป็นระยะเวลา ในช่วงจาก 1 ชั่วโมง ถึง 20 ชั่วโมง 8. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อที่ 7, ที่ซึ่งการทำให้เย็น (I) ได้รับการดำเนินการเป็นระยะเวลา ในช่วงจาก 5 ชั่วโมง ถึง 15 ชั่วโมง 9. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อที่ 1, ที่ซึ่งการให้ความร้อน (II) ได้รับการดำเนินการเป็นระยะเวลา ในช่วงจาก 2 ชั่วโมง ถึง 10 ชั่วโมง 1 0. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อที่ 9, ที่ซึ่งการให้ความร้อน (II) ได้รับการดำเนินการเป็นระยะเวลา ในช่วงจาก 3 ชั่วโมง ถึง 8 ชั่วโมง 1 1. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อที่ 1, ที่ซึ่งการให้ความร้อน (II) จะเริ่มต้นก่อนที่ไดเมธีล คาร์บอเนตเกรดทางการค้าในการทำให้เย็น (I) มีอุณหภูมิไปถึงต่ำกว่า -2ํซ 1 2. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อที่ 11, ที่ซึ่งการให้ความร้อน (II) จะเริ่มต้นเมื่อไดเมธิลคาร์บอเนต เกรดทางการค้าที่ในการทำให้เย็น (I) มีอุณหภูมิไปถึงในช่วงจาก -1.8ํซ ถึง -1ํซ 1 3. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อที่ 1, ที่ซึ่งไดเมธิลคาร์บอเนตที่หนึ่งในรูปของเหลวมีอยู่ใน ของผสมที่ได้มาภายหลังการให้ความร้อน (II) ในปริมาณในช่วงจาก 18% โดยน้ำหนัก ถึง 25% โดยน้ำหนัก, โดยสัมพัทธ์กับน้ำหนักโดยรวมของไดเมธิลคาร์บอเนตเกรดทางการค้า 1 4. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อที่ 1, ที่ซึ่งไดเมธิลคาร์บอเนตที่หนึ่งในรูปของเหลวที่มีอยู่ใน ของผสมที่ได้มาภายหลังการให้ความร้อน (II) มีปริมาณคลอรีนสูงกว่าหรือเท่ากับ 4 ส่วนในล้านส่วน 1 5. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อที่ 14, ที่ซึ่งไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของเหลวที่มีอยู่ในของผสม ที่ได้มาภายหลังการให้ความร้อน (II) มีปริมาณคลอรีนในช่วงจาก 40 ส่วนในล้านส่วน ถึง 500 ส่วนในล้านส่วน ---------- 1. กรรมวิธีสำหรับการผลิตไดเมธิลคาร์บอเนตความบริสุทธิ์สูงประกอบด้วย - การทำให้ไดเมธิลคาร์บอเนตเกรดทางการค้าที่มีปริมาณคลอรีนสูงกว่า 1 ส่วนในล้านส่วน อยู่ภายใต้การทำให้เย็น, ซึ่งปฏิบัติการที่อุณหภูมิการทำให้เย็นในช่วงจาก +6 ํซ ถึง -5 ํซ และที่อัตรา การทำให้เย็นในช่วงจาก 0.5 ํซ/ชั่วโมง ถึง 2 ํซ/ชั่วโมง เพื่อทำให้ได้มาซึ่งไดเมธิลคาร์บอเนตในรูป ของแข็ง - การทำให้ไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของแข็งดังกล่าวอยู่ภายใต้การให้ความร้อนครั้งที่หนึ่ง, ซึ่งปฏิบัติการที่อุณหภูมิการให้ความร้อนในช่วงจาก -5 ํซ ถึง +6 ํซ และที่อัตราการให้ความร้อน ในช่วงจาก 1 ํซ/ชั่วโมง ถึง 5 ํ ซ/ชั่วโมง เพื่อทำให้ได้มาซึ่งของผสมที่ประกอบรวมด้วยไดเมธิล- คาร์บอเนตในรูปของแข็งและไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของเหลวในปริมาณตามที่กำหนดไว้ก่อน ล่วงหน้า - การแยกไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของเหลวดังกล่าวออกจากของผสมดังกล่าวเพื่อทำให้ ได้มาซึ่งไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของแข็ง - การทำให้ไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของแข็งดังกล่าวอยู่ภายใต้การให้ความร้อนครั้งที่สอง, ซึ่งปฏิบัติการที่อุณหภูมิการให้ความร้อนในช่วงจาก 20 ํซ ถึง 40 ํซ เพื่อให้ได้มาซึ่งไดเมธิล- คาร์บอเนตในรูปของเหลว, ไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของเหลวดังกล่าวมีระดับขั้นความบริสุทธิ์ สูงกว่า 99.99% และมีปริมาณคลอรีนต่ำกว่าหรือเท่ากับ 1 ส่วนในล้านส่วน 2. กรรมวิธีสำหรับการผลิตไดเมธิลคาร์บอเนตความบริสุทธิ์สูงตามข้อถือสิทธิที่ 1 ที่ซึ่งไดเมธิล- คาร์บอเนตเกรดทางการค้าดังกล่าวมีปริมาณคลอรีนในช่วงจาก 10 ส่วนในล้านส่วน ถึง 100 ส่วนใน ล้านส่วน 3. กรรมวิธีสำหรับการผลิตไดเมธิลคาร์บอเนตความบริสุทธิ์สูงตามข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ข้อใด ข้อหนนึ่งที่ซึ่งการทำให้เย็นดังกล่าวได้รับการดำเนินการโดยปฏิบัติการที่อุณหภูมิการทำให้เย็นในช่วง จาก +5 ํซ ถึง -3 ํซ 4. กรรมวิธีสำหรับการผลิตไดเมธิลคาร์บอเนตความบริสุทธิ์สูงตามข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ข้อใด ข้อนหนึ่งที่ซึ่งการทำให้เย็นดังกล่าวได้รับการดำเนินการโดยปฏิบัติการที่อัตราการทำให้เย็นในช่วงจาก 0.8 ํซ/ชั่วโมง ถึง 1.5 ํซ/ชั่วโมง 5. กรรมวิธีสำหรับการผลิตไดเมธิลคาร์บอเนตความบริสุทธิ์สูงตามข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ข้อใด ข้อหนึ่งที่ซึ่งการให้ความร้อนครั้งที่หนึ่งดังกล่าวได้รับการดำเนินการโดยปฏิบัติการที่อุณหภูมิการให้ ความร้อนในช่วงจาก -3 ํซ ถึง +5 ํซ 6. กรรมวิธีสำหรับการผลิตไดเมธิลคาร์บอเนตความบริสุทธิ์สูงตามข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ข้อใด ข้อหนึ่งที่ซึ่งการให้ความร้อนครั้งที่หนึ่งดังกล่าวได้รับการดำเนินการโดยปฏิบัติการที่อัตราการให้ ความร้อนในช่วงจาก 1.5 ํซ/ชั่วโมง ถึง 4 ํซ/ชั่วโมง 7. กรรมวิธีสำหรับการผลิตไดเมธิลคาร์บอเนตความบริสุทธิ์สูงตามข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ข้อใด ข้อหนึ่งที่ซึ่งการให้ความร้อนครั้งที่สองดังกล่าวได้รับการดำเนินการโดยปฏิบัติการที่อุณหภูมิการให้ ความร้อนในช่วงจาก 25 ํซ ถึง 35 ํซ 8. กรรมวิธีสำหรับการผลิตไดเมธิลคาร์บอเนตความบริสุทธิ์สูงตามข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ข้อใด ข้อหนึ่งที่ซึ่งการทำให้เย็นดังกล่าวได้รับการดำเนินการโดยปฏิบัติการในช่วงเวลาจาก 1 ชั่วโมง ถึง 20 ชั่วโมง 9. กรรมวิธีสำหรับการผลิตไดเมธิลคาร์บอเนตความบริสุทธิ์สูงตามข้อถือสิทธิที่ 8 ที่ซึ่งการทำ ให้เย็นดังกล่าวได้รับการดำเนินการโดยปฏิบัติการในช่วงเวลาจาก 5 ชั่วโมง ถึง 15 ชั่วโมง 1 0. กรรมวิธีสำหรับการผลิตไดเมธิลคาร์บอเนตความบริสุทธิ์สูงตามข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ข้อใด ข้อหนึ่งที่ซึ่งการให้ความร้อนครั้งที่หนึ่งดังกล่าวได้รับการดำเนินการโดยปฏิบัติการในช่วงเวลาจาก 2 ชั่วโมง ถึง 10 ชั่วโมง 1

1. กรรมวิธีสำหรับการผลิตไดเมธิลคาร์บอเนตความบริสุทธิ์สูงตามข้อถือสิทธิที่ 10 ที่ซึ่งการให้ ความร้อนครั้งที่หนึ่งดังกล่าวได้รับการดำเนินการโดยปฏิบัติการในช่วงเวลาจาก 3 ชั่วโมง ถึง 8 ชั่วโมง 1

2. กรรมวิธีสำหรับการผลิตไดเมธิลคาร์บอเนตความบริสุทธิ์สูงตามข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ข้อใด ข้อหนึ่งที่ซึ่งการให้ความร้อนครั้งที่หนึ่งดังกล่าวเริ่มต้นเมื่อไดเมธิลคาร์บอเนตเกรดทางการค้าที่อยู่ ภายใต้การทำให้เย็นดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงกว่าหรือเท่ากับ -2 ํซ 1

3. กรรมวิธีสำหรับการผลิตไดเมธิลคาร์บอเนตความบริสุทธิ์สูงตามข้อถือสิทธิที่ 12 ที่ซึ่งการให้ ความร้อนครั้งที่หนึ่งดังกล่าวเริ่มต้นเมื่อไดเมธิลคาร์บอเนตเกรดทางการค้าที่อยู่ภายใต้การทำให้เย็น ดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงจนอยู่ในช่วงจาก -1.8 ํซ ถึง -1 ํซ 1

4. กรรมวิธีสำหรับการผลิตไดเมธิลคาร์บอเนตความบริสุทธิ์สูงตามข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ข้อใด ข้อหนึ่งที่ซึ่งไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของเหลวดังกล่าวมีอยู่ในของผสมที่ได้มาภายหลังการให้ความ ร้อนครั้งที่หนึ่งดังกล่าวในปริมาณในช่วงจาก 15% โดยน้ำหนัก ถึง 30% โดยน้ำหนัก โดยสัมพัทธ์กับ น้ำหนักโดยรวมของไดเมธิลคาร์บอเนตเกรดทางการค้าตั้งต้น 1

5. กรรมวิธีสำหรับการผลิตไดเมธิลคาร์บอเนตความบริสุทธิ์สูงตามข้อถือสิทธิที่ 14 ที่ซึ่ง ไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของเหลวดังกล่าวมีอยู่ในของผสมที่ได้มาภายหลังการให้ความร้อนครั้งที่ หนึ่งดังกล่าวในปริมาณในช่วงจาก 18% โดยน้ำหนัก ถึง 25% โดยน้ำหนัก โดยสัมพัทธ์กับน้ำหนัก โดยรวมของไดเมธิลคาร์บอเนตเกรดทางการค้าตั้งต้น 1

6. กรรมวิธีสำหรับการผลิตไดเมธิลคาร์บอเนตความบริสุทธิ์สูงตามข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ข้อใด ข้อหนึ่งที่ซึ่งไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของเหลวดังกล่าวที่มีอยู่ในของผสมที่ได้มาภายหลังการให้ความ ร้อนครั้งที่หนึ่งดังกล่าวคือไดเมธิลคาร์บอเนตที่มีปริมาณคลอรีนสูงกว่าหรือเท่ากับ 4 ส่วนในล้าน ส่วน 1

7. กรรมวิธีสำหรับการผลิตไดเมธิลคาร์บอเนตความบริสุทธิ์สูงตามข้อถือสิทธิที่ 16 ที่ซึ่ง ไดเมธิลคาร์บอเนตในรูปของเหลวดังกล่าวที่มีอยู่ในของผสมที่ได้มาภายหลังการให้ความร้อนครั้ง ที่หนึ่งดังกล่าวคือไดเมธิลคาร์บอเนตที่มีปริมาณคลอรีนในช่วงจาก 40 ส่วนในล้านส่วน ถึง 500 ส่วน ในล้านส่วน 1

8. การใช้ไดเมธิลคาร์บอเนตที่ได้มาโดยสอดคล้องกับกรรมวิธีตามข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 17 ข้อใด ข้อหนึ่งเป็นตัวทำละลายอินทรีย์ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิก 1

9. การใช้ไดเมธิลคาร์บอเนตที่ได้มาโดยสอดคล้องกับกรรมวิธีตามข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 17 ข้อใด ข้อหนึ่งเป็นตัวทำละลายอินทรีย์สำหรับการผลิตอิเล็กโทรไลต์ของลิเทียมแบตเตอรี่