TH111533A - กระบวนการผลิตสเลอรี่ของแคลเซียมคาร์บอเนตที่ถูกทำให้ตกตะกอนที่ได้มาจากขั้นตอนคอสติกไซซิ่ง - Google Patents

Abstract

DC60 (17/05/59) สเลอรี่ที่มีแคลเซียมคาร์บอเนตที่ถูกทำให้ตกตะกอนดังที่ได้มาจากขั้นตอนคอสติกไซซิ่งใน กระบวนการผลิตเยื่อ สามารถถูกบดแบบเปียกโดยราคาไม่แพงและมีประสิทธิภาพ ด้วยการป้อนเข้า ไปในเครื่องบดแบบต่อเนื่องชนิดหมุนกวนตัวกลาง 1 ซึ่งประกอบรวมด้วย ภาชนะสำหรับบด 2 รูปทรงท่อที่มีปลายปิดทั้งสองด้าน, ชุดหมุนกวน 18 ที่ถูกจัดไว้อย่างหมุนได้ภายในของภาชนะ สำหรับบด 2 และซึ่งหมุนกวนวัสดุที่จะถูกบดและตัวกลางการบดซึ่งอยู่ภายในภาชนะสำหรับบด 2, และอุปกรณ์แยก 13 รูปทรงท่อที่ถูกจัดไว้ภายในของภาชนะสำหรับบด 2 และซึ่งแยกวัสดุที่จะถูกบด และตัวกลางการบดซึ่งอยู่ภายในภาชนะสำหรับบด 2 ------27/02/2561------(OCR) ------------ แก้ไขบทสรุปการประดิษฐ์ 17/05/2559 สเลอรี่ที่มีแคลเซียมคาร์บอเนตที่ถูกทำให้ตกตะกอนดังที่ได้มาจากขั้นตอนคอสติกไซซิ่งใน กระบวนการผลิตเยื่อ สามารถถูกบดแบบเปียก โดยราคาไม่แพงและมีประสิทธิภาพ ด้วยการป้อนเข้า ไปในเครื่องบดแบบต่อเนื่องชนิดหมุนกวนตัวกลาง 1 ซึ่งประกอบรวมด้วย ภาชนะสำหรับบด 2 รูปทรงท่อที่มีปลายปิดทั้งสองด้าน, ชุดหมุนกวน 18 ที่ถูกจัดไว้อย่างหมุนได้ภายในของภาชนะ สำหรับบด 2 และซึ่งหมุนกวนวัสดุที่จะถูกบดและตัวกลางการบดซึ่งอยู่ภายในภาชนะสำหรับบด 2, และอุปกรณ์แยก 13 รูปทรงท่อที่ถูกจัดไว้ภายในของภาชนะสำหรับบด 2 และซึ่งแยกวัสดุที่จะถูกบด และตัวกลางการบดซึ่งอยู่ภายในภาชนะสำหรับบด 2 ------------------------------------------------------------------------------------------------ สเลอรี่ที่มีแคลเซียมคาร์บอเนตชนิดตกตะกอนดังที่ได้มาจากขั้นตอนคอสติกไซซิ่งในกระ บวนการผลิตเยื่อ สามารถถูกบดละเอียดแบบเปียกโดยราคาไม่แพงและมีประสิทธิภาพ ด้วยการ ป้อนเข้าไปในเครื่องบดละเอียดแบบต่อเนื่องชนิดหมุนกวนตัวกลาง 1 ซึ่งประกอบรวมด้วย ภาชนะ บดละเอียด 2 รูปทรงท่อที่มีปลายปิดทั้งสองด้าน, ชุดหมุนกวน 18 ที่ถูกจัดไว้อย่างหมุนได้ภายในของ ภาชนะบดละเอียด 2 และซึ่งหมุนกวนวัสดุที่จะถูกบดละเอียดและตัวกลางบดละเอียดซึ่งอยู่ภายใน ภาชนะบดละเอียด 2, และอุปกรณ์แยก 13 รูปทรงท่อที่ถูกจัดไว้ภายในของภาชนะบดละเอียด 2 และ ซึ่งแยกวัสดุที่จะถูกบดละเอียดและตัวกลางบดละเอียดซึ่งอยู่ภายในภาชนะบดละเอียด 2

Claims (6)

ข้อถือสิทธฺ์ (ทั้งหมด) ซึ่งจะไม่ปรากฏบนหน้าประกาศโฆษณา :------27/02/2561------(OCR) ------------ แก้ไข 17/05/2559 1. วิธีการผลิตสเลอรี่เพื่อให้ได้มาซึ่งสารสีเคลือบผิวโดยการบดแคลเซียมคาร์บอเนตที่ถูกทำ ให้ตกตะกอนแบบเปียกดังที่ได้มาจากขั้นตอนคอสติกไซซิ่งในกระบวนการผลิตเยื่อ ซึ่งวิธีการดังกล่าวประกอบรวมด้วยขั้นตอนของการได้สเลอรี่ที่หยาบที่มีขนาดอนุภาคเฉลี่ย 1-10 ไมโครเมตร โดยใช้สารช่วยกระจายตัวจากแคลเซียมคาร์บอเนตดังกล่าว, และการจัดส่งสเลอรี่ที่ หยาบไปยังเครื่องบดชนิดหมุนกวนตัวกลางเพื่อการกระทำการบดแบบเปียก โดยมีตัวกลางการบดที่ เปอร์เซนต์การใส่ของตัวกลางการบดจะเป็นระหว่าง 70 และ 90 % อยู่ด้วย ที่ซึ่งเครื่องบดชนิดหมุนกวนตัวกลางดังกล่าวประกอบรวมด้วย ภาชนะสำหรับบดรูปทรงท่อที่ปลายตรงกันข้ามของมันจะถูกปิด; อุปกรณ์แยกรูปทรงท่อที่ถูกจัดไว้ภายในของภาชนะสำหรับบดในการวางแนวอย่างมี นัยสำคัญกับสิ่งนั้นตามแกนยาว ภายในของอุปกรณ์แยกรูปทรงท่อจะถูกแบ่งตามแนวรัศมีออกเป็น 2 ห้อง ซึ่งทำหน้าที่เป็นห้องข้างในและห้องข้างนอก และช่องยาวจำนวนหนึ่งที่จะถูกจัดไว้อย่างน้อย ที่สุดในส่วนหนึ่งของพื้นผิวรอบนอกของอุปกรณ์แยกเพื่อทำให้เกิดการเชื่อมต่อระหว่างห้องทั้งสอง; ชุดหมุนกวนที่ถูกจัดไว้อย่างหมุนได้ภายในของห้องข้างในในการวางแนวอย่างมีนัยสำคัญกับ ภาชนะสำหรับบดตามแกนยาว และซึ่งเป็นชนิดโรเตอร์คู่ที่มีอัตราส่วนความยาว (L) ตามแกนยาวต่อ เส้นผ่านศูนย์กลาง (D) มากกว่า 0.6 แต่ไม่มากกว่า 1.2; และ ช่องป้อน ที่ซึ่งวัสดุที่จะถูกบดถูกป้อนผ่านเข้าไปยังห้องข้างใน 2. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ที่ซึ่งแคลเซียมคาร์บอเนตก่อนขั้นตอนการได้สเลอรี่ที่หยาบมี ขนาดอนุภาคเฉลี่ย 10-30 ไมโครเมตร 3. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 1 หรือ 2 ที่ซึ่งแคลเซียมคาร์บอเนตที่ถูกทำให้ตกตะกอนก่อนการ ป้อนเข้าสู่เครื่องบดชนิดหมุนกวนตัวกลาง ถูกมีในปริมาณอย่างน้อยที่สุด 50% โดยน้ำหนักบน พื้นฐานของน้ำหนักทั้งหมดของสารสี 4. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 1- 3 ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่งแคลเซียมคาร์บอเนตที่ถูกทำให้ ตกตะกอนเป็นก้อนซึ่งมีโครงสร้างผลึกแคลไซต์ 5. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 1-4 ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่งอัตราส่วน L/D มากกว่า 0.8 แต่ไม่มากกว่า 1.0 -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1. วิธีการผลิตสเลอรี่เพื่อให้ได้มาซึ่งสารสีเคลือบผิวโดยการบดละเอียดแคลเซียมคาร์บอเนต ชนิดตกตะกอนแบบเปียกดังที่ได้มาจากขั้นตอนคอสติกไซซิ่งในกระบวนการผลิตเยื้อ ถูกกำหนด ลักษณะเฉพาะไว้ว่า สเลอรี่ที่มีแคลเซียมคาร์บอเนตชนิดตกตะกอนดังที่ได้ถูกเตรียมขึ้นในขั้นตอนคอ สติกไซซิ่งของกระบวนการผลิตเยื่อ ถูกส่งให้บดละเอียดในเครื่องบดละเอียดชนิดหมุนกวนตัวกลาง ซึ่งประกอบรวมด้วย: ภาชนะบดละเอียดรูปทรงท่อที่มีปลายปิดทั้งสองด้าน; อุปกรณ์แยกรูปทรงท่อที่ถูกจัดไว้ภายในของภาชนะบดละเอียดในการจัดแนวอย่างมี นัยสำคัญกับภาชนะนั้นตามแกนยาว ภายในของอุปกรณ์แยกรูปทรงท่อจะถูกแบ่งตามแนวรัศมี ออกเป็น 2 ห้อง ทำหน้าที่เป็นห้องข้างในและห้องข้างนอก และช่องยาวจำนวนมากที่ถูกจัดไว้อย่าง น้อยที่สุดในส่วนหนึ่งของพื้นผิวตามแนวขอบรอบของอุปกรณ์แยกเพื่อทำให้เกิดการเชื่อมต่อระหว่าง ห้องทั้งสอง; ชุดหมุนกวนที่ถูกจัดไว้อย่างหมุนได้ภายในของห้องข้างในการจัดแนวอย่างมีนัยสำคัญกับ ภาชนะนั้นตามแกนยาวของภาชนะบดละเอียด และซึ่งเป็นชนิดโรเตอร์คู่ที่มีอัตราส่วนความยาว (L) ตามแกนยาวต่อเส้นผ่านศูนย์กลาง (D) มากกว่า 0.6 แต่ไม่มากกว่า 1.2; และ มีช่องป้อน ที่ซึ่งวัสดุที่จะถูกบดละเอียดถูกป้อนผ่านเข้าไปยังห้องข้างใน

2. วิธีการผลิตสเลอรี่ตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ที่ซึ่งแคลเซียมคาร์บอเนตชนิดตกตะกอนเป็นสารสี ซึ่งได้ถูกเตรียมขึ้นในขั้นตอนคอสติกไซซิ่งของกระบวนการผลิตเยื่อก่อนการป้อนเข้าสู่เครื่อง บดละเอียดชนิดหมุนกวนตัวกลาง มีปริมาณอย่างน้อยที่สุด 50% โดยน้ำหนักบนพื้นฐานของน้ำหนัก ทั้งหมดของสารสี

3. วิธีการผลิตสเลอรี่ตามข้อถือสิทธิข้อ 1 หรือ 2 ที่ซึ่งแคลเซียมคาร์บอเนตชนิดตกตะกอน ดังที่ได้ถูกเตรียมขึ้นในขั้นตอนคอสติกไซซิ่งของกระบวนการผลิตเยื่อ เป็นก้อนซึ่งมีโครงสร้างผลึก แคลไซต์

4. วิธีการผลิตสเลอรี่ตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ที่ซึ่งอัตราส่วน L/D มากกว่า 0.8 แต่ไม่มากกว่า 1.0

5. กระดาษ ที่ซึ่งมีสีเคลือบผิวที่มีสเลอรี่ที่ถูกผลิตขึ้นโดยวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 1 หรือ 2 เคลือบผิวอยู่

6. วิธีการผลิตสเลอรี่เพื่อให้ได้สารสีเคลือบผิวโดยการบดละเอียดแคลเซียมคาร์บอเนตชนิด ตกตะกอนแบบเปียกดังที่ได้มาจากขั้นตอนคอสติกไซซิ่งในกระบวนการผลิตเยื่อ ถูกกำหนด ลักษณะเฉพาะไว้ว่า สเลอรี่ที่มีแคลเซียมคาร์บอเนตชนิดตกตะกอนดังที่ได้ถูกเตรียมขึ้นในขั้นตอน คอสติกไซซิ่งของกระบวนการผลิตเยื่อ ถูกส่งให้บดละเอียดในเครื่องบดละเอียดชนิดหมุนกวน ตัวกลาง เครื่องบดละเอียดชนิดหมุนกวนตัวกลาง ประกอบรวมด้วย ภาชนะบดละเอียดรูปทรงท่อซึ่งมี ปลายที่อยู่ตรงข้ามกันของมันถูกปิด, อุปกรณ์แยกรูปทรงท่อที่ถูกจัดไว้ภายในของภาชนะบดละเอียด ในการจัดแนวร่วมแกนเดียวกันอย่างมีนัยสำคัญกับภาชนะบดละเอียดนั้น เพื่อที่ว่าโพรงภายในของ ภาชนะบดละเอียดถูกแยกออกเป็นเป็น 2 ห้อง โดยถูกจัดวางในทิศทางตามแนวรัศมี คือ ห้องข้างในและ ห้องข้างนอก และที่ถูกจัดไว้ด้วยช่องยาวจำนวนมากที่เกิดการเชื่อมต่อห้องข้างในและห้องข้างนอก โดยอย่างน้อยที่สุดในส่วนหนึ่งของพื้นผิวตามแนวขอบรอบของอุปกรณ์นี้, ตัวหมุนกวนที่ถูกจัดไว้ อย่างหมุนได้ภายในของห้องข้างในดังกล่าวในการจัดแนวร่วมแกนเดียวกันอย่างมีนัยสำคัญกับ ภาชนะบดละเอียดดังกล่าว, และช่องส่งสำหรับส่งวัสดุที่จะถูกผ่านกระบวนการเข้าไปยังห้องข้างใน ดังกล่าว เครื่องบดละเอียดที่กำลังถูกสร้างเป็นเครื่องชนิดโรเตอร์คู่ ประกอบด้วยโรเตอร์ 2 ตัว และมี อัตราส่วนความยาวตามแกน (L) ต่อเส้นผ่านศูนย์กลาง (D) ของภาชนะบดละเอียดดังกล่าว มากกว่า 0.6 แต่ไม่มากกว่า 1.2