TH9241B - การวิเคราะห์ทางอิมมูโนที่อาศัยการกระจายแสงเป็นหลักโดยไม่ต้องใช้การรวมตัวกันเองของอนุภาค - Google Patents
การวิเคราะห์ทางอิมมูโนที่อาศัยการกระจายแสงเป็นหลักโดยไม่ต้องใช้การรวมตัวกันเองของอนุภาคInfo
- Publication number
- TH9241B TH9241B TH9301000943A TH9301000943A TH9241B TH 9241 B TH9241 B TH 9241B TH 9301000943 A TH9301000943 A TH 9301000943A TH 9301000943 A TH9301000943 A TH 9301000943A TH 9241 B TH9241 B TH 9241B
- Authority
- TH
- Thailand
- Prior art keywords
- microspheres
- analite
- type
- histogram
- coated
- Prior art date
Links
Abstract
วิธีการวิเคราะห์ทางอิมมูโนแบบเป็นเนื้เดียวกันสำหรับหาอานาไลท์ที่เป็น แอนติบอดี แอนติเจนหรือแฮปเตนหนึ่งชนิดหรือมากกว่าในตัวอย่างของไหลพร้อมกันไปที่ประ กอบด้วยการวัดผลเชิงปริมาณของอานาไลท์ดังกล่าวที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงทางสถิติทาง ด้านขนาดของฮิสโตแกรมการกระจายความสูงของพัลส์ของการกระจายแสงของไมโครส เฟียร์โพลีเมอร์ที่เคลือยด้วยโมเลกุลยึดเหนี่ยวชนิดที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางค่อนข้างใหญ่และ สม่ำเสมอที่ถูกเหนี่ยวนำด้วยการยึดเกาะของอนุภาคโลหะคอลลอยด์ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางค่อน ข้างเล็กและไม่สม่ำเสมอที่เคลือบด้วยโมเลกุลยึดเหนี่ยวเข้ากับไมโครสเฟียร์ดังกล่าว สำ หรับการวิเคราะห์อานาไลน์หลายชนิดพร้อมกันไปนั้นจะกำหนดไมโครสเฟียร์ที่มีขนาดหรือ ดรรชนีหักเหต่างกันให้กับอานาไลท์แต่ละชนิด อาจใช้การวิเคราะห์ในระบบประเภทการยึด เกาะแบบก้าวหน้า การแทนที่ การยับยั้งและการแข่งขัน โดยที่ทิศทางของการเปลี่ยน แปลงขนาดฮิสโตแกรมจะขึ้นอยู่กับระบบ ขนาดที่สดวกแก่การวัดคือความกว้างของพีคที่ทำให้ ปกติแล้วของฮิสโตแกรมที่แสดงด้วยกราฟ สำหรับการวิเคราะห์อานาไลท์หลายชนิดพร้อมกัน ไปนั้นจะใช้ไมโครสเฟียร์ของโพลีเมอร์ที่มีขนาดสม่ำเสมอที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางหรือดรรชนีหัก เหเด่นเป็นพิเศษหนึ่งชนิดสำหรับอานาไลท์แต่ละชนิด อนุภาคโลหะคอลลอยด์ชนิดที่มีขนาดไม่ สม่ำเสมอที่เคลือบด้วยโมเลกุลยึดเหนี่ยวเมื่อใช้ในความเข้มข้นที่ใช้ผลจะทำหน้าที่เป็นตัวกำ จัดอีกด้วยเพื่อลดผลการรบกวนของสารไม่จำเพาะในตัวอย่างของไหลที่มีอานาไลท์ โดย เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตัวอย่างดังกล่าวมาจากแหล่งทางชีววิทยา นอกจากนั้นมีการบรรยายถึง เซลไหลผ่านแบบปลอกที่ปรับปรุงให้ดีขึ้นสำหรับใช้กับ FPA
Claims (6)
1. วิธีการสำหรับตรวจหาอานาไลท์ที่เป็นแอนติเจน หรือแฮปเทนในตัวอย่างของไหลโดย ปฏิกิริยาการแข่งขัน ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนของ: a) การผสมอนุภาคโลหะชนิดที่มีขนาดไม่สม่ำเสมอที่เคลือบด้วยแอนติ-อานาไลท์ แอนติบอดี, อานาไลท์,แอนติเจนหรือไมโครสเฟียร์โพลีเมอร์ชนิดที่มีขนาดสม่ำเสมอที่เคลือบด้วย แฮปเทน และตัวอย่างของไหลที่มีอานาไลท์แอนติเจน หรือแฮปเทนเพื่อทำเป็นอของผสม และปล่อย ของผสมดังกล่าวไว้เป็นระยะเวลาหนึ่ง ที่เพียงพอสำหรับการเกิดสารเชิงซ้อนทางอิมมูโนแบบการ แข่งขันในของผสมดังกล่าว โดยที่อย่างน้อยบางส่วนของไมโครสเฟียร์จะรวมอยู่ในสารเชิงซ้อนทาง อิมมูโนดังกล่าว b) การวัดแสงที่ถูกกระจายโดยไมโครสเฟียร์ดังกล่าวในของผสมดังกล่าวก่อน และหลัง การเกิดสารเชิงซ้อนทางอิมมูโนแบบการแข่งขันดังกล่าว โดยวิธีการใช้เครื่องวิเคราะห์อนุภาคไหล ด้วยแสง เพื่อให้ได้สัญญาณการกระจายแสงสำหรับไมโครสเฟียร์ดังกล่าว c) การหาขนาดของฮิสโตแกรมกระจายความสูงของพัลส์สำหรับสัญญาณการกระจาย แสงก่อนและหลังการเกิดสารเชิงซ้อนทางอิมมูโนแบบการแข่งขันดังกล่าว และ d) การหาความสัมพันธ์ของการเปลี่ยนแปลงขนาดของฮิสโตแกรมดังกล่าวกับความเข้ม ข้นของอานาไลท์ดังกล่าวในตัวอย่างของไหลดังกล่าว 3
2. วิธีการตรวจหาอานาไลท์แอนติบอดีในตัวอย่างของไหลโดยปฏิกิริยากรแข่ง ขันประกอบด้วยขั้นตอนของ : a) การผสมอนุโลหะชนิดที่มีขนาดไม่สม่ำเสมอที่เคลือบด้วยแอนติเจน หรือแฮปเทน ซึ่ง ยึด เหนี่ยวกับอานาไลท์แอนติบอดี ตัวอย่างของไหลที่มีอานาไลท์แอนติบอดี และไมโครสเฟียร์โพลี เมอร์ชนิดที่มีขนาดสม่ำเสมอที่เคลือบด้วยโมเลกุลยึดเหนี่ยวแอนติเจน หรือแฮปเทนดังกล่าว เพื่อทำ เป็นของผสมและปล่อยของผสมที่ถูกทำปฏิกิริยาดังกล่าวไว้เป็นระยะเวลาหนึ่งที่เพียงพอสำหรับการ เกิดสารเชิงซ้อนทางอิมมูโนแบบการแข่งขัน b) การวัดแสงที่ถูกกระจายโดยไมโครสเฟียร์ดังกล่าวในของผสมที่ถูกทำปฏิกิริยาก่อน และหลังการเกิดสารเชิงซ้อนทางอิมมูโนแบบการแข่งขันดังกล่าว โดยวิธีการใช้เครื่องวิเคราะห์ อนุภาคไหลด้วยแสง เพื่อให้ได้สัญญาณการกระจายแสงสำหรับไมโครสเฟียร์ดังกล่าว c) การหาขนาดของฮีสโตแกรมการกระจายความสูงของพัลส์การกระจายแสง สำหรับ สัญญาณการกระจายแสงดังกล่าวก่อนและหลังการเกิดสารเชิงซ้อนทางอิมมูในแบบการแข่งขัน และ d) การหาความสัมพันธ์การเปลี่ยนแปลงขนาดของฮิสโตแกรมดังกล่าวกับความเข้มข้น ของอานาไลท์ดังกล่าวในตัวอย่างของไหลดังกล่าว 3
3. วิธีการสำหรับตรวจหาอานาไลท์ในตัวอย่างของไหลที่ประกอบด้วยปฏิกิริยายับยั้ง ซึ่ง ประกอบด้วยขั้นตอนของ: a) การจัดให้มีไมโครสเฟียร์โพลีเมอร์ชนิดที่ขนาดสม่ำเสมอ ที่เคลือบด้วยโมเลกุลยึด เหนี่ยวชนิดที่หนึ่งที่เชื่อมต่อ (คอนจูเกต) อยู่กับอานาไลท์เพื่อให้เกิดเป็นสารเข้าทำปฏิกิริยาชนิดที่ หนึ่ง b) การจัดให้มีอนุภาคโลหะชนิดที่มีขนาดไม่สม่ำเสมอที่เคลือบด้วยโมเลกุลยึดเหนี่ยว ชนิดที่สองที่ยึดเหนี่ยวอานาไลท์เพื่อให้เกิดเป็นสารเข้าทำปฏิกิริยาชนิดที่สอง c) การรวมตัวอย่างของไหลที่มีอานาไลท์เข้ากับสารเข้าทำปฏิกิริยาชนิดที่สองเพื่อให้เกิด เป็นของผสมชนิดที่หนึ่ง และทำการบ่มของผสมชนิดที่หนึ่งดังกล่าวเป็นระยะเวลาหนึ่งที่เพียงพอ สำหรับการเกิดสารเชิงซ้อนทางอิมมูโนชนิดที่หนึ่งที่รวมอยู่กับอนุภาคโลหะดังกล่าว และปล่อย อนุภาคโลหะที่ไม่ถูกยึดเหนี่ยวไว้บางส่วน ในลักษณะที่ปริมาณของอนุภาคโลหะที่ไม่ถูกยึดเหนี่ยว ในของผสมชนิดที่หนึ่งดังกล่าว จะมีความสัมพันธ์ผกผันกับความเข้มข้นของอานาไลท์ในตัวอย่าง ดังกล่าว d) การรวมของผสมชนิดที่หนึ่งดังกล่าวเข้ากับสารเข้าทำปฏิกิริยาชนิดที่หนึ่งเพื่อให้ได้ ของผสมชนิดที่สอง และทำการบ่มของผสมชนิดที่สองดังกล่าว เพื่อให้ได้สารเชิงซ้อนทางอิมมูโน ชนิดที่สองระหว่างไมโครสเฟียร์ดังกล่าวกับอนุภาคโลหะที่ไม่ถูกยึดเหนี่ยวดังกล่าว e) การวัดแสงที่ถูกกระจายโดยไมโครสเฟียร์ในของผสมชนิดที่สองโดยวิธีการใช้เครื่อง วิเคราะห์อนุภาคไหลด้วยแสง เพื่อจัดให้มีสัญญาณการกระจายแสงสำหรับไมโครสเฟียร์ดังกล่าว และ f) การวัดขนาดของฮิสโตแกรมการกระจายความสูงของพัลส์ ของสัญญาณการกระจาย แสงดังกล่าว g) การเปรียบเทียบขนาดดังกล่าวในข้อf) กับขนาดชนิดเดียวกันสำหรับของผสมการ ปฏิกิริยาที่เป็นตัวควบคุมที่ประกอบด้วยไมโคร สเฟียร์โพลีเมอร์ชนิดที่มีขนาดสม่ำเสมอที่ถูกเคลือบ ในขณะที่ไม่มีอานาไลท์ หรืออนุภาคโลหะ เพื่อหาการเปลี่ยนแปลงทางสถิติในขนาดของฮิสโต แกรมในข้อ f)ดังกล่าวและ h) การหาความสัมพันธ์ของการเปลี่ยนแปลงขนาดของฮิสโตแกรมดังกล่าวกับความเข้ม ข้นของอานาไลท์ดังกล่าวในตัวอย่างของไหลดังกล่าว 3
4. วิธีการตามข้อถือสิทธิที่ 33 ที่ซึ่งอานาไลท์ดังกล่าว คือ แฮปเทน หรือแอนติเจน และ โมเลกุลยึดเหนี่ยวชนิดที่สองดังกล่าว คือ แอนติ-แฮปเทน หรือแอนติ-แอนติเจนบอดี 3
5. วิธีการตามข้อถือสิทธิที่ 33 ที่ซึ่งอานาไลท์ดังกล่าวคือ แอนติบอดี และโมเลกุล ยึดเหนี่ยวชนิดที่สองดังกล่าวจะยึดเหนี่ยวแอนติบอดีดังกล่าว 3
6. วิธีการตามข้อถือสิทธิที่ 25-35 ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่งขนาดของฮิสโตแกรมดังกล่าว คือ ความกว้างของพีคที่ทำให้ปกติของการแสดงด้วยกราฟของฮีสโตแกรมดังกล่าว
Publications (3)
Publication Number | Publication Date |
---|---|
TH14152A TH14152A (th) | 1994-06-22 |
TH14152EX TH14152EX (th) | 1994-06-22 |
TH9241B true TH9241B (th) | 1999-11-23 |
Family
ID=
Similar Documents
Publication | Publication Date | Title |
---|---|---|
US5286452A (en) | Simultaneous multiple assays | |
AU670489B2 (en) | Light scatter-based immunoassay without particle self aggregation | |
DE3650542T2 (de) | Festphasen-System für Ligand-Rezeptor-Bestimmungen | |
US20010002316A1 (en) | Light scatter-based immunoassay | |
DE69803729T2 (de) | Mikroteilchen-vergrössertes Streulichtassay und Mikroteilchen-Reagenz dazu | |
EP0833157B1 (en) | Assay reagents and devices | |
US5739042A (en) | Method of assay | |
US5814468A (en) | Methods of enumerating receptor molecules for specific binding partners on formed bodies and in solution | |
FR2638848A1 (fr) | Procede de detection et/ou de dosage dans un milieu liquide ou semi-liquide d'au moins une substance organique, biologique ou medicamenteuse soluble, par une methode d'agglutination | |
Golden et al. | Automated processing integrated with a microflow cytometer for pathogen detection in clinical matrices | |
WO1995017674A1 (en) | Method of assay using two distinguishable types of particles | |
CA2495138A1 (en) | Multiplexed analysis for determining a serodiagnosis of viral infection | |
Gella et al. | Latex agglutination procedures in immunodiagnosis | |
TH9241B (th) | การวิเคราะห์ทางอิมมูโนที่อาศัยการกระจายแสงเป็นหลักโดยไม่ต้องใช้การรวมตัวกันเองของอนุภาค | |
TH14152A (th) | การวิเคราะห์ทางอิมมูโนที่อาศัยการกระจายแสงเป็นหลักโดยไม่ต้องใช้การรวมตัวกันเองของอนุภาค | |
CA2096530A1 (en) | Method and apparatus for screening microscopic cells utilizing light scatter techniques | |
EP2088429B1 (en) | Reagent and method for immunological analysis | |
Posner et al. | A quantitative approach for studying IgE–FcεRI aggregation | |
JPH01301165A (ja) | 免疫測定法 | |
WO2009110846A1 (en) | Method for determination of affinity and kinetic constants | |
JPH06317592A (ja) | 生体特異的検定法 | |
TH14152EX (th) | การวิเคราะห์ทางอิมมูโนที่อาศัยการกระจายแสงเป็นหลักโดยไม่ต้องใช้การรวมตัวกันเองของอนุภาค | |
McDade et al. | Rapid, economical testing in the clinical laboratory: a new flow cytometry-based multiplex system | |
CA2179826C (en) | Method of assay | |
AT402674B (de) | Verfahren und mittel zum nachweisen von verfahren und mittel zum nachweisen von antigenen antigenen |