TH35529B - วิธีการและอุปกรณ์สร้างพลังงานโดยการสันดาปไอเชื้อเพลิง - Google Patents

Abstract

DC60 (30/11/52) การประดิษฐ์นี้จัดให้มีอุปกรณ์สร้างพลังงานจากแหล่งเชื้อเพลิงเหลว โดยอุปกรณ์ ประกอบด้วยช่องทางไหลที่เป็นท่อแคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุด โดยช่องทางไหลที่เป็นท่อ แคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุดนี้จะมีปลายด้านนำเข้าและปลายด้านนำออก โดยปลายด้านนำเข้า จะเชื่อมต่อถึงกันกับแหล่งเชื้อเพลิงเหลวในลักษณะที่ของไหลถ่ายเทถึงกันและกันได้, แหล่งให้ความร้อน ที่มีอยู่ตลอดแนวช่องทางไหลที่เป็นท่อแคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุดโดยแหล่งให้ความร้อนนี้จะให้ ความร้อนแก่เชื้อเพลิงเหลวในช่องทางไหลที่เป็นท่อแคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุดจนถึงระดับที่ เพียงพอต่อการเปลี่ยนส่วนหนึ่งในที่นั้นเป็นอย่างน้อยที่สุดจากสถานะที่เป็นของเหลวไปสู่สถานะที่กลาย เป็นไอ และส่งเชื้อเพลิงที่กลายเป็นไอไปแล้วอย่างมีนัยสำคัญเป็นกระแสออกจากปลายด้านนำออกของ ช่องทางไหลที่เป็นท่อแคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุด, ห้องสันดาปสำหรับสันดาปกระแสเชื้อเพลิงที่ กลายเป็นไอแล้วอย่างมีนัยสำคัญและอากาศ โดยห้องสันดาปจะเชื่อมต่อถึงกันกับปลายด้านนำออกของ ช่องทางไหลที่เป็นท่อแคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุด และอุปกรณ์แปลงที่สามารถแปลงความร้อน ที่ ปล่อยออกมาจากการสันดาปในห้องสันดาปให้เป็นพลังงานทางกลหรือทางไฟฟ้า อุปกรณ์แปลงอาจจะ เป็นอุปกรณ์ที่สามารถสร้างพลังงานทางกลหรือทางไฟฟ้าได้มากถึงประมาณ 5,000 วัตต์ การประดิษฐ์นี้จัดให้มีอุปกรณ์สร้างพลังงานจากแหล่งเชื้อเพลิงเหลว โดยอุปกรณ์ ประกอบด้วยช่องทางไหลที่เป็นท่อแคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุด โดยช่องทางไหลที่เป็นท่อ แคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุดนี้จะมีปลายด้านนำเข้าและปลายด้านนำออก โดยปลายด้านนำเข้า จะเชื่อมต่อถึงกันกับแหล่งเชื้อเพลิงเหลวในลักษณะที่ของไหลถ่ายเทถึงกันและกันได้, แหล่งให้ความร้อน ที่มีอยู่ตลอดแนวช่องทางไหลที่เป็นท่อแคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุดโดยแหล่งให้ความร้อนนี้จะให้ ความร้อนแก่เชื้อเพลิงเหลวในช่องทางไหลที่เป็นท่อแคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุดจนถึงระดับที่ เพียงพออต่อการเปลี่ยนส่วนหนึ่งในที่นั้นเป็นอย่างน้อยที่สุดจากสถานะที่เป็นของเหลวไปสู่สถานะที่กลาย เป็นไอ และส่งเชื้อเพลิงที่กลายเป็นไอไปแล้วทั้งหมดเป็นกระแสออกจากปลายด้านนำออกของ ช่องทางไหลที่เป็นท่อแคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุด, ห้องสันดาปสำหรับสันดาปกระแสเชื้อเพลิงที่ กลายเป็นไอแล้วทั้งหมดและอากาศ โดยห้องสันดาปจะเชื่อมต่อถึงกันกับปลายด้านนำออกของ ช่องทางไหลที่เป็นท่อแคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุด และอุปกรณ์แปลงที่สามารถแปลงความร้อน ที่ปล่อยออกมาจากการสันดาปในห้องสันดาปให้เป็นพลังงานทางกลหรือทางไฟฟ้า อุปกรณ์แปลงอาจจะ เป็นอุปกรณ์ที่สามารถสร้างพลังงานทางกลหรือทางไฟฟ้าได้มากถึงประมาณ 5,000 วัตต์

Claims (4)

ข้อถือสิทธฺ์ (ทั้งหมด) ซึ่งจะไม่ปรากฏบนหน้าประกาศโฆษณา : 1. อุปกรณ์สร้างพลังงานจากแหล่งเชื้อเพลิงเหลว ที่ซึ่งประกอบรวมด้วย (a) ช่องทางไหลที่เป็นท่อแคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุด โดยที่ช่องทางไหลที่เป็นท่อ แคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุดดังกล่าวจะมีปลายด้านนำเข้าและมีปลายด้านนำออกเเละที่มีความ ต้านทานไฟฟ้าสม่ำเสมอไปตลอดความยาวของมันอย่างมีนัยสำคัญ โดยปลานด้านนำเข้าดังกล่าวจะเชื่อม ต่อกับเเหล่งของเชื้อเพลิงเหลวในลักษณะที่ของไหลถ่ายเทถึงกันเเละกันได้ (b) แหล่งให้ความร้อนด้วยไฟฟ้าที่ถูกจัดเตรียมอยู่ตลอดเเนวช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารี ช่องหนึ่งเป็นอย่าน้อยที่สุดดังกล่าว โดยเเหล่งให้ความร้อนด้วยไฟฟ้าดังกล่าวจะให้ความร้อนเเก่เชื้อเพลิง เหลวในช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุดดังกล่าวอย่างสม่ำเสอไปตามความ ยาวของช่อทางไหลบที่เป็นท่อเเคปืลารีดังกล่าวในขณะที่เชื้อเพลิงเหลวดังกล่าวจากสถานะที่เป็นของ เหลวไปสู่สถานะที่กลายเป็นไอ เเละส่งกระเเสเชื้อเพลิงที่เป็นไอไปเเล้วจากปลายด้านนำออกดังกล่าวของ ช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุดดังกล่าว (c) ห้องสันดาปสำหรับสันดาปกระเเสเชื้อเพลิงที่กลายเป็นไอไปเเล้วเเละอากาศ โดยห้อง สันดาปดังกล่าวจะเชื่อมต่อถึงกันกับปลายนำออกดังกล่าวของช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีช่องหนึ่ง เป็นอย่างน้อยที่สุดดังกล่าว เเละ (d) อุปกรณ์เเปลงที่สามารถเเปลงความร้อนที่ปล่อยออกมาจากการสันดาปในห้องสันดาป ดังกล่าว ให้เป็นพลังงานทางกล เเละ/หรือทางไฟฟ้าถึง 5,000 วัตต์ โดยอุปกรณ์เเปลงดังกล่าวประกอบ รวมด้วยอุปกรณ์ที่ถูกเลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วยเครื่องยนตืสเตอริ่ง เครื่องยนต์สเตริ่งพร้อมกับเครื่อง กำเนิดไฟฟ้าสลับ เเละเครื่องยนต์สเตอริ่งพร้อมกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 2. อุปกรณ์ตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิข้อ 1 ที่ซึ่งเหล่าให้ความร้อนดังกล่าวประกอบรวม ด้วยอุปกรณ์ทำความร้อนโดยใช้ความต้านทาน 3. อุปกรณ์ตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิข้อ 1 ที่ซึ่งประกอบรวมเพิ่มเติมด้วยลิ้นปิดเปิดควบคุม ของไหลสำหรับควบคุมการไหลของเชื้อเพลิงเหลวจากเเหล่งเชื้อเพลิงเหลว 4. อุปกรณ์ตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิข้อ 3 ที่ซึ่งช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีช่องหนึ่งเป็น อย่างน้อยที่สุดดังกล่าวประกอบรวมด้วยท่อเเคปิลารีท่อหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุด 5. อุปกรณ์ตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิข้อ 4 ที่ซึ่งเเหล่งให้ความร้อนดังกล่าวจะประกอบรวม ด้วยส่วนหนึ่งของท่อเเคปิลารีดังกล่าวที่ถูกทำให้ร้อนโดยผ่านกระเเสไฟฟ้าไปในที่นั้น 6. อุปกรณ์ตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิข้อ 5 ที่ยังประกอบรวมเพิ่มเติมด้วยวิถีทางสำหรับทำ ความสะอาดคราบสกปรกตกค้างทีเ่กิดขึ้นในระหว่างการทำงานของอุปกรณ์ 7. อุปกรณ์ตามที่ระลบุไว้ในข้อถือสิทธิข้อ 3 ที่ซึ่งประกอบรวมเพิ่มเติมด้วย วิถีทางทำความ สะอาดคราบสกปรกตกค้างที่เกิดขึ้นในระหว่งการทำงานของอุปกรณ์ 8. อุปกรณ์ตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิข้อ 7 ที่ซึ่งวิถีทางดังกล่าวสำหรับการทำความสะอาด คราบสกปรกตกค้างจะประกอบด้วยลิ้นปิดเปิดควบคุมของไหลดังกล่าว เเหล่งให้ความร้อนดังกล่าวเเละ ลิ้นปิดเปิดควบคุมออกซิไดเซอร์สำหรับทำให้ช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุด ดังกล่าว มาเชื่อมต่อกับออกซิไดเซอร์ในลักษณะที่ของไหลถ้านเทถึงกันเเละกันได้ โดยเเหล่งให้ความร้อน ดังกล่าวจะให้ความร้อนเเก่ออกซิไดเซอร์ในช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุด ดังกล่าว จนถึงระดับที่เพียงต่อการออกซิไดซ์คราบสกปรกตกค้างที่เกิดขึ้นในระหว่างการทำความ ร้อนเเก่เชือ้เพลิงเหลว ที่ซึ่งลิ้นปิดเปิดควบคุมออกซิไดเซอร์ดังกล่าวสำหรับการนำเอาช่องทางไหลที่เป็น ท่อเเคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุดดังกล่าวไปเชื่อมต่อกับออกซิไดเซอร์ในลักษณะที่ของไหลถ่ายเท ถึงกันเเละกันได้จะสามารถสลับการทำงานระหว่างการนำเอาเชื้อเพลิงเหลวเข้ามา เเละการนำเอา ออกซิไดเซอร์เข้ามาในช่องทางไหลของท่อเเคปิลารีดังกล่าว เเละจะสามารถทำความสะอาดให้เเก่ช่อง ทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีดังกล่าวได้โดยตรง เมื่อออกซิไดเซอร์ถูกส่งเข้าไปในช่องทางไหลที่เป็นท่อ เเคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุดดังกล่าว 9. อุปกรณ์ตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิข้อ 8 ที่ซึ่งช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีช่องหนึ่งเป็น อย่างน้อยที่สุดดังกล่าวจะประกอบรวมด้วย ช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีจำนวนหนึ่ง โดยช่องทางไหลที่ เป็นท่อเเคปิลารีดังกล่าวเเต่ละช่องจะเชื่อมต่อกับส่วนจ่ายเชื้อเพลิงเเละส่วนจ่ายก๊าซที่ใช้ในออกซิเดชันใน ลักษณะที่ของไหลถ่ายเทถึงกันเเละกันได้ 1 0. อุปกรณ์ตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิข้อ 8 ที่ซึ่งออกซิดเซอร์ประกอบรวมด้วยอากาศ ไอเสีย ไอน้ำ เเละของผสมในที่นั้น 1 1. อุปกรณ์ตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิข้อ 7 ที่ซึ่งวิถีทางดังกล่าวในการทำความสะอาดคราบ สกปรกตกค้างประกอบรวมด้วยวิถีทางสำหรับการขัดคราบสกปรกตกค้างที่เกิดขึ้นในระหว่างการทำงาน ของตัวอุปกรณ์ 1 2. อุปกรณ์ตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิข้อ 11 ที่ซึ่งงวิถีทางดังกล่าวในการขัดคราบสกปรกตก ค้างจะประกอบรวมด้วยก้านทีเคลื่อนตัวได้ในเเนวเเกน ที่ถูกจัดตำเเหน่งเพื่อให้อยู่ในเเนวเเกนเดียวกันกับ ช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุดดังกล่าว 1 3. อุปกรณ์ตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิข้อ 12 ที่ซึ่งวิถีทางดังกล่าวในการขัดคราบสกปรกตก ค้างประกอบรวมด้วยเเปรงทำความสะอาดที่ติดตั้งอยู่ตลอดเเนวก้านที่เคลื่อนตัวได้ในเเนวเเกนดังกล่าว 1 4. อุปกรณ์ตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิข้อ 7 ที่ซึ่งวิถีทางดังกล่าวสำหรับการทำความสะอาด คราบสกปรกตกค้างจะประกอบด้วยลิ้นปิดเปิดควบคุมของไหลดังกล่าว เเละลิ้นปิดเปิดควบคุมตัวทำ ละลายเพื่อที่จะทำให้ช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุดดังกล่าวไปเชื่อมต่อกับตัว ทำละลายในลักษณะที่ของไหลถ่ายเทถึงกันเเละกันได้ โดยลิ้นปิดเปิดควบคุมตัวทำละลายดังกล่าวถูกจัด วางอยู่ที่ปลายด้านหนึ่งของช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุดดังกล่าว เเละที่ซึ่ง ลิ้นปิดเปิดควบคุมตัวทำละลาย ดังกล่าวสำหรับการนำเอาช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่าง น้อยที่สุดดังกล่าว ไปเชื่อมต่อกับตัวทำละลายในลักษณะที่ของไหลถ่ายเทถึงกันเละกันได้ จะสลับการ ทำงานระหว่างการนำเอาเชื้่อเพลิงเหลวเข้ามาเเละกาานำเอาตัวทำละลายเข้ามาในช่องทางไหลที่เป็นท่อ เเคปิลารีดังกล่าว เเละจะสามารถทำความสะอาดช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีดังกล่าวได้โดยตรง เมื่อตัว ทำละลายถูกนำเข้าไปในช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุดดังกล่าว 1 5. อุปกรณ์ตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิข้อ 7 ที่ซึ่งวิถีทางดังกล่าสำหรับการทำความสะอาด คราบสกปรกตกค้างจะประกอบด้วยลิ้นปิดเปิดควบคุมของไหลดังกล่าว โดยลิ้นปิดเปิดควบคุมของไหล ดังกล่าวสำหรับการนำเอาช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุดดังกล่าว ไปเชื่อมต่อ กับตัวทำละลายในลักษณะที่ของไหลถ่ายเทถึงกันเเละกันได้ เเละจะสามารถทำความสะอาดช่องทางไหล ที่เป็นท่อเเคปิลารีดังกล่าวได้โดยตรง เมื่อตัวทำะลายถูกใส่เข้าไปในช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีช่อง หนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุดดังกล่าว 1 6. อุุปกรณ์ตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิข้อ 15 ที่ซึ่งตัวทำละลายจะประกอบรวมด้วยเชื้อเพลิง เหลวจากเเหล่งเชื้อเพลิงเหลว เเละที่ซึ่งเเหล่งให้ความร้อนจะไม่ถูกใช้งานในระหว่างการทำความสะอาด ช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีดังกล่าว 1 7. อุปกรณ์ตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งห้องสันดาปดังกล่าวประกอบด้วยตัวจุดระเบิด ที่สามารถทำการจุดระเบิดเชื้อเพลิงที่เป็นไอเเล้ว 1 8. อุปกรณ์ตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิข้อ 1 ที่ซึ่งเเหล่งให้ความร้อนดังกล่าวจะทำให้เชื้อ เพลิงเหลวกลายเป็นไอจนถึงระดับที่มีผลต่อการลดความต้องการในการใช้ พลังงานจุดระเบิดของตัวจุด ระเบิดได้ 1 9. อุปกรณ์ตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ 1 ที่่ยังประกอบรวเพิ่มเติมด้วยเเหล่งเชื้อเพลิง โดยเเหล่งเชื้อเพลิงดังกล่าวมีความสามารถในการส่งเชื้อเพลิงเหลวที่ถูกอัดความดันไปยังช่องทางไหลที่ เป็นท่อเเคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุดดังกล่่าวที่ความดัน 100 psig หรือน้อยกว่า 2 0. อุปกรณ์ตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ 1 ที่เเหล่งให้ความร้อนดังกล่าวทำให้กระเเสของเชื้อ เพลิงเหลวที่กลายเป็นไอซึ่งผสมกับเเก๊สเมื่อออกจากปลายด้านนำออกดังกล่าวของช่องทางไหลที่เป็นท่อ เเคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุดดังกล่าวเพื่อก่อรูปเป็นละอองที่มีการกระจายของชขนาดอนุภาค ซึ่งมี ส่วนหนึ่งของขนาดอนุภาค เท่ากับ 25 ไมโครเมตรหรือน้อยกว่า 2 1. อุปกรณ์ตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ 1 ที่ยังประกอบรวมเพิ่มเติมด้วยตัวเเลกเปลี่ยนความ ร้อนซึ่งประกอบด้วยท่อไอเสียที่ซึ่งส่วนหนึ่งของเเก๊สไอเสียที่ปล่อยออกมาจากห้องสันดาปดังกล่าวผ่าน ท่อไอเสียนั้นจะถูกหมุนเวียน เเละเส้นทางผ่านของอากาศที่ซึ่งอากาศจะไหลผ่านเส้นทางนั้นจะถูกหมุน เวียน โดยตัวเเลกเปลี่ยนความร้อนดังกล่าวจะทำการอุ่นอากาศในเส้นทางผ่านอากาศดังกล่าวโดยการถ่าย โอนความร้อนจากเเก๊สไอเสียในท่อไอเสียดังกล่าวให้กับอากาศ 2 2. อุปกรณ์ตามระบุไว้ในข้อถือสิทธิ 1 ที่นยังประกอบรวมเพิ่มเติมด้วยตัวเป่าอากาศ โดยตัว เป่าอากาศดังกล่าวจะจ่ายอากาศภายใต้ความดันไปยังห้องสันดาปดังกล่าวเพื่อทำให้อากาศที่มีความดันไป ผสมกับเชื้อเพลิงที่กลายเป็นไอเเล้วในอัตราส่วนผสมอากาศ-เชื้อเพลิงตามต้องการที่ส่งผลทำให้เกิดการ สันดาปของชของผสมอากาศ-เชื้อเพลิง 2 3. อุปกรณ์ตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งอย่างน้อยที่สุดส่วนหนึ่งของช่องทางไหลที่ เป็นท่อเเคปิลารีช่องเป็นอย่างน้อยที่สุดดังกล่าวถูกจัดเตรียมให้ถูกให้ความร้อนโดยเชื้อเพลิงที่ถูก สันดาปในลักษณะที่เชื้อเพลิงในช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุดดังกล่าวจะถูก ทำให้เป็นไอ 2 4. อุปกรณ์ตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งเเหล่งเชื้อเพลิงนั้นประกอบด้วยปั๊มเชื้อเพลิง เเละลิ้นเปิดปิดควบคุม โดยลิ้นเปิดปิดควบคุมดังกล่าวจะจ่ายเชื้อเพลิงเหลวให้กับช่องทางไหลที่เป็นท่อ เเคปิลารีที่อัตราการไหลตามต้องการ 2 5. วิธีการสร้างพลังงานที่ซึ่งประกอบรวมด้วย (a) การส่งเชื้อเพลิงเหลวไปยังช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อย ที่สุดโดยช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอยางน้อยที่สุดดังกล่าวมีความต้านทานไฟฟ้าที่ สม่ำเสมอไปตลอดความยาวของมันอย่างมีนัยสำคัญ (b) การทำให้กระเเสเชื้อเพลิงที่กลายเป็นไอเเล้วทั้งหมดไหลผ่านช่องนำออกของช่องทาง ไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุด โดยการให้ความร้อยด้วยไฟฟ้าเเก่เชื้อเพลิงเหลวอย่าง สำม่ำเสมอไปตลอดความยาวของช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีดังกล่าวในขณะที่เชื้อเพลิงเหลวดังกล่าว อยู่ในช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีอย่างน้อยทีสุดหนึ่งช่องดังกล่าว (c) การสันดาปเชื้อเพลิงที่กลายเป็นไอเเล้วในห้องสันดาป เเละ (d) การเเปลงความร้อนที่ได้จากการสันดาปของเชื้อเพลิงที่กลายเป็นไอเเล้วในห้องสันดาป ให้เป็นกำลังทางกล เเละ/หรือทางไฟฟ้าจนถึง 5000 วัตต์ โดยอุปกรณ์เเปลงดังกล่าวประกอบรวมด้วย อุปกรณ์ที่ถูกเลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์สเตอริ่ง เครื่องยนต์สเตอริ่งพร้อมด้วยเครื่องกำเนิด ไฟฟ้าสลับเเละเครื่องยนต์สเตอิ่งพร้อมเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 2 6. วิธีการตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิข้อ 25 ที่ซึ่งช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีช่องหนึ่งเป็น อย่างน้อยที่สุดจะประกอบด้วยท่อเเคปิลารีท่อหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุด เเละเเหล่งให้ความร้อนจะประกอบ รวมด้วยอุปกรณ์ทำความร้อนโดยใช้ความต้านทานหรือส่วนหนึ่งของท่อเเคปิลารีที่ทำให้ร้อนโดนการผ่าน กระเเสไฟฟ้าไปในที่นั้น โดยวิธีการจะประกอบเพิ่มเติมด้วยการทำให้เชื้อเพลิงเหลวไหลผ่านท่อเเคปิลารี เเละทำให้เชื้อเพลิงเหลวกลายเป็นไอโดยการให้ความร้อนเเก่ตัวท่อ 2 7. วิธีการตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ 25 ที่ซึ่งห้องสันดาปดังกล่าวประกอบด้วยตัวจุดระเบิด ที่ถูจัดเตรียมเพื่อจุดระเบิดเชื้อเพลิงที่กลายเป็นไอเเล้ว โดยวิธีการนั้นประกอบด้วยการจุดระเบิดเชื้อเพลิง ที่กลายเป็นไอเเล้วด้วยตัวจุดระเบิด 2 8. วิธีการตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ 27 ที่ซึ่งเเหล่งให้ความร้อนจะมีผลทำให้เชื้อเพลิงเหลว กลายเป็นไอถึงระดับที่มีประสิทธิภาพเพื่อลดความต้องการพลังงานในการจุดระเบิดของตัวระเบิด 29 วิธีการตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ 25 ที่ซึ่งเเหล่งเชื้อเพลิงส่งเชื้อเพลิงเหลวที่ถูกอัดความ ดันไปยังช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุด วิธีการนั้นประกอบด้วยการส่งเซื้อ เพลิงไฮโดรคาร์บอนอัดความดัน เชื้อเพลิงที่ถูกเพิ่มออกซิเจน หรือของผสมของมัน ที่ความดัน 100 psig หรือน้อยกว่าไปยังช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุด 3 0. วิธีการตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ 25 ที่กระเเสของเชื้อเพลิงที่กลายเป็นไอเเล้วที่ผสมกับ อากาศเเละก่อรูปเป็นละอองก่อนการสันดาปในห้องสันดาปก่อนการเริ่มต้นการสันดาป วิธีการนั้น ประกอบด้วยการก่อรูปละอองก่อนการสันดาปที่มีการกระจายของขนาดอนุภาค ซึ่งมี่สวนหนึ่งของขนาด อนุภาค เท่ากับ 25 ไมโครเมตรหรือน้อยกว่า ก่อการจุดระเบิดเชื้อเพลิงที่กลายเป็นไอเเล้วนั้นเพื่อเริ่มการ สันดาป 3 1. วิธีการตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทะิ 25 ที่ยังประกอบรวมเพิ่มเติมด้วย การอุ่นอากาศล่วง หน้าในตัวเเลกเปลี่ยนความร้อนซึ่งประกอบด้วยท่อไอเสียที่ซึ่งเเก๊สไอเสียที่ปล่อยออกมาจากห้องสันดาป ผ่านท่อไอเสียนั้นจะถูกหมุนเวียน เเละเส้นทางผ่านของอากาศที่ซึ่งอากาศที่ไหลผ่านเส้นทางนั้นจะถูก หมุนเวียน โดยตัวเเลกเปลี่ยนความร้อนจะทำการอุ่นอากาศล่วงหน้าในเส้นทางผ่านอากาศโดยการถ่าย โอนความร้อนจากเเก๊สไอเสียในท่อำอเสียให้กับอากาศ 3 2. วิธีการตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ 25 ที่ยังประกอบรวเพิ่มเติมด้วย การจ่ายอากาศภายใต้ ความดันไปยังห้องสันดาปในลักษณะที่อากาศที่มีความดันจะผสมกับเชื้อเพลิงที่กลายเป็นไอเเล้วในอัตรา ส่วนผสมอากาศ-เชื้อเพลิงตามที่ต้องการที่เหมาะสมสำหรับการสันดาปของผสมอากาศ-เชื้อเพลิง 3 3. วิธีการตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ 25 ที่ยังประกอบรวมเพิ่มเติมด้วยการอุ่นเชื้อเพลิงเหลว ล่วงหน้าด้วยตัวเเลกเปลี่ยนความร้อนซึ่งประกอบด้วยท่อไอเสียที่ซึ่งเเก๊สไอเสียที่ปล่อยออกมาจากห้อง สันดาปผ่านท่อไอเสียนั้นจะถูกหุมนเวียน เเละเส้นทางผ่านของเชื้อเพลิงที่ซึ่งเชื้อเพลิงเหลวที่ไหลผ่านเส้น ทางนั้นจะถูกหมุนเวียน โดยตัวเเลกเปลี่ยนความร้อนจะทำการอุ่นเชื้อเพลิงเหลวล่วงหน้าในเส้นทางผ่าน เชื้อเพลิง โดยการถ่ายโอนความร้อนจากเเก๊สไอเสียในท่อไอเสียให้กับเชื้อเพลิงเหลว 3 4. วิธีการตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ 25 ที่ซึ่งเชื้อเพลิงเหลวถูกให้ความร้อนโดยตัวทำความ ร้อนด้วยความต้านทานไฟฟ้า เเละเชื้อเพลิงเหลวในส่วนหนึ่งของช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีถูกทำให้ ร้อนด้วยความร้อนที่ถูกสร้างขึ้นโดยเชื้อเพลิงที่ถูกสันดาป 3 5. วิธีการตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ 34 ที่ซึ่งตัวทำความร้อนด้วยความต้านทานไฟฟ้านั้นจะ ถูกใช้เฉพาะสำหรับช่วงการเริ่มต้นเดินเครื่อง เเละให้ความร้อนจากเชื้อเพลิงที่ถูกสันดาปจะถูกใช้เพื่อทำ ให้เชื้อเพลิงเหลวนั้นกลายเป็นไอหลังจากนั้น 3 6. วิธีการตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ 36 ที่ซึ่งการทำความสะอาดเป็นช่วง ๆ ดังกล่าว ช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีช่องทางอย่างน้อยที่สุดเป็นช่วง ๆ 3 7. วิธีการตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ 36 ที่ซึ่งการทำความสะอาดเป็นช่วง ๆ ดังกล่าว ประกอบรวมด้วย (i) การหยุดการไหลของเชื้อเพลิงเหลวที่ส่งไปยังช่องทางไหลที่เ็นท่อเเคปิลารีช่อง หนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุด (ii) การจ่ายออกซิไดเซอร์ไปยังช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่าง น้อยที่สุด เเละ (iii) การให้ความร้อนเเก่ช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุด ด้วยวิธีนี้ตะกอนตกค้างที่ก่อรูปขึ้นในช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุดจะถูก ออกซิไดซ์ 3 8. วิธีการตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ 37 ซึ่งยังประกอบรวมเพิ่มเติมด้วยการจ่ายเชื้อเพลิงเเละ ออกซิไดซ์อย่างเลือกได้ไปยังช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุด โดยที่การ เลือกเเหล่งจ่ายจะเป็นผลโดยกลไกลิ้นเปิดปิดที่ปฏิบัตการโดยตัวควบบคุม 3 9. วิธีการตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ 38 ที่ซึ่งออกซิไดซ์ถูกเลือกจากอากาศที่มีความดัน เเก๊สไอเสีย กระเเส เเละของผสมของทั้งสองสิ่ง 4 0. วิธีการตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ 36 ที่ขั้นตอนการทำความสะอาดท่อเเคปิลารีดังกล่าว ประกอบด้วยการรขัดตะกอนตกค้างที่ก่อรูปขึ้นใรระหว่างการทำความร้อนเชื้อเพลิงเหลวดังกล่าว 4

1. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 40 ซึ่งการขัดตะกอนตกค้างดังกล่าวใช้เเปรงทำความสะอาดที่ ติดตั้งอยู่บนพื้นผิวภายในของช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุด 4

2. วิธีการข้อถือสิทธิข้อ 36 ซึ่งการทำความสะอาดเเบบเป็นช่วงๆ ดังกล่าวประกอ รวมด้วย (i) การหยุดการให้ความร้อนดังกล่าวของช่องทางไหลเป็นท่อเเคปืลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่ สุด (ii) การจ่ายทำละลายไปยังช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุด โดยที่ ตะกอน ตกค้างที่ก่อรูปขึ้นในช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุดได้รับการขจัด ออกไป 4

3. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 36 ซึ่งการทำความสะอาดเป็นช่วงๆ ดังกล่าว ประกอบ รวมด้วย (i) การไม่ใช่การให้ความร้อนดังกล่าวของช่องทางไหลที่เป็นท่อเเคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อย ที่สุด เเละ (ii) การจ่ายตัวทำละลายไปยังช่องทางไหลที่เป็ฯท่อเเคปิลารีหนึ่งช่องเป็นอย่างน้อยที่สุด โดยที่ตะกอนตกค้างทีก่่อรูปในช่องทางไหบที่เป็นท่อเเคปิลารีช่องหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุดได้รับการขจัด ออกไป 4

4. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 43 ซึ่งตัวทำละลายประกอบด้วย เชื้อเพลิงเหลวจากเเหล่ง เชื้อเพลิงเหลว