TH33332A - หลอดเรืองแสงแบบวงแหวนและอุปกรณ์ส่องสว่าง - Google Patents

Abstract

DC60 (21/03/45) หลอดเรืองแสงแบบวงแหวน (circular fluorescent lamp unit) ประกอบด้วยหลอด ไฟฟ้าที่ทำด้วยแก้ววงแหวน (Circular glass bulb) ที่มีชุดเส้นผ่าศูนย์กลางด้านนอกของวงแหวนอยู่ ภายในช่วงของ 285 ถึง 310 มิลลิเมตร โดยประมาณ หลอดเรืองแสงแบบวงแหวนประกอบด้วยชุด เส้นผ่าศูนย์กลางด้านนอกของหลอด (tube) อยู่ภายในช่วงของ 15 ถึง 18 มิลลิเมตร หรือประมาณนี้ และผิวด้านในที่มีสารเรืองแสง (fluorescint substance) เกาะอยู่บนนั้น ตัวกลางในการปล่อยกระแส (discharge medium) ที่ประกอบด้วยก๊าซเฉื่อย (rage gas) และปรอท (mercury) ซึ่งถูกผนึกอยู่ใน หลอดแก้ววงแหวน เพื่อที่ทำให้หลอดไฟถูกปิดผนึก ดังนั้นการปล่อยกระแสเกิดขึ้นในหลอดแก้ว วงแหวนโดยการจ่ายคู่ของอุปกรณ์ขั้วไฟฟ้าด้วยพลังงานไฟฟ้าของหลอด (lamp power) ทำให้หลอด แก้ววงแหวนสว่างขึ้น พลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟมีความถี่สูงไม่น้อยกว่า 10 กิโลเฮิร์ซ และพลังงาน ไฟฟ้าของหลอดไฟดังกล่าวถูกตั้งไว้ภายในช่วงของ 20 ถึง 40 วัตต์ หรือประมาณนั้น หลอดเรืองแสงแบบวงแหวน (circular fluorescent lamp unit)ประกอบด้วยหลอด ไฟฟ้าที่ทำด้วยแก้ววงแหวน (Circular glass bulb) ที่มีชุดเส้นผ่าศูนย์กลางด้านนอกของวงแหวนอยู่ ภายในช่วงของ 285 ถึง 310 มิลลิเมตร โดยประมาณ หลอดเรืองแสงแบบวงแหวนประกอบด้วยชุด เส้นผ่าศูนย์กลางด้านนอกของหลอด (tube) อยู่ภายในช่วงของ 15 ถึง 18 มิลลิเมตร หรือประมาณนี้ และผิวด้านในที่มีสารเรืองแสง (fluorescint substance) เกาะอยู่บนนั้น ตัวกลางในการปล่อยกระแส (discharge medium) ที่ประกอบด้วยก๊าซเฉื่อย (rage gas) และปรอท (mercury) ซึ่งถูกผนึกอยู่ใน หลอดแก้ววงแหวน เพื่อที่ทำให้หลอดไฟถูกปิดผนึก ดังนั้นการปล่อยกระแสเกิดขึ้นในหลอดแก้ว วงแหวนโดยการจ่ายคู่ของอุปกรณ์ขั้วไฟฟ้าด้วยพลังงานไฟฟ้าของหลอด (lamp power) ทำให้หลอด แก้ววงแหวนสว่างขึ้น พลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟมีความถี่สูงไม่น้อยกว่า 10 กิโลเฮิร์ซ และพลังงาน ไฟฟ้าของหลอดไฟดังกล่าวถูกตั้งไว้ภายในช่วงของ 20 ถึง 40 วัตต์ หรือประมาณนั้น

Claims (3)

1. หลอดเรืองแสงแบบวงแหวน (Circular Fluorescent unit)ประกอบด้วย: หลอดแก้ววงแหวน (Circular glass bulb) ที่มีชุดเส้นผ่าศูนย์กลางด้านนอกของวงแหวน อยู่ภายในช่วงของ 285 ถึง 310 มิลลิเมตร หรือประมาณนั้น, ชุดเส้นผ่าศูนย์กลางด้านนอกของหลอด (tube) อยู่ภายในช่วงของ 15 ถึง 18 มิลลิเมตร หรือประมาณนี้ และผิวด้านในที่มีสารเรืองแสง (fluorescent substance) เกาะอยู่บนนั้น; ตัวกลางในการปล่อยกระแส (discharge medium) ที่ประกอบด้วยก๊าซเฉื่อย (rare gas) และปรอท (mercury) ที่ถูกผนึกอยู่ในหลอดแก้ววงแหวน; และ คู่ของอุปกรณ์ขั้วไฟฟ้า (electrode means) ที่ถูกติดเข้าที่ส่วนปลายทั้งสองข้างของ หลอดแก้ววงแหวน เพื่อที่ทำให้หลอดไฟถูกปิดผนึกในขณะที่เกิดการปล่อยกระแสในหลอดแก้ว วงแหวน โดยการจ่ายคู่ของอุปกรณ์ขั้วไฟฟ้าด้วยพลังงานไฟฟ้าของหลอด (lamp power) ทำให้ หลอดแก้ววงแหวนสว่างขึ้น; ที่ซึ่งพลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟดังกล่วมีความถี่สูงไม่น้อยกว่า 10 กิโลเฮิร์ซ และ พลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟดังกล่าวถูกตั้งไว้ภายในช่วงของ 20 ถึง 40 วัตต์ หรือประมาณนั้น 2. หลอดเรืองแสงแบบวงแหวนตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1 ที่ซึ่งช่วง 20 ถึง 40 วัตต์ ดังกล่าว หรือประมาณนั้นของพลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟ ประกอบด้วยพลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟ เชิงอัตรา (rated lamp power) และพลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟที่ให้ผลลัพธ์สูง (high - output characteristic lamp power) พลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟเชิงอัตราดังกล่าวจะประมาณ 23 วัตต์ และ พลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟที่ให้ผลลัพธ์สูงดังกล่าวจะประมาณ 38 วัตต์ 3. หลอดเรืองแสงแบบวงแหวนตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1 ซึ่งช่วง 20 ถึง 40 วัตต์ หรือ ประมาณนั้นของพลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟประกอบด้วยพลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟเชิงอัตรา และพลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟที่ให้ผลลัพธ์สูง พลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟเชิงอัตราดังกล่าวจะ ประมาณ 27 วัตต์ และพลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟที่ให้ผลลัพธ์สูงดังกล่าวจะประมาณ 38 วัตต์ 4. หลอดเรืองแสงแบบวงแหวนตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1 ที่ซึ่ง สารเรืองแสง (fluorescent substance) ดังกล่าวจะเป็นชนิดที่เปล่งแสงที่มีสามความยาวคลื่นได้แก่ 450, 540 และ 610 นาโนเมตรที่ยอดของความยาวคลื่น (peak wavelength) 5. หลอดเรืองแสงแบบวงแหวนตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1 ที่ซึ่งหลอดแก้ววงแหวนดังกล่าว จะมีชั้นป้องกัน (protective layer) ที่ทำมาจากผงละเอียดของออกไซด์ของโลหะ (metal oxide fine particulates) ที่ถูกทำให้มีอยู่บนพื้นผิวด้านในของหลอด และสารเรืองแสงดังกล่าวจะถูกทำให้เกาะ อยู่บนชั้นป้องกัน 6. หลอดเรืองแสงแบบวงแหวน (circular fluorescent lamp unit) ประกอบด้วย: หลอดแก้ววงแหวน (circular glass bulb) ที่มีชุดเส้นผ่าศูนย์กลางด้านนอกของวงแหวน อยู่ภายในช่วงของ 365 ถึง 390 มิลลิเมตร หรือประมาณนั้น, ชุดเส้นผ่าศูนย์กลางด้านนอกของหลอด (tube) อยู่ภายในช่วงของ 15 ถึง 18 มิลลิเมตร หรือประมาณนี้ และผิวด้านในที่มีสารเรืองแสง (fluorescent substance) เกาะอยู่บนนั้น; ตัวกลางในการปล่อยกระแส (discharge medium) ที่ประกอบด้วยก๊าซเฉลี่ย (rare gas) และปรอท (mercury) ที่ถูกผนึกอยู่ในหลอดแก้ววงแหวน; และ คู่ของอุปกรณ์ขั้วไฟฟ้า Zelectrode means) ที่ถูกติดเข้าที่ส่วนปลายทั้งสองข้างของ หลอดแก้ววงแหวน เพื่อที่ทำให้หลอดไฟถูกปิดผนึกในขณะที่เกิดการปล่อยกระแสในหลอดแก้ว วงแหวน โดยการจ่ายคู่ของอุปกรณ์ขั้วไฟฟ้าด้วยพลังงานไฟฟ้าของหลอด (lamp power) ทำให้ หลอดแก้ววงแหวนสว่างขึ้น; ที่ซึ่งพลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟดังกล่าวมีความถี่สูงไม่น้อยกว่า 10 กิโลเฮิร์ซ และ พลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟดังกล่าวถูกตั้งไว้ภายในช่วงของ 28 ถึง 50 วัตต์ หรือประมาณนั้น 7. หลอดเรืองแสงแบบวงแหวนตามข้อถือสิทธิข้อที่ 6 ที่ซึ่งช่วง 28 ถึง 50 วัตต์ดังกล่าว หรือประมาณนั้นของพลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟ ประกอบด้วยพลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟเชิง อัตรา (rated lamp power) และพลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟที่ให้ผลลัพธ์สูง (high-output characteristic lamp power) พลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟเชิงอัตราดังกล่าวจะประมาณ 30 วัตต์ และ พลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟที่ให้ผลลัพธ์สูงดังกล่าวจะประมาณ 48 วัตต์ 8. หลอดเรืองแสงแบบวงแหวนตามข้อถือสิทธิข้อที่ 6 ที่ซึ่ง ช่วง 28 ถึง 50 วัตต์ หรือ ประมาณนั้นของพลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟประกอบด้วยพลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟเชิงอัตรา และพลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟที่ให้ผลลัพธ์สูง พลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟเชิงอัตราดังกล่าวจะ ประมาณ 34 วัตต์ และพลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟที่ให้ผลลัพธ์สูงดังกล่าวจะประมาณ 48 วัตต์ 9. หลอดเรืองแสงแบบวงแหวนตามข้อถือสิทธิข้อที่ 6 ที่ซึ่งสารเรืองแสง (fluorescent substance) ดังกล่าวจะเป็นชนิดที่เปล่งแสงที่มีสามความยาวคลื่นได้แก่ 450, 540 และ 610 นาโนเมตร ที่ยอดของความยาวคลื่น (peak wavelength) 1 0. หลอดเรืองแสงแบบวงแหวนตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1 ที่ซึ่งหลอดแก้ววงแหวนดังกล่าว จะมีชั้นป้องกัน (protective layer) ที่ทำมาจากผงละเอียดของออกไซด์ของโลหะ (metal oxide fine particulates) ที่ถูกทำให้มีอยู่ที่บนพื้นผิวด้านในของหลอด และสารเรืองแสงดังกล่าวจะถูกทำให้ เกาะอยู่บนชั้นป้องกัน 1 1. หลอดเรืองแสงแบบวงแหวน (circular fluorescent lamp unit) ประกอบด้วย: หลอดแก้ววงแหวน (circular glass bulb) ที่มีชุดเส้นผ่าศูนย์กลางด้านนอกของวงแหวน อยู่ภายในช่วงของ 210 ถึง 235 มิลลิเมตร หรือประมาณนั้น, ชุดเส้นผ่าศูนย์กลางด้านนอกของหลอด (tube) อยู่ภายในช่วงของ 15 ถึง 18 มิลลิเมตร หรือประมาณนี้ และผิวด้านในที่สารเรืองแสง (fluorescent substance) เกาะอยู่บนนั้น; ตัวกลางในการปล่อยกระแส (discharge medium) ที่ประกอบด้วยก๊าซเฉื่อย (rare gas) และปรอท (mercury) ที่ถูกผนึกอยู่ในหลอดแก้ววงแหวน; และ คู่ของอุปกรณ์ขั้วไฟฟ้า (electrode means) ที่ถูกติดเข้าที่ส่วนปลายทั้งสองข้างของ หลอดแก้ววงแหวน เพื่อที่ทำให้หลอดไฟถูกเปิดผนึกในขณะที่เกิดการปล่อยกระแสในหลอดแก้ววงแหวน โดยการจ่ายคู่ของอุปกรณ์ขั้วไฟฟ้าด้วยพลังงานไฟฟ้าของหลอด (lamp power) ทำให้หลอดแก้ววงแหวน สว่างขึ้น; ที่ซึ่งพลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟดังกล่าวมีความถี่สูงไม่น้อยกว่า 10 กิโลเฮิร์ซ และ พลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟดังกล่าวถูกตั้งไว้ภายในช่วงของ 17 ถึง 30 วัตต์ หรือประมาณนั้น 1 2. หลอดเรืองแสงแบบวงแหวนตามข้อถือสิทธิข้อที่ 11 ที่ซึ่งช่วง 17 ถึง 30 วัตต์ดังกล่าว หรือประมาณนั้นของพลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟ ประกอบด้วยพลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟเชิง อัตรา (rated lamp power) และพลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟที่ให้ผลลัพธ์สูง (high-output characteristic lamp power) พลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟเชิงอัตราดังกล่าวจะประมาณ 17, วัตต์ และ พลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟที่ให้ผลลัพธ์สูงดังกล่าวจะประมาณ 28 วัตต์ 1 3. หลอดเรืองแสงแบบวงแหวนตามข้อถือสิทธิข้อที่ 11 ที่ซึ่ง ช่วง 17 ถึง 30 วัตต์ หรือประมาณนั้นของพลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟประกอบด้วยพลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟเชิงอัตรา และพลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟที่ให้ผลลัพธ์สูง พลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟเชิงอัตราดังกล่าวจะ ประมาณ 20 วัตต์ และพลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟที่ให้ผลลัพธ์สูงดังกล่าวจะประมาณ 28 วัตต์ 1 4. หลอดเรืองแสงแบบวงแหวนตามข้อถือสิทธิข้อที่ 11 ที่ซึ่งสารเรืองแสง (fluorescent substance) ดังกล่าวจะเป็นชนิดที่เปล่งแสงที่มีสามความยาวคลื่นได้แก่ 450, 540 และ 610 นาโนเมตรที่ยอดของความยาวคลื่น (peak wavelength) 1 5. หลอดเรืองแสงแบบวงแหวนตามข้อถือสิทธิข้อที่ 11 ที่ซึ่งหลอดแก้ววงแหวนดังกล่าว จะมีชั้นป้องกัน (protective layer) ที่ทำมาจากผงละเอียดของออกไซด์ของโลหะ (metal oxide fine particualteds) ที่ถูกทำให้มีอยู่ที่บนพื้นผิวด้านในของหลอด และสารเรืองแสงดังกล่าวจะถูกทำให้ เกาะอยู่บนชั้นป้องกัน 1 6. อุปกรณ์ส่องสว่าง (lighting apparatus) ประกอบด้วย: ตัวอุปกรณ์ส่องสว่าง (lighting body); และ หลอดเรืองแสงแบบวงแหวนอย่างน้อยหนึ่งหลอดที่ถูกจัดวางอยู่ในตัวอุปกรณ์ส่องสว่าง ที่ซึ่งหลอดเรืองแสงอย่างน้อยหนึ่งหลอดดังกล่าวประกอบด้วยหลอดแก้ววงแหวนที่ ถูกจัดวางอยู่ในอุปกรณ์ส่องสว่างที่มีชุดเส้นผ่าศูนย์กลางด้านนอกของวงแหวนอยู่ภายในช่วง 285 ถึง 310 มิลลิเมตร, 365 ถึง 390 มิลลิเมตร, และ 210 ถึง 235 มิลลิเมตร ชุดเส้นผ่าศูนย์กลางด้านนอก ของหลอดอยู่ภายในช่วงของ 15 ถึง 18 มิลลิเมตร หรือประมาณนั้น และผิวด้านในที่มีสารเรืองแสง (fluorescent substance) เกาะอยู่บนนั้น; ตัวกลางในการปล่อยกระแสที่ประกอบด้วยก๊าซเฉื่อย และ ปรอท ที่ถูกผนึกอยู่ในหลอดแก้ววงแหวน; และคู่ของอุปกรณ์ขั้วไฟฟ้า (electrode means) ที่ถูกติด เข้าที่ส่วนปลายทั้งสองข้างของหลอดแก้ววงแหวนเพื่อที่ทำให้หลอดไฟถูกปิดผนึกและวงจรส่องสว่าง (lighting circuit) สำหรับจ่ายหลอดแก้ววงแหวนของหลอดเรืองแสงอย่างน้อยหนึ่งหลอดผ่านทางคู่ ของอุปกรณ์ขั้วไฟฟ้าด้วยพลังงานไฟฟาของหลอด (lamp power) ที่มีความพี่สูงไม่น้อยกว่า 10 กิโลเฮิร์ซ และพลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟดังกล่าวถูกตั้งไว้ภายในช่วงของ 17 ถึง 50 วัตต์หรือประมาณนั้น ดยการเกิดการปล่อยกระแสไฟฟ้าในหลอดแก้ววงแหวนทำให้หลอดแก้ววงแหวนสว่างขึ้น 1 7. อุปกรณ์ส่องสว่างตามข้อถือสิทธิข้อที่ 16 ที่ซึ่งอุปกรณ์ส่องสว่างดังกล่าวประกอบ ด้วยหลอดเรืองแบบแสงแบบวงแหวนอย่างน้อยสองหลอด หลอดเรืองแสงแบบวงแหวนอย่างน้อยสอง หลอดดังกล่าวจะถูกจัดวางให้มีศูนย์กลางร่วมกันในระนาบที่ต่างกัน 1 8. อุปกรณ์ส่องสว่างตามข้อถือสิทธิข้อที่ 17 ที่ซึ่งอุปกรณ์ส่องสว่างดังกล่าวจะมีส่วน ของโป๊ะไฟ (shading portion) ซึ่งถูกติดเข้ากับตัวอุปกรณ์ส่องสว่าง ดังนั้นหลอดเรืองแสงแบบวงแหวน อย่างน้อยสองหลอดจะได้ถูกครอบคลุมด้วยส่วนของโป๊ะไฟ 1 9. อุปกรณ์ส่องสว่าง (lighting apparatus) ประกอบด้วย; ตัวอุปกรณ์ส่องสว่าง (lighting body); หลอดเรืองแสงแบบวงแหวนอย่างน้อยหนึ่งหลอดตามข้อถือสิทธิข้อที่ 16 ที่ถูกจัดวาง ในตัวอุปกรณ์ส่องสว่าง ที่ซึ่งช่วง 20 ถึง 40 วัตต์ดังกล่าวหรือ ประมาณนั้นของพลังงานไฟฟ้าของ การส่องสว่างประกอบด้วยพลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟฟ้าเชิงอัตราและพลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟ ที่ให้ผลลัพธ์สูง; และ วงจรส่องสว่าง (lighting circuit) สำหรับจ่ายหลอดแก้ววงแหวนของหลอดเรืองแสง อย่างน้อยหนึ่งหลอดผ่านทางคู่ของอุปกรณ์ขั้วไฟฟ้าด้วยพลังงานไฟฟ้าของหลอด (lamp power ที่มี ความถี่สูงไม่น้อยกว่า 10 กิโลเฮิรซ์ และสำหรับควบคุมการจ่ายพลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟไปยัง หลอดแก้ววงแหวนของหลอดเรืองแสงอย่างน้อยหนึ่งหลอดที่ซึ่งการจ่ายพลังงานไฟฟ้าของหลอด สามารถถูกสลับไปมาระหว่างพลังงานไฟฟ้าของหลอดไฟฟ้าเชิงอัตราและพลังงานไฟฟ้าของหลอด ไฟที่ให้ผลลัพธ์สูง 2 0. หลอดเรืองแสงแบบวงแหวน (circular fluorescent lamp unit) ประกอบด้วย: หลอดแก้ว (glass bulb) ที่ถูกโค้เงเป็นรูปร่างค่อนข้างวงแหวน และมีส่วนปลายกับผิว ด้านในซึ่งชั้นสารเรืองแสงได้ถูกก่อรูปขึ้นบนนั้น ส่วนปลายอย่างน้อยที่สุดหนึ่งส่วนถูกจัดให้มีท่อ ระบายอากาศ (exhaust pipe); ตัวกลางในการปล่อยกระแส (discharge medium) ถูกผนึกอยู่ในหลอดแก้ว ; ขั้วไฟฟ้าถูกติดเข้าแต่ละส่วนปลายของหลอดแก้ว เพื่อให้ถูกผนึกอยู่ในหลอดแก้ว และถูกทำให้เป็นรูปร่างที่จะประคองตัวปล่อยกระแส; ส่วนฐาน (base) ที่ถูกจัดเรียงไว้ระหว่างส่วนปลายทั้งสองของหลอดแก้ว และถูกเชื่อม ต่อกับส่วนปลายทั้งสองของหลอด,ส่วนฐานดังกล่าวมีผิวด้านในที่จัดให้มีส่วนกลวงภายใน (inner hollow portion) อยู่ข้างใน, และส่วนยื่น (projecting portion) ที่ถูกจัดไว้ในส่วนตรงกลางของส่วน กลวงภายใน เพื่อให้ยื่นจากผิวด้านใน; และ ตัวแยก (separator) ที่ถูกจัดให้มีไว้สำหรับด้านของส่วนปลายอย่างน้อยที่สุดหนึ่งส่วน ของหลอดแก้วบนที่ซึ่งท่อระบายอากาศถูกติดไว้ และถูกทำขึ้นเพื่อรักษาการแยกระหว่างส่วนปลาย อย่างน้อยที่สุดหนึ่งส่วนกับส่วนยื่น, ตัวแยกถูกติดไว้บนผิวด้านในของส่วนฐาน เพื่อยอมให้ สามารถติดต่อกับส่วนปลายอย่างน้อยที่สุดหนึ่งส่วนของหลอดแก้ว, ตัวแยกดังกล่าวยื่นจากผิวด้านใน ของส่วนฐานโดยมีมีการชนกับท่อระบายอากาศ 2

1. หลอดเรืองแสงแบบวงแหวนตามข้อถือสิทธิข้อที่ 20 ที่ซึ่งหลอดแก้วดังกล่าวมีชุด เส้นผ่าศูนย์กลางด้านนอกหลอด (tube) อยู่ภายในช่วงประมาณ 15 ถึง 18 มิลลิเมตร 2

2. หลอดเรืองแสงแบบวงแหวนตามข้อถือสิทธิข้อที่ 20 ที่ซึ่งส่วนยื่นดังกล่าวในส่วน ฐานจะเป็นส่วนที่ถูกทำขึ้นในรูปแบบของเข็มที่ถูกเชื่อมต่อแบบที่นำไฟฟ้าได้กับส่วนปลายทั้งสอง ของหลอดแก้ว และตัวแยกดังกล่าวมีส่วนประกอบโครง (ribmember) ที่ถูกจัดเรียงถัดจากส่วน ปลายอย่างน้อยที่สุดหนึ่งส่วนดังกล่าวของหลอดแก้ว เพื่อป้องกันส่วนปลายอย่างน้อยที่สุดหนึ่ง ส่วนของหลอดจากการเข้ามาสัมผัสส่วนที่ถูกทำขึ้นในรูปแบบของเข็ม 2

3. หลอดเรืองแสงแบบวงแหวนตามข้อถือสิทธิข้อที่ 20 ที่ซึ่งส่วนยื่นดังกล่าวในส่วน ฐานเป็นส่วนที่ถูกทำขึ้นในรูปแบบของเข้มที่ถูกเชื่อมต่อแบบที่นำไฟฟ้าได้กับส่วนปลายทั้งสอง ของหลอดแก้ว และตัวแยกดังกล่าวมีส่วนประกอบโครงที่ถูกจัดเรียงสัมผัสกับส่วนปลายอย่างน้อย ที่สุดหนึ่งส่วนดังกล่าวของหลอดแก้ว เพื่อป้องกันส่วนปลายอย่างน้อยที่สุดหนึ่งของหลอดจาก เข้ามาสัมผัสส่วนที่ถูกทำขึ้นในรูปแบบของเข็ม