TH28031B - เครื่องยนต์ลูกสูบหมุนเพลาส่งออกด้วยชุดเฟืองโคเมตตารี - Google Patents

Abstract

DC60 (04/12/52) เครื่องยนต์ลูกสูบหมุนเดิมส่งกำลังด้วยเพลาลูกเบี้ยวซึ่งให้แรงฉุดต่ำเมื่อเครื่องยนต์ลูก สูบหมุนเพลาส่งออกด้วยชุดเฟืองโคเมตตารีแล้ว โดยการคำนวณจะมีแรงฉุดเพิ่มขึ้น 100 % หรือเป็น 2 เท่าที่เพลาหมุนเป็น 3 รอบ ของการหมุนของลูกสูบ 1 รอบ ในระบบที่ 1 และให้ แรงฉุดเพิ่มขึ้น 200% หรือเป็น 4 เท่าที่เพลาหมุนเป็น 1.5 เท่า ของการหมุนของลูกสูบหมุน 1 รอบ ในระบบที่ 2 จากข้อได้เปรียบของเครื่องยนต์ลูกสูบหมุนเอง ที่ไม่มีอาการหมุนแบบชักกระตุ๊ก ไม่มี ฟลายวีลที่หนัก และอาการของวาวล์ที่เรียกว่าวาวล์ลอย เมื่อเครื่องหมุนที่รอบสูง ผนวกกับมี สมรรถนะสูง เมื่อส่งกำลังผ่านชุดเฟืองโคเมตตารี่ เครื่องยนต์ลูกสูบหมุนเพลาส่งออกด้วยชุด เฟืองโคเมตตารี่ จึงแสดงถึงขีดความสามารถในการให้กำลังต่อน้ำหนักสูง ความเร็วรอบสูง การสั่นสะเทือนต่ำ ความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ต่ำ เครื่องยนต์สามารถใช้เชื้อเพลิงได้ทั้ง เชื้อเพลิงเหลวไร้สาร แก๊ส และ อ๊อกซิเยน เครื่องยนต์สามารถออกแบบเป็น ออโต ไซเคิล หรือ ดีเซล ไซเคิล เครื่องยนต์จึงมีประสิทธิภาพความร้อนสูง เครื่อง ยนต์ออกแบบทั้ง ระบบ 2 จังหวะ หรือ 4 จังหวะ เครื่องยนต์ลูกสูบหมุนเพลาส่งออกด้วยชุดเฟืองโคเมตตารี่ จึงประสบความสำเร็จอย่างยิ่งแทนเครื่องยนต์ ลูกสูบหมุนเพลาลูกเบี้ยวที่ไม่ประสพความสำเร็จ ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี เครื่องยนต์ลูกสูบหมุนเดิมกำลังส่งออกด้วยเพลาลูกเบี้ยว (eccentric shaft) ซึ่งให้แรง ฉุดต่ำ (Low in output torque) เมื่อเครื่องยนต์ลูกสูบหมุนส่งกำลังผ่านชุดเกียร์โคเมตตารี่แล้ว โดยการคำนวนจะมีแรงฉุดสูงเพิ่มขึ้น 100% หรือ เป็น 2 เท่าที่เพลาหมุนเป็น 3 เท่า ของการ หมุนของลูกสูบ ในระบบที่ 1 และให้แรงฉุดเพิ่มขึ้น 200% หรือเป็น 4 เท่าที่เพลาหมุนเป็น 1.5 เท่าของการหมุนของลูกสูบ ในระบบที่ 2 จากข้อได้เปรียบของเครื่องลูกสูบหมุนเอง ซึ่งไม่มีอาการชักกระตุก ไม่มีฟลายวีลที่หนัก และอาการของวาล์วที่เรียกว่าวาล์วลอย เมื่อเครื่องหมุ่นที่ราบสูง ผนวกกับมีสมรรถนะสูง เมื่อส่งกำลังผ่านชุดเฟืองโคเมตตารี่ เครื่องยนต์ลูกสูบหมุนเพลาส่งออกด้วยชุดเฟืองโคเมตตารี่ จึงแสดงถึงขึดความสามารถในกาให้กำลังต่อน้ำหนักสูง ความเร็วรอบสูงการสั่นสะเทือนต่ำ ความสิ้นเปลืองเชื้องเพลิง ต่ำ เครื่องยนต์สามารถใช้เชื้อเพลิงได้ทั้งเชื้อเพลิงเหลวไร้สาร แก๊ส และอ๊อกซิเจน เครื่องยนต์สามารถออกแบบเป็น ออโต ไซเคิล หรือ ดีเซล ไซเคิล เครื่องยนต์จึงมีประสิทะธิภาพความร้อนสูง เครื่อง ยนต์ออกแบบทั้งระบบ 2 จังหวะ หรือ 4 จังหวะ เครื่องยนต์ลูกสูบหมุนเพลาส่งออกด้วยชุดเฟืองโคเมตตารี่จึงปะรสบความ สำเร็จอย่างยิ่งแทนเครื่องยนต์ ลูกสูบหมุนเพลาลูกเบี้ยวที่ไม่ประสพความสำเร็จตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี

Claims (3)

1.เครื่องยนต์ลูกสูบหมุนเพลาส่งออกด้วยชุดเฟืองโคเมตตารี ประกอบด้วยเสื้อเครื่องที่มีเสื้อเครื่องรอบลูกสูบหมุน (1) และเสื้อเครื่องข้าง (2) ลูกสูบหมุน (3) มีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม เพลาส่งออก (9) ถูกติด ตั้งอยู่ในแกนกลางของเสื่อเครื่องข้าง (2) โดมีลูกสูบหมุน (3) เป็นตัวขับผ่านชุดเฟือง โคเมตตารีให้เพาส่ง ออก (9) หมุน โดยมีลักษณะเฉพาะ คือ ชุดเฟืองภายนอกหนึ่งเฟือง (6) เฟืองวงแหวนหนึ่งเฟือง (5) และเฟืองภายในหนึ่งเฟือง (4) ซึ่งเฟืองวงแหวน (5) เป็นเฟือง แบบสองแถว ที่มีเฟืองวงแหวนนอก (5ก) และเฟืองวงแหวนแถวใน (5ข) โดยที่เฟืองวงแหวนแถวนอก (5ก) และเฟืองวงแหวนแถวใน (5ข) ถูกยึดติดกับในแต่ละด้านของลูกสูบหมุน (3) โดยเฟืองวงแหวนแถวนอก (5ก) ดังกล่าวของเฟือง (5) ถูกขบอยู่กับเฟืองภายนอก (6) โดยมีอัตราของเฟืองภายนอก (6) ต่อเฟืองวงแหวน (5) และเฟืองภายใน (4) เป็น 2.:3:4 ตามลำดับ

2. เครื่องยนต์ลูกสูบหมุนเพลาส่งออกด้วยชุดเฟืองโคเมตตารีตามข้อถือสิทธิที่ 1 ซึ่งเฟืองภายใน (4)ถูกยึดติดกับเสื้อเครื่องข้าง (2) โดยที่เฟืองภายใน (4) ถูกขบอยู่กับเฟืองวงแหวนภายนอก (5ก) ซึ่งยึดติดกบด้านหนึ่งของลูกสูบหมุน (3) และเฟืองภายนอก (6) ถูกติดตั้งเข้ากับเพลาส่งออก (9) โดยที่เฟืองภายนอก (6) ถูกขบอยู่กับเฟืองวงแหวนภายใน (5ข) ซึ่งยึดติดกับอีกด้านหนึ่งของลูกสูบหมุน (3) 3.เครื่องยนต์ลูกสูบหมุนเพลาส่งออกด้วยชุดเฟืองโคเมตตารีตามข้อถือสิทธิที่ 1 ซึ่งเฟืองภายใน (4)ถูกยึดติดกับเพลาส่งออก (9) โดยที่เฟืองภายใน (4) ถูกขบอยู่กับเฟืองวงแหวนภายนอก (5ก) และเฟืองภายนอก (6) ถูกติดตั้งเข้ากับเสื่อเครื่องข้าง (2) โดยที่เฟืองภายนอก (6) ถูกขบอยู่กับเฟืองวงแหวนภายใน (5ข) ซึ่งยึดติดกับอีกด้านหนึ่งของลูกสูบหมุน (3) เพลาส่งออกจะมี 2 ระบบดังนี้ ระบบที่ 1 ยึดเฟืองภายใน (เฟือง ใหญ่ No 4) กับเสื้อเครื่อง เฟืองภายนอก (No 6) ยึดกับเพลาส่งออก เฟืองวงแหวน (No 5) ซึ่งยึดกับลูกสูบหมุน เป็นตัวขับ และ ระบบที่ 2 ยึดเฟืองภายนอก (sun gear No 6) กับเสื้อเครื่องและเฟืองภายใน (No4) ยึดกับเพลาส่งออก เฟืองวงแหวน (No 5) ซึ่งยึดกับลูกสูบหมุนเป็นตัวขับ ก็เป็นข้อถือสิทธิ

3. เครื่องยนต์ลูกสูบหมุนเพลาส่งออกด้านชุดเกียร์โคเมตตารี ตามข้อถือสิทธิที่ 1 ที่ออกแบบทั้งระบบ 4 จังหวะ หรือ 2 จัวหวะ และ ตาม OTTO cycleหรือ Diesel cycle ก็ให้เป็นข้อถือสิทธิในประดิษฐ์กรรมนี้