TH26109A - กระบวนการและเครื่องสำเร็จ สำหรับการทำปฏิกิริยาการเกิดโพลิเมอร์ในแกสเฟสของอัลฟาโอลีฟิน - Google Patents

Abstract

กระบวนการสำหรับการปฎิกิริยาการเกิดโพลิเมอร์ ในแกสเฟสที่ดำเนินการในเขตทำ ทำปฎิกิริยาการเกิดโพลีเมอร์สองเขตที่ต่อเนื่องกัน ซึ่งมีการป้องอัลฟาโอลีฟีน CH2= CHR หนึ่งชนิด หรือมากกว่าเข้าไปในนั้น ในขณะที่มีสารเร่งปฎิกิริยาในสภาพของการทำปฎิกิริยา และมีการปล่อย ผลผลิตที่เป็นโพลีเมอร์ออกจากนั้น กระบวนการนี้มีลักษณะเฉพาะอยู่ที่โพลีเมอร์ ที่กำลังเจริญขึ้นจะ ไหลผ่านเขตการทำปฎิกิริยาการเกิดโพลีเมอร์ที่หนึ่งในสภาพการฟลูอิดไดซ์อย่างรวดเร็ว ออกจาก เขตที่หนึ่งดังกล่าว และเข้าสู่เขตการทำปฎิกิริยาการเกิดโพลีเมอร์เขตที่สอง ซึ่งโพลีเมอร์ไหลผ่าน เขตนี้ในรูปที่มีความหนาแน่นสูง ในสภาพที่เป็นการกระทำของแรงโน้มถ่วง ออกจากเขตที่สองดังกล่าว และถูกส่งกลับเข้าไปยังเขตของการทำปฎิกิริยาการเกิดโพลีเมอร์ที่หนึ่งอีกครั้ง ฉะนั้นจึงเป็นการทำให้ เกิดการไหลเวียนของโพลีเมอร์ระหว่างเขตการทำปฎิกิริยาการเกิดโพลีเมอร์สองเขตนั้น กระบวนการ ใหม่นี้ทำให้โอลีฟีนเกิดโพลีเมอร์ในแกสเฟส โดยที่ได้อัตราการผลิตสูงต่อหนึ่งหน่วยปริมาตรของการ ปฎิกรณ์โดยไม่เกิดปัญหาของเทคโนโลยีด้านชั้นสารฟลูอิดไดซ์ (fluidized bed) ของศิลปวิทยาการด้านนี้ ที่ทราบกันอยู่ในปัจจุบันนี้

Claims (4)

1. กระบวนการสำหรับการทำปฏิกิริยาการเกิดโพลีเมอร์ในแก๊สเฟสของอัลฟาโอลีฟิน CH2=CHR ซึ่ง R คือ ไฮโดรเจน หรือ อนุมูลไฮโดรคาร์บอนที่มีคาร์บอน 1-12 อะตอมที่ดำเนินการ ในเขตการทำปฏิกิริยาการเกิดโพลีเมอร์เขตที่หนึ่ง และที่สองที่เชื่อมต่อกัน ซึ่งมีการป้อนอัลฟาโอ- เลฟินดังกล่าวหนึ่งชนิด หรือมากกว่าเข้าไปในนั้น ในขณะที่มีสารเร่งปฏิกิริยาในสภาพของการทำ ปฏิกิริยา และมีการปล่อยผลผลิตที่เป็นโพลีเมอร์ออกจากเขตเหล่านั้น ซึ่งอนุภาคของโพลีเมอร์ที่ กำลังเจริญขึ้นนั้นไหลผ่านเขตที่หนึ่งของเขตการทำปฏิกิริยาการเกิดโพลีเมอร์เขตดังกล่าวในสภาพ กาฟลูอิดไดซ์อย่างรวดเร็ว ออกจากเขตการทำปฏิกิริยาการเกิดโพลีเมอร์เขตที่หนึ่งดังกล่าว และ เข้าสู่เขตที่สองของเขตการทำปฏิกิริยาการเกิดโพลีเมอร์ดังกล่าว ซึ่งอนุภาคไหลผ่านเขตนี้ในรูป หนาแน่นในสภาพของการกระทำของแรงโน้มถ่วง ออกจากเขตการทำปฏิกิริยาการเกิดโพลีเมอร์ที่ สองดังกล่าว และถูกส่งเข้าไปในเขตการทำปฏิกิริยาการเกิดโพลีเมอร์เขตที่หนึ่งดังกล่าวอีก ครั้ง ฉะนั้น จึงทำให้เกิดการไหลเวียนของโพลีเมอร์ระหว่างเขตการทำปฏิกิริยาการเกิดโพลีเมอร์สองเขตนั้น 2. กระบวนการตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 1 ซึ่งสภาพการฟลูอิดไดซ์อย่างรวดเร็ว ดังกล่าวถูกทำให้เกิดขึ้นโดยการป้อนของผสมที่เป็นแก๊สที่ประกอบด้วยอัลฟาโอลีฟิน CH2=CHR ดังกล่าวหนึ่งชนิดหรือมากกว่าเข้าไปยังเขตการทำปฏิกิริยาการเกิดโพลีเมอร์เขตที่หนึ่งดังกล่าว 3. กระบวนการตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 2 ซึ่งของผสมที่เป็นแก๊สดังกล่าวถูก ป้อนเข้าไปยังเขตการทำปฏิกิริยาการเกิดโพลีเมอร์เขตที่หนึ่งดังกล่าว ในบริเวณที่ต่ำกว่าจุดของ การส่งโพลีเมอร์เข้าไปในเขตการทำปฏิกิริยาการเกิดโพลีเมอร์เขตที่หนึ่งดังกล่าว อีกครั้ง 4. กระบวนการตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 3 ซึ่งการป้อนของผสมที่เป็นแก๊สดังกล่าว ถูกดำเนินการโดยใช้อุปกรณ์ตัวจ่ายแก๊ส 5. กระบวนการตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งที่แล้วมา ซึ่งโพลีเมอร์ และของผสมที่ เป็นแก๊สที่ออกมาจากเขตการทำปฏิกิริยาการเกิดโพลีเมอร์เขตที่หนึ่งดังกล่าวถูกส่งไปยังเขตแยก ของแข็ง/แก๊ส และโพลีเมอร์ที่ออกมาจากเขตแยกของแข็ง/แก๊สดังกล่าวจะเข้าสู่เขตการทำ ปฏิกิริยาการเกิดโพลีเมอร์เขตที่สองดังกล่าว 6. กระบวนการตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งการควบคุมการไหลเวียน โพลีเมอร์ระหว่างเขตการทำปฏิกิริยาการเกิดโพลีเมอร์สองเขตดังกล่าวได้รับการทำให้เกิดขึ้นโดย การวัดปริมาณของโพลีเมอร์ที่ออกจากเขตการทำปฏิกิริยาการเกิดโพลีเมอร์เขตที่สองดังกล่าว 7. กระบวนการตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งที่แล้วมา ซึ่งโพลีเมอร์ที่ผลิตได้ถูกเอา ออกอย่างต่อเนื่องจากเขตการทำปฎิกิริยาการเกิดโพลีเมอร์เขตที่สองดังกล่าว 8. กระบวนการตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งที่แล้วมา ซึ่งองค์ประกอบที่เป็นสารเร่ง ปฏิกิริยาถูกป้อนเข้าสู่เขตการทำปฏิกิริยาการเกิดโพลีเมอร์เขตที่หนึ่งดังกล่าว 9. กระบวนการตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งที่แล้วมา ซึ่งเขตทำปฏิกิริยาเขตใด ๆ ได้รับการป้อนด้วยสารเร่งปฏิกิริยาในรูปที่ถูกทำให้เป็นโพลีเมอร์ล่วงหน้า 1 0. กระบวนการตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งที่กล่าวมา ซึ่งเขตทำปฏิกิริยาเขตใด ๆ ได้รับการป้อนด้วยสารเร่งปฏิกิริยาที่กระจายตัวอยู่ในโพลีเมอร์สเลอรี่ 1 1. กระบวนการตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งที่แล้วมา ซึ่งเขตทำปฏิกิริยาเขตใด ๆ ได้รับการป้อนด้วยสารเร่งปฏิกิริยาที่กระจายตัวอยู่ในโพลีเมอร์แห้ง 1 2. กระบวนการตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 5 ซึ่งของผสมที่เป็นแก๊สออกมาจากการ แยกของแข็ง/แก๊สดังกล่าวถูกอัด, ทำให้เย็น และถ่ายเท ถ้าเป็นการเหมาะสมจะมีการเติมโมโน- เมอร์ส่วนที่เสริมเข้าไปยังเขตการทำปฏิกิริยาการเกิดโพลีเมอร์เขตที่หนึ่งดังกล่าว 1 3. กระบวนการตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 5 ซึ่งส่วนของของผสมที่เป็นแก๊สออกมา จากเขตการแยกของแข็ง/แก๊สถูกทำมาใช้ในการถ่ายเทโพลีเมอร์จากเขตการทำปฏิกิริยาการเกิด โพลีเมอร์เขตที่สองดังกล่าวไปยังเขตที่หนึ่งดังกล่าว 1 4. กระบวนการตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 5 ซึ่งส่วนของของผสมที่เป็นแก๊สออกมา จากการแยกของแข็ง/แก๊สดังกล่าวถูกอัด และถ่ายเทไปยังเขตการทำปฏิกิริยาการเกิดโพลี- เมอร์เขตที่สองดังกล่าวในส่วนใกล้เคียงกับบริเวณที่โพลีเมอร์ออกจากเขตที่สองดังกล่าว 1 5. กระบวนการตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 12 ซึ่งของผสมที่เป็นแก๊สออกมาจากเขต การแยกของแข็ง/แก๊สดังกล่าวถูกทำให้เย็นจนถึงอุณหภูมิต่ำกว่าจุดน้ำค้าง 1 6. กระบวนการตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งที่แล้วมา ซึ่งเขตการทำปฏิกิริยาการ เกิดโพลีเมอร์เขตที่หนึ่งดังกล่าวถูกทำให้เย็นโดยอุปกรณ์กรทำความเย็นภายนอก 1 7. กระบวนการตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งที่แล้วมา ซึ่งโมโนเมอร์เสริมชนิดหนึ่ง หรือมากกว่าถูกป้อนในรูปที่ถูกทำให้ควบแน่นอย่างน้อยเป็นบางส่วนเข้าไปในเขตการทำปฏิกิริยา การเกิดโพลีเมอร์เขตที่หนึ่งดังกล่าว 1 8. กระบวนการตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 2 ซึ่งความเร็วของแก๊สฟลูอิดไดซ์ที่เข้า ไปในเขตการทำปฏิกิริยาการเกิดโพลีเมอร์เขตที่หนึ่งดังกล่าวอยู่ในช่วงระหว่าง 2 และ 15 เมตร/ วินาที โดยที่นิยมอยู่ในช่วงระหว่าง 3 และ 8 เมตร/วินาที 1 9. กระบวนการตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 1 ซึ่งโพลีเมอร์อยู่ในรูปอนุภาคทรงกลมที่ มีขนาดโดยเฉลี่ยในช่วงระหว่าง 0.2 และ 5 มิลลิเมตร โดยที่นิยมอยู่ในช่วงระหว่าง 0.5 และ 3 มิลลิเมตร 2 0. กระบวนการตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 1 ซึ่งความดันดำเนินการอยู่ในช่วง ระหว่าง 0.5 และ 10 MPa โดยที่นิยมอยู่ในช่วงระหว่าง 1.5 และ 6 MPa 2 1. กระบวนการตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 1 ซึ่งมีแก๊สเฉื่อยหนึ่งชนิด หรือมากกว่า อยู่ในเขตการทำปฏิกิริยาการเกิดโพลีเมอร์ดังกล่าวที่ความดันย่อยในช่วงระหว่าง 5 และ 80 เปอร์เซ็นต์ของความดันรวมของแก๊สต่างๆ 2 2. กระบวนการตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 21 ซึ่งมีแก๊สเฉื่อยนั้น คือ ไนโตรเจน หรือ อาลิแฟติค ไฮโดรคาร์บอน ที่มีคาร์บอน 2-6 อะตอม โดยที่นิยมให้เป็นโปรเปน 2 3. กระบวนการตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 1 ซึ่งเขตการทำปฏิกิริยาการเกิดโพลี- เมอร์เขตกลางที่ดำเนินการด้วยชั้นสารฟลูอิดไดซ์ (fluidized bed) ถูกแทรกไว้ระหว่างเขตการทำ ปฏิกิริยาการเกิดโพลีเมอร์เขตที่หนึ่งดังกล่าว และเขตที่สองดังกล่าว 2 4. เครื่องสำเร็จสำหรับการทำปฏิกิริยาการเกิดโพลีเมอร์ในแก๊สเฟสของอัลฟาโอลิฟินที่ ประกอบด้วย: ปฏิกรณ์ที่หนึ่งชนิดทรงกระบอกแนวตั้ง (20) ที่มีท่อป้อนสารเร่งปฏิกิริยา (34) ติดตั้งอยู่ด้วย และปฏิกรณ์ที่สองชนิดทรงกระบอกแนวตั้ง (30) ที่มีระบบปล่อยโพลีเมอร์ (23) ติดตั้งอยู่ด้วย บริเวณส่วนบนของปฏิกรณ์ที่หนึ่ง (20) ดังกล่าวเชื่อมต่อด้วยท่อที่หนึ่ง (21) อยู่กับ เครื่องแยกของแข็ง/แก๊ส (22) ซึ่งเชื่อมต่อยู่อีกทอดหนึ่งกับบริเวรณส่วนบนของปฏิกรณ์ที่สอง (30) ดังกล่าว บริเวณล่างของปฏิกรณ์ที่สอง (30) ดังกล่าวเชื่อมต่อด้วยท่อที่สอง (31) อยู่กับ บริเวณล่างของปฏิกรณ์ที่หนึ่ง (20) ดังกล่าว และเครื่องแยกของแข็ง/แก๊ส (22) ดังกล่าวเชื่อมต่อ ด้วยท่อไหลเวียนกลับสำหรับของผสมที่เป็นแก๊ส (36) เข้ากับปฏิกรณ์ที่หนึ่ง (20) ดังกล่าว ใน บริเวณหนึ่ง (37) ที่กันของปฏิกรณ์ที่หนึ่ง (20) ดังกล่าวที่ต่ำกว่าจุดเข้าของท่อที่สอง (31) ดังกล่าว 2 5. เครื่องสำเร็จตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 24 ซึ่งปฏิกรณ์ที่หนึ่ง (20) ดังกล่าวได้รับ การติดตั้งด้วยอุปกรณ์ตัวจ่ายแก๊ส (33) ที่อยู่ระหว่างจุดเข้าของท่อที่สอง (31)ดังกล่าว และ บริเวณ (37) ดังกล่าวที่กันของปฏิกรณ์ที่หนึ่ง (20) ดังกล่าว 2 6. เครื่องสำเร็จตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 24 ซึ่งลิ้นควบคุมที่หนึ่ง (24) สำหรับ ควบคุมอัตราการไหลของโพลีเมอร์แทรกอยู่ระหว่างปฏิกรณ์ที่สอง (30) ดังกล่าว และท่อที่สอง (31) ดังกล่าว 2 7. เครื่องสำเร็จตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 26 ซึ่งลิ้นที่หนึ่ง (24) ดังกล่าวเป็นลิ้น เชิงกล 2 8. เครื่องสำเร็จตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 26 ซึ่งลิ้นที่หนึ่ง (24) ดังกล่าวเป็นลิ้นที่ ไม่ใช่เชิงกล 2 9. เครื่องสำเร็จตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 25 ซึ่งท่อป้อนสารเร่งปฏิกิริยา (34) ดังกล่าวเชื่อมต่อผ่านทางท่อที่สาม (32) อยู่กับปฏิกรณ์ที่หนึ่ง (20) ดังกล่าวที่จุดหนึ่งเหนือ อุปกรณ์ตัวจ่ายแก๊ส (33) ดังกล่าว 3 0. เครื่องสำเร็จตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 24 ซึ่งท่อไหลเวียนกลับดังกล่าวสำหรับ ของผสมที่เป็นแก๊ส (36) ได้รับการติดตั้งเครื่องอัด (26) ระบบทำความเย็น (27) และระบบสำหรับ ส่งโมโนเมอร์เข้า (28) และตัวควบคุมน้ำหนักโมเลกุลเข้า (29) 3

1. เครื่องสำเร็จตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 24 ซึ่งท่อที่หนึ่ง (21) ดังกล่าวออกจาก บริเวณส่วนบนของปฏิกรณ์ที่หนึ่ง (20) ดังกล่าวออกไปทางด้านข้าง 3

2. เครื่องสำเร็จตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 24 ซึ่งบริเวณส่วนบนของปฏิกรณ์ที่หนึ่ง ดังกล่าวมีรูปทรงเลขาคณิตเป็นกรวยแบบฟรัสโตรโคนิคัลที่มีปลายกว้างอยู่ด้านบนสุด 3

3. เครื่องสำเร็จตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 30 ซึ่งท่อไหลเวียนกลับสำหรับของผสม ที่เป็นแก๊ส (36) ดังกล่าวเชื่อมต่ออยู่ที่จุดหนึ่งทางปลายทางกระแสของเครื่องอัด (26) ดังกล่าวผ่าน ทางท่อ (25) ไปยังท่อที่สอง (31) ดังกล่าว 3

4. เครื่องสำเร็จตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 24 ซึ่งปฏิกรณ์ที่หนึ่ง (20) ดังกล่าวได้รับ การติดตั้งอุปกรณ์ทำความเย็นภายนอก (35)