TH21796B - จานแสง - Google Patents

Abstract

DC60 จานแสงจะมีพื้นที่การบันทึกที่หนึ่งซึ่งเขียนใหม่ได้ และพื้นที่การบันทึกที่สองซึ่งอ่านได้เพียง อย่างเดียว พื้นที่การบันทึกที่หนึ่งจะรวมแทร็กที่หนึ่ง ซึ่งประกอบด้วยร่องแทร็ก ที่ประกอบด้วยร่อง แทร็กและพื้นแทร็ก ร่องแทร็กและพื้นแทร็กดังกล่าวได้รับการสร้างขึ้นไว้บนชั้นฐานของจานแสงใน ลักษณะวางสลับกันเป็นลายก้นหอยหรือเป็นวงกลมที่มีจุดศูนย์กลางร่วมกัน แทร็กที่หนึ่งแต่ละแทร็กได้ รับการแบ่งออกเป็นเซกเตอร์ที่หนึ่งจำนวนหนึ่ง เซกเตอร์ที่หนึ่งแต่ละเซกเตอร์จะรวม บริเวณส่วนหัวที่หนึ่งซึ่งมีข้อมูลการระบุ สำหรับการระบุ เซกเตอร์ที่หนึ่ง และบริเวณข้อมูลที่หนึ่ง สำหรับการบันทึกข้อมูลของผู้ใช้ด้วยการสร้างเครื่องหมายการบันทึกโดยการเปลี่ยนแปลงลักษณะพิเศษ จำเพาะทางแสงของชั้นการบันทึก พื้นที่การบันทึกที่สองจะรวมแทร็กที่สองที่ได้รับการสร้างขึ้นไว้ ด้วยแถวของบิตทางกายภายซึ่งจัดวางอยู่บนชั้นฐานของจานแสงโดยมีลักษณะเป็นลายก้นหอยหรือเป็น วงกลมที่มีจุดศูนย์กลางร่วมกัน แทร็กที่สองแต่ละแทร็กได้รับการแบ่งออกเป็นเซกเตอร์ที่สอง จำนวนหนึ่ง เซกเตอร์ที่สองแต่ละเซกเตอร์จะรวมบริเวณส่วนหัวที่สองซึ่งมีข้อมูลการ ระบุ สำหรับการระบุ เซกเตอร์ที่สอง และบริเวณข้อมูลที่สองซึ่งมีข้อมูลอ่านได้เพียงอย่างเดียว ซึ่งได้รับการบันทึกเอาไว้ในลักษณะเป็นแถวของบิต บริเวณส่วนหัวที่หนึ่งดังกล่าวจะรวมแถวที่หนึ่ง ของหลุม ทางกายภาพ โดย หลุม แต่ละหลุมของแถวที่หนึ่งของหลุม ดังกล่าวมีความกว้างใน ทิศตามแนวรัศมีของจานแสงโดยส่วนใหญ่แล้วเท่ากับความกว้างของร่องแทร็กดังกล่าว และได้รับ การทำให้ ส่าย ออกสู่ด้านนอกหรือเข้าสู่ด้านในจากแนวศูนย์กลางของร่องแทร็กเป็นระยะทาง โดยประมาณเท่ากับหนึ่งในสี่เท่าของพิตช์ของร่องแทร็กดังกล่าว และบริเวณส่วนหัวที่สองดังกล่าว จะรวมแถวที่สองของ หลุม ทางกายภาพ โดย หลุม แต่ละหลุมของแถวที่สองของ หลุม ดัง กล่าวมีความกว้างในทิศตามแนวรัศมีของจานแสงน้อยกว่าความกว้างของร่องแทร็กดังกล่าว และได้ รับการสร้างขึ้นไว้โดยส่วนใหญ่แล้วตามแนวศูนย์กลางของแทร็กที่สอง จานแสงจะมีพื้นที่การบันทึกที่หนึ่งซึ่งเขียนใหม่ได้ และพื้นที่การบันทึกที่สองซึ่งอ่านได้เพียง อย่างเดียว} พื้นที่การบันทึกที่หนึ่งจะรวมแทร็กที่หนึ่ง ซึ่งประกอบด้วยร่องแทร็ก ที่ประกอบด้วยร่อง แทร็กและพื้นแทร็ก ร่องแทร็กและพื้นแทร็กดังกล่าวได้รับการสร้างขึ้นไว้บนชั้นฐานของจานแสงใน ลักษณะวางสลับกันเป็นลายก้นหอยหรือเป็นวงกลมที่มีจุดศูนย์กลางร่วมกัน แทร็กที่หนึ่งแต่ละแทร็กได้ รับการแบ่งออกเป็นเซกเตอร์ที่หนึ่งจำนวนหนึ่ง เซกเตอร์ที่หนึ่งแต่ละเซกเตอร์จะรวม บริเวณส่วนหัวที่หนึ่งซึ่งมีข้อมูลการระบุ สำหรับการระบุ เซกเตอร์ที่หนึ่ง และบริเวณข้อมูลที่หนึ่ง สำหรับการบันทึกข้อมูลของผู้ใช้ด้วยการสร้างเครื่องหมายการบันทึกโดยการเปลี่ยนแปลงลักษณะพิเศษ จำเพาะทางแสงของชั้นการบันทึก พื้นที่การบันทึกที่สองจะรวมแทร็กที่สองที่ได้รับการสร้างขึ้นไว้ ด้วยแถวของบิตทางกายภายซึ่งจัดวางอยู่บนชั้นฐานของจานแสงโดยมีลักษณะเป็นลายก้นหอยหรือเป็น วงกลมที่มีจุดศูนย์กลางร่วมกัน แทร็กที่สองแต่ละแทร็กได้รับการแบ่งออกเป็นเซกเตอร์ที่สอง จำนวนหนึ่ง เซกเตอร์ที่สองแต่ละเซกเตอร์จะรวมบริเวณส่วนหัวที่สองซึ่งมีข้อมูลการ ระบุ สำหรับการระบุ เซกเตอร์ที่สอง และบริเวณข้อมูลที่สองซึ่งมีข้อมูลอ่านได้เพียงอย่างเดียว ซึ่งได้รับการบันทึกเอาไว้ในลักษณะเป็นแถวของบิต บริเวณส่วนหัวที่หนึ่งดังกล่าวจะรวมแถวที่หนึ่ง ของหลุม ทางกายภาพ โดย หลุม แต่ละหลุมของแถวที่หนึ่งของหลุม ดังกล่าวมีความกว้างใน ทิศตามแนวรัศมีของจานแสงโดยส่วนใหญ่แล้วเท่ากับความกว้างของร่องแทร็กดังกล่าว และได้รับ การทำให้ ส่าย ออกสู่ด้านนอกหรือเข้าสู่ด้านในจากแนวศูนย์กลางของร่องแทร็กเป็นระยะทาง โดยประมาณเท่ากับหนึ่งในสี่เท่าของพิทช์ของร่องแทร็กดังกล่าว และบริเวณส่วนหัวที่สองดังกล่าว จะรวมแถวที่สองของ หลุม ทางกายภาพ โดย หลุม แต่ละหลุมของแถวที่สองของ หลุม ดัง กล่าวมีความกว้างในทิศตามแนวรัศมีของจานแสงน้อยกว่าความกว้างของร่องแทร็กดังกล่าว และได้ รับการสร้างขึ้นไว้โดยส่วนใหญ่แล้วตามแนวศูนย์กลางของแทร็กที่สอง

Claims (2)

1.จานแสงซึ่งมีพื้นที่การบันทึกที่หนึ่งชนิดเขียนใหม่ได้ และพื้นที่การบันทึกที่สองชนิดอ่านได้ เพียงอย่างเดียว ที่ซึ่งพื้นที่การบันทึกที่หนึ่งประกอบด้วยแทร็กที่หนึ่งซึ่งประกอบขึ้นมาด้วยร่องแทร็กที่ ประกอบด้วยร่อง และพื้นแทร็กซึ่งประกอบด้วยพื้นที่ว่างระหว่างที่อยู่ใกล้กัน โดยที่ร่องแทร็ก และพื้นแทร็กได้รับการก่อรูปขึ้นมาบนซับสเตรตของจานแสงอย่างสลับกันในรูปร่างลายก้นหอย หรือ รูปร่างมีจุดศูนย์กลางเดียวกัน ซึ่งแทร็กที่หนึ่งแต่ละแทร็กได้รับการแบ่งออกเป็นเซกเตอร์ที่หนึ่ง จำนวนหนึ่ง เซกเตอร์ที่หนึ่งแต่ละเซกเตอร์ประกอบด้วยบริเวณส่วนหัวที่หนึ่งซึ่งมีข้อมูลการระบุ สำหรับการระบุเซกเตอร์ที่หนึ่ง และบริเวณข้อมูลที่หนึ่งสำหรับการบันทึกข้อมูลของผู้ใช้โดยการ ก่อรูปเครื่องหมายการบันทึกขึ้นมาโดยการเปลี่ยนแปลงลักษณะเฉพาะทางแสงของชั้นการบันทึก พื้นที่การบันทึกที่สองประกอบด้วยแทร็กที่สองซึ่งก่อรูปขึ้นมาให้มีแถวบิตทางกายภาพ ซึ่งได้รับการจัดไว้บนซับสเตรตของจานแสงในรูปร่างลายก้นหอย หรือรูปร่างมีจุดศูนย์กลางเดียวกัน โดยแทร็กที่สองแต่ละแทร็กได้รับการแบ่งออกเป็นเซกเตอร์ที่สองจำนวนหนึ่ง ซึ่งเซกเตอร์ที่สอง แต่ละเซกเตอร์ประกอบด้วยบริเวณส่วนหัวที่สองซึ่งมีข้อมูลการระบุสำหรับการระบุเซกเตอร์ที่สอง และบริเวณข้อมูลที่สอง ซึ่งมีข้อมูลชนิดอ่านได้เพียงอย่างเดียวที่บันทึกไว้เป็นแถวบิต บริเวณส่วนหัวที่หนึ่งประกอบด้วยแถวหลุมทางกายภาพที่หนึ่ง ซึ่งหลุมแต่ละหลุมของแถว หลุมที่หนึ่งมีความกว้างในทิศตามแนวรัศมีของจานแสงซึ่งเท่ากันอย่างเป็นสำคัญกับความกว้างของ ร่องแทร็ก และได้รับการทำให้เบนออกด้านนอกหรือเข้าด้านในจากแนวกลางของร่องแทร็กประมาณ หนึ่งในสี่ของพิตช์ของร่องแทร็ก และ บริเวณส่วนหัวที่สองประกอบด้วยแถวหลุมทางกายภาพที่สอง ซึ่งหลุมแต่ละหลุมของแถว หลุมที่สองมีความกว้างในทิศตามแนวรัศมีของจานแสงเล็กกว่าความกว้างของร่องแทร็ก และได้รับ การก่อรูปขึ้นมาตามแนวกลางของแต่ละแทร็กของแทร็กที่สองอย่างเป็นสำคัญ 2. จานแสงตามข้อถือสิทธิที่ 1 ที่ซึ่งลำดับข้อมูลของบริเวณส่วนหัวที่หนึ่งได้รับการมอดูเลตด้วย รหัสการมอดูเลตบริเวณส่วนหัว และลำดับข้อมูลของบริเวณส่วนหัวที่สองได้รับการมอดูเลตด้วยรหัส การมอดูเลตบริเวณส่วนหัว และ ลำดับข้อมูลของบริเวณข้อมูลที่หนึ่งได้รับการมอดูเลตด้วยรหัสการมอดูเลตบริเวณข้อมูล และลำดับข้อมูลของบริเวณข้อมูลที่สองได้รับการมอดูเลตด้วยรหัสการมอดูเลตบริเวณข้อมูล 3. จานแสงตามข้อถือสิทธิที่ 1 ที่ซึ่งข้อมูลการระบุของบริเวณส่วนหัวที่หนึ่งมีรูปแบบข้อมูล บริเวณส่วนหัวซึ่งมีลำดับข้อมูลบริเวณส่วนหัวและความจุข้อมูลบริเวณส่วนหัว และข้อมูลการระบุ ของบริเวณส่วนหัวที่สองมีรูปแบบข้อมูลบริเวณส่วนหัวซึ่งมีลำดับข้อมูลบริเวณส่วนหัวและความจุ ข้อมูลบริเวณส่วนหัว และ บริเวณข้อมูลที่หนึ่งมีรูปแบบบริเวณข้อมูลที่หนึ่งซึ่งมีลำดับข้อมูลของบริเวณข้อมูลและ ความจุข้อมูลของบริเวณข้อมูล และบริเวณข้อมูลที่สองมีรูปแบบข้อมูลของบริเวณข้อมูลซึ่งมีลำดับ ข้อมูลของบริเวณข้อมูลและความจุข้อมูลของบริเวณข้อมูล 4. จานแสงตามข้อถือสิทธิที่ 3 ที่ซึ่งช่วงห่างบิตข้อมูลระหว่างบริเวณส่วนหัวที่หนึ่งและบริเวณ ข้อมูลที่หนึ่งในพื้นที่การบันทึกที่หนึ่งจะเท่ากันอย่างเป็นสำคัญกับช่วงห่างบิตข้อมูลระหว่างบริเวณ ส่วนหัวที่สองและบริเวณข้อมูลที่สองในพื้นที่การบันทึกที่สอง 5. จานแสงตามข้อถือสิทธิที่ 3 ที่ซึ่งในพื้นที่การบันทึกที่หนึ่ง เซกเตอร์ที่หนึ่งแต่ละเซกเตอร์ ประกอบด้วยบริเวณเครื่องหมายกระจกเงา บริเวณช่องว่าง และบริเวณข้อมูลหุ่นที่หนึ่งซึ่งได้รับ การก่อรูปขึ้นมาระหว่างบริเวณส่วนหัวที่หนึ่งและบริเวณข้อมูลที่หนึ่ง และบริเวณข้อมูลป้องกันและ บริเวณบัฟเฟอร์ซึ่งได้รับการก่อรูปขึ้นมาระหว่างบริเวณข้อมูลที่หนึ่งและบริเวณส่วนหัวที่หนึ่งของ เซกเตอร์ที่หนึ่งถัดไป และ ในพื้นที่การบันทึกที่สอง เซกเตอร์ที่สองแต่ละเซกเตอร์ประกอบด้วยบริเวณข้อมูลหุ่นที่สอง ซึ่งก่อรูปขึ้นมาระหว่างบริเวณส่วนหัวที่สองและบริเวณข้อมูลที่สอง และบริเวณข้อมูลหุ่นที่สาม ซึ่งก่อรูปขึ้นมาระหว่างบริเวณข้อมูลที่สองและบริเวณส่วนหัวที่สองของเซกเตอร์ที่สองถัดไป 6. จานแสงตามข้อถือสิทธิที่ 5 ที่ซึ่งบริเวณข้อมูลหุ่นที่หนึ่ง บริเวณข้อมูลหุ่นที่สอง และบริเวณ ข้อมูลหุ่นที่สามแต่ละบริเวณมีแบบรูปลำดับที่กำหนดไว้ล่วงหน้าของรหัสการมอดูเลตที่ใช้สำหรับ การมอดูเลตข้อมูลที่จะทำการบันทึก 7. จานแสงซึ่งมีพื้นที่การบันทึกที่หนึ่งชนิดเขียนใหม่ได้ และพื้นที่การบันทึกที่สองชนิดอ่านได้ เพียงอย่างเดียว ที่ซึ่งพื้นที่การบันทึกที่หนึ่งประกอบด้วยแทร็กที่หนึ่งซึ่งประกอบขึ้นมาด้วยร่องแทร็กที่ ประกอบด้วยร่อง และพื้นแทร็กซึ่งประกอบด้วยพื้นที่ว่างระหว่างร่องที่อยู่ใกล้กัน โดยร่องแทร็กและ พื้นแทร็กได้รับการก่อรูปขึ้นมาบนซับสเตรต ของจานแสงอย่างสลับกันในรูปร่างลายก้นหอย หรือ รูปร่างมีจุดศูนย์กลางเดียวกัน ซึ่งแทร็กที่หนึ่งแต่ละแทร็กได้รับการแบ่งออกเป็นเซกเตอร์ที่หนึ่ง จำนวนหนึ่ง เซกเตอร์ที่หนึ่งแต่ละเซกเตอร์ประกอบด้วยบริเวณส่วนหัวที่หนึ่งซึ่งมีข้อมูลการระบุ สำหรับการระบุเซกเตอร์ที่หนึ่ง และบริเวณข้อมูลที่หนึ่งสำหรับการบันทึกข้อมูลของผู้ใช้เป็น เครื่องหมายการบันทึกโดยการเปลี่ยนแปลงลักษณะเฉพาะทางแสงของชั้นการบันทึก พื้นที่การบันทึกที่สองประกอบด้วยแทร็กที่สองซึ่งก่อรูปขึ้นมาให้มีแถวบิตทางการภาพ ซึ่งได้รับการจัดไว้บนซับสเตรตของจานแสงในรูปร่างลายก้นหอย หรือรูปร่างมีจุดศูนย์กลางเดียวกัน โดยแทร็กที่สองแต่ละแทร็ก ได้รับการแบ่งออกเป็นเซกเตอร์ที่สองจำนวนหนึ่ง ซึ่งเซกเตอร์ที่สอง แต่ละเซกเตอร์ประกอบด้วยบริเวณส่วนหัวที่สองซึ่งมีข้อมูลการระบุสำหรับการระบุเซกเตอร์ที่สอง และบริเวณข้อมูลที่สองซึ่งมีข้อมูลชนิดอ่านได้เพียงอย่างเดียวที่บันทึกไว้เป็นแถวบิต อนุกรมข้อมูลของพื้นที่การบันทึกที่หนึ่งได้รับการมอดูเลตด้วยรหัสการมอดูเลต และอนุกรม ข้อมูลของพื้นที่การบันทึกที่สองได้รับการมอดูเลตด้วยรหัสการมอดูเลต เซกเตอร์ที่หนึ่งมีความจุข้อมูลของเซกเตอร์ และเซกเตอร์ที่สองมีความจุข้อมูลของเซกเตอร์ บริเวณส่วนหัวที่หนึ่งมีลำดับข้อมูลของบริเวณส่วนหัว และบริเวณส่วนหัวที่สองมีลำดับ ข้อมูลของบริเวณส่วนหัว และ บริเวณข้อมูลที่หนึ่งมีลำดับข้อมูลของบริเวณข้อมูลและความจุข้อมูลของบริเวณข้อมูล และ บริเวณข้อมูลที่สองมีลำดับข้อมูลของบริเวณข้อมูลและความจุข้อมูลของบริเวณข้อมูล 8. จานแสงตามข้อถือสิทธิที่ 7 ที่ซึ่งเซกเตอร์ที่หนึ่งแต่ละเซกเตอร์ประกอบด้วยบริเวณข้อมูลหุ่น ที่หนึ่งซึ่งก่อรูปขึ้นมาระหว่างบริเวณส่วนหัวที่หนึ่งและบริเวณข้อมูลที่หนึ่ง เซกเตอร์ที่สองแต่ละเซกเตอร์ประกอบด้วยบริเวณข้อมูลหุ่นที่สองซึ่งก่อรูปขึ้นมาระหว่าง บริเวณส่วนหัวที่สองและบริเวณข้อมูลที่สอง และบริเวณข้อมูลหุ่นที่สามซึ่งก่อรูปขึ้นมาระหว่าง บริเวณข้อมูลที่สองและบริเวณส่วนหัวที่สองของเซกเตอร์ที่สองถัดไป และ บริเวณข้อมูลหุ่นที่สองและที่สามแต่ละบริเวณประกอบอยู่ในอย่างน้อยที่สุดส่วนหนึ่งของ บริเวณนั้นด้วยข้อมูลของอนุกรมข้อมูลที่แตกต่างจากอนุกรมข้อมูลของบริเวณข้อมูลหุ่นที่สอดคล้อง กันบนแทร็กที่อยู่ติดกันถัดเข้าด้านในหรือออกด้านนอกบนซับสเตรตของจานแสง 9. จานแสงตามข้อถือสิทธิที่ 8 ที่ซึ่งบริเวณข้อมูลหุ่นที่สองและที่สามแต่ละบริเวณประกอบ อยู่ในอย่างน้อยที่สุดส่วนหนึ่งของบริเวณนั้นด้วยอนุกรมข้อมูลสุ่มซึ่งไม่สหสัมพันธ์กันอย่างเป็น สำคัญกับอนุกรมข้อมูลที่จัดให้มีอยู่บนบริเวณข้อมูลหุ่นที่สอดคล้องกันบนแทร็กที่อยู่ติดกัน 1 0. จานแสงตามข้อถือสิทธิที่ 9 ที่ซึ่งอนุกรมข้อมูลสุ่มคืออนุกรมข้อมูลที่กำเนิดขึ้นโดยลำดับ อนุกรม M 1 1. จานแสงตามข้อถือสิทธิที่ 8 ที่ซึ่งอนุกรมข้อมูลหุ่นที่สองและที่สามแต่ละบริเวณประกอบอยู่ ในอย่างน้อยที่สุดส่วนหนึ่งของบริเวณนั้นด้วยอนุกรมข้อมูลสุ่มซึ่งไม่สหสัมพันธ์กันอย่างเป็นสำคัญ กับอนุกรมข้อมูลที่ก่อรูปขึ้นมาบนบริเวณข้อมูลหุ่นที่สอดคล้องกันบนแทร็กที่อยู่ติดกัน และแบบรูป ลำดับที่กำหนดไว้ล่วงหน้าซึ่งรวมอยู่ในรหัสการมอดูเลตที่จัดให้มีไว้ต่อตามมาจากอนุกรมข้อมูลสุ่ม 1 2. จานแสงตามข้อถือสิทธิที่ 8 ที่ซึ่งบริเวณข้อมูลหุ่นที่สองและที่สามแต่ละบริเวณประกอบ อยู่ในอย่างน้อยที่สุดส่วนหนึ่งของบริเวณนั้นด้วยอนุกรมประสานเวลาข้อมูลสำหรับการกำหนดระบุ ตำแหน่งจังหวะเวลาเริ่มต้นของบริเวณข้อมูลที่สอง 1 3. จานแสงตามข้อถือสิทธิที่ 12 ที่ซึ่งอนุกรมประสานเวลาข้อมูลที่รวมอยู่ในบริเวณข้อมูลหุ่นที่ สองและที่สามได้รับการจัดเตรียมไว้ในลักษณะที่ว่าแบบรูปของอนุกรมประสานเวลาข้อมูลจะได้รับ การสลับเปลี่ยนทุกๆ แทร็กในท่ามกลางแบบรูปประสานเวลาข้อมูลที่แตกต่างกันจำนวนหนึ่ง 1 4. จานแสงตามข้อถือสิทธิที่ 8 ที่ซึ่งบริเวณข้อมูลหุ่นที่สองและที่สามแต่ละบริเวณมีแบบรูปที่ กำเนิดขึ้นโดยการกวนสัญญาณข้อมูลที่กำหนดไว้ล่วงหน้าโดยมีพื้นฐานอยู่บนสารสนเทศแอดเดรส ในข้อมูลการระบุเซกเตอร์ และโดยการมอดูเลตข้อมูลที่ผ่านการกวนสัญญาณด้วยรหัสการมอดูเลต ในอย่างน้อยที่สุดส่วนหนึ่งของบริเวณนั้น 1 5. จานแสงตามข้อถือสิทธิที่ 7 ที่ซึ่งบล็อกแก้ไขความผิดพลาดหนึ่งบล็อกประกอบด้วยเซกเตอร์ ที่หนึ่งหรือที่สองในจำนวนที่กำหนดไว้ล่วงหน้า k ( k เป็นจำนวนเต็ม) และข้อมูลได้รับการบันทึกลง บนเซกเตอร์ในจำนวนซึ่งเท่ากับจำนวนพหุคูณของ k โดยข้อมูลหุ่นได้รับการบันทึกลงบนเซกเตอร์ ที่เหลืออยู่ซึ่งน้อยกว่า k 1 6. จานแสงซึ่งมีพื้นที่การบันทึกที่หนึ่งชนิดเขียนใหม่ได้ และพื้นที่การบันทึกที่สองชนิดอ่านได้ เพียงอย่างเดียว ที่ซึ่งพื้นที่การบันทึกที่หนึ่งประกอบด้วยแทร็กที่หนึ่งซึ่งประกอบขึ้นมาด้วยร่องแทร็กที่ ประกอบด้วยร่อง และพื้นแทร็กซึ่งประกอบด้วยพื้นที่ว่างระหว่างร่องที่อยู่ใกล้กัน โดยที่ร่องแทร็ก และพื้นแทร็กได้รับการก่อรูปขึ้นมาบนซับสเตรตของจานแสงอย่างสลับกันในรูปร่างลายก้นหอย หรือ รูปร่างมีจุดศูนย์กลางเดียวกัน ซึ่งแทร็กที่หนึ่งแต่ละแทร็กได้รับการแบ่งออกเป็นเซกเตอร์ที่หนึ่ง จำนวนหนึ่ง เซกเตอร์ที่หนึ่งแต่ละเซกเตอร์ประกอบด้วยบริเวณส่วนหัวที่หนึ่งซึ่งมีข้อมูลการระบุ สำหรับการระบุเซกเตอร์ที่หนึ่ง และบริเวณข้อมูลที่หนึ่งสำหรับการบันทึกข้อมูลของผู้ใช้โดยการ ก่อรูปเครื่องหมายการบันทึกขึ้นมา โดยการเปลี่ยนแปลงลักษณะเฉพาะทางแสงของชั้นการบันทึก พื้นที่การบันทึกที่สองประกอบด้วยแทร็กที่สองซึ่งก่อรูปขึ้นมาให้มีแถวบิตทางกายภาพซึ่งได้ รับการจัดไว้บนซับสเตรตของจานแสงในรูปร่างลายก้นหอย หรือรูปร่างมีจุดศูนย์กลางเดียวกัน โดยแทร็กที่สองแต่ละแทร็กได้รับการแบ่งออกเป็นเซกเตอร์ที่สองจำนวนหนึ่ง ซึ่งเซกเตอร์ที่สอง แต่ละเซกเตอร์ประกอบด้วยบริเวณส่วนหัวที่สองซึ่งมีข้อมูลการระบุสำหรับการระบุเซกเตอร์ที่สอง และบริเวณข้อมูลที่สองซึ่งมีข้อมูลชนิดอ่านได้เพียงอย่างเดียวที่บันทึกไว้เป็นแถวบิต บริเวณข้อมูลที่หนึ่งและที่สองอย่างน้อยที่สุดหนึ่งบริเวณประกอบรวมด้วย อนุกรมประสานเวลาข้อมูลที่หนึ่งซึ่งจัดให้มีไว้ที่หัวของบริเวณข้อมูลที่หนึ่งและที่สองอย่าง น้อยที่สุดหนึ่งบริเวณนั้นสำหรับการกำหนดระบุตำแหน่งจังหวะเวลาเริ่มต้นของบริเวณข้อมูลที่หนึ่ง และที่สองอย่างน้อยที่สุดหนึ่งบริเวณนั้น อนุกรมประสานเวลาข้อมูลที่สองที่อยู่ก่อนหน้าอนุกรมประสานเวลาข้อมูลที่หนึ่งสำหรับ การกำหนดระบุตำแหน่งจังหวะเวลาเริ่มต้นของบริเวณข้อมูลที่หนึ่งและที่สองอย่างน้อยที่สุดหนึ่ง บริเวณนั้น และ อนุกรมประสานเวลาข้อมูลที่สามที่อยู่ก่อนหน้าอนุกรมประสานเวลาข้อมูลที่สอง และ มีแบบรูปลำดับการซ้ำที่กำหนดไว้ล่วงหน้าของรหัสการมอดูเลตในบริเวณข้อมูล 1 7. จานแสงตามข้อถือสิทธิที่ 16 ที่ซึ่งบริเวณข้อมูลได้รับการแบ่งออกเป็นบล็อกข้อมูลจำนวน หนึ่ง อนุกรมประสานเวลาข้อมูลที่หนึ่งได้รับการจัดให้มีอยู่ที่หัวของบล็อกข้อมูลแต่ละบล็อก และ อนุกรมประสานเวลาข้อมูลที่สองอยู่ก่อนหน้าอนุกรมประสานเวลาข้อมูลที่หนึ่งซึ่งจัดให้มีอยู่ ที่หัวของบล็อกข้อมูลที่หนึ่งของบล็อกข้อมูลจำนวนหนึ่ง 1 8. จานแสงตามข้อถือสิทธิที่ 16 ที่ซึ่งค่าผลรวมเชิงตัวเลขซึ่งได้มาโดยการแปลงผัน "1" และ "0" ในอนุกรมประสานเวลาข้อมูลที่สอง ให้กลายเป็น "1" และ "-1" ตามลำดับ และโดยการหาผลรวมของ ค่าทั้งหมด จะมีค่าเท่ากับศูนย์อย่างเป็นสำคัญ 1 9. จานแสงตามข้อถือสิทธิที่ 16 ที่ซึ่งอนุกรมประสานเวลาข้อมูลที่สองสอดคล้องกับความยาวสูง สุดและความยาวต่ำสุดที่เป็นค่าจำกัดภายใต้กฎรหัสการมอดูเลตของความยาวมาร์ค (mark length) (ระดับ "1" หรือ "0") และความยาวสเปซ (space length) (ระดับ "0" หรือ "1" ) ของบริเวณข้อมูล 2 0. จานแสงตามข้อถือสิทธิที่ 16 ที่ซึ่งค่าเฉลี่ยของความยาวมาร์คและความยาวสเปซของอนุกรม ประสานเวลาข้อมูลที่สองมากกว่าความยาวมาร์คและความยาวสเปซของอนุกรมประสานเวลาข้อมูล ที่สาม 2

1. จานแสงตามข้อถือสิทธิที่ 16 ที่ซึ่งอนุกรมประสานเวลาข้อมูลที่สองคืออนุกรมข้อมูลซึ่ง ประกอบขึ้นมาด้วยการรวมประกอบกันของสัญลักษณ์รหัส 4 บิตใดๆ จำนวนหนึ่ง "0100" "0010" "1000" "0000" 2

2. จานแสงตามข้อถือสิทธิที่ 16 ที่ซึ่งอนุกรมประสานเวลาข้อมูลที่สองคืออนุกรมข้อมูล ซึ่งรวมอยู่ด้วยอนุกรมรหัส "0000 0100 0100 1000 0010 0001 0010 0000 1000 0010 0001 0000"