TH17751B - อนุภาคไทเทเนียมไดออกไซด์หรือชิงก์ออกไซด์ที่ผ่านการกระทำแล้ว - Google Patents

อนุภาคไทเทเนียมไดออกไซด์หรือชิงก์ออกไซด์ที่ผ่านการกระทำแล้ว

Info

Publication number
TH17751B
TH17751B TH9501002554A TH9501002554A TH17751B TH 17751 B TH17751 B TH 17751B TH 9501002554 A TH9501002554 A TH 9501002554A TH 9501002554 A TH9501002554 A TH 9501002554A TH 17751 B TH17751 B TH 17751B
Authority
TH
Thailand
Prior art keywords
particles
inorganic solids
processed
weight
inorganic
Prior art date
Application number
TH9501002554A
Other languages
English (en)
Other versions
TH23107A (th
TH23107B (th
Inventor
ลอยด์ วัทสัน นายคอลิน
เจมส์ แอลเลน นายปีเตอร์
Original Assignee
นายดำเนิน การเด่น
นายต่อพงศ์ โทณะวณิก
นายวิรัช ศรีเอนกราธา
นายจักรพรรดิ์ มงคลสิทธิ์
Filing date
Publication date
Application filed by นายดำเนิน การเด่น, นายต่อพงศ์ โทณะวณิก, นายวิรัช ศรีเอนกราธา, นายจักรพรรดิ์ มงคลสิทธิ์ filed Critical นายดำเนิน การเด่น
Publication of TH23107A publication Critical patent/TH23107A/th
Publication of TH23107B publication Critical patent/TH23107B/th
Publication of TH17751B publication Critical patent/TH17751B/th

Links

Abstract

ของแข็งอนินทรีย์ผ่านการกระทำแล้วประกอบด้วยอนุภาควัสดุอนินทรีย์ ซึ่งได้เคลือบอนุภาคนั้นด้วยแอลคิลฟอสโฟนิคแอซิด หรือเอสเทอร์ของสารดังกล่าว แอลคิลฟอสโฟนิคแอซิดนั้นมีคาร์บอน 6 ถึง 22 อะตอม อนุภาควัสดุนั้นปกติแล้วคือ สารสี สารเพิ่มปริมาณหรือตัวเติมซึ่งนำมากระทำโดยการผสมกับแอลคิลฟอสโฟนิค แอซิด หรือเอสเทอร์ ตัวอย่างเช่นในสารกระจายตัวในน้ำหรือในระหว่างขั้นตอน ของกรรมวิธีเช่นการบด ของแข็งอนินทรีย์กระทำแล้วนั้นมีประโยชน์เป็นพิเศษ สำหรับเตรียมสารผสมโพลิเมอร์เช่นงวดหลัก

Claims (2)

1. ของแข็งอนินทรีย์ที่ผ่านการกระทำแล้วซึ่งประกอบรวมด้วยอนุภาคไทเทเนียมไดออกไซด์ หรือซิงก์ออกไซด์ ซึ่งอนุภาคนั้นเคลือบด้วยแอลคิลฟอสโฟนิคแอซิด หรือเอสเทอร์ของแอลคิลฟอส โฟนิคแอซิด ซึ่งแอลคิลฟอสโฟนิคแอซิดนั้นมีคาร์บอนจาก 8 ถึง 22 อะตอม 2. ของแข็งอนินทรีย์ที่ผ่านการกระทำแล้วตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งแอลคิลฟอสโฟนิคแอซิด มีคาร์บอนจาก 8 ถึง 14 อะตอม และเป็นแอลคิลฟอสโฟนิค แอซิดที่ได้จากแอลเคลโซ่ตรง 3. ของแข็งอนินทรีย์ที่ผ่านการกระทำแล้วตามข้อถือสิทธิข้อ 1 หรือ 2 ซึ่งได้เคลือบอนุภาค วัสดุอนินทรีย์นั้นด้วยแอลคิลฟอสโฟนิคเอสเทอร์ ซึ่งคือเอสเทอร์ของแอลกอฮอล์ที่มีคาร์บอนสูงถึง 10 อะตอม 4. ของแข็งอนินทรีย์ที่ผ่านการกระทำแล้วตามข้อถือสิทธิข้อ 3 ซึ่งแอลกอฮอล์มีคาร์บอนสูง ถึง 8 อะตอม 5. ของแข็งอนินทรีย์ที่ผ่านการกระทำแล้วตามข้อถือสิทธิข้อ 3 หรือ 4 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่ง แอลกฮอล์ คือ เอธานอล, บิวทานอล, ออคทานอล, ไซโคลเฮกซานอล หรือฟีนอล 6. ของแข็งอนินทรีย์ผ่านการกระทำแล้วตามข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งก่อนหน้า ซึ่งวัสดุ อนินทรีย์นั้นคือไทเทเนียมไดออกไซด์ซึ่งมีการลดแสงวิสิเบิลได้น้อยและลดแสงอัลตราไวโอเลตได้ มาก 7. ของแข็งอนินทรีย์ที่ผ่านการกระทำแล้วตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 6 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่ง ไทเทเนียมไดออกไซด์มีขนาดเฉลี่ยของอนุภาคอยู่ในช่วง 0.1 ไมโครเมตร ถึง 0.5 ไมโครเมตร 8. ของแข็งอนินทรีย์ที่ผ่านการกระทำแล้วตามข้อถือสิทธิข้อ 7 ซึ่งไทเทเนียมไดออกไซด์คือ รูไทล์ ที่มีขนาดเฉลี่ยของผลึกจาก 0.2 ไมโครเมตร ถึง 0.3 ไมโครเมตร 9. ของแข็งอนินทรีย์ที่ผ่านการกระทำแล้วตามข้อถือสิทธิข้อ 7 ซึ่งไทเทเนียมไดออกไซด์ คือแอนาเทสที่มีขนาดเฉลี่ยของผลึกจาก 0.1 ไมโครเมตร ถึง 0.35 ไมโครเมตร 1 0. ของแข็งอนินทรีย์ที่ผ่านการกระทำแล้วตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 6 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่ง ไทเทเนียมไดออกไซด์มีขนาดเฉลี่ยของอนุภาคปฐมภูมิจาก 0.01 ไมโครเมตร ถึง 0.15 ไมโครเมตร 1 1. ของแข็งอนินทรีย์ที่ผ่านการกระทำแล้วตามข้อถือสิทธิข้อ 10 ซึ่งอนุภาคไทเทเนียมได ออกไซด์นั้นโดยส่วนใหญ่เป็นทรงกลมที่มีขนาดเฉลี่ยของอนุภาคปฐมภูมิในช่วง 0.01 ไมโครเมตร ถึง 0.03 ไมโครเมตร 1 2. ของแข็งอนินทรีย์ที่ผ่านการกระทำแล้วตามข้อถือสิทธิข้อ 10 ซึ่งอนุภาคไทเทเนียมได ออกไซด์นั้นเป็นรูปคล้ายเข็มที่มีขนาดเฉลี่ยของเส้นผ่าศูนย์กลางที่ใหญ่ที่สุดของอนุภาคปฐมภูมิอยู่ใน ช่วง 0.02 ไมโครเมตร ถึง 0.1 ไมโครเมตร 1 3. ของแข็งอนินทรีย์ที่ผ่านการกระทำแล้วตามข้อถือสิทธิข้อ 10 ซึ่งอนุภาคไทเทเนียมได ออกไซด์นั้นเป็นรูปคล้ายเข็มและมีอัตราส่วนของเส้นผ่าศูนย์กลางที่ใหญ่ที่สุดต่อเส้นผ่าศูนย์กลางที่ สั้นที่สุดจาก 8:1 ถึง 2:1 1 4. ของแข็งอนินทรีย์ที่ผ่านการกระทำแล้วตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 5 ข้อใดข้อหนึ่งซึ่งซิงก์ ออกไซด์มีขนาดเฉลี่ยของอนุภาคปฐมภูมิในช่วง 0.01 ไมโครเมตร ถึง 0.1 ไมโครเมตร 1 5. ของแข็งอนินทรีย์ที่ผ่านการกระทำแล้วตามข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งก่อนหน้า ซึ่งได้จัด เตรียมอนุภาคของไทเทเนียม ไดออกไซด์ หรือซิงก์ออกไซด์ที่มีผิวเคลือบเป็นออกไซด์อนินทรีย์ หรือ ไฮดรัสออกไซด์ก่อนเคลือบด้วยแอลคิลฟอสโฟนิคแอซิด หรือเอสเทอร์ 1 6. ของแข็งอนินทรีย์ที่ผ่านการกระทำแล้วตามข้อถือสิทธิข้อ 15 ซึ่งออกไซด์อนินทรีย์หรือ ไฮดรัสออกไซด์ คือออกไซด์ หรือไฮดรัสออกไซด์ของอะลูมิเนียม, แคลเซียม, แมกนีเซียม, ไอร์ออน, .ซิลิคอน, เซอร์โคร์เนียม หรือไทเทเนียม 1 7. ของแข็งอนินทรีย์ที่ผ่านการกระทำแล้วตามข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งก่อนหน้า ซึ่งมี แอลคิลฟอสโฟนิคแอซิด หรือเอสเทอร์ในปริมาณสมมูลกับจาก 0.1 ถึง 5 0. เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก ซึ่งแสดงในรูปน้ำหนักของฟอสฟอรัสเทียบกับน้ำหนักของอนุภาคของแข็งเมื่อแห้ง 1 8. ของแข็งอนินทรีย์ที่ผ่านการกระทำแล้วตามข้อถือสิทธิข้อ 17 ซึ่งปริมาณของแอล ดิลฟอสโฟนิค แอซิด หรือเอสเทอร์สมมูลกับฟอสฟอรัสจาก 0.1 ถึง 1.0 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก เทียบกับน้ำหนักของอนุภาคของแข็งเมื่อแห้ง 1 9. ของแข็งอนินทรีย์ที่ผ่านการกระทำแล้วตามข้อถือสิทธิข้อ 17 หรือ 18 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งปริมาณของแอลคิลฟอสโฟนิค แอซิด หรือเอสเทอร์สมมูลกับฟอสฟอรัสจาก 0.3 ถึง 0.8 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนักเทียบกับน้ำหนักของอนุภาคของแข็งเมื่อแห้ง 2 0. ของแข็งอนินทรีย์ที่ผ่านการกระทำแล้วตามข้อถือสิทธิข้อ 10 ถึงข้อ 14 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งปริมาณของแอลคิลฟอสโฟนิค แอซิดหรือแอสเทอร์สมมูลกับจาก 2.0 ถึง 4.0 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำ หนักซึ่งแสดงในรูปน้ำหนักของฟอสฟอรัสเทียบกับน้ำหนักของอนุภาคของแข็งเมื่อแห้ง 2 1. วิธีกระทำกับอนุภาคไทเทเนียมไดออกไซด์หรือซิงก์ออกไซด์ซึ่งประกอบรวมด้วยการ ผสมสารกระจายตัวหรือสารเหลวข้นในน้ำของอนุภาคดังกล่าวกับแอลคิลฟอสโฟนิค แอซิดและเอส เทอร์ของแอลคิลฟอสโฟนิค แอซิด ซึ่งแอลคิลฟอสโฟนิคแอซิดนั้นมีคาร์บอนจาก 8 ถึง 22 อะตอม 2 2. วิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 21 ซึ่งละลายแอลคิลฟอสโฟนิค แอซิด หรือเอสเทอร์ในตัวทำ ละลาย หรือทำให้เกิดอิมัลซันในน้ำก่อนผสมแอลคิลฟอสโฟนิค แอซิด หรือเอสเทอร์ดังกล่าวกับ อนุภาคดังกล่าว 2 3. วิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 21 หรือ 22 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งสารกระจายตัวในน้ำหรือสารเหลว ข้นในน้ำคือสารกระจายตัวหรือสารเหลวข้นในน้ำของไทเทเนียมไดออกไซด์ที่เป็นสารสีซึ่งได้มา จากโรงงานผลิตสารสีไทเทเนียมไดออกไซด์โดยตรง 2 4. วิธีกระทำกับอนุภาคไทเทเนียมไดออกไซด์ หรือซิงก์ออกไซด์ซึงประกอบรวมด้วยการ ผสมอนุภาคดังกล่าวกับแอลคิลฟอสโฟนิคแอซิด หรือเอสเทอร์ของแอลคิลฟอสโฟนิคแอซิด ในขณะ ที่นำอนุภาคนั้นมาผ่านการกรอง, การพ่นแห้ง หรือการบดซึ่งแอลคิลฟอสโฟนิค แอซิด ดังกล่าวมี คาร์บอนจาก 8 ถึง 22 อะตอม 2 5. วิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 24 ซึ่งได้เติมแอลคิลฟอสโฟนิคแอซิดนั้นลงไปในอนุภาคเป็น อิมัลชันในน้ำ 2 6. วิธีกระทำกับอนุภาคของไทเทเนียม ไดออกไซด์ หรือซิงก์ออกไซด์ ซึ่งประกอบรวมด้วย การผสมอนุภาคดังกล่าวกับโพลิเมอร์อินทรีย์และกับแอลคิลฟอสโฟนิคแอซิด หรือเอสเทอร์ของ แอลคิลฟอสโฟนิคแอซิดในเครื่องผสมแบบผสมเข้าด้วยกันเป็นอย่างดีซึ่งแอลคิลฟอสโฟนิคแอซิดดัง กล่าวมีคาร์บอนจาก 8 ถึง 22 อะตอม 2 7. สารผสมซึ่งประกอบรวมด้วยของผสมของโพลิเมอร์อินทรีย์ และของแข็งอนินทรีย์ที่ ผ่านการกระทำแล้วตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 9, หรือ 15 ถึง 19 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งมีของแข็ง อนินทรีย์ที่ผ่านการกระทำแล้วในปริมาณระหว่าง 40 และ 80 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนักเทียบกับน้ำ หนักทั้งหมดของสารผสม 2 8. สารผสมตามข้อถือสิทธิข้อ 27 ซึ่งปริมาณของแข็งอนินทรีย์ที่ผ่านการกระทำแล้ว คือจาก 50 ถึง 75 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนักเทียบกับน้ำหนักทั้งหมดของสารผสม 2 9. สารผสมซึ่งประกอบรวมด้วยของผสมของโพลเมอร์อินทรีย์และของแข็งอนินทรีย์ที่ผ่าน การกระทำแล้วตามข้อถือสิทธิข้อ 9 ถึง 14 หรือข้อ 20 ข้อใดข้อหนึ่งซึ่งมีของแข็งอนินทรีย์ที่ผ่าน การกระทำแล้วในปริมาณระหว่าง 5 และ 40 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนักเทียบกับน้ำหนักทั้งหมดของ สารผสม 3 0. สารผสมตามข้อถือสิทธิข้อ 29 ซึ่งปริมาณของแข็งอนินทรีย์ที่ผ่านการกระทำแล้ว คือจาก 10 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนักเทียบกับน้ำหนักทั้งหมดของสารผสม 3
1. สารผสมตามข้อถือสิทธิข้อ 27 ถึง 30 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งโพลิเมอร์อินทรีย์คือโพลิโอลิ ฟิน, โพลิไวนิล, คลอไรด์, โพลิสไทรีน, แอไครโลไนทริล-บิวทาไดอีน-สไทรีนโพลีเมอร์, โพลิแอ มืด, โพลิคาร์บอเนทหรือโพลิเอสเทอร์ 3
2. สารผสมตามข้อถือสิทธิข้อ 27 ถึง 31 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งโพลิเมอร์อินทรีย์คือโพลิ เอธิลีน หรือโพลิโพรพิลีน
TH9501002554A 1995-10-13 อนุภาคไทเทเนียมไดออกไซด์หรือชิงก์ออกไซด์ที่ผ่านการกระทำแล้ว TH17751B (th)

Publications (3)

Publication Number Publication Date
TH23107A TH23107A (th) 1997-01-21
TH23107B TH23107B (th) 1997-01-21
TH17751B true TH17751B (th) 2004-10-05

Family

ID=

Similar Documents

Publication Publication Date Title
EP0707051B1 (en) Inorganic particles coated with an alkylphosphonic acid or an ester thereof, their preparation and their use
US5509960A (en) Composite pigmentary material
JP5496459B2 (ja) 塗料中の顔料として使用するためのリン酸アルミニウム又はポリリン酸アルミニウムの粒子、並びにそれらの製造方法
US5554215A (en) Composite pigmentary material
JPH09104832A (ja) 高濃度の無機顔料を含有する熱可塑性コンセントレート及びその製造方法
AU704674B2 (en) Gloss emulsion paints
TWI542548B (zh) 細微水滑石粒子
CN101679770B (zh) 高比表面积透明硫化锌
MXPA97007940A (en) Process to prepare an improved pigment of low disintegration that flows libreme
KR0155340B1 (ko) 염산에 의한 침해로부터 비스무트 바나데이트를 안정화시키는 방법
US5643974A (en) Composite pigmentary material
CA2169864A1 (en) Composite pigmentary material
JPH1081517A (ja) 超微粒子酸化チタンおよびその製造方法
TW201731938A (zh) 顆粒表面處理
AU2003204364B2 (en) Pigments treated with organosulfonic compounds
EP0700976B1 (en) Aqueous paint compositions
TH17751B (th) อนุภาคไทเทเนียมไดออกไซด์หรือชิงก์ออกไซด์ที่ผ่านการกระทำแล้ว
TH23107A (th) อนุภาคไทเทเนียมไดออกไซด์หรือชิงก์ออกไซด์ที่ผ่านการกระทำแล้ว
US20210130620A1 (en) Pigment with Enhanced Durability and Plastic Materials Made Therewith
EP1146091B1 (de) Verfahren zur Herstellung von Farbmitteln
GB2297974A (en) Composite pigmentary material
WO2005063395A9 (de) Verfahren zur herstellung einer katalysatorpräparation und verwendung der katalysatorpräparation
DE2914302A1 (de) Polyacrylamidpraeparation und verfahren zu deren herstellung