TH119047A - ตัวโครงเคลือบที่มีคุณสมบัติในการแผ่รังสีความร้อนเป็นเลิศซึ่งนำมาใช้กับชิ้นส่วน ประกอบของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ - Google Patents

Abstract

DC60 (05/06/55) เนื้อหาที่เปิดเผยในที่นี้คือตัวโครงเคลือบสำหรับใช้กับชิ้นส่วนประกอบต่างๆ ของอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งประกอบด้วยวัสดุฐานรองที่เคลือบไว้ด้วยสารเคลือบที่มีการแผ่รังสีความร้อนซึ่งมี คุณสมบัติในการแผ่รังสีความร้อนบนด้านที่เป็นผิวหน้าและด้านหลังโดยที่ความแตกต่าง เดลตาT1 (=T1B - T1A) ระหว่างอุณหภูมิ T1A ณ ตำแหน่ง T1 ของตัวโครงเคลือบซึ่งใช้เป็นตัวอย่างชุดหนึ่ง และอุณหภูมิ T1B ณ ตำแหน่ง T1 ของวัสดุฐานรองที่ไม่มีสารเคลือบมาเคลือบทับซึ่งใช้เป็น ตัวอย่างอีกชุดหนึ่งมีค่า 2.6 องศาเซลเซียส หรือมากกว่านี้โดยที่อุณหภูมิดังกล่าวถูกวัดโดยใช้ชุดอุปกรณ์ ประเมินคุณสมบัติในการแผ่รังสีความร้อนตามที่แสดงให้เห็นในรูปที่ 1 และโดยที่จะมีความ สอดคล้องตามคุณสมบัติพื้นฐานต่างๆ ของมัน (อย่างเช่น การรักษาสภาพที่กันอากาศเข้าเพื่อปก ป้องอุปกรณ์ดังกล่าวไม่ให้มีน้ำและฝุ่นละอองเข้าไปและลดขนาดและน้ำหนัก) ในขณะที่ทำให้ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีอุณหภูมิภายในที่ลดลง (มีคุณสมบัติในการแผ่รังสีความร้อน) เนื้อหาที่เปิดเผยในที่นี้คือตัวโครงเคลือบสำหรับใช้กับชิ้นส่วนประกอบต่างๆ ของอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งประกอบด้วยวัสดุฐานรองที่เคลือบไว้ด้วยสารเคลือบที่มีการแผ่รังสีความร้อนซึ่งมี คุณสมบัติในการแผ่รังสีความร้อนบนด้านที่เป็นผิวหน้าและด้านหลังโดยที่ความแตกต่าง (สูตร)T1 (=T1B - T1A) ระหว่างอุณหภูมิ T1A ณ ตำแหน่ง T1 ของตัวโครงเคลือบซึ่งใช้เป็นตัวอย่างชุดหนึ่ง และอุณหภูมิ T1B ณ ตำแหน่ง T1 ของวัสดุฐานรองที่ไม่มีสารเคลือบมาเคลือบทับซึ่งใช้เป็น ตัวอย่างอีกชุดหนึ่งมีค่า 2.6 ํC หรือมากกว่านี้โดยที่อุณหภูมิดังกล่าวถูกวัดโดยใช้ชุดอุปกรณ์ ประเมินคุณสมบัติในการแผ่รังสีความร้อนตามที่แสดงให้เห็นในรูปที่ 1 และโดยที่จะมีความ สอดคล้องตามคุณสมบัติพื้นฐานต่างๆ ของมัน (อย่างเช่น การรักษาสภาพที่กันอากาศเข้าเพื่อปก ป้องอุปกรณ์ดังกล่าวไม่ให้มีน้ำและฝุ่นละอองเข้าไปและลดขนาดและน้ำหนัก) ในขณะที่ทำให้ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีอุณหภูมิภายในที่ลดลง (มีคุณสมบัติในการแผ่รังสีความร้อน)

Claims (3)

1. ตัวโครงเคลือบ (coated body) สำหรับชิ้นส่วน (members) ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (electronic device) (ยกเว้นตัวโครงเคลือบสำหรับชิ้นส่วนเตาไมโครเวฟ (microwave oven)) ซึ่งประกอบด้วยวัสดุฐานรอง (substrate) ที่ปกคลุม บนพื้นผิวด้านหน้าและด้านหลังของมัน ด้วย ผิวเคลือบแบบแผ่รังสีความร้อนตามลำดับ ที่มีความหนา 2 ไมโครเมตรหรือมากกว่า ซึ่งแต่ละด้านมี สารเติมแต่งแบบแผ่รังสีความร้อน (thermal radiation additives) อย่างน้อยที่สุดด้านหนึ่งของผิว เคลือบแบบแผ่รังสีความร้อนตามลำดับที่กล่าวถึงข้างต้นนั้นประกอบด้วยฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัตินำ ไฟฟ้า (conductive filler), โดยที่ปริมาณการปลดปล่อยรังสีรวม (integrated emissivities) ที่ความยาวคลื่นของรังสี อินฟาเรด (4.5 ถึง15.4 ไมโครเมตร) เมื่อตัวโครงเคลือบถูกให้ความร้อนถึง 100 องศาเซลเซียส เป็นไปตามสมการ (1) ดังนี้: a x b>_0.42 ...(1) โดยที่, a: คือปริมาณปลดปล่อยรังสีรวมชองรังสีอินฟาเรดจากพื้นผิวด้านหน้าของ วัสดุฐานรองที่ถูกปกคลุมด้วยหนึ่งด้านของผิวเคลือบแบบแผ่รังสีความร้อนตามลำดับที่กล่าวถึง ข้างต้น, และ b: คือปริมาณปลดปล่อยรังสีรวมชองรังสีอินฟาเรดจากด้านหลังของวัสดุฐานรองที่ถูก ปกคลุมด้วยอีกด้านหนึ่งของผิวเคลือบแบบแผ่รังสีความร้อนตามลำดับที่กล่าวถึงข้างต้น 2. ตัวโครงเคลือบของข้อถือสิทธิที่ 1 โดยที่: อย่างน้อยหนึ่งด้านของผิวเคลือบแบบแผ่รังสีความร้อนตามลำดับที่กล่าวถึงข้างต้น มีอย่าง น้อยคือคาร์บอนแบล็ก (carbon black) เป็นสารเติมแต่งที่ให้สีดำแบบแผ่รังสีความร้อน; และในเวลา เดียวกัน ทำให้เป็นตามสมการ (2) ดังนี้: (X-3)x(Y - 0.5) >_15 ... (2) โดยใน X หมายถึง ปริมาณ (เปอร์เซ็นต์โดยมวล) ของสารเติมแต่งที่ให้สีดำที่ประกอบอยู่ ในผิวเคลือบแบบแผ่รังสีความร้อน, และ Y หมายถึง ความหนา (ไมโครเมตร) ของผิวเคลือบ 1.<_X<15 ... (3) โดยที่ X หมายถึง ปริมาณ (เปอร์เซ็นต์โดยมวล) ของสารเติมแต่งที่ให้สีดำที่ประกอบอยู่ใน ผิวเคลือบแบบแผ่รังสีความร้อน 4. ตัวโครงเคลือบของข้อถือสิทธิที่ 2 หรือ 3 โดยที่สารเติมแต่งแบบแผ่รังสีความร้อนที่ ให้สีดำมีขนาดอนุภาคเฉลี่ย เท่ากับ 5 ถ ึง 100 นาโนเมตร 5. ตัวโครงเคลือบของข้อถือสิทธิที่ 1 โดยที่อย่างน้อยด้านหนึ่งของผิวเคลือบแบบแผ่รังสี ความร้อนตามลำดับที่กล่าวถึงข้างต้นมีส่วนประกอบของไททาเนียมออกไซด์ (titanium oxide) เป็น สารเติมแต่งแบบแผ่รังสีความร้อนในปริมาณ 50 ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ และมีความหนา 25 ถึง 30 ไมโครเมตร 6. ตัวโครงเคลือบของข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 5 ซึ่งให้ a >_ 0.65 และ/หรือ b>_0.65, โดยที่: a: คือปริมาณการปลดปล่อยรังสีรวมของรังสีอินฟาเรดจากพื้นผิวด้านหน้าของวัสดุ ฐานรองที่ถูกปกคลุมด้วยด้านหนึ่งของผิวเคลือบแบบแผ่รังสีความร้อนตามลำดับที่กล่าวถึงข้างต้น, และ b: คือปริมาณการปลดปล่อยรังสีรวมของรังสีอินฟาเรดจากด้านหลังของวัสดุฐานรองที่ถูก ปกคลุมด้วยอีกด้านหนึ่งของผิวเคลือบแบบแผ่รังสีความร้อนตามลำดับที่กล่าวถึงข้างต้น 7. ตัวโครงเคลือบของข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 6 โดยที่ค่าความ แตกต่าง (A-B) ระหว่างสูงสุด A กับค่าต่ำสุด B ของปริมาณการปลดปล่อยสเปกตรัมในช่วง ความยาวคลื่น 4.5 ถึง 15.4 ไมโครเมตร เท่ากับ 0.35 หรือน้อยกว่า 8. ตัวโครงเคลือบของข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 7 โดยที่เรซินที่ใช้ ขึ้นรูปผิวเคลือบแบบแผ่รังสีความร้อนที่กล่าวถึงข้างต้นนั้น เป็นเรซินที่ไม่ชอบน้ำ 9. ตัวโครงเคลือบของข้อถือสิทธิที่ 8 โดยทีเรซินที่ไม่ชอบน้ำที่กล่าวถึงข้างต้นนั้น คือ เรซินกลุ่มพอลิเอสเทอร์ (polyester resin) 1 0. ตัวโครงเคลือบของข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 9 โดยที่ฟิลเลอร์ที่มี คุณสมบัตินำไฟฟ้าที่กล่าวถึงต้นนั้น คือ Ni 1 1. ตัวโครงเคลือบของข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 10 ซึ่งถูกปรับปรุง ให้ดีขึ้นในแง่การทนต่อรอยขีดข่วนทนต่อรอยนิ้วมือ โดยการปกคลุมผิวเคลือบแบบแผ่รังสี ความร้อนที่กล่าวถึงข้างต้นด้วยเคลือบผิวเคลือบชนิดโปร่งแสง 1 2. ตัวโครงเคลือบของข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 11 โดยที่วัสดุ ฐานรองนั้นเป็นแผ่นโลหะที่ผ่านการทำทรีตเมนต์สำหรับผิวพื้นแบบปราศจากโครเมียม และ นอกเหนือไปจากนี้ ผิวเคลือบแบบแผ่รังสีความร้อนยังประกอบด้วยสารยับยั้งการกัดกร่อน (corrosion inhibitor) 1 3. ตัวโครงเคลือบของข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 12 ซึ่งสามารถถูก นำไปใช้งานเป็นโครงสำหรับชิ้นส่วนของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 1 4. องค์ประกอบผิวเคลือบสำหรับชิ้นส่วนของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกนำมาใช้ สำหรับตัวโครงเคลือบของข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 13 ซึ่งประกอบด้วย ส่วนประกอบสำหรับขึ้นรูปผิวเคลือบ และ เป็นฐานของมัน สารเติมแต่งที่ให้สีดำ 3 เปอร์เซ็นต์โดย มวลหรือมากกว่า และฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัตินำไฟฟ้า 10 ถึง 50 เปอร์เซ็นต์โดยมวล 1 5. องค์ประกอบของข้อถือสิทธิที่ 14 โดยที่สารเติมแต่งที่ให้สีดำที่กล่าวข้างต้นมีขนาด อนุภาคเฉลี่ย เท่ากับ 5 ถึง 100 นาโนเมตร 1 6. องค์ประกอบของข้อถือสิทธิที่ 14 หรือ 15 โดยที่สารเติมแต่งที่ให้สีดำที่กล่าวถึงข้างต้น นั้น คือ คาร์บอกแบล็ก 1 7. องค์ประกอบของข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิที่ 14 ถึง 16 โดยที่ฟิลเลอร์ที่ มีคุณสมบัตินำไฟฟ้าที่กล่าวถึงข้างต้นนั้น คือ Ni 1 8. องค์ประกอบสารเคลือบผิวสำหรับชิ้นส่วนของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้สำหรับตัว โครงเคลือบของข้อถือสิทธิที่ 12 ซึ่งประกอบด้วยส่วนประกอบสำหรัขึ้นรูปผิวเคลือบ และ เป็น ฐานของมัน 35 เปอร์เซ็นต์โดยมวลหรือมากกว่าของเรซิ่นกลุ่มอิพ๊อกซี่มอดิไฟอิ้งพอลิเอสเทอร์ และ/หรือพอลิเอสเทอร์เรซฺนซึ่งมีอนุพันธ์ฟีนอล, สารยับยั้งการกัดกร่อน 2 ถึง 25 เปอร์เซ็นต์โดย มวล, สารเชื่อมขวาง 1 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ของมวล, สารเติมแต่งที่ให้สีดำมากกว่า 3 เปอร์เซ็นต์โดย มวล และฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัตินำไฟฟ้า 10 ถึง 50 เปอร์เซ็นต์โดยมวลน้ำหนัก 1 9. องค์ประกอบของข้อถือสิทธิที่ 12 โดยที่สารเชื่อมขวางนั้นประกอบด้วยเรซินกลุ่ม เมลามีนในอัตราส่วน 5 ถึง 80 ส่วนต่อเรซินกลุ่มไอโซไซนยาเนต 100 ส่วน 2 0. องค์ประกอบของข้อถือสิทธิที่ 18 หรือ 19 โดยที่สารเติมแต่งที่ให้สีดำที่กล่าวถึงข้างต้น นั้นมีขนาดอนุภาคเฉลี่ย เท่ากับ 5 ถึง 100 นาโนเนตร 2

1. องค์ประกอบของข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิที่ 18 ถึง 20 โดยที่สารเติม แต่งที่ให้สีดำกล่าวถึงข้างต้นนั้น คือ คาร์บอนแบล็ก 2

2. องค์ประกอบของข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิที่ 18 ถึง 21 โดยที่ฟิลเลอร์ที่ มีคุณสมบัตินำไฟฟ้าที่กล่าวมาถึงข้างต้นนั้น คือ Ni 2

3. ชิ้นส่วนสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่มีสิ่งให้ความร้อนในพื้นที่ว่างซึ่งถูกปิด ของมัน ซึ่งประกอบด้วยผนังด้านนอกเป็นบางส่วนหรือทั้งหมดของตัวโครงเคลือบสำหรับชิ้นส่วน ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (ยกเว้นตัวโครงเคลือบสำหรับชิ้นส่วนเตาไมโครเวฟ) ดังที่ถูกอ้างสิทธิ ไว้ในข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 13 ที่มีคุณสมบัติกระจายความร้อน และนำความร้อนดีเยี่ยมซึ่งมีลักษณะพิเศษคือ เป็นตัวโครงเคลือบที่ผิวด้านหน้าและด้านหลังของ วัสดุฐานรองถูกปกคลุมด้วยผิวเคลือบกระจายความร้อนที่มีส่วนประกอบของสารเสริมคุณสมบัติ คายความร้อนซึ่งมีความหนา 2 มิวm และอย่างอย่างน้อยที่สุดด้านหนึ่งของผิวเคลือบกระจากความร้อน ดังกล่าวมีส่วนประกอบของฟิลเลอร์ (filler) ที่มีคุณสมบัตินำไฟฟ้าและ ปริมาณการแผ่รังสีรวมของรังสีอินฟาเรด (ความยาวคลื่น 4.5 ถึง 15.4 มิวm) เมื่อให้ ความร้อน 100 องศาเซลเซียสแก่ตัวโครงเคลือบดังกล่าว เป็นไปตามสมการ (1) ดังนี้ a x b > = 0.42 โดย a คือปริมาณการแผ่รังสีรวมของรังสีอินฟาเรดของตัวโครงเคลือบที่ถูกปกคลุมด้วยผิว เคลือบกระจายความร้อนที่ด้านหน้า b คือปริมาณการแผ่รังสีรวมของรังสีอินฟาเรดของตัวโครงเคลือบที่ถูกปกคลุมด้วยผิว เคลือบกระจายความร้อนที่ด้านหลัง