TH99113A

TH99113A - คอมโพสิตชนิดอินทรีย์-อนินทรีย์

Info

Publication number: TH99113A
Application number: TH401004937A
Authority: TH
Inventors: ดี. แท็กก์ นายคริสโตเฟอร์; ฟรีส พอลล็อค นายจาค็อบ; ไซโตะ นายเคน
Original assignee: นางสาวเสาวลักษณ์ ล้ำเลิศ
Filing date: 2004-12-13
Publication date: 2009-11-25

Abstract

DC60 (11/12/57) คอมโพสิตชนิดอนินทรีย์-อินทรีย์ซึ่งประกอบรวมด้วยวัฎภาคอนินทรีย์, เช่น ผลึกยิปซัม, และวัฎภาคอินทรีย์ที่ทำให้เกิดฟิล์มวัฎภาคอินทรีย์ที่ทำให้เกิดฟิล์มนี้เลือกมาจากแป้งชนิดถูกแทนที่ ซึ่งมีระดับของการเกิดเป็นโพลิเมอร์; ระดับของการแทนที่และความหนืดในลักษณะที่แป้งชนิดถูก แทนที่นี้จะไม่ละลายในน้ำในระหว่างการผสมแต่จะละลายได้ที่อุณหภูมิของการทำกรรมวิธีที่สูงขึ้น ในระหว่างการเกิด, การคงตัวหรือการทำให้คอมโพสิตนี้แห้ง ดังนั้น, จึงป้องกันการเคลื่อนย้ายที่มาก เกินไปของแป้งชนิดถูกแทนที่และทำให้คอมโพสิตนี้มีการเสริมความต้านแรงอย่างแท้จริง สารประกอบแต่งชนิดอนินทรีย์-อินทรีย์ซึ่งประกอบรวมด้วยวัฎภาคอนินทรีย์, เช่น ผลึก ยิปซุม, และวัฎภาคอินทรีย์ที่ทำให้เกิดฟิมล์ วัฎภาคอินทรีย์ที่ทำให้เกิดฟิมล์นี้จะเลือกมาจากแป้งชนิด ถูกแทนที่ซึ่งมีระดับของการเกิดเป็นโพลีเมอร์; ระดับของการแทนที่และความหนืดในลักษณะที่แป้ง ชนิดถูกแทนที่นี้จะไม่ละลายในน้ำในระหว่างการผสมแต่จะละลายได้ที่อุณหภูมิของการทำกรรมวิธีที่ สูงขึ้นในระหว่างการเกิด, การคงตัวหรือการทำให้สารประกอบแต่งนี้แห้ง ดังนั้น, จึงป้องกันการ เคลื่อนย้ายที่มากเกินไปของแป้งชนิดถูกแทนที่และทำให้สารประกอบแต่งนี้มีการเสริมความต้านแรง อย่างแท้จริง

Claims

1. สารประกอบแต่งชนิดอินทรีย์-อนินทรีย์ซึ่งประกอบรวมด้วย: แป้งชนิดถูกแทนที่ซึ่งมีระดับของการแทนที่อย่างน้อยหนึ่งหมู่แทนที่; วัฎภาคอนินทรีย์; และ น้ำ, โดยที่วัฎภาคอนินทรีย์, แป้งชนิดถูกแทนที่และน้ำจะผสมเข้าด้วยกันเกิดเป็นของผสม, วัฎภาคอนินทรีย์นี้อย่างน้อยบางส่วนจะเกิดการรวมกับน้ำโดยน้ำ, และระดับของการแทนที่และหมู่ แทนที่อย่างน้อยหนึ่งหมู่จะเลือกมาในลักษณะที่แป้งชนิดถูกแทนที่นี้จะไม่ละลายในระหว่างการผสม ที่อุณหภูมิของการผสมแต่จะละลายอย่างน้อยบางส่วนเมื่ออุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นในระหว่างการทำกรรม วิธีของของผสมและเกิดเป็นฟิมล์ที่กระจายตัวเป็นส่วนใหญ่ทั่วทั้งสารประกอบแต่งชนิดอินทรีย์- อนินทรีย์นี้ซึ่งสารประกอบแต่งชนิดอินทรีย์-อนินทรีย์นี้จะได้รับการเสริมความต้านแรงอย่างแท้จริง

2. สารประกอบแต่งชนิดอินทรีย์-อนินทรีย์ตามข้อถือสิทธิข้อ 1, ซึ่งหมู่แทนที่อย่างน้อยหนึ่ง หมู่นี้เลือกมาจากหมู่แทนที่ที่ประกอบด้วยหมู่แทนที่ชนิดอีเธอร์และหมู่แทนที่ชนิดเอสเทอร์

3. สารประกอบแต่งชนิดอินทรีย์-อนินทรีย์ตามข้อถือสิทธิข้อ 2, ซึ่งหมู่แทนที่อย่างน้อยหนึ่ง หมู่นี้เลือกมาจากหมู่แทนที่ที่ประกอบด้วยหมู่แทนที่ชนิดเอสเทอร์

4. สารประกอบแต่งชนิดอินทรีย์-อนินทรีย์ตามข้อถือสิทธิข้อ 2, ซึ่งหมู่แทนที่อย่างน้อยหนึ่ง หมู่นี้เลือกมาจากหมู่แทนที่ที่ประกอบด้วยหมู่แทนที่ชนิดอีเธอร์

5. สารประกอบแต่งชนิดอินทรีย์-อนินทรีย์ตามข้อถือสิทธิข้อ 1, ซึ่งหมู่แทนที่อย่างน้อยหนึ่ง หมู่นี้เลือกมาจากหมู่แทนที่ที่ประกอบด้วยหมู่แทนที่ชนิดแอลคิล, หมู่แทนที่ชนิดเอธิลซักซิเนต, หมู่ แทนที่ชนิดแคทไอออนิก, หมู่แทนที่ชนิดแอนไอออนิก, และของผสมของหมู่เหล่านี้

6. สารประกอบแต่งชนิดอินทรีย์-อนินทรีย์ตามข้อถือสิทธิข้อ 1, ซึ่งแป้งชนิดถูกแทนที่นี้เป็น แบบไฮดรอกซีเอธิลเลเตด, ไฮดรอกซีโพร พิลเลเตด, หรืออะเซทิลเลเตด

7. สารประกอบแต่งชนิดอินทรีย์-อนินทรีย์ตามข้อถือสิทธิข้อ 1, ซึ่งหมู่แทนที่อย่างน้อยหนึ่ง หมู่นี้เลือกมาในลักษณะที่แป้งชนิดถูกแทนที่นี้มีการเกิดเป็นฟิมล์และชอบน้ำในลักษณะที่แป้งชนิดถูก แทนที่นี้เกิดเป็นฟิมล์บนวัฎภาคอนินทรีย์ที่รวมกับน้ำ

8. สารประกอบแต่งชนิดอินทรีย์-อนินทรีย์ตามข้อถือสิทธิข้อ 1, ซึ่งแป้งชนิดถูกแทนที่นี้เกิด เป็นฟิมล์โพลิเมอร์, ที่ไหลซึ่มผ่าน

9. สารประกอบแต่งชนิดอินทรีย์-อนินทรีย์ตามข้อถือสิทธิข้อ 1, ซึ่งหมู่แทนที่อย่างน้อยหนึ่ง หมู่และระดับของการแทนที่นี้จะเลือกมาในลักษณะที่เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนักของของแข็งที่ความหนืด 1000 cps มีค่าอย่างน้อย 4 เปอร์เซ็นต์ 1

0. สารประกอบแต่งชนิดอินทรีย์-อนินทรีย์ตามข้อถือสิทธิข้อ 9, ซึ่งหมู่แทนที่อย่างน้อย หนึ่งหมู่และระดับของการแทนที่นี้จะเลือกมาในลักษณะที่เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนักของของแข็งที่ความ หนืด 1000 cps และอุญหภูมิ 150 องศาฟาเรนไฮต์มีค่าอยู่ในช่วงจาก 9 เปอร์เซ็นต์ ถึง 43 เปอร์เซ็นต์ 1

1. สารประกอบแต่งชนิดอินทรีย์-อนินทรีย์ตามข้อถือสิทธิข้อ 9, ซึ่งหมู่แทนที่อย่างน้อย หนึ่งหมู่นี้คือหมู่ไฮดรอกซีโพรพิล และระดับของการแทนที่นี้จะเลือกมาในลักษณะที่เปอร์เซ็นต์ โดยน้ำหนักของของแข็งที่ความหนืด 1000 cps และอุณหภูมิ 150 องศาฟาเรนไฮต์มีค่าอยู่ในช่วงจาก 14 เปอร์เซ็นต์ ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ 1

2. สารประกอบแต่งชนิดอินทรีย์-อนินทรีย์ตามข้อถือสิทธิข้อ 11, ซึ่งหมู่แทนที่อย่างน้อย หนึ่งหมู่นี้คือหมู่ไฮดรอกซีเอธิล และระดับของการแทนที่นี้จะเลือกมาในลักษณะที่เปอร์เซ็นต์โดย น้ำหนักของของแข็งที่ความหนืด 1000 cps และอุณหภูมิ 150 องศาฟาเรนไฮต์มีค่าอยู่ในช่วงจาก 17 เปอร์เซ็นต์ ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ 1

3. สารประกอบแต่งชนิดอินทรีย์-อนินทรีย์ตามข้อถือสิทธิข้อ 12, ซึ่งระดับของการแทนที่ ของหมู่ไฮดรอกซีเอธิลนี้จะเลือกมาในลักษณะที่เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนักของของแข็งที่ความหนืด 1000 cps และอุณหภูมิ 150 องศาฟาเรนไฮต์มีค่าอยู่ในช่วงจาก 17 เปอร์เซ็นต์ ถึง 21 เปอร์เซ็นต์ 1

4. สารประกอบแต่งชนิดอินทรีย์-อนินทรีย์ตามข้อถือสิทธิข้อ 12, ซึ่งระดับของการแทนที่มี ค่าต่ำกว่า 0.3 1

5. สารประกอบแต่งชนิดอินทรีย์-อนินทรีย์ตามข้อถือสิทธิข้อ 12, ซึ่งระดับของการแทนที่ ต่ำกว่า 6 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก 1

6. สารประกอบแต่งชนิดอินทรีย์-อนินทรีย์ตามข้อถือสิทธิข้อ 12, ซึ่งระดับของการแทนที่ จะเลือกมาในช่วงจาก 1 ถึง 3 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก 1

7. สารประกอบแต่งชนิดอินทรีย์-อนินทรีย์ตามข้อถือสิทธิข้อ 1, ซึ่งแป้งชนิดถูกแทนที่นี้ อย่างน้อยบางส่วนประกอบรวมด้วยอะไมโลเพกทิน 1

8. สารประกอบแต่งชนิดอินทรีย์-อนินทรีย์ตามข้อถือสิทธิข้อ 17, ซึ่งแป้งชนิดถูกแทนที่นี้ เป็นอะไมโลเพกทินเป็นส่วนใหญ่ 1

9. สารประกอบแต่งชนิดอินทรีย์-อนินทรีย์ตามข้อถือสิทธิข้อ 1, ซึ่งแป้งชนิดถูกแทนที่ เกือบจะทั้งหมดจะละลายและเกิดเป็นฟิมล์โพลิเมอร์ 2

0. สารประกอบแต่งชนิดอินทรีย์-อนินทรีย์ตามข้อถือสิทธิข้อ 1, ซึ่งแป้งชนิดถูกแทนที่นี้คือ แป้งข้าวโพดแวกซี่ชนิดแอซิด-ธิน, ที่ดัดแปลงแบบไม่ชอบน้ำ 2

1. สารประกอบแต่งชนิดอินทรีย์-อนินทรีย์ตามข้อถือสิทธิข้อ 1, ซึ่งแป้งชนิดถูกแทนที่นี้ เป็นแป้งชนิดแอซิด-ธินและหมู่แทนที่อย่างน้อยหนึ่งหมู่นี้เป็นหมู่ไฮดรอกซีโพรพิล 2

2. สารประกอบแต่งชนิดอินทรีย์-อนินทรีย์ตามข้อถือสิทธิข้อ 21, ซึ่งระดับของการแทนที่ จะเลือกมาให้อยู่ในช่วงจาก 1.5 ถึง 2.5 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนักของไฮดรอกซีโพรพิล 2

3. สารประกอบแต่งชนิดอินทรีย์-อนินทรีย์ตามข้อถือสิทธิข้อ 1, ซึ่งแป้งชนิดถูกแทนที่นี้ เป็นแป้งข้าวโพดแวกซี่ชนิดอะเซทิลไลซ์, แอซิด-ธิน 2

4. สารประกอบแต่งชนิดอินทรีย์-อนินทรีย์ตามข้อถือสิทธิข้อ 1, ซึ่งปริมาณแป้งชนิด ถูกแทนที่นี้ไม่มากเกินกว่า 2 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนักของน้ำหนักของแป้งชนิดถูกแทนที่และวัฎภาค อนินทรีย์ 2

5. สารประกอบแต่งชนิดอินทรีย์-อนินทรีย์ตามข้อถือสิทธิข้อ 1, ซึ่งประกอบรวมเพิ่มเติม ด้วยเส้นใยที่กระจายตัวอยู่ทั่วทั้งสารประกอบแต่งอินทรีย์-อนินทรีย์เป็นส่วนใหญ่ 2

6. สารประกอบแต่งชนิดอินทรีย์-อนินทรีย์ตามข้อถือสิทธิข้อ 25, ซึ่งเส้นใยนี้คือเส้นใยแก้ว 2

7. สารประกอบแต่งชนิดอินทรีย์-อนินทรีย์ตามข้อถือสิทธิข้อ 1, ซึ่งประกอบรวมเพิ่มเติม ด้วยสารเติมแต่งเซลลูโลสอีเธอร์ที่เลือกมาในลักษณะที่ทำให้ได้การปรับปรุงความต้านแรงแบบ โค้งงอแบบเสริมฤทธิ์ 2

8. สารประกอบแต่งชนิดอินทรีย์-อนินทรีย์ตามข้อถือสิทธิข้อ 1, ซึ่งเซลลูโลสอีเธอร์นี้ เลือกมาจากกลุ่มของเซลลูโลสอีเธอร์ซึ่งประกอบด้วยไฮดรอกซีโพรพิลเมธิลเซลลูโลส, เมธิล เซลลูโลส, ไฮดรอกซีเอธิลเมธิลเซลลูโลส, ไฮดรอกซีเอธิลเซลลูโลส, ไฮดอรกซีโพรพิลเซลลูโลส, แคทไอออนิกเซลลูโลส, คาร์บอกซีเมธิลเซลลูโลสและของผสมของสารเหล่านี้ 2

9. สารประกอบแต่งชนิดอินทรีย์-อนินทรีย์ตามข้อถือสิทธิข้อ 1, ซึ่งเซลลูโลสอีเธอร์นี้คือ ไฮดรอกซีโพรพิลเมธิลเซลลูโลส 3

0. วิธีการเตรียมชิ้นงานสารประกอบแต่งชนิดอินทรีย์-อนินทรีย์โดยใช้กรรมวิธีซึ่งมีช่วง ของอุณหภูมิในการผสม, วิธีนี้ประกอบรวมด้วย; การเลือกแป้งชนิดถูกแทนที่ที่มีระดับของการแทนที่, ระดับของการเกิดเป็นโพลิเมอร์และหมู่ แทนที่อย่างน้อยหนึ่งหมู่, ในลักษณะที่แป้งชนิดถูกแทนที่นี้ไม่ละลายในน้ำช่วงอุณหภูมิในการ ผสม; การผสมแป้งชนิดถูกแทนที่นี้, วัฎภาคอนินทรีย์และน้ำในกรรมวิธีแบบต่อเนื่องที่อุณหภูมิ ภายในช่วงของอุณหภูมิในการผสม; การเกิดเป็นชิ้นงานสารประกอบแต่ง; การทำให้วัฎภาคอนินทรีย์อย่างน้อยส่วนหนึ่งราวกับน้ำ; การเพิ่มอุณหภูมิให้สูงกว่าช่วงอุณหภูมิในการผสม, ซึ่งแป้งชนิดถูกแทนที่นี้จะละลายในน้ำ ได้อย่างน้อยบางส่วน; และ การทำให้ชิ้นงานสารประกอบแต่งคงตัวและทำให้แห้งในลักษณะที่แป้งชนิดถูกแทนที่นี้เกิด เป็นฟิมล์โพลิเมอร์แบบต่อเนื่องภายในชิ้นงานสารประกอบแต่งนี้