TH990B

TH990B - กรรมวิธีสำหรับปรับสภาพกากน้ำตาล

Info

Publication number: TH990B
Application number: TH8201000145A
Authority: TH
Inventors: พีจิซาวา นายโทชิโอะ; นากูชิ นายซาดาโอะั; ซาคาคิบารา นายมิกิโอะ
Original assignee: นายโรจน์วิทย์ เปเรร่า
Filing date: 1982-05-31
Publication date: 1988-05-03

Abstract

การประดิษฐ์นี้เกี่ยวกับกรรมวิธีสำหรับปรับสภาพกากน้ำตาลเช่นกากน้ำตาลที่เหลือทิ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประดิษฐ์ นี้เกี่ยวข้องกับกรรมวิธีที่มีสมรรถภาพสำหรับใช้แยก แคลเซียมและน้ำตาลที่มีอยู่ในกากน้ำตาล และรวมทั้งทำกากน้ำ ตาลนั้นกลับคืนมาด้วย

Claims

1. ขบวนการปรับสภาพกากน้ำตาลซึ่งประกอบไปด้วย(A) ขั้นตอนการปรับสภาพกากน้ำตาลที่ซึ่งกากน้ำตาลดังกล่าว ถูกนำมาเจือจางให้มีความเข้มข้น 35-70 ซ. BX ปรับค่า pH ของสารละลายเจือจางให้เป็นจาก 3.5 ถึง 5.2 ให้ความร้อนแก่ สารละลายที่ปรับค่า pH แล้วนี้ให้มีอุณหภูมิจาก 50 ซ. ถึง จุดเดือดของสารละลายจากนั้นทำการ "บ่ม" สารละลายที่ร้อน นั้นเป็นเวลาเกินกว่า 5 นาที แล้วแยกของแข็งที่มีแคลเซียม ออกจากสารละลายที่มีน้ำตาลที่ได้นั้น และ (B) ขั้นตอนการปรับสภาพของแข็งที่มีแคลเซียม ที่ซึ่งนำของ แข็งที่มีแคลเซียมที่ได้จากขั้นตอนการปรับสภาพกากน้ำตาล มา เติมน้ำในปริมาณที่มากกว่า 0.5 เท่าโดยปริมาตรต่อปริมาตร ของของแข็งที่มีแคลเซียมนั้น ทำการ "บ่ม" สารละลายที่ได้ เป็นเวลาเกินกว่า 5 นาที จากนั้นแยกของแข็งที่มีแคลเซียม ออกจากสารละลายที่มีน้ำตาลที่ได้มา 2. ขบวนการดังในข้อถือสิทธิ 1 สำหรับการแยกแคลเซียมออก และ นำน้ำตาลคืนมาจากกากน้ำตาลอย่างต่อเนื่อง โดยที่นำสารละลาย ที่มีน้ำตาลที่ได้จากขั้นตอนการปรับสภาพของแข็งที่มี แคลเซียมมาเติมใส่ในกากน้ำตาลต่อไปอีกเพื่อทำให้เจือจางลง ดังในขบวนการของข้อถือสิทธิ 1 3. ขบวนการดังในข้อถือสิทธิ 1 หรือ 2 ที่ซึ่งกากน้ำตาลถูก เจือจางลงจนถึงความเข้มข้น 40-70 ซ. BX 4. ขบวนการดังในข้อถือสิทธิ 3 ที่ซึ่งกากน้ำตาลถูกเจือจาง ลงจนถึงความเข้มข้นประมาณ 60 ซ. BX 5. ขบวนการดังในข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งข้างต้น ที่ซึ่งมี การปรับค่า pH ของสารละลายเจือจางนั้นให้เป็นประมาณ 4.5 6. ขบวนการดังในข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งข้างต้น ที่ซึ่งมี การให้ความร้อนสารละลายที่ปรับค่า pH แล้วนั้นให้มี อุณหภูมิจาก 50 ถึง 100 ซ. 7. ขบวนการดังในข้อถือสิทธิ 6 ที่ซึ่งมีการให้ความร้อนสาร ละลายที่ปรับค่า pH แล้วนั้นให้มีอุณหภูมิประมาณ 90 ซ. 8. ขบวนการดังในข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งข้างต้น ที่ซึ่ง สารละลายที่ร้อนนั้นถูกนำมา "บ่ม" โดยตั้งทิ้งไว้เป็นเวลา นานกว่า 10 นาที 9. ขบวนการดังในข้อถือสิทธิ 8 ที่ซึ่งสารละลายที่ร้อนนั้น ถูกนำมา "บ่ม" โดยตั้งทิ้งไว้เป็นเวลา 10 ถึง 60 นาที 1 0. ขบวนการดังในข้อถือสิทธิ 9 ที่ซึ่งสารละลายที่ร้อนนั้น ถูกนำมา "บ่ม" โดยตั้งทิ้งไว้เป็นเวลาประมาณ 30 นาที 1

1. ขบวนการดังในข้อถือสิทธิ 2 ถึง 10 ข้อใดข้อหนึ่งที่ ซึ่งของแข็งที่มีแคลเซียมที่ได้จากขั้นตอนการปรับสภาพกาก น้ำตาลนั้นถูกนำมาเติมน้ำ ในปริมาณ 0.5 ถึง 10 เท่า โดย ปริมาตรต่อปริมาตรของของแข็งที่มีแคลเซียมดังกล่าว 1

2. ขบวนการดังในข้อถือสิทธิ 11 ที่ซึ่งมีการนำของแข็งที่ มีแคลเซียมนั้นมาเติมน้ำในปริมาณ 1 ถึง 3 เท่าโดยปริมาตร ต่อปริมาตรของของแข็งที่มีแคลเซียมดังกล่าว 1

3. ขบวนการดังในข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งข้างต้น ที่ซึ่ง ของแข็งที่มีแคลเซียมที่ได้จากขั้นตอนการปรับสภาพกากน้ำตาล ถูกนำมาเติมน้ำที่อุณหภูมิจาก 70 ถึง 90 ซ. 1

4. ขบวนการดังในข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งข้างต้น ที่ซึ่ง สารละลายที่ได้จากการเติมน้ำในขั้นตอนการปรับสภาพของแข็ง ที่มีแคลเซียมถูกนำมา "บ่ม" โดยการตั้งทิ้งไว้เป็นเวลานาน กว่า 10 นาที 1

5. ขบวนการดังในข้อถือสิทธิ 14 ที่ซึ่งสารละลายที่ได้จาก การเติมน้ำ ถูกนำมา "บ่ม" เป็นเวลา 10 ถึง 60 นาที 1

6. ขบวนการดังในข้อถือสิทธิ 15 ที่ซึ่งสารละลายถูกนำมา "บ่ม" เป็นเวลาประมาณ 20 นาที 1

7. สารละลายที่มีน้ำตาลเมื่อผลิตขึ้นโดยใช้ขบวนการดังที่ ถือสิทธิไว้ในข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งข้างต้น (ข้อถือสิทธิ 17 ข้อ, 3 หน้า, 0 รูป)