TH62502B - ระบบของการผลิตโพลีเอสเทอร์ที่ใช้เตาปฏิกรณ์ของการกระทำเอสเทอริฟิเคชั่นที่ไม่มีการกวน - Google Patents

Abstract

DC60 (27/05/51) ระบบการผลิตโพลีเอสเทอร์ที่ใช้เตาปฏิกรณ์ที่กระทำเอสเทอริฟิเคชันที่ถูกต่อให้ยืด ยาวออก เตาปฏิกรณ์ที่กระทำเอสเทอริฟิเคชันของการประดิษฐ์นี้จะได้รับการปรับปรุงที่เหนือกว่า เตาปฏิกรณ์ที่กระทำเอสเทอริฟิเคชัน CSTR ที่ใช้กันอยู่เนื่องจาก ยกตัวอย่างเช่น ในรูปลักษณะ หนึ่ง เตาปฏิกรณ์ต้องการกวนทางกลที่เล็กน้อยหรือไม่ต้องการ นอกจากนี้ ในรูปลักษณะหนึ่ง ตำแหน่งของทางเข้าและออกของเตาปฏิกรณ์จะจัดเตรียมสมรรถนะการดำเนินงานที่ได้รับการ ปรับปรุงและเปลี่ยนได้เหนือกว่า CSTRs ของศิลปวิทยาการก่อนหน้านี้ ระบบการผลิตโพลิเอสเทอร์ที่ใช้เตาปฏิกรณ์ที่กระทำเอสเทอริฟิเคชันที่ถูกต่อให้ยืด ยาวออก เตาปฏิกรณ์ที่กระทำเอสเทอริฟิเคชันของการประดิษฐ์นี้จะได้รับการปรับปรุวที่เหนือกว่า เตาปฏิกรณ์ที่กระทำเอสเทอริฟิเคชัน CSTR ที่ใช้กันอยุ่เนื่องจาก ยกตัวอย่างเช่น ในรูปลักษณะ หนึ่ง เตาปฏกรณ์ต้องการดวนทางกลที่เล็กน้อยหรือไม่ต้องการ นอกจากนี้ ในรูปลักษณะหนึ่ง ตำแหน่งของทางเข้าและออกของเตาปฏิกรณ์จะจัดเตรียมสมรรคนะการดำเนินงานที่ได้รับการ ปรับปรุงและเปลี่ยนได้เหนือกว่า CSTRs ของศิลปวิทยาการก่อนหน้านี้

Claims (9)

ข้อถือสิทธฺ์ (ทั้งหมด) ซึ่งจะไม่ปรากฏบนหน้าประกาศโฆษณา :แก้ไข 23/6/2558

1. กระบวนการที่ประกอบด้วย: (a) การนำตัวกลางของปฏิกิริยาไปผ่านการเอสเทอริฟิเคชั่นในเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นที่ ต่อให้ยาวออกตามแนวตั้ง, ที่ซึ่งเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นดังกล่าวกำหนดขอบเขตภาชนะเดี่ยวที่มี ทางเข้าของไหล และอย่างน้อยสองทางออกแยกกันซึ่งประกอบรวมด้วยทางออกของเหลวซึ่งตัวกลาง ของปฏิกิริยาถูกปล่อยออกผ่านส่วนนั้นจากเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นดังกล่าว และทางออกไอซึ่งผล พลอยได้ของการเอสเทอริฟิเคชั่นไอถูกปล่อยออกจากเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นดังกล่าวผ่านส่วน นั้น, ที่ซึ่งทางออกไอดังกล่าวถูกตั้งอยู่บนภาชนะเดียวกันที่ระดับความสูงสูงกว่าทางออกของเหลว ดังกล่าว, ทางเข้าของไหลดังกล่าวที่ถูกตั้งอยู่ที่ระดับความสูงต่ำกว่าทางออกของเหลว และที่ซึ่งเตา ปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นดังกล่าวจัดให้มีความร้อนไปยังตัวกลางของปฏิกิริยาด้านในเตาปฏิกรณ์ เอสเทอริฟิเคชั่น และ (b) ตัวกลางของปฏิกิริยาดังกล่าวในเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นดังกล่าวอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ ถูกกวนทางกล หรือ ถ้าถูกกวนทางกล, น้อยกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของการกวนไปยังตัวกลางของปฏิกิริยา ถูกจัดไว้โดยการกวนทางกล

2. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 1 ที่ซึ่งตัวกลางของปฏิกิริยาที่เข้าสู่ทางเข้าของไหลมีการ เปลี่ยนแปลงเริ่มต้นอย่างน้อย70 เปอร์เซนต์

3. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 2 ที่ซึ่งตัวกลางของปฏิกิริยาที่ถูกปล่อยออกผ่านทางออก ของเหลวมีการเปลี่ยนแปลงสุดท้ายอย่างน้อย 80 เปอร์เซ็นต์

4. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 3 ที่ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นดังกล่าว คือ อย่างน้อย 75 เปอร์เซ็นต์ และการเปลี่ยนแปลงสุดท้ายดังกล่าว คือ อย่างน้อย 85 เปอร์เซ็นต์

5. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 1 ที่ซึ่งเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นดังกล่าวมีอัตราส่วนความ สูงต่อเส้นผ่าศูนย์กลางในช่วงตั้งแต่1.15:1 ถึง 10:1

6. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 1 ที่ซึ่งทางเข้าของไหลดังกล่าวถูกตั้งอยู่ในหนึ่งในสาม ด้านล่างของเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นดังกล่าว, ที่ซึ่งทางออกของเหลวดังกล่าวถูกตั้งอยู่ในสองใน สามด้านบนของเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นดังกล่าว

7. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 1 ที่ซึ่งเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นดังกล่าวกำหนดขอบเขต แกนศูนย์กลางตั้งขึ้นของการต่อให้ยาว, ที่ซึ่งทางออกของเหลวดังกล่าวถูกเว้นช่องว่างตามแนวรัศมี จากแกนศูนย์กลางดังกล่าว

8. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 7 ที่ซึ่งทางเข้าของไหลดังกล่าวถูกเว้นช่องว่างตามแนวรัศมี จากแกนศูนย์กลางดังกล่าว

9. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 8 ที่ซึ่งเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นดังกล่าวมี เส้นผ่าศูนย์กลางแนวนอนมากที่สุด (D), ที่ซึ่งทางออกของเหลวดังกล่าวถูกเว้นช่องว่างตามแนวรัศมี อย่างน้อย 0.4D จากแกนศูนย์กลางดังกล่าว และทางเข้าของไหลดังกล่าวถูกเว้นช่องว่างตามแนวรัศมี อย่างน้อย 0.15D จากแกนศูนย์กลางดังกล่าว 1

0. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 8 ที่ซึ่งทางเข้าของไหล และทางออกของเหลวดังกล่าวถูก เว้นช่องว่างตามเส้นรอบวงจากกันและกันโดยอย่างน้อย 90 องศา 1

1. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 1 ที่ซึ่งเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นดังกล่าวกำหนดขอบเขต ทางเข้าของไหล และทางออกของเหลวที่เว้นช่องว่างแนวตั้งจำนวนหนึ่ง, ที่ซึ่งอย่างน้อยส่วนที่หนึ่ง ของตัวกลางของปฏิกิริยาดังกล่าวจะเข้าไปสู่เตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นดังกล่าวผ่านทางเข้าของไหล ดังกล่าว, ที่ซึ่งอย่างน้อยส่วนที่สองของตัวกลางของปฏิกิริยาดังกล่าวจะถูกปล่อยออกจากเตาปฏิกรณ์ เอสเทอริฟิเคชั่นดังกล่าวผ่านหนึ่งทางออกของเหลวดังกล่าว หรือ มากกว่า, ที่ซึ่งทางเข้าของไหล ดังกล่าวถูกตั้งอยู่ที่ระดับความสูงต่ำกว่าทางออกของเหลวดังกล่าว 1

2. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 11 ที่ซึ่งเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นดังกล่าวกำหนด ขอบเขตแกนศูนย์กลางตั้งขึ้นของการต่อให้ยาว, ที่ซึ่งทางเข้าของไหลดังกล่าว และทางออกของเหลว ดังกล่าวถูกเว้นช่องว่างตามแนวรัศมีจากแกนศูนย์กลางดังกล่าว, ที่ซึ่งทางเข้าและทางออกดังกล่าวถูก เว้นช่องว่างตามเส้นรอบวงจากกันและกันโดยอย่างน้อย 120 องศา 1

3. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 11 ที่ซึ่งทางออกดังกล่าวถูกกำหนดขอบเขตในผนัง ด้านข้างทรงกระบอกอย่างแท้จริงที่ตั้งขึ้นของเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นดังกล่าว, ที่ซึ่งทางเข้า ดังกล่าวถูกกำหนดขอบเขตในผนังปลายด้านล่างของเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นดังกล่าว 1

4. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 1 ซึ่งประกอบรวมต่อไปด้วยการทำความร้อนตัวกลางของ ปฏิกิริยาดังกล่าวในเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นดังกล่าวในระหว่างการเอสเทอริฟิเคชั่นดังกล่าว 1

5. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 14 ที่ซึ่งการทำความร้อนดังกล่าวถูกจัดไว้โดยชิ้นส่วนถ่าย โอนความร้อนที่ถูกเว้นช่องว่างแนวตั้ง 1

6. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 15 ที่ซึ่งชิ้นส่วนถ่ายโอนความร้อนที่ถูกเว้นช่องว่างแนวตั้ง ดังกล่าวสามารถถูกทำงานอย่างอิสระเพื่อให้หนึ่งชิ้นส่วนแลกเปลี่ยนความร้อนดังกล่าว หรือ มากกว่า สามารถจัดให้มีการให้ความร้อนแก่ตัวกลางของปฏิกิริยาดังกล่าวในขณะที่หนึ่งชิ้นส่วนแลกเปลี่ยน ความร้อนอื่นดังกล่าว หรือ มากกว่าจัดให้ไม่มีการให้ความร้อนแก่ตัวกลางของปฏิกิริยาดังกล่าว 1

7. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 14 ที่ซึ่งการให้ความร้อนดังกล่าวถูกจัดไว้โดยการไหล ตัวกลางถ่ายโอนความร้อนผ่านกลุ่มของท่อแลกเปลี่ยนความร้อนที่ถูกเว้นช่องว่างแนวตั้งจำนวนหนึ่ง 1

8. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 17 ซึ่งประกอบรวมต่อไปด้วย, การขจัดการไหลอย่าง แท้จริงของตัวกลางถ่ายโอนความร้อนดังกล่าวผ่านอย่างน้อยหนึ่งในกลุ่มของท่อแลกเปลี่ยนความ ร้อนดังกล่าวเมื่อระดับของตัวกลางของปฏิกิริยาดังกล่าวอยู่ต่ำกว่าอย่างน้อยหนึ่งในกลุ่มของท่อ แลกเปลี่ยนความร้อนดังกล่าว 1

9. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 1 ที่ซึ่งน้อยกว่า 23 เปอร์เซ็นต์ของการกวนดังกล่าวถูกจัด ไว้โดยการกวนทางกล 2

0. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 1 ที่ซึ่งตัวกลางของปฏิกิริยาดังกล่าวไม่รับการกวนทางกล อย่างแท้จริงในระหว่างการเอสเทอริฟิเคชั่นดังกล่าว 2

1. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 1 ที่ซึ่งเวลาการคงอยู่ของตัวกลางของปฏิกิริยาดังกล่าวใน เตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นดังกล่าวมากกว่า 45 นาที 2

2. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 1 ที่ซึ่งการเอสเทอริฟิเคชั่นดังกล่าวถูกดำเนินการที่ อุณหภูมิในช่วงตั้งแต่ 200๐ซ ถึง 300๐ซ 2

3. กระบวนการของข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งการเอสเทอริฟิเคชั่นดังกล่าวถูกดำเนินการที่ความ ดันน้อยกว่า 25 psig 2

4. กระบวนการที่ประกอบด้วย: (a) การนำตัวกลางของปฏิกิริยาที่หนึ่งไปผ่านการเอสเทอริฟิเคชั่นในโซนการเอสเทอริฟิ- เคชั่นที่หนึ่งที่ถูกกำหนดขอบเขตโดยเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นที่หนึ่งที่มีทางเข้าของไหล, ทางออก ของเหลว และทางออกไอ, เพื่อทำให้เกิดการผลิตผลิตภัณฑ์ที่หนึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างน้อย 70 เปอร์เซ็นต์ และผลพลอยได้ที่เป็นไอที่ออกจากเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นที่หนึ่งผ่านทางออกไอบน เตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นที่หนึ่งดังกล่าว และ (b) การนำอย่างน้อยบางส่วนของผลิตภัณฑ์ที่หนึ่งดังกล่าวไปผ่านการเอสเทอริฟิเคชั่นต่อไป ในโซนการเอสเทอริฟิเคชั่นที่สองที่ถูกกำหนดขอบเขตโดยเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นที่สองที่มี ทางเข้าของไหล และอย่างน้อยสองทางออกแยกกันซึ่งประกอบรวมด้วยทางออกของเหลว และ ทางออกไอเพื่อทำให้เกิดการผลิตผลิตภัณฑ์ที่สองที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างน้อย 80 เปอร์เซ็นต์ที่ถูก ปล่อยออกจากเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นที่สองดังกล่าวผ่านทางออกของเหลวบนเตาปฏิกรณ์เอ สเทอริฟิเคชั่นที่สองซึ่งถูกตั้งอยู่ที่ระดับความสูงสูงกว่าทางเข้าของไหล และมีผลพลอยได้ที่เป็นไอที่ ถูกปล่อยออกจากเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นที่สองผ่านทางออกไอบนเตาปฏิกรณ์เอสเทอริ-ฟิเคชั่นที่ สอง, ที่ซึ่งเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นที่สองดังกล่าวจัดให้มีการทำความร้อนไปยังตัวกลางของ ปฏิกิริยา 2

5. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 24 ที่ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่หนึ่งดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลงอย่าง น้อย 75 เปอร์เซ็นต์ และผลิตภัณฑ์ที่สองดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลงอย่างน้อย 85 เปอร์เซ็นต์ 2

6. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 24 ที่ซึ่งเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นที่สองดังกล่าวถูกต่อ ให้ยาวแนวตั้ง 2

7. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 24 ที่ซึ่งทางออกไอของเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นที่สอง ดังกล่าวถูกตั้งอยู่ที่ระดับความสูงสูงกว่าทางออกของเหลวของเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นที่สอง ดังกล่าว 2

8. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 24 ที่ซึ่งทางเข้าของไหลของเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นที่ สองดังกล่าวถูกตั้งอยู่ในหนึ่งในสามด้านล่างของเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นที่สองดังกล่าว, ที่ซึ่ง ทางออกของเหลวของเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นที่สองดังกล่าวถูกตั้งอยู่ในสองในสามด้านบนของ เตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นที่สองดังกล่าว 2

9. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 24 ที่ซึ่งเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นที่สองดังกล่าวกำหนด ขอบเขตแกนศูนย์กลางตั้งขึ้น, ที่ซึ่งเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นที่สองดังกล่าวมีเส้นผ่าศูนย์กลาง แนวนอนมากที่สุด (D), ที่ซึ่งทางออกของเหลวของเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นที่สองดังกล่าวถูกเว้น ช่องว่างตามแนวรัศมีอย่างน้อย 0.4D จากแกนศูนย์กลางดังกล่าว และทางเข้าของไหลของเตาปฏิกรณ์ เอสเทอริฟิเคชั่นที่สองดังกล่าวถูกเว้นช่องว่างตามแนวรัศมีอย่างน้อย 0.15D จากแกนศูนย์กลาง ดังกล่าว, ที่ซึ่งทางเข้าของไหลของเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นที่สองดังกล่าว และทางออกของเหลว ของเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นที่สองดังกล่าวถูกเว้นช่องว่างตามเส้นรอบวงจากกันและกันโดยอย่าง น้อย 90 องศา 3

0. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 24 ที่ซึ่งเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นที่สองดังกล่าวกำหนด ขอบเขตทางออกของเหลวที่ถูกเว้นช่องว่างแนวตั้งจำนวนหนึ่งสำหรับการปล่อยออกอย่างน้อย บางส่วนของผลิตภัณฑ์ที่สองดังกล่าว, ที่ซึ่งทางเข้าของไหลของเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นที่สอง ดังกล่าวถูกตั้งอยู่ที่ระดับความสูงต่ำกว่าทางออกของเหลวของเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นที่สอง ดังกล่าว 3

1. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 30 ที่ซึ่งเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นที่สองดังกล่าวกำหนด ขอบเขตแกนศูนย์กลางตั้งขึ้น, ที่ซึ่งทางเข้าของไหลของเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นที่สองดังกล่าว และทางออกของเหลวของเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นที่สองดังกล่าวถูกเว้นช่องว่างตามแนวรัศมีจาก แกนศูนย์กลางดังกล่าว, ที่ซึ่งทางเข้าของไหลของเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นที่สองดังกล่าว และ ทางออกของเหลวของเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นที่สองดังกล่าวถูกเว้นช่องว่างตามเส้นรอบวงจาก กันและกันโดยอย่างน้อย 120 องศา 3

2. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 24 ซึ่งประกอบรววต่อไปด้วยการให้ความร้อนแก่ตัวกลาง ของปฏิกิริยาในเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟริเคชั่นที่สองดังกล่าว 3

3. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 32 ที่ซึ่งการให้ความร้อนดังกล่าวถูกจัดไว้ผ่านเครื่อง แลกเปลี่ยนความร้อนทางอ้อมที่มีตัวกลางถ่ายโอนความร้อนที่ไหลผ่านกลุ่มของท่อแลกเปลี่ยนความ ร้อนที่ถูกเว้นช่องว่างแนวตั้งจำนวนหนึ่ง 3

4. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 33 ซึ่งประกอบรวมต่อไปด้วย, การขจัดการไหลอย่าง แท้จริงของตัวกลางถ่ายโอนความร้อนดังกล่าวผ่านอย่างน้อยหนึ่งในกลุ่มของท่อแลกเปลี่ยนความ ร้อนดังกล่าวเมื่อระดับของตัวกลางของปฏิกิริยาของเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นที่สองดังกล่าวอยู่ต่ำ กว่าอย่างน้อยหนึ่งในกลุ่มของท่อแลกเปลี่ยนความร้อนดังกล่าว 3

5. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 24 ซึ่งประกอบรวมต่อไปด้วย, โดยทางเลือก, การกวน ตัวกลางของปฏิกิริยาในเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นที่สองดังกล่าว, ที่ซึ่งน้อยกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของ การกวนดังกล่าวถูกจัดไว้โดยการกวนทางกล 3

6. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 35 ที่ซึ่งตัวกลางของปฏิกิริยาดังกล่าวไม่รับการกวนทางกล อย่างแท้จริงในเตาปฏิกรณ์เอสเทอริฟิเคชั่นที่สองดังกล่าว 3

7. ชุดเครื่องซึ่งประกอบรวมด้วย: ภาชนะการทำปฏิกิริยาโพลีเอสเทอริฟิเคชั่นที่มีของผสม ของปฏิกิริยาซึ่งประกอบรวมด้วยอย่างน้อยหนึ่งไดออล และอย่างน้อยหนึ่งกรดไดคาร์บอกซิลิค และ ผลิตภัณฑ์ของปฏิกิริยาหนึ่งชนิด หรือ มากกว่าของไดออล และกรดไดคาร์บอกซิลิค และท่อ แลกเปลี่ยนความร้อนที่ถูกเว้นช่องว่างแนวตั้งจำนวนหนึ่งที่ถูกตั้งอยู่ในภาชนะการทำปฏิกิริยา โพลีเอสเทอริฟิเคชั่นดังกล่าว, ที่ซึ่งภาชนะการทำปฏิกิริยาโพลีเอสเทอริฟิเคชั่นดังกล่าวถูกต่อให้ยาว ไปตามแกนศูนย์กลางตั้งขึ้นของการต่อให้ยาว, ที่ซึ่งภาชนะการทำปฏิกิริยาโพลีเอสเทอริฟิเคชั่น ดังกล่าวกำหนดขอบเขตทางเข้าของไหล, ทางออกของเหลวที่ถูกเว้นช่องว่างแนวตั้งจำนวนหนึ่ง และ ทางออกไอ, ที่ซึ่งทางเข้าของไหลดังกล่าวถูกตั้งอยู่ที่ระดับความสูงต่ำกว่าทางออกไอดังกล่าว, ที่ซึ่ง ทางออกของเหลวดังกล่าวถูกตั้งอยู่ที่ระดับความสูงเหนือทางเข้าของไหลดังกล่าว และต่ำกว่าทางออก ไอดังกล่าว และ ที่ซึ่งท่อแลกเปลี่ยนความร้อนบรรจุตัวกลางแลกเปลี่ยนความร้อนที่อุณหภูมิสูงกว่าอุณหภูมิ ของของผสมของปฏิกิริยา และที่ซึ่งของผสมของปฏิกิริยาไม่มีอยู่ในท่อแลกเปลี่ยนความร้อน 3

8. ชุดเครื่องของข้อถือสิทธิที่ 37 ที่ซึ่งภาชนะการทำปฏิกิริยาโพลีเอสเทอริฟิเคชั่นดังกล่าวไม่ ถูกติดตั้งด้วยเครื่องกวนทางกล 3

9. ชุดเครื่องของข้อถือสิทธิที่ 37 ที่ซึ่งท่อแลกเปลี่ยนความร้อนดังกล่าวถูกตั้งอยู่ที่ระดับ ความสูงเหนือกว่าทางเข้าของไหลดังกล่าว และต่ำกว่าทางออกไอดังกล่าว 4

0. ชุดเครื่องของข้อถือสิทธิที่ 37 ที่ซึ่งภาชนะการทำปฏิกิริยาโพลีเอสเทอริฟิเคชั่นดังกล่าวมี อัตราส่วนความสูงต่อเส้นผ่าศูนย์กลางในช่วงตั้งแต่ 1.15 :1 ถึง 8:1 4

1. ชุดเครื่องของข้อถือสิทธิที่ 40 ที่ซึ่งภาชนะการทำปฏิกิริยาโพลีเอสเทอริฟิเคชั่นดังกล่าวมี เส้นผ่าศูนย์กลางแนวนอนมากที่สุด (D), ที่ซึ่งทางออกของเหลวดังกล่าวจะถูกเว้นช่องว่างตามแนวรัศมี จากแกนศูนย์กลางดังกล่าวโดยอย่างน้อย 0.4 D, ที่ซึ่งทางเข้าของไหลดังกล่าวถูกเว้นช่องว่างตามแนว รัศมีจากแกนศูนย์กลางดังกล่าวโดยอย่างน้อย 0.15D 4

2. ชุดเครื่องของข้อถือสิทธิที่ 41 ที่ซึ่งทางออกของของเหลวดังกล่าว และทางเข้าของไหล ดังกล่าวถูกเว้นช่องว่างตามเส้นรอบวงจากกันและกันโดยอย่างน้อย 90 องศา 4

3. ชุดเครื่องของข้อถือสิทธิที่ 37 ที่ซึ่งภาชนะการทำปฏิกิริยาโพลีเอสเทอริฟิเคชั่นดังกล่าว ประกอบรวมด้วยผนังด้านข้างทรงกระบอกอย่างแท้จริงที่ตั้งขึ้นโดยทั่วไปที่กำหนดขอบเขตทางออก ของเหลวดังกล่าว 4

4. ชุดเครื่องของข้อถือสิทธิที่ 37 ซึ่งประกอบรวมต่อไปด้วยเครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนที่ กระแสบน และภาชนะที่เป็นอิสระที่กระแสบน, ที่ซึ่งเครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนที่กระแสบน ดังกล่าวกำหนดขอบเขตทางเข้าเครื่องแลกเปลี่ยน และทางออกเครื่องแลกเปลี่ยน, ที่ซึ่งภาชนะที่เป็น อิสระที่กระแสบนดังกล่าวกำหนดขอบเขตทางเข้าของไหลที่เป็นอิสระ, ทางออกไอที่เป็นอิสระ และ ทางออกของเหลวที่เป็นอิสระ, ที่ซึ่งทางออกเครื่องแลกเปลี่ยนดังกล่าว และทางเข้าของไหลที่เป็น อิสระดังกล่าวถูกเชื่อมต่อในการติดต่อทางการไหลของไหลซึ่งกันและกัน, ที่ซึ่งทางออกของเหลวที่ เป็นอิสระดังกล่าว และทางเข้าของไหลดังกล่าวของภาชนะการทำปฏิกิริยาโพลีเอสเทอริฟิเคชั่น ดังกล่าวถูกเชื่อมต่อในการติดต่อทางการไหลของไหลซึ่งกันและกัน, ที่ซึ่งทางออกของเหลวที่เป็น อิสระดังกล่าว และทางเข้าเครื่องแลกเปลี่ยนดังกล่าวถูกเชื่อมต่อในการติดต่อทางการไหลของไหลซึ่ง กันและกัน 4

5. ชุดเครื่องของข้อถือสิทธิที่ 44 ที่ซึ่งเครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนดังกล่าวเป็นเครื่อง แลกเปลี่ยนความร้อนแบบเปลือกและท่อ 4

6. ชุดเครื่องของข้อถือสิทธิที่ 44 ที่ซึ่งภาชนะที่เป็นอิสระดังกล่าวถูกต่อให้ยาวตามแนวนอน 4

7. ชุดเครื่องการทำปฏิกิริยาโพลีเอสเทอริฟิเคชั่น, ซึ่งประกอบรวมด้วย ภาชนะการทำปฏิกิริยาโพลีเอสเทอริฟิเคชั่นที่บรรจุของผสมของปฏิกิริยาซึ่งประกอบรวม ด้วยอย่างน้อยหนึ่งไดออล และอย่างน้อยหนึ่งกรดไดคาร์บอกซิลิค และผลิตภัณฑ์ของปฏิกิริยาหนึ่ง ชนิด หรือ มากกว่าของไดออล และกรดไดคาร์บอกซิลิค และท่อแลกเปลี่ยนความร้อนที่ถูกเว้น ช่องว่างแนวตั้งจำนวนหนึ่งที่มีอยู่ในภาชนะการทำปฏิกิริยาโพลีเอสเทอริฟิเคชั่น ที่ซึ่งภาชนะการทำปฏิกิริยาโพลีเอสเทอริฟิเคชั่นกำหนดขอบเขตภาชนะเดี่ยวที่ถูกต่อให้ยาว ไปตามแกนศูนย์กลางตั้งขึ้นของการต่อให้ยาว ที่ซึ่งภาชนะการทำปฏิกิริยาโพลีเอสเทอริฟิเคชั่นมีทางเข้าของไหล, ทางออกของเหลวที่ถูก เว้นช่องว่างแนวตั้งจำนวนหนึ่ง และทางออกไอ ที่ซึ่งทางเข้าของไหลถูกตั้งอยู่ที่ระดับความสูงต่ำกว่าทางออกไอ ที่ซึ่งทางออกของเหลวถูกตั้งอยู่ที่ระดับความสูงเหนือทางเข้าของไหล และต่ำกว่าทางออกไอ และ ที่ซึ่งท่อแลกเปลี่ยนความร้อนบรรจุตัวกลางแลกเปลี่ยนความร้อนที่อุณหภูมิสูงกว่าอุณหภูมิ ของของผสมของปฏิกิริยา และที่ซึ่งของผสมของปฏิกิริยาไม่มีอยู่ในท่อแลกเปลี่ยนความร้อน 4

8. ชุดเครื่องการทำปฏิกิริยาโพลีเอสเทอริฟิเคชั่นของข้อถือสิทธิที่ 47 ที่ซึ่งภาชนะการทำ ปฏิกิริยาโพลีเอสเทอริฟิเคชั่นไม่ถูกติดตั้งด้วยเครื่องกวนทางกล 4

9. ชุดเครื่องการทำปฏิกิริยาโพลีเอสเทอริฟิเคชั่นของข้อถือสิทธิที่ 47 ที่ซึ่งภาชนะการทำ ปฏิกิริยาโพลีเอสเทอริฟิเคชั่นมีอัตราส่วนความสูงต่อเส้นผ่าศูนย์กลางในช่วงตั้งแต่ 1.15:1 ถึง 8:1 5

0. ชุดเครื่องการทำปฏิกิริยาโพลีเอสเทอริฟิเคชั่นของข้อถือสิทธิที่ 47 ซึ่งประกอบรวมต่อไป ด้วย เครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนที่กระแสบน และภาชนะที่เป็นอิสระที่กระแสบน ที่ซึ่งเครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนที่กระแสบนกำหนดขอบเขตทางเข้าเครื่องแลกเปลี่ยน และ ทางออกเครื่องแลกเปลี่ยน ที่ซึ่งภาชนะที่เป็นอิสระที่กระแสบนกำหนดขอบเขตทางเข้าของไหลที่เป็นอิสระ, ทางออกไอ ที่เป็นอิสระ และทางออกของเหลวที่เป็นอิสระ ที่ซึ่งทางออกเครื่องแลกเปลี่ยน และทางเข้าของไหลที่เป็นอิสระถูกเชื่อมต่อในการติดต่อ ทางการไหลของไหลซึ่งกันและกัน ที่ซึ่งทางออกของเหลวที่เป็นอิสระ และทางเข้าของไหลดังกล่าวของภาชนะการทำปฏิกิริยา โพลีเอสเทอริฟิเคชั่นถูกเชื่อมต่อในการติดต่อทางการไหลของไหลซึ่งกันและกัน และ ที่ซึ่งทางออกของเหลวที่เป็นอิสระ และทางเข้าเครื่องแลกเปลี่ยนถูกเชื่อมต่อในการติดต่อ ทางการไหลของไหลซึ่งกันและกัน --------------------------------------------------------------------