TH6206B - ฝาปิดสำหรับภาชนะ - Google Patents

Abstract

ฝาปิดภาชนะที่หล่อขึ้นจากพลาสติกประกอบด้วยด้านบน, เชิงรอบที่มีเกลียวอยู่ภายใน, และวงแหวนแสดงการถูกเปิดที่ต่อ อยู่กับขอบด้านบ่างของเชิงรอบด้วนส่วนเชื่อมต่อที่เปราะบาง โดยผิวด้านในเชิงรัศมีของวงแหวนประกอบด้วยส่วนยื่นเข้าทรง ลิ่มเพื่อการยึดเข้าใต้แถบป้องกันบนลำคอของภาชนะและร่องวง กลมก็ได้ถูกจัดไว้ บนผิวด้านนอกในเชิงรัศมีของวงแหวนที่ตำแหน่งตามแนวแกนระห ว่างปลายด้านบนของส่วนยื่นกับส่วนเชื่อมต่อและก็ทำหน้าที ่เป็นบานพับให้กับกระบวนการผลิตฝาปิด

Claims (2)

1. ฝาปิดภาชนะที่หล่อขึ้นจากวัตถุพลาสติก และประกอบด้วยด้านบนที่มีเชิงรอบทรงกลมห้อยตัวลงมาจากด้านบน โดยได้ทำ เป็นเกลียวไว้ที่ผวิด้านในและก็มีวงแหวนแสดงการถูกเปิดมา ต่อไว้กับปลายของเชิงรอบด้านที่อยูไกลไปจากด้านบนด้วยส่วน เชื่อมต่อชนิดเปราะบาง ซึ่งยื่นไปตลอดช่องว่างในแนวแกน หรือด้วยแนวเส้นรอบวงที่ทำไว้ให้อ่อนตัวลงอยู่ระหว่างวง แหวนกับเชิงรอบ โดยวงแหวนดังกล่าวมีผิวด้านในที่ประกอบด้วย ส่วนยื่นเข้าเป็นเชิงรัศมีจำนวนหนึ่ง ซึ่งต่างก็ประกอบด้วย ผิวปลายที่หันเข้าหาด้านบนแต่ว่าเฉียงเข้าเป็นเชิงรัศมี และวงแหวนก็มีร่องวงกลมอยู่ในผิวที่หันไปเป็นเชิงรัศมีด้าน หนึ่งที่ตำแหน่งตามแนวแกนระหว่างส่วนยื่นกับส่วนเชื่อมต่อ หรือแนวที่ทำให้เปราะบางไว้ ทั้งนี้โดยมีลักษณะพิเศษอยู่ ที่ว่า ส่วนยื่นแต่ละส่วนประกอบด้วยผิวลูกเบี้ยวลาดเอียง เว้าออกเป็นเชิงรัศมีทรงกรวยเป็นบางส่วนหรือโดยตลอดซึ่ง ยื่นจากผิวปลายดังกล่าวเข้าหาขอบอิสระของวงแหวน และซึ่งวง แหวนมีลักษระต่อเนื่องไปตามแนวรอบวงของมันตลอดความสูงในแนว แกน และนอกจากนั้นรอบวงกลมทำให้เกิดเป็นบานพับวงกลมให้กับ ส่วนยื่นแต่ละส่วนในลักษณะที่ว่าการกดเข้าบนผิวลูกเบี้ยว ลาดเอียงจะเปิดโอกาสให้ส่วนยื่นพับตัวออก โดยได้รับการช่ว เหลือจากความอ่อนตัวของร่องวงกลมบนผนังของวงแหวน 2.ฝาปิดตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งร่องวงกลมดังกล่าวได้ถูก ทำไว้ในผิวด้านนอกเป็นเชิงรัศมีของวงแหวน 3. ฝาปิดตามข้อถือสิทธิข้อ 1 หรือ 2 ซึ่งผิวปลายดังกล่าว ของส่วนยื่นส่วนหนึ่งหรือมากกว่าได้ถูกจัดไว้ให้อยู่ห่างไป จากด้านบนของฝาปิดกว่าผิวปลายของส่วนยื่นส่วนอื่น ๆ 4. ฝาปิดตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 3 ข้อใดข้อหนึ่งซึ่งซี่ ที่ยื่นไปตามแนวเส้นรอบวงบนผิวด้านในเป็นเชิงรัศมีของวงแวน ต่ออยู่กับส่วนยื่นส่วนหนึ่งหรือมากกว่าและกับส่วนอื่นที่ อยู่ใกล้กับส่วนหนึ่งหรือหลายส่วนเพื่อเพิ่มความแข็งให้กับ วงแหวนที่ตำแหน่งของซี่ดังกล่าว 5. ฝาปิดตามข้อถือสิทธิข้อ 1ถึง 3 ซึ่งส่วนยื่นได้ถูกจัด ไว้เป็นคู่ ๆ โดยส่วนยื่นของแต่ละคู่อยู่ชิดกันและกัน 6. ฝาปิดตามข้อถือสิทธิข้อ 4 และ 5 ซึ่งซี่ดังกล่าวแต่ละ ซี่ยื่นอยู่ระหว่างส่วนยื่นของคู่ที่อยู่ใกล้กันและระหว่าง ส่วนยื่นสองส่วนของแต่ละคู่ดังกล่าว 7. ฝาปิดตามข้อถือสิทธิข้อ 1ถึง 6 ข้อใดข้อหนึ่งซึ่งส่วน ปลายที่เป็นอิสระของวงแหวนประกอบด้วยแนวหรือสันนูนเสริม ความแข็งแรงอยู่บนผิวด้านในเป็นเชิงรัศมี 8. ฝาปิดตามข้อถือสิทธิข้อ 1ถึง 7 ข้อใดข้อหนึ่งซึ่งวง แหวนยังได้ต่ออยู่กับปลายดังกล่าวของเชิงรอบด้วยส่วนเชื่อม ชนิดไม่เปราะบางส่วนหนึ่งหรือมากกว่า ซึ่งมีความกว้างตาม แนวเส้นรอบวงมากกว่าส่วนเชื่อมต่อแรกดังกล่าว และซึ่งมีแนว ตามแนวแกนที่ทำให้อ่อนลงไว้ยื่นไปตลอดความกว้างของแถบที่ ด้านหนึ่งตามแนวเส้นรอบวงของส่วนเชื่อมต่อขนาดกว้างดัง กล่าวแต่ละส่วน 9. ฝาปิดตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 8 ข้อใดข้อหนึ่งซึ่งใน ช่วงระหว่างส่วนเชื่อมต่อที่อยู่ใกล้กัน ผิวด้านนอกในเชิง รัศมีของวงแหวนได้ถูกทำให้ลาดเอียงเข้าไว้ในส่วนตามแนวนอน ของมันระหว่างร่องกับปลายด้านบนของวงแหวน 1 0. ฝาปิดตามข้อถือสิทธิข้อ 9 ซึ่งมุมของความลาดเอียงดัง กล่าวอยู่ในช่วงของ 17 ถึง 28 จากแกนกลางของฝาปิด 1

1. ฝาปิดตามข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งตั้งแต่ข้อ 1 ถึง 10 ซึ่งขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางภายนอกและความหนาในเชิงรัศมีโดย ทั่วไปของวงแหวนจะต่ำกว่าของเชิงรอบในบริเวณที่ต่ออยู่กับ ช่องว่างดังกล่าว และผิวด้านนอกของวงแหวนก็ได้ถูกทำไว้ให้ ประกอบด้วยส่วนงอที่ยื่นออกอย่างต่อเนื่องหรือส่วนงอยื่น ออกส่วนหนึ่งที่เส้นรอบวงของส่วนยื่นแต่ละส่วน โดยส่วนงอ ต่อเนื่องหรือส่วนงอส่วนหนึ่งดังกล่าว ยื่นออกจากร่องวงกลม ไปสู่ขอบตามแนวแกนของวงแหวนที่อยู่ใกล้ด้านบน และก็มีผิว ตามแนวแกนที่หันเข้าหาผิวปลายตามแนวแกนที่หันเข้าหาผิวปลาย ตามแนวแกนของเชิงรอบไปตลอดช่องว่างตามแนวแกนดังกล่าว 1

2. กรรมวิธีของการหล่อฝาปิดจากวัตถุพลาสติกที่ประกอบด้วย ด้านบนและมีเชิงรอบวงกลมห้อมลงมาจากด้านบน โดยจัดทำเกลียว ไว้ที่ผิวด้านในด้วย และก็มีวงแหวนแสดงการถูกเปิดต่ออยู่ กับปลายของเชิงรอบด้านที่อยู่ไกลจากด้านบนด้วยส่วนเชื่อม ต่อที่เปราะบางจำนวนหนึ่ง ซึ่งยื่นไปตลอดช่องว่างในแนวแกน หรือแนวรอบวงที่ทำให้อ่อนตัวลงไว้ระหว่างวงแหวนกับเชิงรอบ ซึ่งวงแหวนดังกล่าวมีผิวด้านในที่ประกอบด้วยส่วนยื่นเข้า เป็นเชิงรัศมีอยู่จำนวนหนึ่งที่ต่างก็มีผิวปลายที่หันเข้า หาด้านบนแต่ว่าเฉียงเข้าเป็นเชิงรัศมี และวงแหวนดังกล่าวก็ ประกอบด้วยรองวงกลมอยู่ที่ผิวที่หันเป็นเชิงรัศมีในตำแหน่ง ตามแนวแกนระหว่างส่วน่ยื่นกับส่วนเชื่อมต่อ หรือ แนวที่ทำให้อ่อนตัวไว้ ซึ่งกรรมวิธีดังกล่าวประอบด้วยการ จัดทำรูปทรงด้านในของฝาปิดเป็นเชิงรัศมีชิ้นบนส่วนแกนแม่ แบบ การจัดทำผิวด้านนอกของด้านบนและเชิงรอบในปลอกแม่แบบ เพื่อการเคลื่อนที่ไปได้จากส่วนบนของส่วนแกนแม่แบบ, การจัด ทำส่วนเชื่อมต่อและส่วนของผิวด้านนอกของวงแหวนจากส่วน เชื่อมต่อไปถึงร่องพร้อมด้วยร่องขึ้นในแม่แบบส่วนที่สาม, และการจัดทำส่วนที่เหลือของผิวด้านนอกในเชิงรัศมีของวงแหวน ขึ้นในแม่แบบส่วนที่สี่ ซึ่งภายหลังการหล่อฝาปิดในแม่แบบ ที่ประกอบเข้าแล้วส่วนปลอกแม่แบบและแม่แบบส่วนที่สี่ก็จะ ถูกถอดออกตามแนวแกนในทิศทางตรงกันข้าม และต่อจากนั้นส่วน แกนแม่แบบก็จะถูกถอดไปในแนวแกนในขระที่ฝาปิดได้ถูกป้องกัน ไฝว้มิให้เคลื่อนที่ได้ในแนวแกนด้วยการยึดของแม่แบบส่วนที่ สามอยุ่ในช่องว่างตามแนวแกนดังกล่าว และต่อจากนั้นก็ถอดแม่ แบบส่วนที่สามออกไปจากฝาปิด ทั้งนี้โดยมีลักษณะพิเศษอยู่ ที่ว่าส่วนยื่นแต่ละส่วนได้ถูกทำไว้ให้ประอบด้วยผิวลูก เบี้ยวลาดเอียงเว้าออกเป็นเชิงรัศมีทรงกลมเป็นบางส่วนหรือ โดยถอด ซึ่งยื่นจากผิดปลายดังกล่าวเข้าหาปลายอิสระของวง แหวน และซึ่งแกนแม่แบบส่วนที่สี่รวมกันทำให้เกิดเป็นทั้ง ส่วนยื่นและส่วนผนังคั่นกลางของวงแหวนที่ยื่นระหว่างส่วน ยื่นเพื่อทำให้เกิดเป็นผนังต่อเนื่องไปรอบวงโดยตลอดความสูง ของมันที่ตำแหน่งส่วนยื่น และนอกจากนั้นเมื่อนำแกนแม่แบบ ออกไปจากฝาปิดภาชนิ ภายใต้แรงดัน เข้าหาผิวปลายของส่วนยื่นจากแกนแม่แบบ ส่วนยื่นก็จะพับตัว ออกไปจากตำแหน่งของร่องวงกลม เพื่อการที่จะให้สามารถนำส่วน ยื่นออกไปจากแกนแม่แบบได้ (ข้อถือสิทธิ 12 ข้อ, 3 หน้า, 17 รูป)