Claims (6)
1. ใยสังเคราะห์ที่ทำจากโพลีอามีดซึ่งมีโครงสร้างผิวหน้าที่ไม่เรียบ ซึ่งประกอบด้วยสันและร่องบนผิวหน้าของใยดังกล่าว ที่ซึ่งโครงสร้างผิวหน้าที่ไม่เรียบดังกล่าวประกอบไปด้วยรูปแบบที่ทำขึ้นตลอดผิวตามเส้นรอบวงภายนอกของใยในลักษณะซึ่ง (i) ร่องที่อยู่ติดกันแต่ละคู่มีก้นร่องของมันแยกห่างจากกันเป็นระยะประมาณ 3 ถึง 30 ตามที่วัดตามแนวเส้นรอบวงภายนอกของใยในระนาบที่ตั้งฉากกับแกนตามแนวยาวของใย(ii)ระยะทางจากจุดยอดถึงก้นของสันใด ๆ ตามที่วัดในทิศทางตั้งฉากกับแกนตามแนวยาวของใยจะเป็นประมาณ 0.2 ถึง 2 และ (iii)จะมีสันอยู่ประมาณ 0.2 ถึง 3 สันต่อ 10 ตามแนวเส้นรอบวงภายนอกดังกล่าวในระนาบดังกล่าว 2. ใยสังเคราะห์ที่ทำจากไนลอนซึ่งมีโครงสร้างผิวหน้าที่ไม่เรียบ ซึ่งประกอบด้วยสันและร่องบนผิวหน้าของใยดังกล่าว ที่ซึ่งโครงสร้างผิวหน้าที่ไม่เรียบดังกล่าวประกอบไปด้วยรูปแบบที่ทำขึ้นตลอดผิวตามเส้นรอบวงภายนอกของใยในลักษณะซึ่ง(i) ร่องที่อยู่ติดกันแต่ละคู่มีก้นร่องของมันแยกห่างจากกันเป็นระยะประมาณ 3 ถึง 30 ตามที่วัดตามแนวเส้นรอบวงภายนอกของใยในระนาบที่ตั้งฉากกับแกนตามแนวยาวของใย (ii)ระยะทางจากจุดยอดถึงก้นของสันใด ๆ ตามที่วัดในทิศทางตั้งฉากกับแกนตามแนวยาวของใยจะเป็นประมาณ 0.2 ถึง 2 และ (iii)จะมีสันอยู่ประมาณ 0.2 ถึง 3 สันต่อ 10 ตามแนวเส้นรอบวงภายนอกดังกล่าวในระนาบดังกล่าว 3. ใยสังเคราะห์ดังในข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งใยสังเคราะห์ดังกล่าวมีอนุภาคของคาร์บอนแบล็คอยู่ด้วย โดยต่างมีขนาดอนุภาคประมาณ 30 หรือเล็กกว่าโดยเส้นผ่าศูนย์กลางโดยอนุภาคดังกล่าวจะกระจายตัวอยู่ในใยอย่างสม่ำเสมอ 4. ใยสังเคราะห์ดังในข้อถือสิทธิ 3 ที่ซึ่งใยสังเคราะห์ดังกล่าวมีคาร์บอนแบล็คประมาณ 0.5 ถึง 4% โดยน้ำหนัก 5. ใยสังเคราะห์ดังในข้อถือสิทธิ 3 ที่ซึ่งใยสังเคราะห์ดังกล่าวมีคาร์บอนแบล็คประมาณ 1 ถึง 2.5% โดยน้ำหนัก 6. ใยสังเคราะห์ที่ทำจากโพลีอามีดที่มีโครงสร้างผิวหน้าที่ไม่เรียบ ซึ่งประกอบด้วยรอยย่นที่มีสันและร่องบนผิวหน้าของใยดังกล่าว ที่ซึ่ง สันดังกล่าวยื่นไปเป็นจำนวนมากในทิศทางตามแนวยาวของใยดังกล่าว สันที่อยู่ติดกันแต่ละคู่จะมีร่องอยู่ระหว่างสันโดยร่องจะยื่นไปในทิศทางตามแนวยาวของใยและมีความยาวประมาณ 3 ถึง 7(สูตร) และมีความกว้างประมาณ 0.3 ถึง 1 และ โครงสร้างผิวหน้าที่ไม่เรียบดังกล่าวผลิตขึ้นโดยการปั่นใยดังกล่าวในขณะหลอมตัว ทำให้ใยที่ปั่นแล้วเย็นลงในบาธน้ำอุ่นที่อุณหภูมิอย่างน้อย 30 องศาเซลเซียส เป็นระยะเวลาเพียงพอที่จะทำให้เกิดสันและร่องดังกล่าว แล้วดึงใยที่เย็นแล้ว 7. ใยสังเคราะห์ที่ทำจากไนลอนซึ่งมีโครงสร้างผิวหน้าที่ไม่เรียบ ซึ่งประกอบด้วยรอยย่นที่มีสันและร่องบนผิวหน้าของใยดังกล่าว ที่ซึ่ง : สันดังกล่าวยื่นไปเป็นจำนวนมากในทิศทางตามแนวยาวของใยดังกล่าว สันที่อยู่ติดกันแต่ละคู่จะมีร่องอยู่ระหว่างสันโดยร่องจะยื่นไปในทิศทางตามแนวยาวของใยและมีความยาวประมาณ 3 ถึง 7 และมีความกว้างประมาณ 0.3 ถึง 1 และ โครงสร้างผิวหน้าที่ไม่เรียบดังกล่าวผลิตขึ้นโดยการปั่นใยดังกล่าวในขณะหลอมตัว ทำให้ใยที่ปั่นแล้วเย็นลงในบาธน้ำอุ่นที่อุณหภูมิอย่างน้อย 30 องศาเซลเซียส เป็นระยะเวลาเพียงพอที่จะทำให้เกิดสันและร่องดังกล่าว แล้วดึงใยที่เย็นแล้ว 8. ใยสังเคราะห์ดังในข้อถือสิทธิ 6 ที่ซึ่งใยสังเคราะห์ดังกล่าวมีคาร์บอนแบล็คที่มีขนาดอนุภาคประมาณ 30 หรือเล็กกว่าโดยเส้นผ่าศูนย์กลาง 9. ใยสังเคราะห์ดังในข้อถือสิทธิ 8 ที่ซึ่งใยสังเคราะห์ดังกล่าวมีคาร์บอนแบล็คในปริมาณประมาณ 0.5 ถึง 4% โดยน้ำหนัก 1 0. ใยสังเคราะห์ดังในข้อถือสิทธิ 8 ที่ซึ่งใยสังเคราะห์ดังกล่าวมีคาร์บอนแบล็คดังกล่าวในปริมาณประมาณ 1 ถึง 2.5%โดยน้ำหนัก 11. Synthetic fibers made from polyamides, which have an uneven surface structure. Which consists of ridges and grooves on the surface of such web Where such an uneven surface structure is composed of a pattern that is made throughout the surface along the outer circumference of the web in such a way that (i) each adjacent pair of grooves have their bottom grooves approximately 3 apart. To 30, as measured along the outer circumference of the web in the plane perpendicular to the longitudinal axis of the fiber (ii) the distance from the vertex to the bottom of any ridge, as measured in the direction perpendicular to the longitudinal axis of The filament is approximately 0.2 to 2 and (iii) there are approximately 0.2 to 3 ridges per 10 along the outside circumference in the plane. 2. A nylon polyamide with an uneven surface structure. Which consists of ridges and grooves on the surface of such web Where such an uneven surface structure is composed of a pattern that is made throughout the surface along the outer circumference of the web in such a way that (i) each adjacent pair of grooves have their bottom grooves approximately 3 apart. Up to 30 as measured along the outer circumference of the web in the plane perpendicular to the longitudinal axis of the fiber. (ii) The distance from the vertex to the bottom of any ridge, as measured in the direction perpendicular to the longitudinal axis of the web, is approximately 0.2 to 2, and (iii) is approximately 0.2 to 3 ridges per 10 along. 3. Synthetic fibers as in claim 1, where the synthetic fibers contain carbon black particles. Each has a particle size of approximately 30 or smaller by diameter, with the particles distributed evenly in the fiber. 4. Synthetics, as in claim 3, where synthetic fibers contain about 0.5 to 4% carbon black. By weight 5. Synthetic fibers, as in claim 3, where synthetic fibers contain about 1 to 2.5% carbon black by weight 6. Polyamide synthetic fibers with an uneven surface structure. It consists of ridges and grooves on the surface of the web, where the ridge protrudes large numbers in the longitudinal direction of the web. Each pair of adjacent ridges has a groove between them, extending in the longitudinal direction of the web and approximately 3 to 7 (formula) length and 0.3 to 1 width and uneven surface structure. It is produced by spinning it while melting. Cool the spun fibers in a warm water bath at a temperature of at least 30 ° C for a sufficient period of time to form such ridges and furrows. Then pull the fiber to cool it. 7. Synthetic fibers made from nylon, which has an uneven surface structure. It consists of ridges and grooves on the surface of the web, where: the ridge extends a large number in the longitudinal direction of the web. Each pair of adjacent ridges has a groove between them, extending in the longitudinal direction of the web and approximately 3 to 7 long and 0.3 to 1 wide, and such uneven surface structures are produced. Increased by spinning the fibers while melting Cool the spun fibers in a warm water bath at a temperature of at least 30 ° C for a sufficient period of time to form such ridges and furrows. 8. Synthetic fibers as in claim 6, where synthetic fibers contain carbon black with a particle size of approximately 30 or smaller by diameter 9. Synthetic as in claim 8, where Such synthetic fibers contain approximately 0.5 to 4% carbon black by weight of 1.0. Synthetic fibers as in claim 8, where synthetic fibers contain approximately 1 to 2.5% carbon black, with Weight 1
1. ใยสังเคราะห์ดังในข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งโครงสร้างผิวหน้าที่ไม่เรียบดังกล่าวผลิตขึ้นโดยการปั่นใยดังกล่าวในขณะหลอมตัวและทำให้ใยที่ปั่นแล้วเย็นลงในบาธน้ำอุ่นที่อุณหภูมิอย่างน้อย 30 องศาเซลเซียส เป็นระยะเวลาเพียงพอที่จะทำให้เกิดโครงสร้างที่ไม่เรียบดังกล่าว 11. Synthetics, as in claim 1, where such an uneven surface structure is produced by spinning the fibers while melting and cooling the spun fibers in a warm water bath at a temperature of at least 30 ° C. A sufficient amount of time to produce such an uneven structure.
2. วิธีการผลิตใยโพลีอามีดที่มีโครงสร้างผิวหน้าที่ไม่เรียบซึ่งประกอบด้วยสันและร่องบนผิวหน้าของใยดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนของการปั่นขณะหลอมตัวเรซินโพลีอามีดที่ปั่นขณะหลอมตัวได้เพื่อทำให้เกิดเส้นใย และผ่านใยดังกล่าวทันทีในบาธทำความเย็นซึ่งประกอบด้วยน้ำอุ่นที่อุณหภูมิอย่างน้อย 30 องศาเซลเซียส เป็นระยะเวลาเพียงพอที่จะทำให้เกิดรูปแบบสันและร่องบนผิวหน้าตามเส้นรอบวงภายนอกทั้งหมดของใยดังกล่าวในลักษณะซึ่ง (i) ร่องที่อยู่ติดกันแต่ละคู่มีก้นของมันแยกห่างจากกันเป็นระยะประมาณ 3 ถึง 30 ตามที่วัดตามแนวเส้นรอบวงภายนอกของใยในระนาบที่ตั้งฉากกับแกนในแนวยาวของใย(ii) ระยะทางจากจุดยอดถึงก้นของสันใด ๆ ตามที่วัดในทิศทางตั้งฉากกับแกนตามแนวยาวของใยจะเป็นประมาณ 0.2 ถึง 2 และ (iii) จะมีสันอยู่ประมาณ 0.2 ถึง 3 สันต่อ 10 ตามแนวเส้นรอบวงภายนอกในระนาบดังกล่าว โดยที่ใยดังกล่าวที่มีโครงสร้างผิวหน้าที่ไม่เรียบดังกล่าวจะถูกผลิตขึ้น 12. Method for producing polyamide fibers with uneven surface structure consisting of ridges and grooves on the surface of such fibers. It consists of a process of spinning while fusing polyamide resins that can be spun while fusing to make fibers. And pass it immediately in a cooling bath consisting of warm water at a temperature of at least 30 ° C for a period sufficient to produce ridges and grooves along the entire outer circumference of the web in such a way that ( i) Each pair of adjacent grooves has their bottom, approximately 3 to 30 distances from each other, as measured along the outer circumference of the web, in a plane perpendicular to the longitudinal axis of the fiber (ii). The vertex to the bottom of any ridge, as measured in the direction perpendicular to the longitudinal axis of the web, is approximately 0.2 to 2, and (iii) is approximately 0.2 to 3 ridges per 10 along the outer circumference in the plane. say Where such fibers with such uneven surface structures are produced 1
3. วิธีการดังในข้อถือสิทธิ 12 ที่ซึ่งโพลีอามีดดังกล่าวเป็นไนลอนที่เลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วยไนลอน 6, ไนลอน6,6, ไนลอน 6, 12 และ ไนลอน 4, 6 13. Approach as in claim 12, where the polyamide is a nylon chosen from a group consisting of nylon 6, nylon 6,6, nylon 6, 12 and nylon 4, 6 1.
4. วิธีการดังในข้อถือสิทธิ 12 ที่ซึ่งเรซินโพลีอามีดที่ปั่นได้ขณะหลอมตัวจะมีคาร์บอนแบล็คประมาณ 0.5 ถึง 4% โดยน้ำหนักซึ่งมีขนาดอนุภาคประมาณ 30 (สูตร) หรือน้อยกว่าโดยเส้นผ่าศูนย์กลาง 14. Method as in claim 12, where fusible polyamide resin contains approximately 0.5 to 4% carbon black by weight with a particle size of approximately 30 (formula) or less by diameter. 1
5. วิธีการดังในข้อถือสิทธิ 14 ที่ซึ่งคาร์บอนแบล็คดังกล่าวมีอยู่ในปริมาณประมาณ 1 ถึง 2.5% โดยน้ำหนัก 15. Methodology, as in claim 14, where such carbon black is contained in 1 to 2.5% by weight 1
6. วิธีการดังในข้อถือสิทธิ 12 ซึ่งประกอบไปอีกด้วยขั้นตอนการดึงใยยาวเดี่ยวที่ทำให้เย็นลงแล้ว6. Method as in claim 12, which includes the process of pulling the cooled single strand.