TH23665B - สูตรน้ำยาแนวใหม่ใช้รักษาแผลและเพื่อสุขอนามัยของผิว - Google Patents

Abstract

DC60 โดยก่อนจะมีการคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ตามคำขอสิทธิบัตรนี้ การรักษาแผลต่าง ๆ เช่น แผลสด แผลติด เชื้อ แผลเรื้อรัง โดยทั่วไปจะต้องมีการทำความสะอาดแผลทุกวันโดยใช้แอลกอฮอล์หรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ล้างแผล (โดยข้อเท็จจริงแล้วมีผลในทางฆ่าเชื้อน้อยมาก แต่กลับมีผลมากกว่าในทางฆ่าเชื้อราที่อยู่ในรูปของ spore มากกว่าที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ถึงแม้จะใช้ความเข้มข้นที่น้อยลง ก็ยังคงมีฤทธิ์ถึงระดับทำลายเนื้อเยื่อ ได้) รวมทั้งการใส่แผลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่มีส่วนผสมของไอโอดีน (ซึ่งมีฤทธิ์ทำให้ระคายเคืองผิวหนังอย่างรุนแรง ได้) แล้วตามด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะทาภายนอกบริเวณแผล แต่เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า ไอโอดีนมีคุณสมบัติ เป็น strong oxidizing agent สามารถทำให้เกิดความระคายเคืองต่อผนังเซลล์ของเนื้อเยื่อควบคู่ไปกับการ ทำลายผนังเซลล์ของเชื้อแบคทีเรียได้ ซึ่งส่งผลให้เกิดการบวมและอักเสบที่เนื้อเยื่อในแผล อันเป็นสาเหตุของ การชลอกระบวนการสมานแผลของร่างกายให้ช้าลง นอกเหนือจากนี้ก่อนจะมีการคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ตามคำขอ สิทธิบัตรนี้ การรักษาแผลติดเชื้อมักจะมีการรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งควบคู่ไปกับการล้างแผลเป็นประจำ ทุกวันตามที่แพทย์แนะนำ ผู้ประดิษฐ์ได้ค้นพบสิ่งประดิษฐ์ซึ่งเป็นสารที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต (bioacceptable) และ ปลอดภัย แม้กระทั่งต่อเนื้อเยื่อที่อ่อนที่สุด จึงทำให้สามารถใช้กับแผลและการติดเชื้อของผิวหนังต่าง ๆ ที่ได้ กล่าวมาแล้วในข้างต้น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องปิดแผลหรือใช้ร่วมกับยาชนิดที่ใช้ทาใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งที่ แผลบางชนิดที่กล่าวมาแล้วข้างต้นเกือบจะไม่สามารถรักษาให้หายได้ก่อนหน้าที่จะมีสิ่งประดิษฐ์ใหม่นี้ สิ่งประดิษฐ์ใหม่อาจนำเสนอในรูปของเหลว ใส หรือสารละลายเข้มข้นที่สามารถนำไปเจือจางในระดับความ เข้มข้นที่แตกต่างกันไป กับสื่อหรือตัวนำในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ซึ่งอาจจะอยู่ในรูปเจล (Gel) ขี้ผึ้ง (salve) โลชั่น (lotion) แผ่นชุบน้ำยา (wet pad) โฟมชื้น (wet foam) ครีม (ointment) แท่ง (stick) ลูกกลิ้ง (roll-on) เป็นผงพร้อมสารละลาย (dry mixture with solution) หน้ากากปิดใบหน้า (Facial mask) มี วัตถุประสงค์เพื่อล้างหรือทำความสะอาด (cleansing) ฆ่าเชื้อโรค (disinfecting) ป้องกันการติดเชื้อ (inhibiting infection) ทั้งยังสามารถช่วยเร่งกระบวนการสมานคืนตามธรรมชาติของเนื้อเยื่อบริเวณแผลต่าง ๆ ให้เร็วขึ้น ได้แก่ แผลสด (fresh cut) แผลเย็บ (surgical stitches) แผลเรื้อรัง แผลเนื้อเน่า เนื้อตาย จาก โรคเบาหวาน (chronic, diabetic gangrene) แผลติดเชื้อ (acute wounds) แผลจากโรคงูสวัด (herpes zoster) โรคคันตามง่ามเท้า (athletic foot) และแผลกดทับ (bed sores) ทั้งนี้เมื่อใช้น้ำยานี้แล้วไม่จำเป็นต้อง พันผ้าก๊อซหรือปิดแผลด้วยแผ่นพลาสเตอร์ไว้ตลอดเวลา รวมทั้งไม่ต้องใช้ร่วมกับยาทาภายนอกใด ๆ นอกจากนี้ ยังสามารถใช้น้ำยานี้เพื่อการรักษาโรคอื่น ๆ ได้อีก เช่น สิว โรคติดเชื้อในช่องหู เป็นต้น กระบวนการรักษาด้วยสูตรในสิ่งประดิษฐ์ใหม่นี้รวมไปถึง ความสามารถในการทำให้เกิดการลอกออก ของผิวเนื้อตายแบบธรรมชาติ (autolytic debridement), การเสริมสร้างเนื้อเยื่อบุผิวหนังใหม่ (re- epithelialization), การซ่อมแซมของเนื้อเยื่อผิวหนัง (granulation of the tissues), กระบวนการจัดโครงสร้าง เนื้อเยื่อใหม่ให้สมบูรณ์ (remodeling/maturation) ในบริเวณที่เป็นแผล นอกจากส่วนผสมหรือสูตรของ สิ่งประดิษฐ์ใหม่นี้จะสามารถใช้รักษาแผลให้หายได้อย่างรวดเร็วแล้ว ยังมีคุณสมบัติสามารถยับยั้งการ เจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่แผล และช่วยทำให้แผลไม่เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ซึ่งมักเกิดขึ้นกับแผลเรื้อรังที่ เกิดจากโรคเบาหวานได้อย่างดีอีกด้วย โดยก่อนจะมีการคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ตามคำขอสิทธิบัตรนี้ การรักษาแผลต่างๆ เช่น แผลสด แผลติด เชื้อ แผลเรื้อรัง โดยทั่วไปจะต้องมีการทำความสะอาดแผลทุกวันโดยใช้แอลกอฮอล์หรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ล้างแผล (โดยข้อเท็จจริงแล้วมีผลในทางฆ่าเชื้อน้อยมาก แต่กลับมีผลมากกว่าในทางฆ่าเชื้อราที่อยู่ในรูปของ spore มากกว่าที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ถึงแม้จะใช้ความเข้มข้นที่น้อยลง ก็ยังคงมีฤทธิ์ถึงระดับทำลายเนื้อเยื่อ ได้) รวมทั้งการใส่แผลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่มีส่วนผสมของไอโอดีน (ซึ่งมีฤทธิ์ทำให้ระคายเคืองผิวหนังอย่างรุนแรง ได้) แล้วตามด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะทาภายนอกบริเวณแผล แต่เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า ไอโอดีนมีคุณสมบัติ เป็น strong oxidizing agent สามารถทำให้เกิดความระคายเคืองต่อผนังเซลล์ของเนื้อเยื่อควบคู่ไปกับการ ทำลายผนังเซลล์ของเชื้อแบคทีเรียได้ ซึ่งส่งผลให้เกิดการบวมและอักเสบที่เนื้อเยื่อในแผล อันเป็นสาเหตุของ การชลอกระบวนการสมานแผลของร่างกายให้ช้าลง นอกเหนือจากนี้ก่อนจะมีการคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ตามคำขอ สิทธิบัตรนี้ การรักษาแผลติดเชื้อมักจะมีการรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งควบคู่ไปกับการล้างแผลเป็นประจำ ทุกวันตามที่แพทย์แนะนำ ผู้ประดิษฐ์ได้ค้นพบสิ่งประดิษฐ์ซึ่งเป็นสารที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต (bioacceptable) และ ปลอดภัย แม้กระทั่งต่อเนื้อเยื่อที่อ่อนที่สุด จึงทำให้สามารถใช้กับแผลและการติดเชื้อของผิวหนังต่างๆ ที่ได้ กล่าวมาแล้วในข้างต้น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องปิดแผลหรือใช้ร่วมกับยาชนิดที่ใช้ทาใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งที่ แผลบางชนิดที่กล่าวมาแล้วข้างต้นเกือบจะไม่สามารถรักษาให้หายได้ก่อนหน้าที่จะมีสิ่งประดิษฐ์ใหม่นี้ สิ่งประดิษฐ์ใหม่อาจนำเสนอในรูปของเหลว ใส หรือสารละลายเข้มข้นที่สามารถนำไปเจือจางในระดับความ เข้มข้นที่แตกต่างกันไป กับสื่อหรือตัวนำในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ซึ่งอาจจะอยู่ในรูปเจล (Gel) ขี้ผึ้ง (salve) โลชั่น (lotion) แผ่นชุบน้ำยา (wet pad) โฟมชื้น (wet foam) ครีม (ointment) แท่ง (stick) ลูกกลิ้ง (roll-on) เป็นผงพร้อมสารละลาย (dry mixture with solution) หน้ากากปิดใบหน้า (Facial mask) มี วัตถุประสงค์เพื่อล้างหรือทำความสะอาด (cleansing) ฆ่าเชื้อโรค (disinfecting) ป้องกันการติดเชื้อ (inhibiting infection) ทั้งยังสามารถช่วยเร่งกระบวนการสมานคืนตามธรรมชาติของเนื้อเยื่อบริเวณแผลต่างๆ ให้เร็วขึ้น ได้แก่ แผลสด (fresh cut) แผลเย็บ (surgical stitches) แผลเรื้อรัง แผลเนื้อเน่า เนื้อตาย จาก โรคเบาหวาน (chronic, diabetic gangrene) แผลติดเชื้อ (acute wounds) แผลจากโรคงูสวัด (herpes zoster) โรคคันตามง่ามเท้า (athletic foot) และแผลกดทับ (bed sores) ทั้งนี้เมื่อใช้น้ำยานี้แล้วไม่จำเป็นต้อง พันผ้าก๊อซหรือปิดแผลด้วยแผ่นพลาสเตอร์ไว้ตลอดเวลา รวมทั้งไม่ต้องใช้ร่วมกับยาทาภายนอกใดๆ นอกจากนี้ ยังสามารถใช้น้ำยานี้เพื่อการรักษาโรคอื่นๆ ได้อีก เช่น สิว โรคติดเชื้อในช่องหู เป็นต้น กระบวนการรักษาด้วยสูตรในสิ่งประดิษฐ์ใหม่นี้รวมไปถึง ความสามารถในการทำให้เกิดการลอกออก ของผิวเนื้อตายแบบธรรมชาติ (autolytic debridement) การเสริมสร้างเนื้อเยื่อบุผิวหนังใหม่ (re- epithelialization) การซ่อมแซมของเนื้อเยื่อผิวหนัง (granulation of the tissues), กระบวนการจัดโครงสร้าง เนื้อเยื่อใหม่ให้สมบูรณ์ (remodeling/maturation) ในบริเวณที่เป็นแผล นอกจากส่วนผสมหรือสูตรของ สิ่งประดิษฐ์ใหม่นี้จะสามารถใช้รักษาแผลให้หายได้อย่างรวดเร็วแล้ว ยังมีคุณสมบัติสามารถยับยั้งการ เจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่แผล และช่วยทำให้แผลไม่เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ซึ่งมักเกิดขึ้นกับแผลเรื้อรังที่ เกิดจากโรคเบาหวานได้อย่างดีอีกด้วย สิทธิบัตรยา

Claims (4)

1. องค์ประกอบน้ำยาเพื่อสุขอนามัยของผิวหนังที่ประกอบรวมด้วยโซเดียมไฮโปคลอไรท์ 0.025-0.125% โดย น้ำหนักต่อน้ำหนักทั้งหมดขององค์ประกอบ โซเดียมคลอไรด์ 1-30% โดยน้ำหนักต่อน้ำหนักทั้งหมดของ องค์ประกอบ และซัลเฟอร์จากเกลือซัลเฟตที่ความเข้มข้น 10-350 PPM 2. องค์ประกอบตามข้อถือสิทธิที่ 1 ในที่ซึ่งเกลือ sulfate ดังกล่าวเป็นได้ทั้งเกลือแร่อินทรีย์ (organic) และ เกลือแร่อนินทรีย์ (inorganic) เช่น โซเดียม (sodium), แมกนีเซียม (magnesium), โปแตสเซียม (potassium), สังกะสี (zinc), เหล็ก (iron), ไอโอดีน (iodine), ทองแดง (copper), เซลีเนียม (selenium) และ/หรือ sulfur จากเกลือ sulfate โดยอาจใช้เกลือซัลเฟตดังกล่าวได้มากกว่า 1 ชนิด 3. องค์ประกอบตามข้อถือสิทธิที่ 1-2 ข้อใดข้อหนึ่ง ในที่ซึ่งมีสารประกอบอื่นที่ออกฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อ (antiseptic) ฆ่าเชื้อรา (antimycotic) ฆ่าเชื้อโรคผิวหนัง (dermatic) และ/หรือ มีสารกันแดดด้วย (light absorbent substances) 4. องค์ประกอบตามข้อถือสิทธิที่ 1-3 ข้อใดข้อหนึ่ง ในที่ซึ่งมีสารประกอบอื่นที่ออกฤทธิ์ ที่เป็นสมุนไพรที่สกัด จากราก ใบสาหร่าย และ/หรือน้ำมันสกัดจากสมุนไพร 5. องค์ประกอบตามข้อถือสิทธิที่ 1-4 ข้อใดข้อหนึ่ง ในที่ซึ่งสารประกอบอื่นที่ออกฤทธิ์ที่ใช้คือ สารปรับค่า ความเป็นกรดด่าง (pH adjuster) และ/หรือ สารคงค่าความเป็นกรดด่าง (pH stabilizer) 6. องค์ประกอบตามข้อถือสิทธิที่ 1-5 ข้อใดข้อหนึ่ง ในที่ซึ่งมีสารประกอบอื่นที่ออกฤทธิ์ที่ใช้คือ สารถนอม คุณค่า (preservative), สารซักฟอก (detergent), สารทำให้เกิดฟอง (surfactant), zinc oxide, สาร ป้องกันผิวถูกทำลาย (skin protectant) สารทำให้ผิวขาว สารกัดกร่อน (bleaching), oxidizing agent, สาร soothing agent, sudsing และสารปรับสภาพความเป็นกรดด่าง 7. องค์ประกอบตามข้อถือสิทธิที่ 1-6 ข้อใดข้อหนึ่ง ในที่ซึ่งมีสารประกอบอื่นที่ออกฤทธิ์ที่ใช้คือ สารควบคุม ความเข้มข้น (osmolarity regulator), กลีเซอร์รีน (glycerine), สารปรับสภาพความเข้มข้น (osmotic adjuster), สารกระตุ้นให้เกิดการซ่อมแซมของเนื้อเยื่อ (tissue granulation stimulator), และ/หรือ สาร กระตุ้นให้เซลล์เกิดการแบ่งตัว (astringent inducing and/or cells proliferation stimulator) 8. องค์ประกอบตามข้อถือสิทธิที่ 1-7 ข้อใดข้อหนึ่ง ในที่ซึ่งมีสารประกอบอื่น ที่ออกฤทธิ์ที่ใช้นั้นเป็นยาแก้ อักเสบ ยาฆ่าเชื้อไวรัส ยาปฏิชีวนะ สารต้านอนุมูลอิสระ กรดอินทรีย์ (organic acid) สารชีวภาพจากการ หมักของจุลินทรีย์ (biofermented products from micro organism) กรดที่ได้จากสินแร่ (Fulvic Acid, Humic Acid) สารต้านเชื้อรา และ/หรือ ยาต้านเชื้อโรคอื่นๆ ที่ยอมรับได้ในทางเภสัชกรรม 9. องค์ประกอบตามข้อถือสิทธิที่ 1-8 ข้อใดข้อหนึ่ง ในที่ซึ่งมีสารประกอบอื่นที่ออกฤทธิ์ที่ใช้นั้นเป็นกรดอะมิ โน ไวตามิน และ/หรือ เกลือแร่ 1 0. องค์ประกอบตามข้อถือสิทธิที่ 1-9 ข้อใดข้อหนึ่ง ในที่ซึ่งมีสารประกอบอื่นที่ออกฤทธิ์ที่ใช้นั้นคือ beta glucan และ/หรือ keratine derivatives 1

1. องค์ประกอบตามข้อถือสิทธิที่ 1-10 ข้อใดข้อหนึ่ง ในที่ซึ่งมีการทำให้น้ำยามีความเข้มข้นสูง เพื่อสามารถ นำไปเจือจางให้มีความเข้มข้นลดลง หรือนำไปแปลงเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดน้ำหรือของเหลวอื่นๆ ที่เป็นเจลที่ มีลักษณะไม่เหนียว (greaseless gel-water), สารละลายหรือขี้ผึ้ง (soluble or salve), โลชั่น (lotion), wet pad, มีลักษณะเป็นครีมใช้ทา, ลูกกลิ้ง (roll-on) ขี้ผึ้งที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากน้ำมัน (pentrolatum- based ointment) มีลักษณะเป็นสารแขวนตะกอนหรือเป็นฟอง (emulsion-based of foam-based preparation) 1

2. องค์ประกอบตามข้อถือสิทธิที่ 1-10 ข้อใดข้อหนึ่ง ในที่ซึ่งมีการนำไปประดิษฐ์ใช้เป็นผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กๆ (moistened towelett), เป็นแท่ง (stick) หรือเป็นผง สำหรับผสมน้ำเพื่อใช้ต่อไป 1

3. องค์ประกอบตามข้อถือสิทธิที่ 1-10 ข้อใดข้อหนึ่ง ในที่ซึ่งมีการนำไปใช้กับพลาสเตอร์หรือผ้าก๊อซ 1

4. องค์ประกอบตามข้อถือสิทธิที่ 1-10 ข้อใดข้อหนึ่ง ในที่ซึ่งมีการนำไปใช้เป็นยาล้างแผลสด แผลเป็นหนอง แผลเรื้อรัง แผลจากการผ่าตัดและแผลเย็บ แผลกดทับ (bed sore) แผลงูสวัด (herpes zoster) โรคคันและ เป็นแผลตามง่ามเท้า ยาหยอดตา ยาหยอดหูที่มีการติดเชื้อ ยาหยอดจมูก ยาพ่นจมูก ยาล้างตา น้ำยาล้าง ช่องคลอดและช่องทวารหนัก รวมทั้งผลิตภัณฑ์กลิ่นตัวเพื่อสุขอนามัยของผิวภายนอก