TH22967C3

TH22967C3 - วิธีการเพื่อการยับยั้งการเกิดโพลิเมอร์ในกระบวนการสำหรับสไตรีน

Info

Publication number: TH22967C3
Application number: TH9901001056A
Authority: TH
Inventors: เอดเวิร์ด ลูอิส นายวินเซ็นต์; ไฮด์ นางซารา
Original assignee: นายดำเนิน การเด่น; นายต่อพงศ์ โทณะวณิก; นายวิรัช ศรีเอนกราธา; นายจักรพรรดิ์ มงคลสิทธิ์
Filing date: 1999-03-30
Publication date: 2007-12-25

Abstract

DC60 (20/09/50) ได้ปรับปรุงสมรรถนะในการยับยั้งในกระบวนการสำหรับสไตรีนตลอดจนการเติมสารประกอบ- ฟรีแรดิคัลไนทรอกไซด์ที่เสถียรให้แก่สารป้อนสไตรีน และให้แก่รีฟลักซ์ของคอลัมน์อย่างน้อยหนึ่ง- คอลัมน์ ได้ปรับปรุงสมรรถนะในการยังยั้งในกระบวนการสำหรับสไตรีนตลอดจนการเติมสารประกอบ ฟรีแรดิคัลไนทรอกไซด์ที่เสถียรให้แก่สารป้อนสไตรีน และให้แก่รีฟลักซ์ของคอลัมน์อย่างน้อยหนึ่ง คอลัมน์

Claims

1. วิธีการในการยับยั้งการเกิดโพลิเมอร์ในกระบวนการสำหรับสไตรีน, ซึ่งกระบวนการนั้น มีสารป้อนสไตรีนชนิดหนึ่งเข้าสู่ส่วนการกลั่นหนึ่งซึ่งรวมถึงคอลัมน์หนึ่งคอลัมน์เป็นอย่างน้อย และ รีฟลักซ์เข้าสู่อย่างน้อยหนึ่งคอลัมน์ดังกล่าว, ซึ่งประกอบรวมด้วยขั้นตอนในการเติมปริมาณการ ยับยั้งที่ได้ผลของสารประกอบฟรีแรดิคัลไนทรอกไซด์ที่เสถียรให้แก่สารป้อนสไตรีนนั้น และให้แก่ รีฟลักซ์นั้นของอย่างน้อยหนึ่งคอลัมน์ดังกล่าว,ซึ่งอย่างน้อยหนึ่งคอลัมน์ดังกล่าวที่เลือกจากกลุ่มที่ ประกอบด้วยคอลัมน์สำหรับการแยกโมโนเมอร์เอทิลเบนซีน/สไตรีน,คอลัมน์เบนซีน-โทลูอีน และ คอลัมน์สำหรับการทำให้เศษชนิดเบา และชนิดหนักบริสุทธิ์

2. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งกระบวนการสำหรับสไตรีนไม่ใช้ออกซิเจน

3. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งคัดเลือกสารประกอบฟรีแรดิคัลไนทรอกไซด์ที่เสถียรจาก กลุ่มซึ่งประกอบด้วย ได-เทอร์ท บิวทิล ไนทรอกซิล, 1-ออกซิล-2,2,6,6-เททระเมทิลไพเพอริดิน, 1-ออกซิล-2,2,6,6-เททระเมทิลไพเพอริดิน-4-ออล 1-ออกซิล-2,2,6,6-เททระเมทิลไพเพอริดิน-4-โอน, 1-ออกซิล-2,2,6,6-เททระเมทิลไพเพอริดิน-4-อิลอะซีเทต 1-ออกซิล-2,2,6,6-เททระเมทิล- ไพเพอริดิน-4-อิล 2-เอทิลเฮกซะโนเอต, 1-ออกซิล-2,2,6,6-เททระเมทิลไพเพอริดิน-4-อิล สเทียเรต, 1-ออกซิล-2,2,6,6-เททระเมทิลไพเพอริดิน-4-อิล-เบนโซเอต, 1-ออกซิล-2,2,6,6-เททระเมทิล- ไพเพอริดิน-4-อิล 4-เทอร์ท-บิวทิลเบนโซเอต, บิส(1-ออกซิล-2,2,6,6-เททระเมทิลไพเพอริดิน-4-อิล) ซัคซิเนต, บิส(1-ออกซิล-2,2,6,6-เททระเมทิลไพเพอริดิน-4-อิล) อะไดเพต, บิส(1-ออกซิล-2,2,6,6- เททระเมทิลไพเพอริดิน-4-อิล)ซีแบคเกต, บิส(1-ออกซิล-2,2,6,6-เททระเมทิลไพเพอริดิน-4-อิล) n-บิวทิลมาโลเนต, บิส(1-ออกซิล-2,2,6,6-เททระเมทิลไพเพอริดิน-4-อิล)พธาเลต, บิส(1-ออกซิล- 2,2,6,6-เททระเมทิลไพเพอริดิน-4-อิล) ไอ โซพธาเลต, บีส(1-ออกซิล-2,2,6,6-เททระเมทิล- ไพเพอริดิน-4-อิล)เทเรพธาเลต, บิส(1-ออกซิล-2,2,6,6-เททระเมทิลไพเพอริดิน-4-อิล) เฮกซาไฮโดร เทเรพธาเลต,N,N\' -บิส(1-ออกซิล-2,2,6,6-เททระเมทิลไพเพอริดิน-4-อิล)อะไคพามีค N-(1-ออกซิล- 2,2,6,6-เททระเมทิลไพเพอริดิน-4-อิล)แคโพรแลคแทม, N-(1-ออกซิล-2,2,6,6-เททระเมทิล ไพเพอริดิน-4-อิล)-โคเดคซิลซัคซินิมีค 2,4,6-ทริส-[N-บิวทิล-N(1-ออกซิล-2,2,6,6-เททระเมทิล ไพเพอริดิน-4-อิล]-เอส-ไทรอะซีน, และ 4,4\'-เอทิลีนบิส(1-ออกซิล-2,2,6,6-เททระเมทิลไพเพอราซิน- -3-โอน)

4. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งเติมไนทรอกไซด์ให้แก่กระบวนการนั้นในปริมาณตั้งแต่ ประมาณ 0.5 ppm ถึงประมาณ 2000 ppm ที่อยู่บนพื้นฐานของน้ำหนักของสไตรีน

5. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งเติมไนทรอกไซด์ให้แก่กระบวนการนั้นในปริมาณตั้งแต่ ประมาณ 1 ppm ถึง ประมาณ 200 ppm ที่อยู่บนพื้นฐานของน้ำหนักของสไตรีน

6. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งเติมไนทรอกไซด์ให้แก่กระบวนการนั้นในปริมาณตั้งแต่ ประมาณ 1 ppm ถึงประมาณ 50 ppm ที่อยู่บนพื้นฐานของน้ำหนักของสไตรีน

7. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งเติมไนทรอกไซด์ประมาณ 10% ถึงประมาณ 90% ให้แก่ สารป้อนสไตรีนและเติมไนทรอกไซด์ประมาณ 90% ถึงประมาณ 10% ให้แก่รีฟลักซ์นั้น

8. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งเติมไนทรอกไซด์ประมาณ 20% ถึง ประมาณ 80% ให้แก่ สารป้อนสไตรีนและเติมไนทรอกไซด์ ประมาณ 80% ถึงประมาณ 20% ให้แก่รีฟลักซ์นั้น

9. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งเติมไนทรอกไซด์ประมาณ 40% ถึง ประมาณ 60% ให้แก่ สารป้อนสไตรีนและเติมไนทรอกไซด์ประมาณ 60% ถึงประมาณ 40% ให้แก่รีฟลักซ์นั้น 1

0. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งเติมสารประกอบฟีนิลีนไดเอมีนให้แก่สารป้อนสไตรีน และรีฟลักซ์นั้น