TH22135C3 - เซลลูโลส อีเธอร์ที่ถูกดัดแปรแล้ว - Google Patents

Abstract

DC60 (09/01/50) การประดิษฐ์เกี่ยวกับเซลลูโลส อีเธอร์ที่ถูกดัดแปรแบบไฮโดรโฟบิคแล้ว ด้วยแอลคิลหรือ แอลคินิลคีทีน ไดเมอร์ ซึ่งสูตรทั่วไปคือ (สูตรเคมี) (I) ซึ่ง R1 และ R2 คือโซ่แอลคิล หรือแอลคินิล เช่น โซ่ที่มีคาร์บอน 5 ถึง 22 อะตอม ที่ควรใช้ คือ 13 ถึง 20 อะตอม ที่ควรใช้มากที่สุดคือ 14 ถึง 18 อะตอม ตัวอย่างเช่น สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ ในผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำเป็นพื้นฐาน เพื่อควบคุมคุณสมบัติทางวิทยากระแส จุดประสงค์ของการใช้ ประกอบด้วย ตัวอย่างเช่น สารซักฟอก, สารผสมเคลือบกระดาษ, สีทา, สารทำกระจาย และ โคลน ช่วยการเจาะน้ำมัน การประดิษฐ์เกี่ยวกับเซลลูโลส อีเธอร์ที่ถูกดัดแปรแบบไฮโดรโฟบิคแล้ว ด้วยแอลคิลหรือ แอลคินิลคีทีน ไดเมอร์ ซึ่งสูตรทั่วไปคือ (สูตรเคมี) (I) ซึ่ง R1 และ R2 คือโซ่แอลคิล หรือแอลคินิล เช่น โซ่ที่มีคาร์บอน 5 ถึง 22 อะตอม ที่ควรใช้ คือ 13 ถึง 20 อะตอม ที่ควรใช้มากที่สุดคือ 14 ถึง 18 อะตอม ตัวอย่างเช่น สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ ในผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำเป็นพื้นฐาน เพื่อควบคุมคุณสมบัติทางวิทยากระแส จุดประสงค์ของการใช้ ประกอบด้วย ตัวอย่างเช่น สารซักฟอก, สารผสมเคลือบกระดาษ, สีทา, สารทำกระจาย และ โคลน ช่วยการเจาะน้ำมัน

Claims (3)

1. เซลลูโลส อีเธอร์ที่ถูกดัดแปรแบบไฮโดรโฟบิคแล้ว ซึ่งดำเนินการดัดแปรไฮโดรโฟ บิค โดยใช้ไดเมอร์ของแอลคิลหรือแอลคินิลคีทีน ซึ่งมีสูตร คือ (สูตรเคมี) (I) ซึ่ง R คือ หมู่แอลคิล หรือแอลคินิล 2. เซลลูโลส อีเธอร์ที่ถูกดัดแปรแล้วตามข้อถือสิทธิที่ 1 ซึ่งโซ่แอลคิล หรือ แอลคินิล มี คาร์บอน 5 ถึง 22 3. เซลลูโลส อีเธอร์ที่ถูกตัดแปรแล้วตามข้อถือสิทธิที่ 2 ซึ่งโซ่แอลคิล หรือ แอลคินิล มี คาร์บอน 13 ถึง 22 4. เซลลูโลส อีเธอร์ที่ถูกดักแปรแล้วตามข้อถือสิทธิขที่ 1 ซึ่งโซ่แอลคิล หรือ แอลคินิล มี คาร์บอน 14 ถึง 18 5. เซลลูโลส อีเธอร์ที่ถูกดัดแปรแล้วตามข้อถือสิทธิที่ 1 (สูตรเคมี) เซลลูโลส (อีเธอร์) ซึ่ง R คือ หมู่แอลคิล หรือ แอลคินิล 6. เซลลูโลส อีเธอร์ที่ถูกดัดแปรแล้วตามข้อถือสิทธิที่ 1 ซึ่งน้ำหนักโมเลกุลของเซลลูโลส อีเธอร์ คือ 10,000 - 1,000,000 7. เซลลูโลส อีเธอร์ที่ถูกดัดแปรแล้วตามข้อถือสิทธิที่ 6 ซึ่งน้ำหนักโมเลกุลของเซลลูโลส อีเธอร์ คือ 20,000 - 700,000 8. เซลลูโลส อีเธอร์ที่ถูกดัดแปรแล้วตามข้อถือสิทธิที่ 7 ซึ่งน้ำหนักโมเลกุลของเซลลูโลส อีเธอร์ คือ 40,000 - 500,000 9. เซลลูโลส อีเธอร์ที่ถูกดัดแปรแล้วตามข้อถือสิทธิที่ 5 ซึ่งเซลลูโลส อีเธอร์ ที่ถูกดัดแปร แล้วประกอบด้วย 0.001 - 10% โดยน้ำหนักของหมู่ไดเมอร์ในแอลคิลหรือแอลคินิลคีทีน 1 0. เซลลูโลส อีเธอร์ที่ถูกดัดแปรแล้วตามข้อถือสิทธิที่ 9 ซึ่งเซลลูโลส อีเธอร์ ที่ถูกดัดแปร แล้วประกอบด้วย 0.01 - 2% โดยน้ำหนักของหมู่ไดเมอร์ของแอลคิลหรือแอลคินิลคีทีน 1 1. เซลลูโลส อีเธอร์ที่ถูกดัดแปรแล้วตามข้อถือสิทธิที่ 1 ซึ่งเซลลูโลส อีเธอร์ คือ คาร์ บอกซิเมธิล เซลลูโลส 1 2. เซลลูโลส อีเธอร์ที่ถูกดัดแปรแล้วตามข้อถือสิทธิที่ 11 ซึ่งคาร์บอซิเมธิล เซลลูโลสมี ระดับของการแทนที่เท่ากับ 0.2 - 2 1 3. เซลลูโลส อีเธอร์ที่ถูกดัดแปรแล้วตามข้อถือสิทธิที่ 12 ซึ่ง คาร์บอซิเมธิล เซลลูโลส มี ระดับของการแทนที่เท่ากับ 0.4 - 1.5 1 4. เซลลูโลส อีเธอร์ที่ถูกดัดแปรแล้วตามข้อถือสิทธิที่ 13 ซึ่งคาร์บอซิเมธิล เซลลูโลสมี ระดับของการแทนที่เท่ากับ 0.4 - 1.2 1 5. สารผสมซักฟอก ที่ประกอบด้วย เซลลูโลส อีเธอร์ ที่ถูกดัดแปรแบบไฮโดรโฟบิค ตาม ข้อถือสิทธิที่ 1 1 6. สารผสมซักฟอก ตามข้อถือสิทธิที่ 15 ที่ถูกผสมกับน้ำหรือสารผสมในน้ำ 1 7. สารผสมซักฟอก ตามข้อถือสิทธิที่ 15 ซึ่งเซลลูโลส อีเธอร์ ที่ถูกดัดแปรแบบไฮโดรโฟ บิค คือ คาร์บอซิเมธิล เซลลูโลส ที่ถูกดัดแปรแบบไฮโดรโฟบิค 1 8. สารผสมซักฟอก ตามข้อถือสิทธิที่ 17 ซึ่งคาร์บอซิเมธิล เซลลูโลส ที่ถูกดัดแปรแบบ ไฮโดรโฟบิค มีระดับของการแทนที่เท่ากับ 0.4 - 0.6 1 9. เซลลูโลส อีเธอร์ ที่ถูกดัดแปรแบบไฮโดรโฟบิค ที่ได้มาโดยการทำปฏิกิริยาของไดเมอร์ ของแอลคิล หรือแอลคินิลคีทีนของสูตร (สูตรเคมี) กับเซลลูโลส อีเธอร์ ซึ่ง R คือ หมู่แอลคิล หรือ แอลคินิล 2 0. เซลลูโลส อีเธอร์ ที่ถูกดัดแปรแล้วของสูตร (สูตรเคมี) ซึ่ง R คือ หมู่แอลคิล หรือแอลคินิล 2

1. เซลลูโลส อีเธอร์ ที่ถูกดัดแปรแล้ว ตามข้อถือสิทธิที่ 1 ซึ่ง เซลลูโลส อีเธอร์ คือ โซเดียมคาร์บอซิเมธิล เซลลูโลส 2

2. เซลลูโลส อีเธอร์ ที่ถูกดัดแปรแล้ว ตามข้อถือสิทธิที่ 1 ซึ่ง เซลลูโลส อีเธอร์ คือ ไฮดรอกซีเอธิล เซลลูโลส 2

3. เซลลูโลส อีเธอร์ ที่ถูกดัดแปรแล้ว ตามข้อถือสิทธิที่ 1 ซึ่ง เซลลูโลส อีเธอร์ คือ ไฮดรอกซีโพรพิล เซลลูโลส