Claims (5)
1. วิธีการกระทำต่อสิ่งทอเพื่อให้มีสมบัติในการหน่วงการติดไฟซึ่งวิธีที่กล่าวแล้วประกอบ รวมด้วยขั้นตอนต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ (a) การแช่สิ่งทอนั้นให้ชุ่มด้วยสารละลายแอคเควียสของสารประกอบโพลิ(ไฮดรอกซิ ออร์แกโน) ฟอสฟอเนียม เพื่อให้ได้สารประกอบฟอสฟอเนียมที่ "เพิ่มเข้าไป" อยู่ใน ช่วง 50% ถึง 73% เมื่อเทียบกับน้ำหนักของสิ่งทอนั้น (b) การทำสิ่งทอที่ผ่านการแช่ให้ชุ่มให้แห้ง เพื่อให้มีปริมาณความชื้นเหลืออยู่ในช่วง 13 ถึง 25% เมื่อเทียบกับน้ำหนักของสิ่งทอนั้น (c) การบ่มสิ่งทอที่ผ่านการแช่ให้ชุ่มซึ่งผ่านการทำให้แห้งแล้ว ด้วยแอมโมเนียเพื่อทำให้เกิด เป็นโพลิเมอร์ชนิดไม่ละลายน้ำ ที่ผ่านการบ่มซึ่งตรึงเชิงกลอยู่ภายในเส้นใยของสิ่งทอนั้น (d) การแบทชิง สิ่งทอนั้นเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงก่อนการออกซิเดชัน (e) การออกซิไดส์โพลิเมอร์ที่ผ่านการบ่มเพื่อให้เปลี่ยน ไทรแวเลนท์ ฟอสฟอรัส ให้เป็น เพนทาแวเลนท์ฟอสฟอรัส (f) การล้างและการกระทำสิ่งทอนั้นให้แห้ง 2. วิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งสารประกอบ โพลิ(ไฮดรอกซิออร์แกโน) ฟอสฟอเนียม นั้นที่ ประกอบอย่างมีนัยสำคัญด้วยเกลือ เททราคิส (ไฮดรอกซิแอลคิล) ฟอสฟอเนียม 3. วิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งสารประกอบโพลิ (ไฮดรอกซิออร์แกโน) ฟอสฟอเนียมนั้น ประกอบรวมด้วย คอนเดนเสทของเกลือ เททราคิส (ไฮดรอกซิแอลคิล) ฟอสฟอเนียม กับสารสาร ประกอบซึ่งมีไนโตรเจน 4. วิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 2 หรือ 3 ซึ่งเกลือ เททราคิส (ไฮดรอกซิแอลคิล) ฟอสฟอเนียม นั้นคือ เททราคิส (ไฮดรอกซิเมธิล) ฟอสฟอเนียม คลอไรด์ 5. วิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 3 ซึ่งสารประกอบซึ่งมีไนโตรเจนนั้น คือ ยูเรีย 6. วิธีตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 5 ซึ่งสิ่งทอที่ผ่านการแช่ให้ชุ่มต้องได้รับการ ทำให้แห้งในขั้นตอน (b) เพื่อให้มีปริมาณความชื้นเหลืออยู่ในช่วง 17 ถึง 23% เมื่อเทียบกับน้ำหนัก ของสิ่งทอนั้น 7. วิธีตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 6 ซึ่งในขั้นตอนออกซิไดซิง (e) นั้น ดำเนินไป ได้โดยอาศัยไฮโดรเจน เพอร์ออกไซด์ โดยมีสารช่วยให้เปียกอยู่ด้วย 8. วิธีตามข้อถือสสิทธิข้อ 7 ซึ่งปริมาณของไฮโดรเจน เพอร์ออกไซด์ ซึ่งใช้อยู่ในขั้นตอน (e) มี ได้จนถึง 25% เมื่อเทียบกับน้ำหนักของสิ่งทอนั้น 9. วิธีตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิก่อนหน้า ซึ่งสิ่งทอที่จะนำมากระทำนั้นที่ประกอบ อย่างมีนัยสำคัญด้วยเส้นใยเซลลูโลส 1 0. วิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 9 ซึ่งเส้นใยที่จะนำมากระทำนั้นที่ประกอบอย่างมีนัยสำคัญด้วยเส้น ใยฝ้าย 11. Methods to act on textiles in order to have flame retardant properties which are described above. The following steps are included: (a) Immersion of the textile is impregnated with an actuation solution of poly (hydroxyorgano) phosphonium compounds for Obtaining a phosphonium compound that “Add on” ranges from 50% to 73% of the weight of the textile. (B) Soaking and drying textiles. So that the residual moisture content is in the range of 13 to 25% relative to the weight of the textile. (C) Curing the soaked, dried textiles. With ammonia to cause It is a water-insoluble polymer. (D) Batching the textile for at least one hour prior to oxidation (e) oxidizing cured polymers to allow ficidation. Valent Phosphorus to Pentavalent Phosphorus (f) Washing and drying the textile. 2. Method according to claim 1 in which the compound Poly (hydroxyorgano) phosphonium is significantly composed with tetrachis (hydroxylkyl) phosphonium 3. Method according to claim 1, which polypropylene compounds (Hydroxyorganic organo) Phosphorus that. Included Condensate of tetrachis (hydroxylkyl) phosphonium with nitrogen-containing compounds 4. Method according to claim 2 or 3, where tetraki salt Phosphonium (hydroxylkyl) phosphonium is tetrakis (hydroxymethyl) phosphonium chloride 5. Method according to the claims clause 3 where the nitrogen-containing compound is urea 6. Method according to one of the claims 1 to 5 in which the impregnated textile is subjected to Dry in step (b) so that the residual moisture content ranges from 17 to 23% relative to weight. 7. Method according to any one of claims 1 through 6, in which the oxidizing process (e) is carried out by means of hydrogen peroxide with wetting agent. 8. Method according to claim 7, in which the amount of hydrogen peroxide used in step (e) is up to 25% compared to the weight of that textile. 9. Method according to any one of Previous claim Which textiles that will be performed Significantly with cellulose fibers 1 0. Method according to claim 9, in which the fibers to be performed are significantly composed of cotton fibers 1
1. วิธีตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 8 ซึ่งสิ่งทอที่จะนำมากระทำนั้นประกอบ รวมด้วยทั้งเส้นใยเซลลูโลสและนอน-เซลลูโลส 11. Method according to any of the claims 1 to 8 in which the textile to be made consists of Including both cellulose fibers and non-cellulose 1
2. วิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 11 ซึ่งเส้นใยนอน-เซลลูโลส นั้นคือ เส้นใยโพลิแอมีด, เส้นใย แอไครลิค, เส้นใยอารามิด, เส้นใยโพลิเอสเทอร์ หรือเส้นใยโพลิเบนซิมิแดโซล 12. Method according to claim 11, in which non-cellulose fibers are polyamide fibers, acrylic fibers, aramid fibers, polyesters. Or polybenzimidasol 1 fiber
3. วิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 11 หรือ 12 ซึ่งสิ่งทอนั้นประกอบรวมด้วยเส้นใยฝ้าย 60% โดยน้ำ หนักและเส้นใยโพลิเอสเทอร์ 40% โดยน้ำหนัก 13. Method according to claim 11 or 12, in which textiles are composed of 60% cotton by weight and 40% polyester by weight 1.
4. วิธีตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิก่อนหน้า ซึ่งมีการเติมสารละลายในการแช่ให้ชุ่มของ ไพรแมรี, เซคันแดรี หรือเทอร์เชียรี แอลิแฟทิค แอมีนหนึ่งชนิดหรือมากกว่า ซึ่งแอมีนที่กล่าวแล้วมี การนำมาทำโปรโทเนทและทำให้เป็นกลางก่อนที่จะนำไปเติมลงในการเติมที่กล่าวแล้ว 14. Method according to one of the previous claims One or more of the infusion solutions of primary, secandary, or terry aliphatic amine are added. In which the said Ameen had Protonate and neutralize them before adding them to the above mentioned filling 1
5. สิ่งทอซึ่งมีสมบัติในการหน่วงการติดไฟ ซึ่งทำได้โดยวิธีตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ ก่อนหน้า5. Textiles with flame retardant properties This can be done by one of the methods of the previous claim.