TH20466B

TH20466B - น้ำมันหนักซึ่งมีสมบัติที่ปรับปรุงแล้วและสารเติมแต่งสำหรับสารนี้

Info

Publication number: TH20466B
Application number: TH9701004364A
Authority: TH
Inventors: ริชาร์ดส์ นายเจฟฟรีย์; ฟ๊อยสเทล นายไมเคิล; เฮอร์เทล นายกุนเธอร์; บีสตรอม นายฮาคาน
Original assignee: นางสาวปรับโยชน์ ศรีกิจจาภรณ์; นายจักรพรรดิ์ มงคลสิทธิ์; นายต่อพงศ์ โทณะวณิก; นายบุญมา เตชะวณิช
Filing date: 1997-10-28
Publication date: 2006-09-04

Abstract

DC60 สารเติมแต่งที่อธิบายไว้จำเป็นต้องประกอบด้วย แอลคอกซิเลเทด แฟทที แอมีน หรืออนุพันธ์ แฟทที แอมีน และสารประกอบของเกลือโลหะที่จำเพาะที่เลือก นิยม สบู่โลหะ สารเติมแต่งสำหรับน้ำมันหนักให้ผลของการอิมัลซิฟิเคชัน หรือการกระจายของ แอสฟัลทีน และสารประกอบน้ำหนักโมเลกุลสูงชนิดอื่นดี และนอกจากนั้น ในระหว่างสมบัติ อื่น ๆ เสถียรภาพของการเก็บรักษาเพิ่มขึ้น สภาพสูบได้ปรับปรุงขึ้น เนื่องจากความหนืด ของน้ำมันลดลง และอายุการทำงานของระบบเครื่องกรองยาวขึ้น นอกจากนั้น มีผลใน การเพิ่มการเผาไหม้ของน้ำมันหนัก ปริมาณที่มีผลของสารเติมแต่งในน้ำมันเหล่านี้คือ 2 ถึง 2000 ส่วนในล้านส่วน น้ำมันที่อธิบายไว้ เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในการเป็น เชื้อเพลิงเตาสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมและโรงไฟฟ้า และเป็นเชื้อเพลิงเครื่องยนต์ สำหรับเครื่องยนต์เรือ สารเติมแต่งที่อธิบายไว้จำเป็นต้องประกอบด้วย แอลคอกซิเลเทด แฟทที แอมีน หรืออนุพันธ์ แฟทที แอมีน และสารประกอบของเกลือโลหะที่จำเพาะที่เลือก นิยม สบู่โลหะ สารเติมแต่งสำหรับน้ำมันหนักให้ผลของการอิมัลซิฟิเคชัน หรือการกระจายของ แอสฟัลทีน และสารประกอบน้ำหนักโมเลกุลสูงชนิดอื่นดี และนอกจากนั้น ในระหว่างสมบัติ อื่น ๆ เสถียรภาพของการเก็บรักษาเพิ่มขึ้น สภาพสูบได้ปรับปรุงขึ้น เนื่องจากความหนืด ของน้ำมันลดลง และอายุการทำงานของระบบเครื่องกรองยาวขึ้น นอกจากนั้น มีผลใน การเพิ่มการเผาไหม้ของน้ำมันหนัก ปริมาณที่มีผลของสารเติมแต่งในน้ำมันเหล่านี้คือ 2 ถึง 2000 ส่วนในล้านส่วน น้ำมันที่อธิบายไว้ เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในการเป็น เชื้อเพลิงเตาสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมและโรงไฟฟ้า และเป็นเชื้อเพลิงเครื่องยนต์ สำหรับเครื่องยนต์เรือ

Claims

1. การใช้สารเติมแต่ง ซื่งประกอบรวมอย่างสำคัญด้วย a) 1 ถึง 99% โดยมีน้ำหนัก, ของสารประกอบแอมีนอย่างน้อยที่สุดหนึ่งชนิดของสูตร (I) ข้างล่าง (สูตรเคมี) (I) ซื่ง n คือ 1, 2, 3, หรือ 4, A คือ อนุมูลของสูรร (II) ถึง (V) (สูตรเคมี) (II) (สูตรเคมี) (III) n=2 n=1 (สูตรเคมี) (IV) (สูตรเคมี) (V) n=3 n=4 ซื่ง R คือ C6 ถึง C22 แอลคิล, และ m คือ 2, 3 หรือ 4, x คือ จำนวนจาก 5 ถึง 120, R1 คือ H, CH3 หรือ H และ CH3, ซื่งอนุมูลออกซิแอลคิลีน จัดเรียงแบบสุ่มหรือแบบบล็อก, และ b) 1 ถึง 99% โดยน้ำหนัก, ของสารประกอบของเกลือ โลหะที่เป็นกลางหรือเป็นเบสที่ ละลายในน้ำมันหรือกระจายได้ในน้ำมัน อย่างน้อยที่สุดหนึ่งชนิดที่มีโลหะของหมู่สำคัญหมู่แรกของ ตารางธาตุ, ของหมู่สำคัญหมู่ที่สอง, ของหมู่ย่อยแรก, ของหมู่ย่อยที่สอง, ของหมู่ย่อยที่สี่, ของหมู่ย่อย ที่หก, ของหมู่ย่อยที่แปด, หรือของหมู่แลนธาไนด์ของตารางธาตุ และคาร์บอกซิลิค แอซิด, ซัลโฟนิค แอซิด, แอซิดเอสเทอร์ของฟอสฟอริค แอซิด หรือแอซิดเอสเทอร์ของซัลฟิวริค แอซิดที่มีอนุมูล ไฮโดรคาร์บอน ซื่งในแต่ละกรณีมีคาร์บอน 8 ถึง 40 อะตอม ในการเป็นส่วนประกอบของกรด เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก เทียบกับสารเติมแต่งในการเป็นอิมัลซิไฟเออร์ และสารช่วยการกระจาย และ เป็นสารเพิ่มการเผาไหม้สำหรับน้ำมันหนัก

2. การใช้ตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซื่งส่วนประกอบ a) คือ สารประกอบแอมีนของสูตร (VI) ข้างล่าง (สูตรเคมี) (VI) ซึ่ง n คือ 1, 2, 3, หรือ 4, A คือ อนุมูลของสูตร (II) ถึง (V), a คือ จำนวนจาก 5 ถึง 30, b คือ จำนวนจาก 5 ถึง 50 และ c คือ จำนวนจาก 0 ถึง 40

3. การใช้ตามข้อถือสิทธิข้อ 1 หรือ 2, ซึ่งส่วนประกอบ b)คือ สารประกอบของเกลือโลหะ ที่มีโลหะซื่งเลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วยโลหะแอลคาไล, โลหะแอลคาไลน์ เอิร์ธ, คอปเปอร์, ซิลเวอร์, ซิงค์, แคดเมียม, ทิทาเนียม, เซอร์โคเนียม, โมลิดีนัม, โครเมียม, ทังสเทน, ไอร์ออน, โคบอล์, นิกเกิล, แลนธานัม, ซีเรียม และยิทเทอร์เบียม และมีกรดซื่งเลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วย แอลิแฟทิค คาร์บอกซิลิค แอซิด ที่มีคาร์บอน 8 ถึง 40 อะตอม ไดเมอริค แฟทที แอซิด ที่มีคาร์บอน 36 อะตอม และแอลิแฟทิค หรือ แอโรแมทิค ซัลโฟนิค แอซิดที่มีคาร์บอน 8 ถึง 40 อะตอม

4. การใช้ตามข้อถือสิทธิข้อ 1 หรือ 2, ซึ่งส่วนประกอบ b) คือ สารประกอบของเกลือโลหะ โลหะ คือ โลหะแอลคาไลน์ เอิร์ธ, คอปเปอร์, ซิงค์, เซอร์โคเนียม, โมลิบดีนัม, ไอร์ออน, นิกเกิล, ซีเรียม หรือยิทเทอร์เบียม และส่วนประกอบกรด คือ แฟทที แอซิด ที่มีคาร์บอน 8 ถึง 40 อะตอม ไดเมอริค แฟททที แอซิด ที่มีคาร์บอน 36 อะตอม หรือแอลิแฟทิค หรือแอโรแมทิค ซัลโฟนิค แอซิด ที่มีคาร์บอน 8 ถึง 40 อะตอม

5. การใช้ตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 4 ข้อใดข้อหนึ่ง, ซึ่งสารนั้นมีส่วนประกอบ a) 20 ถึง 80% โดยน้ำหนัก และส่วนประกอบ b) 20 ถึง 80% โดยน้ำหนัก

6. การใช้ตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 4 ข้อใดข้อหนึ่ง, ซึ่งสารนั้นมีส่วนประกอบ a) 40 ถึง 60% โดยน้ำหนัก และส่วนประกอบ b) 40 ถึง 60% โดยน้ำหนัก

7. การใช้ตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 6 ข้อใดข้อหนึ่ง, ซึ่งสารนั้นมี pH 7.5 ถึง 12

8. การใช้สารเติมแต่งตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 7 ข้อใดข้อหนึ่ง, ในโรงงานอุตสาหกรรม, โรงไฟฟ้า หรือเครื่องยนต์เรือ