Claims (10)
1.โครงสร้างตลับกุญแจระบบมอร์ทิสล็อคที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ มีลักษณะที่ ประกอบด้วย ตลับตัวเรือน (10) มีลักษณะเป็น ฝาครอบที่หนึ่ง (11) และ ฝาครอบที่สอง (12) ที่ ประกอบเข้าด้วยกันให้เกิดห้องบรรจุอุปกรณ์การทำงานของกลไกการล็อคและการปลดล็อค ภายใน ตำแหน่งหนึ่งของตลับตัวเรือน (10) จะมีสลัก (LATCH) ตัวที่หนึ่ง (21) ที่โผล่ออกมา จากตลับตัวเรือน (10) ทำหน้าที่ล็อคเข้ากับส่วนรับสลัก (LATCH) ตัวที่หนึ่ง ที่ติดตั้งที่วงกบ ป้องกันการงัดแงะ ตำแหน่งหนึ่งของแกนขับตัวที่สอง (42) จะมีแกนยึด (40) ที่เชื่อมต่อเข้ากับสลัก (LATCH) ตัวที่หนึ่ง (21) ทำหน้าที่ดึงสลัก (LATCH) ตัวที่หนึ่ง (21) เข้ามาภายในตลับตัว เรือน (10) เพื่อปลดล็อค และ ทำหน้าที่ดันสลัก (LATCH) ตัวที่หนึ่ง (21) ออกจากตลับตัว เรือน (10) เพื่อล็อค ตำแหน่งหนึ่งของตลับตัวเรือน (10) จะมีสลัก (LATCH) ตัวที่สอง (22) ทำหน้าที่ล็อค เข้ากับส่วนรับสลัก (LATCH) ตัวที่สอง ที่ติดตั้งที่วงกบป้องกันการงัดแงะ โดยสลัก (LATCH) ตัวที่สอง (22) จะเลื่อนเข้าและเลื่อนออกจากตลับตัวเรือน (10) ตามการเคลื่อนที่ขึ้น และ การเคลื่อนที่ลงของแผ่นฐานสลักที่หนึ่ง (31) เพื่อทำหน้าที่เคลื่อนที่ สลัก (LATCH) ตัวที่สอง (22) เข้ามาภายในตลับตัวเรือน (10) เพื่อล็อคหรือปลดล็อค โดยมีลักษณะพิเศษคือ แผ่นฐานสลักที่หนึ่ง (31) จะติดตั้งไว้ภายในตลับตัวเรือน (10) ตำแหน่งหนึ่งของแผ่น ฐานสลักที่หนึ่ง (31) จะติดตั้งแกนขับตัวที่หนึ่ง (41) ทำหน้าที่ขับให้แผ่นฐานสลักที่หนึ่ง (31) เคลื่อนที่ขึ้นลงภายในตลับตัวเรือน (10) โดยตำแหน่งเชื่อมต่อแผ่นฐานสลักที่หนึ่ง (31) กับแกนขับตัวที่หนึ่ง (41) จะมีหมุด ยึดตัวที่หนึ่ง (51) ที่ติดตั้งภายในรางที่หนึ่ง (61) ที่หมุดยึดตัวที่หนึ่ง (51) จะมีกลไกการ เคลื่อนที่ไปมาภายในรางที่หนึ่ง (61) ได้เพื่อรองรับการที่แผ่นฐานสลักที่หนึ่ง (31) เคลื่อนที่ ขึ้นลงภายในตลับตัวเรือน (10) ตำแหน่งหนึ่งของแกนขับตัวที่หนึ่ง (41) จะติดตั้งชุดสปริงที่หนึ่ง (71) ทำหน้าที่เป็น ตัวดันให้แกนขับตัวที่หนึ่ง (41) โดยชุดสปริงที่หนึ่ง (71) จะติดตั้งไว้ที่หมุดยึดตัวที่สอง (52) ตำแหน่งหนึ่งของแผ่นฐานยึดที่หนึ่ง (31) จะติดตั้งไว้กับ แผ่นฐานยึดที่สอง (32) เพื่อให้แผ่นฐานยึดที่หนึ่ง (31) อยู่ในตำแหน่งส่วนกลางของตลับตัวเรือน (10) ได้เพื่อให้มี พื้นที่ว่างด้านบนและพื้นที่ว่างด้านล่างสำหรับรองรับการเคลื่อนที่ แผ่นฐานยึดที่หนึ่ง (31) จะมีรางที่สอง (62) แผ่นฐานยึดที่สอง (32) จะมีหมุดยึดตัวที่ สาม (53) ซึ่งถูกยึดอยู่กับตลับตัวเรือน (10) โดยรางที่สอง (62) จะประกอบอยู่กับหมุดยึดตัว ที่สาม (53) เพื่อรองรับกลไกการที่แผ่นฐานยึดที่หนึ่ง (31) เคลื่อนที่ขึ้นลงได้ตามแนวยาวของ รางที่สอง (62) เพื่อขับให้สลัก (LATCH) ตัวที่สอง (22) เลื่อนเข้าและเลื่อนออกจากตลับตัว เรือน (10) แผ่นฐานยึดที่สอง (32) จะเชื่อมต่อกับชุดสปริงที่สอง (72) โดยแผ่นฐานยึดที่สอง (32) จะมีกลไกที่เคลื่อนที่ไปทางซ้ายและเคลื่อนที่ไปทางขวาได้ตามแรงกดของชุดสปริงที่ สอง (72) โดยกลไกของแผ่นฐานยึดที่หนึ่ง (31) และ แผ่นฐานยึดที่สอง (32) จะมีลักษณะดังนี้ ช่องรับไส้กุญแจ (50) จะทำหน้าที่รองรับการที่ไส้กุญแจ (70) ขับดันให้แผ่นฐานยึดที่ สอง (32) เคลื่อนที่ไปทางขวา และ ขับดันให้แผ่นฐานยึดที่หนึ่ง (31) เคลื่อนที่ลงซึ่งเป็น กลไกการปลดล็อคสลัก (LATCH) ตัวที่สอง (22) ให้เคลื่อนที่ลงด้วยส่วนบิดไส้กุญแจด้านใน ห้อง (60) แกนขับตัวที่หนึ่ง (41) จะเชื่อมต่ออยู่กับแกนขับตัวที่สอง (42) ตำแหน่งเชื่อมต่อจะ เป็นจุดหมุนที่หนึ่ง (81) เพื่อให้แกนขับตัวที่สอง (42) ทำหน้าที่ดึงแกนขับตัวที่หนึ่ง (41) ให้ สูงขึ้นเพื่อขับให้แผ่นฐานยึดที่หนึ่ง (31) เคลื่อนที่ลง และ ไปขับแผ่นฐานยึดที่สอง (32) ให้ เคลื่อนที่ไปทางขวาซึ่งเป็นกลไกการปลดล็อคสลัก (LATCH) ตัวที่สอง (22) ด้วยชุดมือจับ คันโยกด้านนอกห้อง (20) แกนขับตัวที่สอง (42) จะเชื่อมต่อเข้ากับตลับตัวเรือน (10) และส่วนศูนย์กลางจะเป็น จุดหมุนที่สอง (82) ที่จุดหมุนที่สอง (82) จะเชื่อมต่ออยู่กับชุดมือจับคันโยกด้านนอกห้อง (20) โดยชุดมือจับคันโยกด้านนอกห้อง (20) จะทำหน้าที่ขับให้แกนขับตัวที่สอง (42) หมุน ตัวเป็นส่วนวงกลมเพื่อดึงแกนยึด (40) ให้ต่ำลง ซึ่งเป็นกลไกการปลดล็อคสลัก (LATCH) ตัว ที่หนึ่ง (21) ด้วยชุดมือจับคันโยกด้านนอกห้อง (20)1. Improved mortise lock system structure consisting of a housing (10) with the first cover (11) and the second cover (12) assembled. This creates a chamber containing the operating devices of the locking and unlocking mechanisms. Within one position of the housing casing (10), a first LATCH (21) emerges from the housing casing (10). Locks onto the first latch (LATCH) installed on the jamb. tamper proof One position of the second drive shaft (42) has a retaining shaft (40) connected to the first LATCH (21) that pulls the first LATCH (21) inside the cassette. The housing (10) to unlock and act to push the first LATCH (21) out of the housing casing (10) to lock one position of the housing casing (10) there is a second LATCH. (22) acts as a lock The second LATCH (22) slides in and out of the casing housing (10) following its upward movement and Downward movement of the first latch base plate (31) to act as a movement. The second LATCH (22) enters inside the casing housing (10) to lock or unlock. The special feature is The first engraved base plate (31) is mounted inside the casing housing (10) one position of the plate. The first bolt base (31) is equipped with the first drive shaft (41) that drives the first bolt plate (31) to move up and down inside the casing housing (10) by connecting the first bolt plate ( 31) To the first drive shaft (41), there is a first retaining pin (51) mounted inside the first rail (61). one (61) to support the movement of the first bolt base plate (31) inside the casing (10). is Driven the first drive shaft (41), the first spring assembly (71) is mounted on the second mounting pin (52). Second mounting plate (32) to allow the first mounting plate (31) to be centralized in the housing casing (10). Free space above and free space below for movement support. The first mounting plate (31) has a second rail (62), the second mounting plate (32) has a third mounting pin (53), which is held in the housing casing (10) by the second rail ( ). 62) will be attached to the third mounting pin (53) to support the mechanism for the first mounting plate (31) to move up and down the length of the second rail (62) to drive the second LATCH. The two (22) slide in and out of the casing housing (10). The second mounting plate (32) is connected to the second spring assembly (72). The second mounting plate (32) has a mechanism that moves it. to the left and moves to the right under the pressure of the second spring (72). The mechanism of the first (31) and second (32) bracket is as follows: The cylinder receptacle (50) acts as a support for the cylinder (70) to propel the second mounting plate (32) to the right and the first mounting plate (31) downward. The second latch release mechanism (22) is moved down with the twist of the cylinder inside the chamber (60). The first drive rod (41) is connected to the second drive rod (42). Link position. next time It is the first pivot point (81) in order for the second drive shaft (42) to pull the first drive shaft (41) upward to drive the first mounting plate (31) down and drive the base plate. The second clamp (32) moves to the right the second LATCH (22) release mechanism with the handle assembly. Outer chamber lever (20), the second drive shaft (42) is connected to the casing housing (10) and the center is The second pivot point (82) at the second pivot point (82) is connected to the outer chamber lever handle (20). The outer chamber lever handle (20) drives the drive shaft. The second (42) rotates in a circular motion to pull down the latch (40), the first (21) latch release mechanism, with the outside chamber lever assembly (20).
2.โครงสรางตลับกุญแจระบบมอร์ทิสล็อคที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ตามข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งโดยสลัก (LATCH) ตัวที่หนึ่ง (21) จะเลื่อนเข้าและเลื่อนออกจากตลับตัวเรือน (10) เพื่อ ล็อคหรือปลดล็อคด้วยกลไก ดังนี้ ก.แกนขับตัวที่หนึ่ง (41) ที่ถูกดันไปทางด้านขวาเพื่อไปขับแกนขับตัวที่สอง (42) ให้ หมุนตัว ข.แกนขับตัวที่สอง (42) ที่หมุนตัวด้วยแรงขับขับของชุดมือจับคันโยกด้านนอกห้อง (20)2. Improved mortise lock structure According to Claim 1, whereby a first LATCH (21) slides in and out of the casing housing (10) to lock or unlock it mechanically as follows: a. First drive shaft (41) at is pushed to the right to drive the second drive shaft (42) to turn the body. B. The second drive shaft (42) is rotated by the thrust of the outer chamber lever handle assembly (20).
3.โครงสร้างตลับกุญแจระบบมอร์ทิสล็อคที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ตามข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งแผ่นฐานยึดที่หนึ่ง (31) และ แผ่นฐานยึดที่สอง (32) จะทับวางทับซ้อนกันเพื่อการ เชื่อมต่อโดยหมุดยึดตัวที่สาม (53) ที่ถูกยึดกับตลับตัวเรือน (10) ทำให้แผ่นฐานยึดที่หนึ่ง (31) และแผ่นฐานยึดที่สอง (32) วางทับกันได้3. Improved mortise lock structure According to Claim 1, where the first (31) and the second (32) mounting plates are overlapped for Connected by a third mounting pin (53) that is attached to the casing housing (10), allowing the first mounting plate (31) and the second mounting plate (32) to overlap.
4.โครงสร้างตลับกุญแจระบบมอร์ทิสล็อคที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ตามข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งส่วนหนึ่งของแผ่นฐานยึดที่สอง (32) จะก่อรูปตัวเรือน (80) ที่มีตุ่มนูนทำหน้าที่ดันเข้า กับส่วนหนึ่งของแผ่นฐานยึดที่หนึ่ง (31) เพื่อให้เกิดความแม่นยำในส่งสลัก (LATCH) ตัวที่ สอง (22)4. Improved mortise lock structure According to Claim 1, where part of the second mounting plate (32) forms a housing (80) with a push-in bulge. with part of the first mounting plate (31) to enable the accuracy of the second LATCH (22).
5. โครงสร้างตลับกุญแจระบบ มอร์ทิสล็อคที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ตามข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งแผ่นฐานยึดที่หนึ่ง (31) และ แผ่นฐานยึดที่สอง (32) จะทับวางทับซ้อนกันเพื่อการ เชื่อมต่อโดยส่วนหนึ่งของแผ่นฐานยึดที่หนึ่ง (31) จะก่อรูปให้เป็นส่วนที่เว้าเข้าไปมีลักษณะ เป็นพื้นที่ช่องรับไส้กุญแจ (50)5. System lock cylinder structure Improved Mortis Lock According to Claim 1, where the first (31) and the second (32) mounting plates are overlapped for connected by part of the first mounting plate (31), forming a concave It is the area for the lock cylinder (50).
6.โครงสร้างตลับกุญแจระบบมอร์ทิสล็อคที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ตามข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งตำแหน่งหนึ่งถัดจากช่องรับไส้กุญแจ (50) จะมีไส้กุญแจ (70) ที่เชื่อมต่ออยู่กับส่วนบิด ไส้กุญแจด้านในห้อง (60)6. Improved mortise lock structure According to Claim 1, at a position next to the cylinder receiver (50) there is a cylinder (70) connected to the twist. Cylinders inside the room (60)
7.โครงสร้างตลับกุญแจระบบมอร์ทิสล็อคที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ตามข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งโดยด้านหนึ่งของแกนขับตัวที่สอง (42) จะมีชุดสปริงที่สาม (73) ทำหน้าที่รับแรง เคลื่อนที่ของแกนขับตัวที่สอง (42) ตำแหน่งเชื่อมต่อของแกนขับตัวที่สอง (42) กับ ชุดสปริง ที่สาม (73) จะมีตัวรองรับแรงและลดเสียง (30) ของกลไกการบิดชุดมือจับคันโยกด้านนอก ห้อง (20)7. Improved mortise lock structure According to Claim 1 where, on one side of the second drive shaft (42), a third spring assembly (73) is loaded on one side. The second actuator (42) connecting position of the second actuator (42) to the third spring assembly (73) provides a support for the force and sound dampening (30) of the lever handle torsion mechanism. Outside room (20)
8.โครงสร้างตลับกุญแจระบบมอร์ทิสล็อคที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ตามข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งด้านหนึ่งของแกนขับตัวที่สอง (42) จะมีชุดสปริงที่สี่ (74) ทำหน้าที่รับนํ้าหนักของชุดมือ จับคันโยกด้านนอกห้อง (20)8. Improved mortise lock structure According to Claim 1 where on one side of the second drive shaft (42) there is a fourth spring assembly (74) supporting the weight of the hand assembly. Hold the lever outside the room (20).
9.โครงสร้างตลับกุญแจระบบมอร์ทิสล็อคที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ตามข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่ง โดยแกนยึด (40) จะเชื่อมต่อเข้ากับตัวรองรับแรงและลดเสียง (30) ที่ถัดจากตัวรองรับ แรงและลดเสียง (30) จะติดตั้งชุดสปริงที่สาม (73) ที่อยู่ในแนวดิ่งสำหรับรองรับการทำงาน ของกลไกแกนยึด (40) ที่เคลื่อนที่ขึ้นลง9. Improved mortise lock structure According to Claim 1, whereby the mounting rod (40) is connected to the tension and damping support (30) next to it. The force and sound dampening (30) are fitted with a third spring assembly (73) vertically positioned for support. of the spindle mechanism (40) moving up and down
10.โครงสร้างตลับกุญแจระบบมอร์ทิสล็อคที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ตามข้อถือสิทธิ 1-9 ที่ซึ่ง มีขั้นตอนการทำงานดังนี้ ก.ไส้กุญแจ (70) จะเคลื่อนที่ตามเข็มนาฬิกาเข้ามาภายในช่องรับไส้กุญแจ (50) เพื่อ ดันแผ่นฐานยึดที่สอง (32) ในตำแหน่งช่องรับไส้กุญแจ (50) ให้เคลื่อนที่ไปทางขวาโดยมีชุด สปริงที่สอง (72) เป็นตัวรับแรงดัน ในขณะเดียวกันไส้กุญแจ (70) จะเคลื่อนที่เข้ามากดแผ่น ฐานยึดที่หนึ่ง (31) ให้เคลื่อนที่ลงด้านล่างซึ่งเป็นกลไกการขับสลัก (LATCH) ตัวที่สอง (22) เข้ามาภายในตลับตัวเรือน (10) โดยมีชุดสปริงที่หนึ่ง (71) ช่วยให้การเคลื่อนที่ของแผ่นฐาน ยึดที่หนึ่ง (31) ให้แม่นยำและรวดเร็วขึ้น เป็นกลไกการปลดล็อค ข.ไส้กุญแจ (70) จะเคลื่อนที่ตามทวนเข็มนาฬิกาออกจากช่องรับไส้กุญแจ (50) เพื่อ ถอยตัวออกจากแผ่นฐานยึดที่สอง (32) แผ่นฐานยึดที่สอง (32) จะเคลื่อนที่ไปทางซ้ายโดยมี ชุดสปริงที่สอง (72) เป็นตัวผลักดัน ในขณะเดียวกันไส้กุญแจ (70) จะเคลื่อนที่ไปยกแผ่น ฐานยึดที่หนึ่ง (31) ให้เคลื่อนที่ขึ้นด้านบนซึ่งเป็นกลไกการขับสลัก (LATCH) ตัวที่สอง (22) ออกจากตลับตัวเรือน (10) โดยมีชุดสปริงที่หนึ่ง (71) ช่วยให้การเคลื่อนที่ของแผ่นฐานยึดที่ หนึ่ง (31) ให้แม่นยำและรวดเร็วขึ้น เป็นกลไกการล็อค ค.ไส้กุญแจ (70) จะเคลื่อนที่ตามเข็มนาฬิกาเข้ามาภายในช่องรับไส้กุญแจ (50) เพื่อ ดันแผ่นฐานยึดที่สอง (32) ในตำแหน่งช่องรับไส้กุญแจ (50) ให้เคลื่อนที่ไปทางขวาโดยมีชุด สปริงที่สอง (72) เป็นตัวรับแรงดัน ในขณะเดียวกันไส้กุญแจ (70) จะเคลื่อนที่เข้ามากดแผ่น ฐานยึดที่หนึ่ง (31) ให้เคลื่อนที่ลงด้านล่างซึ่งเป็นกลไกการขับสลัก (LATCH) ตัวที่สอง (22) เข้ามาภายในตลับตัวเรือน (10) โดยมีชุดสปริงที่หนึ่ง (71) ช่วยให้การเคลื่อนที่ของแผ่นฐาน ยึดที่หนึ่ง (31) ให้แม่นยำและรวดเร็วขึ้น เป็นกลไกการปลดล็อค ในตำแหน่งนี้แกนขับตัวที่หนึ่ง (41) จะเคลื่อนที่ต่ำลง ไส้กุญแจ (70) จะเคลื่อนที่ตาม เข็มนาฬิกาวนครบหนึ่งรอบเพื่อไปดันเข้ากับแกนขับตัวที่หนึ่ง (41) เพื่อขับให้แกนขับตัวที่ หนึ่ง (41) โยกไปทางขวา แกนขับตัวที่หนึ่ง (41) จะไปดันเข้ากับ แกนขับตัวที่สอง (42) เพื่อให้ แกนขับตัวที่สอง (42) หมุนตัวตามเข็มนาฬิกา แกนขับตัวที่สอง (42) จะขับให้แกน ยึด (40) ที่เชื่อมต่ออยู่กับ สลัก (LATCH) ตัวที่หนึ่ง (21) เคลื่อนที่เข้ามาภายในตลับตัวเรือน (10) เป็นกลไกการปลดล็อค10. Improved mortise lock structure According to Claims 1-9, where the procedure is as follows: a. The cylinder (70) moves clockwise into the cylinder receptacle (50) to push the second mounting plate (32) into the recessed position. Take the cylinder (50) and move it to the right with the second spring assembly (72) holding pressure. At the same time, the cylinder (70) moves in to press the plate. The first mounting bracket (31) moves downward, a mechanism that drives the second latch (22) into the casing housing (10) with the first spring assembly (71) allowing the movement of the The base plate holds the first (31) more precisely and faster. As an unlocking mechanism, b. The cylinder (70) moves anti-clockwise from the cylinder receptacle (50) to retreat from the second mounting plate (32). The second mounting plate (32) moves. to the left with The second set of springs (72) is the pusher. At the same time, the cylinder (70) moves to lift the plate. The first bracket (31) moves upward, a second latch (22) drive mechanism out of the casing housing (10), with the first spring assembly (71) facilitating the movement of the plate. Mounting base one (31) for more accuracy and speed. As a locking mechanism, the cylinder (70) moves clockwise into the cylinder receptacle (50) to push the second mounting plate (32) in the cylinder receptacle (50) position to the right. with a second set of springs (72) as a pressure receiver At the same time, the cylinder (70) moves in to press the plate. The first mounting bracket (31) moves downward, a mechanism that drives the second latch (22) into the casing housing (10) with the first spring assembly (71) allowing the movement of the The base plate holds the first (31) more precisely and faster. It's an unlocking mechanism. In this position, the first drive shaft (41) moves down, the cylinder (70) follows. The clock hand completes one revolution to push against the first drive shaft (41) in order to drive the first drive shaft (41) to the right. The first drive shaft (41) pushes against Second drive shaft (42) so that the second drive shaft (42) turns clockwise. The second drive rod (42) drives the retaining rod (40) connected to the first latch (21) inside the casing housing (10) as a release mechanism.