TH130B - การสร้างและการขึ้นรูปยาง - Google Patents

การสร้างและการขึ้นรูปยาง

Info

Publication number
TH130B
TH130B TH8001000019A TH8001000019A TH130B TH 130 B TH130 B TH 130B TH 8001000019 A TH8001000019 A TH 8001000019A TH 8001000019 A TH8001000019 A TH 8001000019A TH 130 B TH130 B TH 130B
Authority
TH
Thailand
Prior art keywords
rubber
ring
wall
attached
axis
Prior art date
Application number
TH8001000019A
Other languages
English (en)
Other versions
TH318EX (th
TH318A (th
Inventor
คอร์เนลิส คอร์ทแมน แจน
Original Assignee
นายโรจน์วิทย์ เปเรร่า
Filing date
Publication date
Application filed by นายโรจน์วิทย์ เปเรร่า filed Critical นายโรจน์วิทย์ เปเรร่า
Publication of TH318EX publication Critical patent/TH318EX/th
Publication of TH318A publication Critical patent/TH318A/th
Publication of TH130B publication Critical patent/TH130B/th

Links

Abstract

การประดิษฐ์นี้เกี่ยวข้องกับการทำยางรถยนต์โดยดเฉพาะอย่างยิ่งในการขึ้นรูปยาง โดยการสร้างยางบนผิวทรงกระบอกซึ่ง ประกอบด้วยส่วนขึ้นรูปและส่วนพับทบ และเกี่ยวกับการขึ้นรูป ยางส่วนนอกให้เป็นรูปลักษณะแบบห่วง การพับทบส่วนปลายผาใบ ของแถบโครงยางทางด้านนอกโดยรอบขอบยาง หลังจากขึ้นรูปยาง เป็นรูปห่วงแล้ว และการกดอัดส่วนขอบยางของยางที่เป็นรูป ห่วงก่อนจะนำยางออกจากเครื่องสร้างยาง

Claims (2)

1. ถังสร้างยางประกอบด้วยส่วนขึ้นรูปซึ่งมีชุดวงแหวนปลายอีลาสโดเมอร์ชุดแรกคู่หนึ่งซึ่งวางห่างในแนวแกนเดียวกัน ผนังส่วนนอกและผนังส่วนในซึ่งแต่ละส่วนจะมีตอนปลายของแกนเป็นวงแหวนอีลาสโคเมอร์ ซึ่งวางติดกับปลายวงแหวนอีลาสโคเมอร์ของส่วนอื่น ส่วนของผนังจะทำให้เกิดเป็นถุงลมรูปวงแหวนชุดแรกที่พองตัวได้ ซึ่งเมื่อเอาลมออกจะมีลักษณะเป็นพื้นผิวทรงกระบอกแบบส่วนพับทบสองส่วน ซึ่งแต่ละส่วนมีชุดวงแหวนปลายอีลาสดตเมอร์ชุดที่สอง ถุงลมด้านนอกรูปวงแหวนมีวงแหวนปลายอีลาสโตเมอร์คู่หนึ่ง และถุงลมด้านในรูปวงแหวนอันแรกมีวงแหวนปลายอีลาสโดเมอร์ติคอยู่กับวงแหวนปลายอีลาสโตเมอร์ของถุงลมด้านนอกเพื่อให้เป็นชุดวงแหวน ส่วนยึดซึ่งประกอบด้วยเซกเมนท์ที่เคลื่อนที่ได้ตามแนวรัศมีหลายอันวางตามแนว เส้นรอบวงเป็นสองแถวห่างกันโดยมีแกนร่วมกัน ในแต่ละแถวมีที่รองรับตามแนวเส้นรอบวงที่รองรับแต่ละอันจะทำให้ชุดวงแวหนปลายอีลาสโตเมอร์ชุดแรกของส่วนขึ้นรูปยางและชุดวงแหวนปลายอีลาสโตเมอร์ชุดที่สองของส่วนพับทบที่สัมพันธ์กันวางเสียงตัวติดกัน ส่วนสร้างขอบยางประกอบด้วยด้านนอกรูปวงแหวนที่สองหนึ่งคู่ซึ่งวางอยู่ระหว่างผนังด้านในและด้านนอก ถุงลมดานนอกที่สองแต่ละอันมีวงแหวนปลายอีลาสโตเมอร์วางอยู่ระหว่างวงแหวนปลายอีลาสโตเมอร์คู๋หนึ่งของผนังที่สัมพันธ์กัน และจะขยายออกไปตามแนวแกนไปยังอันอื่นๆ เมื่อปล่อยลมในระยะน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของระยะระหว่างชุดวงแหวนปลายอีลาสโตเมอร์ ถุงลมด้านนอกที่สองแต่ละอันดังกล่าวจะยื่นเข้าไปตามแนวแกนจากชุดวงแหวนปลายอีลาสโตเมอร์ที่สัมพันธ์กันจนได้ระยะอย่างน้อยประมาณเท่ากับส่วนที่ขยายออกตามแนวแกนของถุงลมด้านนอกอันแรกของถุงลมด้านนอกคู่แรก 2. เครื่องมือสร้างยางประกอบด้วยผิวสร้างยางทรงกระบอกซึ่งต่อกันตามแนวแกน และถูกจำกัดโดยถุงลมรูปวงแหวนที่พองตัวได้ ซึ่งมีวงแหวนปลายอีลาสโตเมอร์และถุงลมพับทบที่พองตัวได้คู่หนึ่ง ซึ่งมีวงแหวนปลายอีลาสโตเมอร์อยู่โยดมีแกนร่วมกันกับและยึดกับวงแหวนของถุงลมดังกล่าว มีแถวของเซกเมอร์สองแถววางเรียงตามเส้นรองวงในระนาบซึ่งห่างกันตามแนวแกนแต่ละชุดของเซกเมนท์จะทำหน้าที่เป็นที่รองรับ ซึ่งจะยึดวงแหวนของถุงลม และวงแหวนของถุงลมพับทบในส่วนค้ำยันที่ระนาบ ถึงลมดังกล่าวมีผนังชั้นใน และผนังชั้นนอกตรึงรวมกันแน่นกับวงแหวนของถุงลมดังกล่าว 3. เครื่องมือสร้างยางประกอบด้วย ส่วนขึ้นรูปโครงยางซึ่งมีชุดวงแหวนปลายชุดแรกคู่หนึ่ง และช่องรูปวงแหวนที่พองตัวได้ 3 ช่อง ช่องแรกถูกกำหนดโดยผนังด้านนอกและผนังด้านในซึ่งแต่ละผนังต่อักบวงแหวนตอนปลายในชุดวงแหวนดังกล่าว ผนังทั้งสองเป็นสารอีลาสโตเมอร์ซึ่งเสริม แรงด้วยเส้นใยไปตามแนวแกนระหว่างภายในของแต่ละวงแหวนตอนปลาย ช่องที่สองและสามอยู่ในแวแกนเดียวกันระหว่างผนังด้านใน และด้านนอกดังกล่าว และแต่ละช่องอยู่ระหว่างผนังวงแหวน เสริมแรงด้วยเส้นใย ซึ่งมีวงแหวนอีลาสโตเมอร์วางให้มีจุดศูนย์กลางร่วมกันและติดกันตามแนวเส้นรอบวงกับวงแหวนตอนปลายของผนังด้านในและผนังด้านนอกในชุดดังกล่าว ช่องที่สองและสามแต่ละช่องจะมีความยาวตามแนวแกนเมื่อไม่พองตัวไม่มากกว่าหนึ่งส่วนสามของความยาวตามแนวแกนของช่องแกรกเมื่อไม่พองตัว ส่วนพับทบคู่หนึ่งประกอบด้วยชุดวงแหวนตอนปลายชุดที่สองวางในแกนร่วมค่ำยันกัชุดใดชุดหนึ่งของชุดวงแหวนตอนปลายคู่แรกที่ตรงกัน ส่วนพับทบแต่ละข้างประกอบด้วยช่องด้านใน และด้านนอกรูปวงแหวนที่พองตัวได้ช่องด้านนอกดังกล่าวมีผนังอีลาสโตเมอร์ลวดเสริมแรง ซึ่งมีวงแหวนตอนปลายสองอัน ช่องด้านในถูกกำหนดโดยผนังรูปวงแหวนที่มีวงแหวนกลมอีลาสโตเมอร์แข็งอยู๋ วงแหวนดักงล่าววางอยู่โดยมีจุดศูนญ์กลางร่วมติดกับและในระหว่างตอนปลาย 2 อัน ของผนังช่องด้านนอกเพื่อให้เป็นวงแหวนอันหนึ่งของชุดวงแหวนคู่ที่สอง ช่องด้านในดังกล่าวอยู่ภายในของช่องด้านนอกลมีความยาวแกนเมื่อไม่พองตัวอย่าง น้อยประมษณเท่ากับความยาวแกนเมื่อไม่พองตัวของช่องที่สองและสามของส่วนขึ้นรูปดังกล่าว 4. เครื่องมือสร้างยางประกอบด้วยส่วนขึ้นรูปโครงยาวซึ่งมีส่วนสำหรับปรัลปรุงรูปร่างเมื่อพองตัวแล้วของส่วนขึ้นรูปดังกล่าวให้เป็นรูปห่วงซึ่งมีอัตราส่วนตามที่กำหนดน้อยกว่า 1.00 ส่วนขึ้นรูปมีผนังส่วนนอกประกอบด้วยชั้นภายนอกและภายในที่มีแกนร่วมกันและต่อกันอยู่ แต่ละช้นดังกล่าวมีลวดเสริมแรง ซึ่งต่อออกจากปลายแกนไปยังปลายแกนของอีกชั้นหนึ่ง ส่วนที่ทำหน้าที่ปรับปรุงรูปร่างดังกล่าวประกอบด้วยแผ่นเหล็กยึดหยุ่นจำนวนหนึ่งวางห่างระยะเท่า ๆ กันตามแนวเส้นรอบวงและยื่นไปตามความยาวระหว่างชั้นนอกและชั้นในดังกล่าว แผ่นเหล็กแต่ละแผ่นวางในช่องซึ่งอยู่ระหว่างชั้นทั้งสองดังกล่าว แผ่นเหล็กแต่ละแผ่นมีพื้นที่หน้าตัดเป็นรูปสีเหลี่ยมผืนผ้า และมีความหนาลดลงเรื่อย ๆ ไล่จากตรงกลางไปทางปลาย และมี ส่วสนต่ออกจากปลายจองมัน ส่วนที่ต่อออกไปดังกล่าวจะเกยกับปลายของแผ่นเหล็กถัดไป และจะมีรูอย่างน้อยคู่หนึ่งเปิดอยู่ตามแนวรัศมีผ่านแต่ละแผ่นเหล็ก ชั้นนอกและชั้นในของผนังดังกล่าวจะต่อถึงกันทางรูดังกล่าวอย่างน้อยคู่หนึ่ง 5. ถังสร้างยางประกอบด้วยถุงลมรูปวงแหวนอันที่หนึ่งซึ่งยาวตลอดระหว่างระนาบของตำแหน่งของยางทั้งสอง และถุงลมรูปวงแหวนที่สองคู่หนึ่งชั้นวางในแกนร่วมกันกับถุงลมอันที่หนึ่ง และยื่นออกในทางตรงข้ามกันระนาบดังกล่าว ถุงลมทั้งหมดดังกล่าวร่วมกันทำให้เกิดรูปทรงกระบอกของถังสร้างยาง ส่วนรองรับคู่หนึ่งจะติดอยู่เพื่อให้เกิดการเคลื่อนที่ในทางตรงข้ามที่เท่ากันในแกนเดียวกันกับถังสร้างยาง และมีเชกเมนต์จำนวนหนึ่งติดอยู่บนส่วนรองรับเพื่อให้การเคลื่อนที่เท่ากันตามแนวรัศมีของแกนถัง เชกเมนต์แต่ละอัน มีผิวหน้าอยู่ใต้ถุงลมอันที่หนึ่ง และถุงลมอันที่สองถัดไป และยื่นออกไปตามแนวแกนในแต่ละด้านจากระนาบของที่ตั้งขอบยางไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของขนาดของแกนของถุงลมอันที่หนึ่งดังกล่าว ถุงลมอันที่หนึ่งประกอบด้วยผนังด้านใน และผนังด้านนอกซึ่งกำหนดช่องวงกลมที่พองตัวได้อันแรกส่วนผนังด้านในและด้านนอกจะต่อกันตามแนวเส้นรอบวงถังขากระนาบของที่ตั้งขอบยางแต่ละข้าง ถุงลมรูปวงแหวนคู่แรกที่พองตัวได้วางอยู่ในช่องแรกดังกล่าว และต่อกับผนังด้านในและด้านนอกดังกล่าวติดกับระนาบของที่ตั้งขอบยางดังกล่าว และคู่ที่สองของถุงลมรูปวงแหวนที่พองตัวไว้วางอยู่ในถุงลมอันที่สองดังกล่าว และต่อกันทางจุดศูนย์กลางกับถุงลมอันที่สองดังกล่าวซึ่งอยู่ถัดระนาบของที่ตั้งขอบยางถุงลมรูปวงแหวนอันที่หนึ่งแต่ละใบวางอยู่ร่วมกันกับถุงลมรูปวงแหวนอันที่สอง เพื่อให้มีแรงอัดตามแนวเส้นรอบวงแก่บริเวณขอบยาง 6. เครื่องมือดังกล่าวในข้อถือสิทธิ 5 ที่ผนังด้านนอกของถุงลมที่หนึ่งประกอบด้วยลวดเสริมแรงซึ่งจากด้านหนึ่งของระนาบที่ตั้งอบยางไปยังอีกด้านหนึ่งส่วนที่เป็นแผ่นเหล็กสำหรับปรับปรุงรูปร่างผนังด้านนอกของถุงลม เมื่อถุงลมถูกอัดลมเข้าไปให้มีรูปร่างดังผนังด้านนอกซึ่งไม่มีแผ่นเหล็กติดอยู่ แผ่นเหล็กนี้ประกอบขึ้นจากแผ่นเหล็กซึ่งมีรูปหน้าตัดสี่เหลี่ยมผืนผ้าหลายชิ้นติดอยู่กับลวดเสริมแรง วางยาวไปตามแนวขนานกับแนวแกนของถุงลมที่หนึ่ง โดยมีช่องว่างเท่าๆ กัน แผ่นเหล็กแต่ละแผนมีความหนาวัดตามแนวรัศมีของถุงลมลดหลั่นลงมาจากค่าสูงสุดที่จุดกางถึงค่าน้อยสุดที่จุดปลาย ด้านปลายของแผ่นเหล็กแต่ละแผนจะมีส่วนยื่นจากปลายในแนวเส้นรอบวงทำให้เหลือมกับไบมีดถัดไป 7. เครื่องมือดังกล่าวในข้อถือสิทธิ 6ที่ผนังด้านนอกของถุงลมที่หนึ่ง มีร่องฝังอยู่จำนวนหนึ่งบนผิวนอกในแนวรัศมี และยื่นเข้ามาตามแนวแกนจากด้านหนึ่ง ของระนาบที่ตั้งขอบยางไปยังอีกด้านหนึ่ง 8. เครื่องมือสร้างยางประกอบด้วย ส่วนถังซึ่งมีผิวหน้าแบนทรงกระบอกตรง ส่วนของแกนซึ่งทำหน้าที่ยึดส่วนถังเพื่อการหมุนส่วนถังดังกล่าว ส่วนของโครงตรงกลางซึ่งยึดร่วมแกนและหมุนไปด้วยกันกับส่วนของแกนดังกล่าว ส่วนรองรับหนึ่งคู่ทำหน้าที่เคลื่อนและหมุดติดอยุ่บนส่วนแกนเพื่อการเลื่อนเข้าหาและออกจากกันในแนวแกนอย่างสมดุลย์ในระหว่างต่ำแหน่งยางและตำแหน่งขึ้นรูปยาง บนส่วนรองรับแต่ละชุดมีอุปกรณ์จับยึดจำนวนหนึ่งเพื่อให้มีวงแหวนยึดขอบยางคู่หนึ่งในส่วนวงกลมที่ติดต่อกัน เพื่อการเคลื่อในแนวรัศมีย่างสมดุลย์ของแกนอุปกรณ์จับยึดแต่ละชั้นจะยื่นออกตามแนวแกนจากระนาบที่ตั้งขอบยางที่ติดกันในระยะที่กำหนดเข้าหาและออกจากส่วนของโครงตรงกลาว เพื่อให้มีแนวผิวทรงกระบอกแข็ง แต่ละชิ้นของอุปกรณ์จับยึดนี้ยังมีช่องเปิดในแนวรัศมีทางด้านนอกและตามแนวเส้นรอบวงเพื่อให้เกิดเป็นร่องคู่หนึ่งห่างกันตามแนวแกนไปตามแนวเส้นรอบวงของวงแหวนยึดขอบยาง ส่วนถุงลมซึ่งจำกัดส่วนถังสร้างโดยยางทรงกระบอก ประกอบด้วย ถุงลมพับทบสงอชุดติดกับวงแหวนยึดขอบยางแต่ละวงในแนวเส้นรอบวงแต่ละด้าน และยื่นออกตามแนวแกนจากระนาบที่ตั้งขอบยาง และตัดแยกร่องรูปตัวที่ที่อยู่ติดกัน ถุงลมพับแต่ละอันมีวงแหวนยึดขอบยางติดอยู่ในร่องรูปตัวที่ที่อยู่ติดกันตามแนวแกนผนังลวดเสริมแรงด้านนอกจะเป็นถุงลมปิคอันที่หนึ่งท่พองตัวได้ติดกับวงแหวนยึดขอบยาง และจะยื่นออกจากวงแหวนยึดขอบยาง เมื่ออยู่ในสภาพไม่พองตัว ผนังลวดเสริมแรงด้านในจะเป็นถุงลมปิดอันที่สองซึ่งพองตัวได้ซึ่งอยู่ด้านในของถุงลมที่หนึ่ง และติดกับวงแหวนยึดขอบยาง โดยยื่นออกไปด้านนอกดังกล่าว ถุงลมขึ้นรูปติดอยู่ในแนวเส้นรอบวงของอุปกรณ์จับยึดอย่างสมดุลย์กับส่วนโครงตรงกลาง และเมื่อไม่พองตัวจะยื่นออกตามแนวแกนจากอุปกรณ์จับยึดอัน หนึ่งไปอีกอันหนึ่ง ถุงลมขึ้นรูปนี้มีวงแหวนรองรับของยางชุดที่สองหนึ่งคู่ติดอยู่ในร่องรูปตัวทีและยันค้ำอยู่กับวงแหวนรองรับขอบยางรองรับขอบยางชุดแรกของถุงลมพับทบ ผนังลวดเสริมแรงด้านในและผนังลวดเสริมแรงด้านนอกติดอยู่และยื่นออกเมื่อยังไม่พองตัวระหว่างวงแหวนรองรับขอบยางชุดที่สอง ผนังนี้ประกอบกันขึ้นเป็นถุงลมรูปวงแหวน ถุงลมด้านในหนึ่งคู่ประกอบขึ้นเป็นถุงลมรูปวงแหวนติดอยู่กับวงแหวนรองรับขอบยางชุดที่สอง ที่อยู่ติดกัน และยื่นตามแนวกแกนเป็นระยะทาง 1/5 ถึง 1/3 ของระยะระหว่างวงแหวนรองรับขอบยางอันที่สองไปสู่อีกอันหนึ่งในถุงลมขึ้นรูปซึ่งเกิดจากผนังดังกล่าว ผนังด้านนอกดังกล่าวยังแบ่งย่อยเป็นผนังชั้นนอกและผนังชั้นในและมีแผ่นเหล็กติดอยู่ระหว่างผนังทั้งสองเพื่อทำหน้าที่ตัดแปลงรูปร่างถุงลมขึ้นรูปเมื่อสูบลมเข้าถุงให้มีรูปร่างตามลักษณะของถุงลมเมื่อไม่มีแผ่นเหล็ก แผ่นเหล็กนี้ประกอบขึ้นจากแถบเหล็กยางแคบ ๆ ยื่นขนานกับแกนโดยมีช่องห่างเท่า ๆ กัน แผ่นเหล็กด้านปลายจะยื่นออกไปในแนวเส้นรอบวงเป็นระยะที่เหลื่อมกับแผ่นเหล็กอันถัดไป แผ่นเหล็กแต่ละแผ่นจะมีความหนาในแนวรัศมีของถัง โดยมีความหนามากสุด ณ ตำแหน่งกลางถังและน้อยลงตามลำดับจนถึงปลายถัง วงแหวนจับยึดแต่ละชุดซึ่งวางอยู่ในแนวรัศมีของถังสร้างยางใช้จับผ้าใบโครงยางระวห่างแกนขอบยางและวงแหวนรอบรับขอบบางทั้งสองชุด ในแนว ระนาบเดียวกันระนาบแกนขอบยาง ถุงลมขึ้นรูปซึ่งพองตัวได้ใช้สำหรับขึ้นรูปผ้าใบโครงยางจากรูปทรงกระบอกถึงสร้างยางกระบอกเป็นรูปทรงห่างกลม วงแหวนจับยึดดังกล่าวจะเคลื่อนในแนวแกนไปตามตำแหน่งขึ้นรูป ด้านในของถุงลมชั้นนอกและถุงลมรูปวงแหวนที่สอง เมื่อสูบลมเข้าหลังจากขึ้นรูปผ้าใบแล้วจะทำหน้าที่พลิกปลายของผ้าใบทับบนแกนของยางในแนวรัศมีกับโครงยางแก้มยาง เมื่ออัดและยึดผ้าใบด้วยแรงอัดตามแนวเส้นรอบวงอย่างสม่ำเสมอที่บริเวณแก้ยมยางติดกันแกนขอบยาง โดยที่แก้มยางดังกล่าวอยู่ติดกับแกนขอบยางในแนวรัศมีตามลักษณะยางเมื่อผ่านการรอบแล้ว ทั้งนี้สามารถหลีกเลี่ยงการหมุนแกนขอบยางและโครงยางผ้าใบไปรอบ ๆ 9. ถังสร้างยางประกอบด้วย ส่วนสร้างยางซึ่งมีปลอกกลางที่มีแผ่นเหล็กกล้าสปริงติดภายในและมีถุงลมชั้นนอกพับทบยันค่ำกับแกนปลายของปลอกดังกล่าว ประกอบกันขึ้นเป็นรูปถังทรงกระบอก ส่วนจับยึดขอบยางประกอบด้วยชิ้นส่วนแข็งหลายชิ้นติดในแนวเส้นรอบวงสองชุด แต่ละชุดใช้ทำหน้าที่เป็นวงแหวนรองรับขอบยาง โดยมีวงแหวนอีลาสโตเมอร์ติดกับวงแหวนรอบรับบนปลายกลาง ถุงลมพับทบแต่ละด้านอยู่ติดกับวงแหวนอีลาสโตเมอร์ใกล้กับวงแหวนรองรับยันค้ำอยู่กับวงแหวนของปลอกกลาง แผ่นเหล็กและส่วนจับยึดของยางดังกล่าวประกอบขึ้นกันเป็นรูปถังทรงกระบอก 1 0. วิธีสร้างและขึ้นรูปยางประกอบไปด้วย ส่วนผิวหน้าแบนทรงกระบอก ซึ่งประกอบด้วยถุงลมอยู่ตรงกลางโดยที่ขอบถุงอยู่ในระนาบซึ่งตั้งฉากกับแกนกลาง และถุงลมด้านนอกพับทบตามลำดับ และยันค้ำกับส่วนนอกของถังที่มีแกนร่วมกันกับถุงลมดังกล่าว สร้างแถบโครงยางก่อนขึ้นรูปให้เป็นรูปทรงกระบอกแบนบนส่วนผิวหน้าดังกล่าว จัดวางแกนของยางซึ่งยึดไม่ได้หนึ่งคู๋ ซึ่งขึ้นรูปไว้แล้วตามแนวรัศมีของแถบโครงยางโดยมีแกนร่วมกัน และอยู่ห่างจากกันในระนาบดังกล่าว และอยู่รอบ ๆ แถบโครงยางดังกล่าว ขยายแถบโครงยางดังกล่าวโดยเริ่มที่แนวเส้นรอบวงของแถบโครงย่างด้านซึ่งอยู่ในระนาบเดียวกันกับของของถุงลมดังกล่าว และกับแกนขอบยางเพื่อให้แกนขอบยางและแถบโครงยางอยู่ตรงกัน ขยายส่วนดังกล่าวของแถบโครงยางตรงบริเวณซึ่งอยู่ต่อจากด้านในและด้านนอกของแต่ละแกนขอบยาง เพื่อม้วนส่วนดังกล่าวพร้อม ๆ กันไปตามแนวรัศมีทางด้านนอกของแกนขอบยางแต่ละข้างให้คลุมส่วนของแกนขอบยางอย่างน้อยบางส่วน ในขณะที่เคลื่อนแกนขอบยางดังกล่าวเข้าหากันตามแนวแกนในระยะ ซึ่งพอเหมาะกับการขยายตัว หลังจากนั้นทำการขึ้นรูปแบบโครงยางด้วยถุงลมดังกล่าว ซึ่งอยู๋ระหว่างแกนขอบยางดังกล่าว เพื่อให้เป็นรูปห่วงโดยมีอัตราส่วนรูปร่างของส่วนสูงตามแนวรัศมีต่อความกว้างตามแนวแกน อย่างน้อยประมาณเท่ากับอัตราส่วนดังกล่าวของยางหลังจากที่ถูกบ่มแล้ว โดยการอัดแรงดันด้านนอกคตามแนวรัศมีแก่ถุงลม และ โดยการเคลื่อนแกนขอบยางดังกล่าวเข้าหากันพร้อม ๆ กันตามตำแหน่งที่กำหนดในเส้นยางหลังการอบ หลักจากนั้นทำการอบยาง 1
1. วิธีการสร้างและขึ้นรูปยางประกอบไปด้วย สร้างแถบโครงยางก่อนขึ้นรูปบนผิวหน้าแบนทรงกระบอกที่ประกอบด้วยถุงลมขึ้นรูปและถุงลมชั้นนอกพับทบคู่หนึ่งซึ่งค้ำยันในแกนร่วมกันทางตอนปลายของถุงลม จัดวางแถบขอบยางคู่หนึ่งรอบแถบโครงยางในแนวแกนเดียวกันรอบแถบโครงยาง และขยายบริเวณแรกของแถบดังกล่าวให้อยู่ในระนาบเดียวกันกับแกนขอบยางเพื่อให้ส่วนดังกล่าวตรงกันกับแกนขอบยาง จากนั้นทำให้แถบโครงยางตรงกับแกนขอบยางก่อนทำการขึ้นรูปส่วนที่เหลือของแถบโครงยาง โดยการเป่าลมเข้าพร้อมกันที่ถุงลมรูปวงแหวนทั้งคู๋ซึ่งคิดอยู่กับด้านใน และด้านนอกตามแนวแกนของแกนขอบยางแต่ละข้าง ตรึงถุงลมดังกล่าวซึ่งอยู่ติดกับด้านในตามแนวแกนของแกนขอบยางข้างนั้น เข้ากับด้านใน และปลายแกนของถุงลม ตรึงถุงลมซึ่งอยู่ติดกับด้านนอกตามแนวแกนของขอบยางข้างนั้นเข้ากับด้านใน และปลายแกนของถุงลมพับทบซึ่ง ค้ำยันถุงลม เพื่อที่แกนของยางจะถูกห่อหุ้นอย่างน้อยบางส่วนโดยแถบโครงยางดังกล่าวก่อนนำไปขึ้นรูปเป็นลักษณะห่าง จากนั้นทำการขึ้นรูปถุงลมดังกล่าวเพื่อขึ้นรูปแถบโครงยางซึ่งอยู่ระหว่างแกนขอบยางโดยการอัดอากาศ ขณะเดียวกันกับการเคลื่อนแกนขอบยางดังกล่าวตามแนวแกนเข้าหากันให้ได้ระยะห่างซึ่งต้องการของยางหลังการพิมพ์แบบและการอบ และควบคุมรุปร่างของถุงลมให้เป็นรูปห่วง ขณะที่ขยายตัวให้ได้สัดส่วนของส่วนสูงตามแนวรัศมีต่อความกว้างตามแนวแกน ซึ่งอย่างน้อยควรมีค่าประมาณเท่ากับสัดส่วนของยางดังกล่าวเมื่อพิมพ์แบบและอบแล้วหลังจากนั้นทำการอบยาง 1
2. วิธีการประดิษบ์ยางประกอบด้วยการสร้างโครงสร้างยางในรูปทรงกระบอกแบน วางแกนขอบยางคู่หนึ่งในแนวแกนร่วมกันให้ห่างกันบนด้านนอกของแถบโครงยางดังกล่าว ให้เป็นระนาบที่ตั้งขอบยางสองระนาบ และขยายแถบโครงยางโดยเริ่มต้นที่ระนาบทั้งสองเพื่อให้แถบโครงยางติดกับแกน หลังจากนั้นม้วนบริเวณของแถบโครงยางซึ่งติดกับแกนข้างนั้นออกไปตามแนวรัศมีพร้อมกันทั้งสองข้าง โดยการเป่าลมเข้าในถุงลมคู่หนึ่งซึ่งเท่ากัน และวางอยู่ตรงข้ามกันและใกล้กับแกนแต่ละข้าง และแต่ละอันใต้แกนแต่ละข้าง หลังจากนั้นขยายโครงยางระหว่างแกนให้เป็นรูปห่วง โดยการเป่าลมเข้าในถุงลมในโครงยางให้มีสัดส่วนของส่วนสูงตามแนวรัศมีต่อความกว้างตามแนวแกนตามที่กำหนด ซึ่งอย่างน้อยมีค่าประมาณเท่ากับสัดส่วนของยางเมื่ออบแล้ว และในขณะเดียวกันกับการเคลื่อนแกนดังกล่าว และบริเวณดังกล่าวไปตามแนวแกนให้ได้ระยะห่างที่พอเหมาะ ซึ่งเป็นระยะของยางหลังการอบ
TH8001000019A 1980-02-18 การสร้างและการขึ้นรูปยาง TH130B (th)

Publications (3)

Publication Number Publication Date
TH318EX TH318EX (th) 1982-05-21
TH318A TH318A (th) 1982-05-21
TH130B true TH130B (th) 1983-12-15

Family

ID=

Similar Documents

Publication Publication Date Title
US2084009A (en) Apparatus for making tire casings
EP0015224B1 (en) Building and shaping a tire
US2814331A (en) Process for building pneumatic tires
US3276930A (en) Tire fabrication process
US4214939A (en) Tire building machine
US6488797B1 (en) First stage run flat tire building drum and method of using same
US1551040A (en) Tire building
US5248357A (en) Process for assembling a green tire
US2763317A (en) Method and apparatus for forming tires
BRPI0917223B1 (pt) método para controlar uma fase de moldagem de uma estrutura de fixação anular de um pneu verde, e, equipamento para moldagem e cura de pneus verdes
SU646883A3 (ru) Способ изготовлени покрышек пневматических шин
US3964949A (en) Method of treading tires
US3143450A (en) Method for the manufacture of pneumatic tires
US3223566A (en) Method of making pneumatic tires for vehicles
GB2133357A (en) Manufacture of vehicle tyres
FI57896C (fi) Saett att tillverka ett pneumatiskt daeck och form haerfoer
CA1149273A (en) Tire building machine
TH130B (th) การสร้างและการขึ้นรูปยาง
US5700339A (en) Process for the manufacture of a tire having a carcass reinforcement which is formed of at least one ply of cords or cables
TH318A (th) การสร้างและการขึ้นรูปยาง
US3184360A (en) Machine for making carcasses for pneumatic tires
US3097985A (en) Tire building drum
US4278484A (en) Pneumatic side wall bonding in radial tire manufacture
EP0179374B1 (de) Vulkanisierverfahren für Fahrzeugluftreifen
US1801759A (en) Method for making tire casings