TH7216B - ระบบสิ่งนำสารสำหรับใช้ในสารผสมคอสเมติก - Google Patents

Abstract

ได้เปิดเผยถึงระบบสิ่งนำสารที่มีลักษณะเฉพาะซึ่งจะให้การไหลที่พึงประสงค์ต่อผลิตภัณฑ์ที่ทำเป็นสูตรผสมขึ้นด้วยระบบสิ่งนำสารนั้น, เพิ่มการกระจายของสารว่องไวในนั้น, และปรับปรุงการพอกพูนของสารว่องไวจากสารนั้น ระบบสิ่งนำสารนี้ประกอบด้วยสารเพิ่มความหนืดปฐมภูมิซึ่งเป็นลองเชนแลคิเลเทคโพลิเมอร์ที่ละลายน้ำชนิดนอนไอออนิคและสารเพิ่มความหนืดชนิดที่สองซึ่งเป็นโพลิเมอร์ที่ละลายน้ำที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูงกว่าประมาณ 20,000 แต่ควรใช้โพลิแซคคาไรด์จากธรรมชาติ, ซึ่งกระจายอยู่ในตัวทำละลายที่เข้ากันได้ ดังนั้นสารช่วยให้ไหลซึ่งเป็นตัวคึเลทนั้นอาจประกอบอยู่ด้วยในระบบสิ่งนำสารนั้นนอกจากนั้นอาจเลือกสารช่วยในการกระจายซึ่งเป็นโพลิเมอร์ที่ละลายน้ำซึ่งอาจเป็นสารที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูงหรือมีลักษณะเป็นไอออนิคที่แรงนั้นอยู่ในระบบสิ่งนำสารนั้น ระบบสิ่งนำสารนั้นมีประโยชน์ในสารผสมคอสเมติกซึ่งจะใช้เพื่อปล่อยส่วนประกอบที่ว่องไวกับเส้นผมหรือผิวหนังระบบสิ่งนำสารนั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งจะมีประโยชน์ในสารผสมรักษาผม, โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารผสมปรับสภาพผมชนิดล้างออกล เนื่องจากระบบสิ่งนำสารนั้นจะปล่อยส่วนประกอบปรับสภาพผมได้อย่างมีประสิทธิภาพกับเส้นผมโดยปราสจากการพอกพูนของวัสดุสิ่งนำสารปริมาณมากบนเส้นผมนั้น

Claims (4)

1.สารผสมคอสเมติกที่ประกอบด้วย (a) ระบบสิ่งนำสารจากประมาณ 80% ถึง ประมาณ 100% ซึ่งระบบสิ่งนำสารนั้นประกอบด้วย: (A) สารผสมคอสเมติกจาก ประมาณ 03% ถึงประมาณ 5.0% โดยน้ำหนักซึ่งสารผสมของโพลิเมอร์ที่ละลายน้ำนอนไอออนิค ที่ได้ดัดแปรขึ้นให้ไม่ชอบน้ำซึ่งประกอบด้วยโครงสร้างหลักโพลิเมอร์ที่ละลายน้ำและหมู่ไม่ชอบน้ำที่เลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วยหมู่ C8-C22 แอลคิล, แอริล แอลคิล, แอลคิลแอริล และของผสมของหมู่นั้น; ซึ่งอัตราส่วนของส่วนที่ชอบน้ำต่อส่วนไม่ชอบน้ำของ โพลิเมอร์นั้นจะเท่ากับจากประมาณ 10:1; และ (B) สารผสมคอสเมติกของสารเพิ่มความหนืด โพลิเมอร์ที่ ละลายน้ำที่มีน้ำหนัก โมเลกุลสูงกว่าประมาณ 20,000 นั้นจากประมาณ0.3% ถึงประมาณ 5.0% โดยน้ำหนัก; และ (C) สารผสมคอสเมติกที่เข้ากับตัวทำละลายได้นั้นจากประมาณ 65% ถึงประมาณ 99% โดยน้ำหนัก; และ (b) ส่วนประกอบคอสเมติก ที่ว่องไวจาก 0% ถึงประมาณ 20% โดยน้ำหนัก; ซึ่งสารผสมคอสเมติกดังกล่าวนั้นประกอบด้วยสารทำให้พื้นผิวว่องไวที่ละลายน้ำได้ไม่เกินประมาณ 1.0% 2.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 1 ซึ่งโพลิเมอร์ที่ละลายน้ำนอนไอออนิคที่ได้ดัดแปรขึ้นให้ไม่ชอบน้ำประกอบด้วยเซลลูโลสอีเธอร์นอนไอออนิค ที่มีระดับการแทนที่นอนไอออนิคเพียงพอซึ่งเลือกได้ จากกลุ่มประกอบด้วย เมธิล ไฮดรอกซิเอธิล และไฮดรอกซิโพรพิล เพื่อเป็นเหตุทำให้มันละลายน้ำได้และยังถูกแทนที่ต่อไปด้วยอนุมูลลองเชนแอลคิล ที่มีคาร์บอน 10 ถึง 22 อะตอมในปริมาณระหว่างประมาณ 0.2 เปอร์เซนต์โดยน้ำหนัก และปริมาณซึ่งทำให้ เซลลูโลส อีเธอร์ดังกล่าวนั้นละลายน้ำได้น้อยกว่า 1% โดยน้ำหนัก 3.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 2 ซึ่งระบบสิ่งนำสารนั้นจะให้การไหล กับสารผสมคอสเมติก ที่มีลักษณะเฉพาะความเค้นในแนวเฉือน จาก 0 ถึงประมาณ 50 พาสคัล ตลอดช่วงอัตราเร็วในแนวเฉือนจากประมาณ 0.04 วินาที -1 ถึงประมาณ 25 วินาที -1 4.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 3 ซึ่งเซลลูโลสอีเธอร์นอนไอออนิคประกอบด้วยสารผสมคอสเมติกนี้จากประมาณ 0.4% ถึงประมาณ 3.0% 5.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 4 ซึ่งเซลลูโลสอีเธอร์นอนไอออนิคนี้ประกอบด้วยอนุมุลลองเชน ที่ได้ยึดติดไว้ด้วยการเชื่อมต่อของอีเธอร์ 6.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 5 ซึ่งเซลลูโลสอีเธอร์นอนไอออนิคนี้ประกอบด้วยไฮดรอกซิโพรพิล เซลลูโลสที่ละลายน้ำได้ซึ่งได้ถูกแทนที่ด้วยอนุมูลลองเชนแอลคิลที่มีคาร์บอน 10 ถึง 22 อะตอม ในปริมาณระหว่างประมาณ 0.2 เปอร์เซนต์โดยน้ำหนักและปริมาณนี้ซึ่งทำให้ไฮดรอกซิโพรพิล เซลลูโลสนั้นละลายน้ำได้น้อยกว่า 1% โดยน้ำหนัก 7.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 6 ซึ่งเซลลูโลสอิเธอร์นอนไอออนิคนี้ประกอบด้วยไฮดรอกซิเอธิล เซลลูโลสที่ละลายน้ำได้ ซึ่งได้ถูกแทนที่ด้วยอนุมูลลองเชนแอลคิล ที่มีคาร์บอน 10 ถึง 220 อะตอม ในปริมาณระหว่างประมาณ 0.2 เปอร์เซนต์ และปริมาณ ซึ่งทำให้ไฮดรอกซิ เอธิล เซลลูโลสนั้นละลายน้ำได้นัอยกว่า 1% โดยน้ำหนัก 8.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 7 ซึ่งไฮดรอกซิเอธิลเซลลูโลส นี้ก่อนการทำปฏิกิริยาแทนที่ด้วยหมู่แอลคิลลองเชน มีน้ำหนักโมเลกุลประมาณ 50,000 ถึง 700,000 9.สารผสมของข้อถือสิทธิข้อ 8 ซึ่ง ไฮดรอกซิเอธิลเซลลูโลสที่ละลายน้ำนั้นจะถูกแทนที่ด้วยอนุมูลลองเชนแอลคิล ที่มีคาร์บอนประมาณ 16 อะตอมนั้นในปริมาณระหว่าง 0.40% ถึงประมาณ 0.95% โดยน้ำหนัก; จำนวนโมลการแทนที่ ไฮดรอกซิเอธิลจะเท่าบจากประมาณ 2.3 ถึงประมาณ 3.7; และน้ำหนักโมเลกุลโดยเฉลี่ยของเซลลูโลส ซึ่งไม่ถูกแทนที่นั้น จาก 300,000 ถึง 700,000 1 0.สารผสมของข้อถือสิทธิข้อ 9 ซึ่งเลือกสารเพิ่มความหนืดโพลิเมอร์ที่ละลายน้ำนั้นได้จากกลุ่มที่ประกอบด้วยไฮดรอกซิเอธิลเซลลูโลส, ไฮดรอกซิโพรพิลเซลลูโลส, ไฮดรอกซิโพรพิลเมธิลเซลลูโลส โพลิเอธิลีนไกลคอล, โพลิแอไครแลมีด, โพลิแอไดรลิคแอซิด, โพลิไวนิลแอลกอฮอล์, โพลิไวนิลพิร์โรลิโดน,เด็กซ์แทรน, คาร์บอกซิเมธิลเซลลูโลส, เอกชูเดท จากพืช แอแคเชีย เอกซูเตทจากพืชแกททิ, เอกซูเคทจากพืชทรากาแคนธ์, โซเดียมแอลจิเนท, โพรพิลินไกลคอลแอลจิเนท, โซเดียมคาร์แรจีแนน, โพลิแซกคาไรด์จากธรรมชาติและของผสมของสารนั้น 1 1.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 10 ซึ่งประมาณด้วยสารเพิ่มความหนืดโพลิเมอร์ที่ละลายน้ำจากประมาณ 0.4% ถึงประมาณ 3.0% 1 2.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 11 ซึ่งสารเพิ่มความหนืดที่ละลายน้ำได้นั้นประกอบด้วยโพลิแซดคารไรด์ธรรมชาติ 1 3.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 12 ซึ่งเลือกโพลิแซคคาไรด์ธรรมชาติได้จากกลุ่มที่ประกอบด้วย ควาร์กัมล โลคัสท์บีนกัมแซนแธนกัม และของผสมของสารนั้น 1 4.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 3 ซึ่งประกอบด้วยตัว ดีเลทเพิ่มเติมจากประมาณ 0.05% ถึงประมาณ 1.0% 1 5.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 14 ซึ่งเลือกตัวดิเลท ได้จากกลุ่มที่ประกอบด้วย เอธิลีนไดแอมีนเททรา-แอซิทิคแอซิดและเกลือของสารนั้น, ไนทริโลไทรแอซิทิคแอซิด และ เกลือของสารนั้น, ไฮดรอกซิเอธิลีนไดแอมีนไทรแลไทรแอซิทิคแอซิตและเกลือของสารนั้น, ไดเอธิลีนไทรแอมีนเพนทา-แอซิทิคแอซิดและเกลือของสารนั้น, ไดเอธานอลไกลซีนและเกลือของ สารนั้น เอธานอลไดไกลซีนและเกลือของสารนั้น, ซิทริคแอซิด และเกลือของสารนั้น, ฟอสฟอริคแอซิด และเกลือของสารนั้น 1 6.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 3 ซึ่งเลือกโพลิเมอร์ที่ละลายน้ำจากประมาณ 0.02% ถึงประมาณ 2.5% จากกลุ่มที่ประกอบด้วย โพลิเมอร์ที่ละลายน้ำซึ่งมีน้ำหนักโมเลกุลสูงกว่า 1,000,000 และโพลิเมอร์ที่ละลายน้ำซึ่งลักษณะเป็นไอออนิคชนิดแรง 1 7.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 14 ซึ่งเลือกโพลิเมอร์ที่ละลายน้ำจากประมาณ 0.05% ถึงประมาณ 1.0% จากกลุ่มที่ประกอบด้วยโพลิเมอร์ ที่ละลายน้ำซึ่งมีน้ำหนักโมเลกลุลสูงกว่า 1,000,000 และโพลิเมอร์ที่ละลายน้ำซึ่งลักษณะเป็นไอออนิคชนิดแรง 1 8.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 3 ซึ่งเป็นสารรักษาเส้นผม,ซึ่งส่วนประกอบคอสเมติกที่ว่องไวดังกล่าวนั้นประกอบด้วยส่วนประกอบรักษาเส้นผมที่ว่องไว 1 9.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 18 ซึ่งสารผสมนี้ประกอบด้วยวัสดุแฟททิแอลกอฮอล์ไม่เกินประมาณ 1% 2 0.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 19 ซึ่งเลือกส่วนประกอบรักษาเส้นผมที่ว่องไวนี้จากกลุ่มที่ประกอบด้วย สารปรับสภาพ, สารช่วยต่อต้านรังแค สารช่วยกระตุ้นความเจริญของผม, น้ำหอม, สี, สีย้อม, สารกันแดด, โพลิเมอร์ช่วยยืดผม, และของสารผสมของสารนั้น 2 1.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 20 ซึ่งเลือกส่วนประกอบรักษาเส้นผมที่ว่องไวได้จากกลุ่มที่ประกอบด้วยของไหล ซิลิโคนที่ระเหยได้ซึ่งมีความหนืดที่ 25%ซ. น้อยกว่า 10 เซนติพอยส์ของไหล ซิลิโคนที่ระเหย ไม่ได้ซึ่งมีความหนืดที่ 25 ซํ. น้อยกว่าประมาณ 100,000 เซนติพอยส์, ยางซิลิโคนที่มีความหนืดที่ 25ซํ. มากกว่าประมาณ1,000,000 เซนติพอยล์ และของผสมของสารนั้น 2 2.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 21 ซึ่งเลือกยางซิลิโคนได้จากกลุ่มที่ประกอบด้วยยางโพลิไดเมธิลไซโลเซน และยางโพลิเฟนิลเมธิลไซโลเซน 2 3.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 20 ซึ่งส่วนประกอบรักษาผมที่ว่องไวนั้นประกอบด้วยซิลิโคนโพลิเมอร์ที่แข็ง เกร็งจาก 0.01% ถึง 10% ซึ่งมีความหนืดเชิงว้อนที่ 25 ซํ. อย่างน้อยเท่ากับ 2 x 10ยกกำลัง 5 พอยส์ 2 4.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 23 ซึ่งประกอบเพิ่มเติมด้วยพาหะที่ระเหยได้สำหรับซิลิโคนโพลิเมอร์ ที่แข็งเกร็ง 2 5.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 24 ซึ่งเลือกซิลิโคนโพลิเมอร์ที่แข้งเกร็งได้จากกลุ่มที่ประกอบด้วย ยาง ไซโล่เซนซึ่งถูกแทนที่ด้วยสารอินทรีย์ ซิลิโคนอิลาสโตเมอร์ โพลิไตเมธิล ไซโลเซนที่เสริมแรงด้วยสารเติม, ไซโลเซนที่เสิรมแรงด้วยเรซิน และไซโลเซน และไซโลเซนโพลิเมอร์ ที่เกิดเชื่อมขวาง 2 6.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 25 ซึ่งพาหะที่ระเหยได้ คือไซคลิคซิลิโคน ที่ประกอบด้วยซิลิกอนจากประมาณ 3 ถึง 7 อะตอม 2 7.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 26 ซึ่ง ซิลิโคนโพลิเมอร์ที่แข็งแกร็ง คือ ซิลิโคนอิลาส โตเมอร์ และพาหะระเหยได้เพียงอย่างเดียวคือ น้ำ 2 8.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 26 ซึ่งซิลิโคนโพลิเมอร์ที่แข็งแกร็ง คือ ยางโพลิไดเมธิลไซโคลเซนที่เสริมแรงด้วยสารเติม 2 9.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 26 ซึ่งซิลิโคนโพลิเมอร์ ที่แข็งแกร็งคือ ยางไซโลเซนที่ถูกแทนที่ด้วยหมู่อินทรีย์ 3 0.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 26 ซึ่งซิลิโคนโพลิเมอร์ที่แข้งแกร็งคือ ไซโลเซนที่เสริมแรงด้วยเรซิน 3 1.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 20 ซึ่งส่วนประกอบรักษาเส้นผมที่ว่องไวนั้นประกอบด้วย โคโพลิเมอร์ จาก ประมาณ 0.1% ถึงประมาณ 10% ซึ่งมีโครงสร้างหลักไวนิลโพลิเมอร์ที่ต่ออยู่กับส่วนของไซโลเซนโพลิเมอร์โมโนเวเลนท์, โคโพลิเมอร์ดังกล่าวประกอบด้วย โมโนเมอร์ C และส่วนประกอบนั้นจะเลือกจากโมโนเมอร์ A,โมโนเมอร์ B และของผสมของสารนั้นซึ่ง: A คือ ไวนิลโมโนเมอร์ที่โพลิเมอไรส์ได้ในอนุมูลเสรีนั้นอย่างน้อยหนึ่งชนิด, ซึ่งปริมาณโดยน้ำหนักของโมโนเมอร์ A เมื่อใช้จะมากถึง 98% โดยน้ำหนักของน้ำหนักทั้งหมดของโมโนเมอร์ ทั้งหมดในโคโพลิเมอร์ดังกล่าว; B คือ โมโนเมอร์เสริมแรงอย่างน้อยหนึ่งชนิดที่โคโพลิเมอไรส์ ได้กับ A, ซึ่งปริมาณโดยน้ำหนักของโมโนเมอร์ B เมื่อใช้นั้นจะมากถึง 98%ของน้ำหนักรวมทั้งหมดของโมโนเมอร์ทั้งหมดในโคโพลิเมอร์ดังกล่าว โมโนเมอร์ Bดังกล่าวนั้นจะเลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วยโพลาร์โมโนเมอร์และแมโครเมอร์; และ C คือ โมโนเมอร์ที่เป็นโพลิเมอร์ที่มีน้ำหนักโมเลกุลจากประมาณ 1,000 ถึงประมาณ 50,000 และมีสูตรทั่วไป: X(YXnSi(R)3-m(Z)m ซึ่ง X คือ หมู่ไวนิลที่โพลิเมอร์ไรส์ ได้ กับโมโนเมอร์ A และ B Y คือ หมู่เชื่อมไดเวเลนท์ R คือ ไฮโดรเจน, แอลคิลขนาดเล็ก, แอริลหรือแอลคอกซิ Z คือ ส่วนของไซโลเซนโพลิเมอร์ โมโนเวเลนท์ที่มีจำนวนน้ำหนักโมเลกุลโดยเฉลี่ยอย่างนอ้ย 50 0. และจำเป็นจะต้องไม่เกิดปฏิริยาภายใต้สภาวะการทำ โคโพลิเมอร์ไรส์ และจะห้อยจากโครงสร้างหลักของไวนิลโพลิเมอร์ ดังกล่าวภายหลังจากการโพลิเมอร์ไรส์ n คือ 0 หรือ 1 m คือ เลขจำนวนเต็มจาก 1 ถึง 3 ซึ่ง C ประกอบด้วย โคโพลิเมอร์จากประมาณ 0.01% ถึงประมาณ 50% 3 2.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 31 ซึ่งโคโพลิเมอร์นี้ประกอบด้วย โมโนเมอร์ A จากประมาณ 5% ถึงประมาณ 98%, โมโนเมอร์ C จากประมาณ 0.1% ถึงประมาณ 50% และโมโนเมอร์ B จาก 0% ถึงประมาณ 98% 3 3.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 20 ซึ่งส่วนประกอบรักษาเส้นผมที่ว่องไวนั้นประกอบด้วยไวนิลโมโนเมอร์ซึ่งโพลิเมอไรส์ ได้ในอนุมูลเสรี ที่ชอบไขมัน หรือ โมโนเมอร์ที่ชอบน้ำซึ่งจะเกิดโคโพลิเมอร์ไรส์ได้กับ A หรือ ของผสมของสารนั้นและซิลิโคนที่ประกอบด้วยแมโครเมอร์ที่มีน้ำหนักโมเลกุลโดยเฉลี่ยจากประมาณ 1,000 ถึงประมาณ 50,000 ซึ่งขึ้นอยู่กับโพลิไดเมธิลไซโลเซนซึ่งเลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วย (สูตรเคมี) ซึ่ง m คือ 1,2 หรือ 3, p คือ 0 หรือ 1, R คือ แอลคิลหรือไฮโดรเจน; q คือ เลขจำนวนเต็มจาก 2 ถึง 6 S คือ เลขจำนวนเต็มจาก 0 ถึง 2; X คือ (สูตรเคมี) R1 คือ ไฮโดรเจน หรือ -COOH; R2 คือ ไฮโดรเจน, เมธิลหรือ-CH2 COOH; Z คือ (สูตรเคมี) R4 คือ แอลคิล, แอลคอกซิล แอลคิลอะมิโน,แอริล, หรือ ไฮดรอกซิล; และ r คือ เลขจำนวนเต็มจาก 5 ถึง700 3 4.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 33 ซึ่งโมโนเมอร์ A นั้นจะเลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วยแอไครลิคแอซิดเอสเทอร์ของ C1-C18 แอลกอฮอล์, เมธาไครลิคแอ ซิด, เอสเทอร์ของ C1-C18 แอลกอฮอล์, สไตรีน, ไวนิล แอซิเทท, ไวนิลคลอไรด์, ไวนิลิดีนคลอไรด์, แอไครโลไนทริล,แอลฟาเมธิลสไตรีน,t-บิวทิลสไตรีน, บิวทาไดอีน ไซโคลเฮกซาไดอีน, เอธิลีน, โพรพิลีน, ไวนิลโทลูอีน, โพลิสไทรีน แมโคเมอร์, และของผสมของสารนั้น 3 5.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 34 ซึ่งโมโนเมอร์ B นั้น จะเลือกได้จากกลุ่มที่ประกอบด้วย แอไครลิค แอซิด เมธาไครลิคแอซิด, N,N-ไดเมธิลแอไครแลมีด, ไดเมธิล อะมิโนเอธิล เมธาไครเลท, ควอเทอร์ไนส์ไดเมอธิลอะมิโนเอธิล เมธาไครเลท, เมธาไครโลไนทริล, เมธาไครโลแอมีด, แมเลอิคแอนไฮไครด์, ครึ่งเอสเทอร์ของแมเลอิคแอนไฮโดรด์, อิทาโคนิค แอซิด, แอไครแลมีด, แอไตรเลท แอลกอฮอล์,ไฮดรอกซิเอธิล เมธาไครเลทไดแอลลิล ไดเมธิล แอมโมเนียม คลอไรด์ไวนิลพิร์โรลิโดน, ไวนิลอีเธอร์, แมเลอิมีด, ไวนิล พิริดีน, ไวนิลอิมิดาโซล, สไทรีนซัลโฟเนทและของผสมของสารนั้น 3 6.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 35 ซึ่งโมโนเมอร์ A นั้นจะเลือกได้จากกลุ่มที่ประกอบด้วย t-บิวทิลเมธาไดเลท, ไอโซบิวทิลเมธาไครเลท, 2-เอธิลเฮกซิล เมธาไดรเลท, เมธิลเมธาไครเลท, t-บิวทิลแอไครเลท, t-บิวทิลเมธาไครเลท,และของผสมของสารนั้น 3 7.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 36 ซึ่งโมโนเมอร์ B นั้นจะเลือกได้จากกลุ่มที่ประกอบด้วย แอไครลิคแอซิด, N,N-ไดเมธิลแอไครแลมีด, ไดเมธิลอะมิโนเอธิล เมธาไดรเลท, ควอเทอร์ไนส์ ไดเมธิลอะมิโนเอธิล เมธาไตรเลท, ไวนิลพิร์โรลิโตน, และ ของผสมของสารนั้น 3 8.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 36 ซึ่งโมโนเมอร์ C นั้นมีสูตร (สูตรเคมี) 3 9.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 38 ซึ่ง p = 0 และ q = 3 4 0.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 39 ซึ่ง m คือ 1,r คือ ประมาณ 250, R4 คือ แอลคิล, R1 คือ ไฮโดรเจน และ R2 คือ เมธิล 4

1.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 35 ซึ่งโคโพลิเมอร์ ที่ประกอบด้วย ซิลิโคนนั้นจะเลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วย แอไครลิค แอซิด/ n-บิวทิลเมธาไครเลท/โพลิไดเมธิลไซโลเซน แมโครเมอร์ ที่มีน้ำหนักโมเลกุล 20,000 (10/70/20); N,N-ไดเมธิลแอไครแลมีด/ไอโซบิวทิลเมธาไตรเลท/PDMS แมโครเมอร์ที่มีน้ำหนักโมเลกุล 20,000 (20/60/20); ไดเมธิลอะมิโนเอธิล เมธาไตรเลท/ไอโซบิวทิล เมธาไครเลท/2-เอธิลเฮกซิล เมธาไตรเลท/PDMS น้ำหนักโมเลกุล 20,000(25/40/15/20) ไดเมธิลอะมิโนเอธิล เมธาไครเลท/PDMS น้ำหนักโมเลกุล20,000 (10/70/30) ควอเทอร์ไนส์ ไดเมธิลอะมิโนเอธิล เมธาไตรเลท/ไอโซบิวทิล เมธาไครเลท/PDMS น้ำหนัก โมเลกุล 20,000 (40/40/20) แอไครลิคแอซิด/เมธิล เมธาไตรเลท/PDMS น้ำหนักโมเลกุล 20,000 (40/40/20) แอไครลิค แอซิด/ไอโซโพรพิล เมธาไครเลท/PDMS น้ำหนักโมเลกุล 20,000 (25/95/10); N,N-ไดเมธิลแอไครแลมีด/เมธอกซิเอธิลเมธาไครเลท/PDMS น้ำหนักโมเลกุล 20,000 (60/25/15) ไดเมธิล แอโครแลมีด / PDMS แมโครเมอร์น้ำหนักโมเลกุล 20,000 (80/20); t-บิวทิลแอไครเลท/ t-บิวทิล เมธาไครแลท/PDMS แมดโครเมอร์ น้ำหนักโมเลกุล 10,000 (56/24/20); t-บิวทิลแอไครเลท/PDMS แมโครเมอร์ น้ำหนักโมเลกุล 10,000(80/20) t-บิวทิลแอไครเลท/N,N-ไดเมธิลแอไครแลมีด/PDMS แมโครเมอร์น้ำหนักโมเลกุล 10,000 (70/10/20); t-บิวทิลแอไครเลท/แอไครลิค แอซิด/PDMS แมโครเมอร์ น้ำหนักโมเลกุล 10,000 (75/5/20); และของผสมของสารนั้น 4

2.สารผสมรักษาเส้นผมที่ประกอบด้วย: (a) ระบบสิ่งนำสารจากประมาณ 80% ถึงประมาณ 99.9% ซึ่งประกอบด้วย: (A) สารผสมรักษาจากประมาณ 03% ถึงประมาณ 0.4% ถึงประมาณ3.0% โดยน้ำหนักซึ่งสารผสมนั้นเป็นของเซลลูโลสอีเธอร์นอนไอออนิคที่มีจำนวน โมลการแทนที่ไฮดรอกซิเอธิล จากประมาณ 2.3 ถึงประมาณ 3.7 และซึ่งถูกแทนที่ต่อไปด้วยหมู่ C14-แอลคิลจากประมาณ 0.40% ถึงประมาณ 0.95% โดยน้ำหนัก ซึ่งไฮดรอกซิเอธิลเซลลูโลสไม่ถูกแทนที่นั้นมีน้ำหนักโมเลกุล โดยเฉลี่ยจากประมาณ 300,000 ถึงประมาณ 700,000 (B) สารผสมรักษาผมจากประมาณ 0.4% ถึงประมาณ 3% โดยน้ำหนักซึ่งเป็นสารผสมของสารเพิ่มความหนืดโพลิเมอร์ ที่ละลายน้ำที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูงกว่า 20,000 ซึ่งเลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วย ยางถั่วโลกัสท์และไฮดรอกซิเอธิลเซลลูโลสที่มีน้ำหนักโมเลกุลประมาณ700,000; (C) สารที่เป็นตัวคีเลทจากประมาณ 0.05% ถึงประมาณ 0.3%ซึ่งได้เลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วย เอธิลีน ไดแอมีน เททราแอซิทิค แอซิด และเกลือของสารนั้น, ซิทริค แอซิด และเกลือของสารนั้นและฟอสฟอริคแอซิด และ เกลือของสารนั้น; และ (D) สารช่วยในการกระจายจากประมาณ 0.05% ถึงประมาณ 1.0% ซึ่งจะเลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วยยางแซนแธนและเด็กซ์แทรนที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูงกว่าประมาณ 1,000,000 และ (E) สารผสมรักษาผมของตัวทำละลายที่เข้ากันได้นั้นจากประมาณ 65% ถึงประมาณ 99% ; และ (b) ส่วนประกอบรักษาผมที่ว่องไวจากประมาณ 0.1% ถึงประมาณ20% โดยน้ำหนักของสารผสมรักษาผม; ซึ่งสารผสมรักษาผมดังกล่าวประกอบด้วยสารที่ที่ให้พื้นผิวว่องไวไม่มากไปกว่าประมาณ 0.5%; วัสดุแฟททิ แอซิดไม่มากไปกว่าประมาณ 1%; และ ซึ่งสารผสมรักษาผมดังกล่าวมีการไหล ซึ่งมีลักษณะเฉพาะโดยที่ความร้อนในแนวเฉือนจาก 0 ถึงประมาณ 50 พาสตัลตลอดช่วงอัตราเร็วในแนวเฉือนจากประมาณ 0.04 วินาที -1 ถึงประมาณ 25 วินาที -1 4

3.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 42 ซึ่งส่วนประกอบรักษาผมประกอบด้วยโคโพลิเมอร์ที่มีซิลิโคนที่เลือกได้จากกลุ่มที่ประกอบด้วย แอไครลิคแอซิด /n-บิวทิลเมธาไครเลท/โพลิไดเมธิลไซโลเซน แมโครเมอร์ น้ำหนักโมเลกุล 20,000 (10/70/20) N,N-ไดเมธิลแอไครแลมีด/ไอโซบิวทิลเมธาไตรเลท/PDMS แมโครเมอร์น้ำหนักโมเลกุล 20,000 (20/60/20); ไดเมธิลอะมิโนเอธิล เมธาไครเลท/ไอโซบิวทิล เมธาไครเลท/2-เอธิลเฮกซิลเมธาไตรเลท/PDMSน้ำหนักโมเลกุล 20,000(25/40/15/20); ไดเมธิลอะมิโนเอธิล เมธาไครเลท/ไอโซบิวทิลเมธาไตรเลท/PDMS น้ำหนักโมเลกุล 20,000 (10/70/20); ควอเทอร์ไนส์ ไดเมธิลอะมิโนเอธิล เมธาไตรเลท/ไอโซบิวทิล เมธาไครเลท/PDMS น้ำหนัก โมเลกุล 20,000 (40/40/20); แอไครลิคแอซิด/เมธิล เมธาไตรเลท/PDMS น้ำหนักโมเลกุล 20,000 (40/40/20); แอไครลิค แอซิด/ไอโซโพรพิล เมธาไครเลท/PDMS น้ำหนักโมเลกุล 20,000(25/65/10); N,N-ไดเมธิลแอไครแลมีด/เมธอกซิเอธิลเมธาไครเลท/PDMS น้ำหนักโมเลกุล 20,000 (60/25/15) ไดเมธิล แอโครแลมีด / PDMS แมโครเมอร์น้ำหนักโมเลกุล 20,000 (80/20) t-บิวทิลแอไครเลท/ t-บิวทิล เมธาไครแลท/PDMS แมดโครเมอร์ น้ำหนักโมเลกุล 10,000 (56/24/20); t-บิวทิลแอไครเลท/PDMS แมโครเมอร์ น้ำหนัก โมเลกุล 10,000 (80/20); t-บิวทิลแอไครเลท/N,N-ไดเมธิลแอไครแลมีด/PDMS แมโครเมอร์น้ำหนักโมเลกุล 10,000 (70/10/20); t-บิวทิลแอไครเลท/แอไครลิค แอซิด/PDMS แมโครเมอร์ น้ำหนักโมเลกุล 10,000 (75/5/20) และของผสมของสารนั้น 4

4.สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 42 ซึ่งส่วนประกอบรักษาผมที่ว่องไวประกอบด้วยสารปรับสภาพซิลิโคน ซึ่งเลือกได้จากกลุ่มที่ประกอบด้วยสารผรับสภาพที่ประกอบด้วย,โดยนัหนัก; (a) ยางโพลิไดเมธิลไซโลเซนจากประมาณ 0.1% ถึงประมาณ 2.5% (b) ฟูมค์ซิลิกา จากประมาณ 0.02% ถึงประมาณ 0.7% และ (c) พาหะซิลิโคนที่ระเหยได้จากประมาณ 0.4% ถึงประมาณ 18% สารปรับสภาพที่ประกอบด้วย (a) ของเหลวซิลิโคนที่ระเหยได้ซึ่งมีความหนืดที่ 25 ซํ. น้อยกว่าประมาณ 10 เซนติพอยส์; (b) ยางซิลิโคนจากประมาณ 0.5% ถึงประมาณ 2.0% ที่มีความหนืดที่ 25 ซํ สูงกว่าประมาณ 1,000,000 เซนติพอลส์ อัตราส่วนของของเหลวที่ระเหยได้ต่อยางนั้นจากประมาณ 85:15 ถึงประมาณ 50:50; และ สารปรับสภาพที่ประกอบด้วย (a) ของเหลวซิลิโคนที่ระเหยไม่ได้ที่มีความหนืดที่ 25 ซํ. น้อยกว่าประมาณ 100,000 เซนติพอยส์ (b) ยางซิลิโคนจากประมาณ 0.5% ถึงประมาณ 2.0% ที่มีความหนืดที่ 25 ซํ สูงกว่า1,000,000 เซนติพอลส์ที่อัตราส่วนของของเหลวที่ระเหยได้ต่อยางจากประมาณ 60:40 ถึงประมาณ 40:60