TH72011B - ท่อปฏิรูปเชื้อเพลิงสำหรับปฏิรูปไฮโดรเจนจากเชื้อเพลิงแก๊สไฮโดรคาร์บอน - Google Patents

Abstract

------11/01/2562------(OCR) หน้า 1 ของจำนวน 1 หน้าบทสรุปการประดิษฐ์ท่อปฏิรูปเชื้อเพลิงสำหรับปฏิรูปไฮโดรเจนจากเชื้อเพลิงแก๊สไฮโดรคาร์บอน ที่มีการติดตั้งแผ่นกระจายการไหลบริเวณท่อทางไหลเข้าของแก๊ส ทั้งเป็นแบบแยกชั้น และแบบเกลียว เพื่อลดนํ้าหนักการกดทับที่เกิดขึ้นของตัวเร่งปฏิกิริยา และยืดระยะเวลาในการใช้งานของตัวเร่งปฏิกิริยาให้ยาวขึ้น นอกจากนั้น แผ่นกระจายการไหลยังช่วยลดระยะเวลาและเพิ่มความสะดวจในการเปลี่ยนตัวเร่งปฏิกิริยาด้วย ------------ ท่อปฎิรูปเชื้อเพลิงสำหรับปฎิรูปไฮโดรเจนจากเชื้อเพลิงแก๊สไฮโดรคาร์บอน ที่มีการติดตั้งแผ่น กระจายการไหลบริเวณท่อทางไหลเข้าของแก๊ส ทั้งเป็นแบบแยกชั้น และแบบเกลียว เพื่อลดน้ำหนักการกด ทับที่เกิดขึ้นของตัวเร่งปฏิกิริยา และยืดระยะเวลาในการใช้งานของตัวเร่งปฏิกิริยาให้ยาวขึ้น นอกจากนั้น แผ่นกระจายการไหลยังช่วยลดระยะเวลาและเพิ่มความสะดวกในการเปลี่ยนตัวเร่งปฏิกิริยาด้วย

Claims (2)

ข้อถือสิทธฺ์ (ทั้งหมด) ซึ่งจะไม่ปรากฏบนหน้าประกาศโฆษณา :------11/01/2562------(OCR) หน้า 1 ของจำนวน 2 หน้า ข้อถือสิทธิ 1. ท่อปฏิรูปเชื้อเพลิงสำหรับปฏิรูปไฮโดรเจนจากเชื้อเพลิงแก๊สไฮโดรคาร์บอน ด้วยกระบวนการทางความร้อน ประกอบด้วย ท่อปฏิรูปเชื้อเพลิง (1) เชื่อมปิดท้ายด้านล่าง (2) และมีหน้าแปลน (3) เชื่อมยึดติดกับท่ออีกปลายด้านหนึ่งของท่อปฏิรูป (1) สำหรับยึดน๊อตหน้าแปลน (5)ก่อให้เกิดเป็นภาชนะปิด โดยมีท่อทางไหลเข้า (7) และท่อทางไหลออก (8) เป็นช่องทางของแก๊สไหลผ่าน สำหรับท่อทางเข้า (7) จะเป็นท่อยาวลงไปบริเวณส่านล่างของท่อปฏิรูปเชื้อเพลิง (1) เพื่อให้แก๊สกระจายจากด้านล่างขึ้นข้างบน โดยมีลักษณะเฉพาะคือ บริเวณปลายด้านล่างของท่อทางไหลเข้าดังกล่าวมีลักษณะเป็นบ่า ( 12) ที่ซึ่งบ่าดังกล่าวเกี่ยวล็อคอยู่กับแผ่นรองกั้นล่าง (10) โดยแผ่นกั้นด้านล่างดังกล่าวมีลักษณะเป็นแผ่นกลมแบน เชื่อมต่ออยู่กับส่วนที่เป็นท่อทรงกระบอก บริเวณส่วนหนงของส่วนที่เป็นแผ่นกลมแบนและส่วนที่เป็นท่อทรงกระบอกดังกล่าว เจาะรู (9) ไว้1จำนวนหนึ่ง ที่ซึ่งรูดังกล่าวจะทำหน้าที่เป็นรูกระจายแก๊สเชื้อเพลิงไฮโดรคาร์บอน 2. ท่อปฏิรูปเชื้อเพลิงสำหรับปฏิรูปไฮโดรเจนจากเชื้อเพลิงแก๊สไฮโดรคาร์บอน ตามข้อถือสิทธิที่ 1 ที่ซึ่งมีลักษณะเฉพาะคือ บริเวณส่วนหนึ่งของท่อทางไหลเข้า (7) จะมีบ่า (15) เชื่อมประกอบอยู่ โดยบ่าดังกล่าวทำหน้าที่รองรับแผ่นเรียบกั้น (13) โดยแผ่นเรียบกั้นดังกล่าวที่มีลักษณะเป็นแผ่นแบนกลม โดยส่วนหนึ่งของแผ่นดังกล่าวมีรู (14) ประกอบอยู่ โดยรูดังกล่าวทำหน้าที่เป็นรูกระจายแก๊สเชื้อเพลิงไฮโดรคาร์บอน 3. ท่อปฏิรูปเชื้อเพลิงสำหรับปฏิรูปไฮโดรเจนจากเชื้อเพลิงแก๊สไฮโดรคาร์บอน ตามข้อถือสิทธิที่ 1 ที่ซึ่งมีลักษณะเฉพาะคือ บริเวณส่วนหนึ่งของท่อทางไหลเข้า (7) ติดตั้งแผ่นใบเกลียว (16)ที่ซึ่งแผ่นใบเกลียวดังกล่าวเชื่อมยึดติดอยู่กับแนวแกนในลักษณะวนเป็นเกลียวจากด้านบนลงสู่ด้านล่างของท่อ ที่ซึ่งปลายด้านล่างของท่อดังกล่าวมีบ่า (12) เกี่ยวล็อคอยู่กับแผ่นรองกั้นล่าง (10)และบนแผ่นใบเกลียวดังกล่าวถูกเจาะรู (17) ตลอดแนวความยาวของใบเกลียว ที่ซึ่งรูดังกล่าวมีขนาดเล็กกว่าตัวเร่งปฏิกิริยา ชื้งรูดังกล่าวทำหน้าที่เป็นรูกระจายแก๊สไฮโดรคาร์บอน และบริเวณส่วนหนึ่งของแผ่นใบเกลียวดังกล่าวจะมีแผ่นกั้น (18) ประกอบอยู่เป็นช่วงๆ ที่ซึ่งแผ่นกันดังกล่าวจะติดตั้งในแนวตั้ง เพื่อทำหน้าที่แบ่งจำนวนชั้นของตัวเร่งปฏิกิริยา และป้องกันไม่ให้ตัวเร่งปฏิกิริยาลื่นไถลลงมารวมกันบริเวณส่วนล่างของท่อปฏิรูปเชื้อเพลิง จนก่อเกิดการกดทับและสร้างความเสียหายกับตัวเร่งปฏิกิริยาที่อยู่ส่วนล่างสุดหน้า 2 ของจำนวน 2 หน้า 4. ท่อปฏิรูปเชื้อเพลิงตามข้อถือสิทธิที่ 1 ที่ชํ่งตำแหน่งทางไหลเข้า (7) และทางไหลออก (8)ของแก๊ส ถูกติดตั้งบนหน้าแปลน (5) ที่อยู่ด้านบนของท่อปฏิรูปเชื้อเพลิง (1) 5. ท่อปฏิรูปเชื้อเพลิงตามข้อถือสิทธิที่ 2 ที่ชื้งตำแหน่งทางออก (8) ยังรวมถึงการเปลี่ยนตำแหน่งอุดเชื้อมยึดที่บริเวณด้านบนพื้นผิวปลายท่อปฏิรูปเชื้อเพลิง (1) 6. ท่อปฏิรูปเชื้อเพลิงตามข้อถือสิทธิที่ 1 ที่ชื้งตำแหน่งทางไหลเข้า (7) และทางไหลออก (8)สามารถสลับตำแหน่งชํ่งกันและกันได้ 7. ท่อปฏิรูปเชื้อเพลิงตามข้อถือสิทธิที่ 1 ที่ชื้งขนาดเลันผ่าศูนย์กลาง และความยาวของท่อปฏิรูปเชื้อเพลิง (1) ชื้นอยู่กับขนาดกำลังการผลิตไฮโดรเจน 8. ท่อปฏิรูปเชื้อเพลิงตามข้อถือสิทธิที่ 1 หรือ 2 ที่ชํ่งขนาดเน้นผ่าศูนย์กลางและจำนวนของ รูเจาะ (9) สำหรับแผ่นรองกั้นล่าง (10) และขนาดเน้นผ่าศูนย์กลางและจำนวนของรูเจาะ (14) สำหรับแผ่นเรืยบกั้น (13) ชื้นอยู่เหมาะสมที่ไม,ทำให้ตัวเร่งปฏิกิริยารอดผ่านไปได้ 9. ท่อปฏิรูปเชื้อเพลิงตามข้อถือสิทธิที่ 2 ที่ซงจำนวนแผ่นเรยบกั้น (13) ชื้นอยู่กับความยาวท่อปฏิรูปเชื้อเพลิง (1)1 0. ท่อปฏิรูปเชื้อเพลิงตามข้อถือสิทธิที่ 3 ที่ชํ่งระยะห่างระหว่างใบเกลียวและความหนาของ ใบเกลียว (16) ชื้นอยู่กับความยาวท่อปฏิรูปเชื้อเพลิง (1)1 1. ท่อปฏิรูปเชื้อเพลิงตามข้อถือสิทธิที่ 3 ที่ชํ่งความสูงของแผ่นกั้นการลื่นไถล (18) มีความสูงอย่างน้อยครํ่งหนื่งของระยะห่างใบเกลียว (16) แต่ไม่สูงมากจนปิดช่องทางการไหลของแก๊สตามแนวเกลียว1 2. ท่อปฏิรูปเชื้อเพลิงตามข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 3ข้อใดข้อหนื่งที่ซงวัสดุที่ใช้เป็นวัสดุชนิด เดียวกันที่สามารถทำงานที่อุณหภูมิสูงได้เพื่อฟ้องกันการขยายตัวของวัสดุที่ไม่เท่ากัน เนื่องจากผลของอุณหภูมิ ------------ 1. ท่อปฎิรูปเชื้อเพลิงสำหรับปฎิรูปไฮโดรเจนจากเชื้อเพลิงแก๊สไฮโดรคาร์บอน ด้วย กระบวนการทางความร้อน ประกอบด้วย ท่อปฏิกิริยาเชื้อเพลิง (1) เชื่อมปิดท้ายด้านล่าง (2) และมีหน้า แปลน (3) เชื่อมยึดติดกับท่ออีกปลายด้านหนึ่งของท่อปฏิรูป (1) สำหรับยึดน๊อตหน้าแปลน (5) ก่อให้เกิดเป็นภาชนะปิด โดยมีท่อทางไหลเข้า (7) และท่อทางไหลออก (8) เป็นช่องทางของแก๊สไหล ผ่าน สำหรับท่อทางเข้า (7)จะเป็นท่อยาวลงไปบริเวณส่วนล่างของท่อปฏิกิริยาเชื้อเพลิง (1) เพื่อให้แก๊ส กระจายจากด้านล่างขึ้นข้างบน โดยมีลักษณะพิเศษ คือ บริเวณด้านปลายล่างของท่อทางไหลเข้าดังกล่าวมีลักษณะเป็นบ่า (12) ที่ซึ่งบ่าดังกล่าว เกี่ยวล็อคอยู่กับแผ่นรองกั้นล่าง (10) โดยแผ่นกั้นด้านล่างดังกล่าวมีลักษณะเป็นแผ่นแบนกลม เชื่อมต่อ อยู่กับส่วนที่เป็นท่อทรงกระบอก บริเวณส่วนหนึ่งของส่วนที่เป็นแผ่นกลมแบนและส่วนที่เป็นท่อ ทรงกระบอกดังกล่าว เจาะรู (9) ไว้จำนวนหนึ่ง ที่ซึ่งรูดังกล่าวจะทำหน้าที่เป็นรูกระจายแก๊สเชื้อเพลิง ไฮโดรคาร์บอน 2. ท่อปฏิรูปเชื้อเพลิงสำหรับปฏิรูปไฮโดรเจนจากเชื้อเพลิงแก๊สไฮโดรคาร์บอน ตามข้อถือ สิทธิที่ 1 ที่ซึ่งมีลักษณะเฉพาะคือ บริเวณส่วนหนึ่งของท่อทางไหลเข้า (7) จะมีบ่า (15) เชื่อมประกอบ อยู่ โดยบ่าดังกล่าวทำหน้าที่รองรับแผ่นเรียบกั้น (13) โดยแผ่นเรียบกั้นดังกล่าวที่มีลักษณะเป็นแผ่น แบนกลม โดยส่วนหนึ่งของแผ่นดังกล่าวมีรู (14) ประกอบอยู่ โดยรูดังกล่าวทำหน้าที่เป็นรูกระจาย แก๊สเชื้อเพลิงไฮโดรคาร์บอน 3. ท่อปฏิรูปเชื้อเพลิงสำหรับปฏิรูปไฮโดรเจนจากเชื้อเพลิงแก๊สไฮโดรคาร์บอน ตามข้อถือ สิทธิที่ 1 ที่ซึ่งมีลักษณะเฉพาะคือ บริเวณส่วนหนึ่งของท่อทางไหลเข้า (7) ติดตั้งแผ่นใบเกลียว (16) ที่ ซึ่งแผ่นใบเกลียวดังกล่าวเชื่อมยึดติดอยู่กับแนวแกนในลักษณะวนเป็นเกลียวจากด้านบนลงสู่ด้านล่าง ของท่อ ที่ซึ่งปลายด้านล่างของท่อดังกล่าวมีบ่า (12) เกี่ยวล็อคอยู่กับแผ่นรองกั้นล่าง (10) และบนแผ่น ใบเกลียวดังกล่าวถูกเจาะรู (17) ตลอดแนวความยาวของใบเกลียว ที่ซึ่งรูดังกล่าวมีขนาดเล็กกว่าตัวเร่ง ปฏิกิริยา ซึ่งรูดังกล่าวทำหน้าที่เป็นรูกระจายแก๊สไฮโดรคาร์บอน และบริเวณส่วนหนึ่งของแผ่นใบเกลียวดังกล่าวจะมีแผ่นกั้น (18) ประกอบอยู่เป็นช่วงๆ ที่ ซึ่งแผ่นกันดังกล่าวจะติดตั้งในแนวตั้ง เพื่อทำหน้าที่แบ่งจำนวนชั้นของตัวเร่งปฏิกิริยา และป้องกัน ไม่ให้ตัวเร่งปฏิกิริยาลื่นไถลลงมารวมกันบริเวณส่วนล่างของท่อปฏิรูปเชื้อเพลิง จนก่อเกิดการกดทับ และสร้างความเสียหายกับตัวเร่งปฏิกิริยาที่อยู่ส่วนล่างสุด 4. ท่อปฏิรูปเชื้อเพลิงตามข้อถือสิทธิที่ 1 ที่ซึ่งตำแหน่งทางไหลเข้า (7) และทางไหลออก (8) ของแก๊ส ถูกติดตั้งบนหน้าแปลน (5) ที่อยู่ด้านบนของท่อปฏิรูปเชื้อเพลิง (1) 5. ท่อปฏิรูปเชื้อเพลิงตามข้อถือสิทธิที่ 2 ที่ซึ่งตำแหน่งทางไหลออก (8) ยังรวมถึงการเปลี่ยน ตำแหน่งจุดเชื่อมยึดที่บริเวณด้านบนพื้นผิวปลายท่อปฏิรูปเชื้อเพลิง (1) 6. ท่อปฏิรูปเชื้อเพลิงตามข้อถือสิทธิที่ 1 ที่ซึ่งตำแหน่งทางไหลเข้า (7) และทางไหลออก (8) สามารถสลับตำแหน่งซึ่งกันและกันได้ 7. ท่อปฏิรูปเชื้อเพลิงตามข้อถือสิทธิที่ 1 ที่ซึ่งขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของท่อ ปฏิรูปเชื้อเพลิง (1) ขึ้นอยู่กับขนาดกำลังการผลิตไฮโดรเจน 8. ท่อปฏิรูปเชื้อเพลิงตามข้อถือสิทธิที่ 1 และ 2 ที่ซึ่งขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางและจำนวนของ รูเจาะ (9) สำหรับแผ่นรองกั้นล่าง (10) และขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางและจำนวนของรูเจาะ (14) สำหรับ แผ่นเรียบกั้น (13) ขึ้นอยู่เหมาะสมที่ไม่ทำให้ตัวเร่งปฏิกิริยารอดผ่านไปได้ 9. ท่อปฏิรูปเชื้อเพลิงตามข้อถือสิทธิที่ 2 ที่ซึ่งจำนวนแผ่นเรียบกั้น (13) ขึ้นอยู่กับความยาวท่อ ปฏิรูปเชื้อเพลิง (1) 1 0. ท่อปฏิรูปเชื้อเพลิงตามข้อถือสิทธิที่ 1 ที่ซึ่งระยะห่างระหว่างใบเกลียวและความหนาของ ใบเกลียว (16) ขึ้นอยู่กับความยาวท่อปฏิรูปเชื้อเพลิง (1) 1

1. ท่อปฏิรูปเชื้อเพลิงตามข้อถือสิทธิที่ 3 ที่ซึ่งความสูงของแผ่นกั้นการลื่นไถล (18) มีความ สูงอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของระยะห่างใบเกลียว (16) แต่ไม่สูงมากจนปิดช่องทางการไหลของแก๊สตาม แนวเกลียว 1

2. ท่อปฏิรูปเชื้อเพลิงตามข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 3 ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่งวัสดุที่ใช้ เป็นวัสดุชนิด เดียวกันที่สามารถทำงานที่อุณหภูมิสูงได้ เพื่อป้องกันการขยายตัวของวัสดุที่ไม่เท่ากัน เนื่องจากผลของ อุณหภูมิ