TH51620B - กรรมวิธีสำหรับการเตรียมราเซมิกซิทาโลแพรม และ/หรือ s- หรือ r-ซิทาโลแพรมด้วยการแยกของของผสมของ r- และ s- ซิทาโลแพรม - Google Patents

กรรมวิธีสำหรับการเตรียมราเซมิกซิทาโลแพรม และ/หรือ s- หรือ r-ซิทาโลแพรมด้วยการแยกของของผสมของ r- และ s- ซิทาโลแพรม

Info

Publication number
TH51620B
TH51620B TH201002317A TH0201002317A TH51620B TH 51620 B TH51620 B TH 51620B TH 201002317 A TH201002317 A TH 201002317A TH 0201002317 A TH0201002317 A TH 0201002317A TH 51620 B TH51620 B TH 51620B
Authority
TH
Thailand
Prior art keywords
citalopram
choose
crystallization
solution
process according
Prior art date
Application number
TH201002317A
Other languages
English (en)
Other versions
TH60701A (th
Inventor
วอลส์การ์ด คริสเทนเซน นายโทรเอลส์
ดันเซอร์ นายโรเบิร์ต
นีลเซน นายโอเล
ฮารอลด์ ร็อค นายไมเคิล
อีวา ฮุมเบิล นายริคเก
ปีเตอร์เซน นายฮันส์
Original Assignee
นายจักรพรรดิ์ มงคลสิทธิ์
นายจักรพรรดิ์ มงคลสิทธิ์ นายบุญมา เตชะวณิช นายต่อพงศ์ โทณะวณิก นายวิรัช ศรีเอนกราธา
นายต่อพงศ์ โทณะวณิก
นายบุญมา เตชะวณิช
นายวิรัช ศรีเอนกราธา
Filing date
Publication date
Application filed by นายจักรพรรดิ์ มงคลสิทธิ์, นายจักรพรรดิ์ มงคลสิทธิ์ นายบุญมา เตชะวณิช นายต่อพงศ์ โทณะวณิก นายวิรัช ศรีเอนกราธา, นายต่อพงศ์ โทณะวณิก, นายบุญมา เตชะวณิช, นายวิรัช ศรีเอนกราธา filed Critical นายจักรพรรดิ์ มงคลสิทธิ์
Publication of TH60701A publication Critical patent/TH60701A/th
Publication of TH51620B publication Critical patent/TH51620B/th

Links

Abstract

DC60 (05/04/55) การประดิษฐ์นี้เกี่ยวข้องกับกรรมวิธีสำหรับการเตรียมของเบสอิสระราเซมิกซิทาโลแพรม (racemic citalopram) หรือเกลือแอซิดแอดดิชันของสิ่งดังกล่าว และ/หรือ R- หรือ S-ซิทาโลแพรม เป็นเบสอิสระ หรือเกลือแอซิดแอดดิชันของสิ่งดังกล่าว โดยการแยกของของผสมของ R- หรือ S- ซิทาโลแพรม ที่มีอิแนนทิโอเมอร์หนึ่งชนิด มากกว่า 50% ให้เป็นส่วนที่ประกอบด้วยของราเซมิก ซิทาโลแพรม และ/หรือ ส่วนของ S-ซิทาโลแพรม หรือ R-ซิทาโลแพรม ซึ่งมีลักษณะเฉพาะที่ว่า i) ซิทาโลแพรมจะตกตะกอนจากตัวทำละลายเป็นเบสอิสระ หรือเป็นเกลือแอซิด แอดดิชันของสิ่งดังกล่าว ii) ตะกอนที่เกิดขึ้นถูกแยกออกจากสารละลายหลังตกผลึก (mother liquor) iia) ถ้าตะกอนเป็นผลึก อาจเลือกให้มันถูกตกผลึกอีกครั้ง หรือหลายครั้ง เพื่อ เกิดเป็นราเซมิกซิทาโลแพรม และหลังจากนั้น อาจเลือกให้ถูกเปลี่ยนรูป ไปเป็นเกลือแอซิดแอดดิชันของสิ่งดังกล่าว iib) ถ้าตะกอนไม่เป็นผลึก อาจเลือกให้ทำซ้ำขั้นตอน i) และ ii) จนกระทั่งได้ ตะกอนผลึก และตะกอนผลึกถูกตกผลึกอีกครั้ง หรือหลายครั้ง เพื่อเกิดเป็น ราเซมิกซิทาโลแพรม และหลังจากนั้นอาจเลือกให้ถูกเปลี่ยนรูปไปเป็นเกลือ แอซิดแอดดิชันของสิ่งดังกล่าว iii) สารละลายหลังตกผลึก อาจเลือกให้ถูกทำให้บริสุทธิ์ต่อไป และแยก S-ซิทาโลแพรม หรือ R-ซิทาโลแพรมออกจากสารละลายหลังตกผลึก และอาจเลือกให้ถูกเปลี่ยนรูป ไปเป็นเกลือแอซิดแอดดิชันของสิ่งดังกล่าว การประดิษฐ์นี้เกี่ยวข้องกับกรรมวิธีสำหรับการเตรียมของเบสอิสระราซามิกซิทาโลแพรม หรือเกลือแอซิดแอดดิชันของสิ่งดังกล่าว และ/หรือ R- หรือ S-ซิทาโลแพรม เป็นเบสอิสระ หรือเกลือ แอซิดแอดดิชันของสิ่งดังกล่าว โดยการแยกของของผสมของ R- หรือ S-ซิทาโลแพรม ที่มี อิแนนทิโอเมอร์หนึ่งชนิด มากกว่า 50% ให้เป็นส่วนที่ประกอบด้วยราซามิกซิทาโลแพรม และ/หรือ ส่วนของ S-ซิทาโลแพรม หรือ R-ซิทาโลแพรม ที่มีลักษณะที่ว่า i) ซิทาโลแพรมตกตะกอนจากตัวทำละลายเป็นเบสอิสระ หรือเป็นเกลือแอซิด แอดดิชันของสิ่งดังกล่าว ii) ตะกอนที่เกิดขึ้นถูกแยกออกจากสารละลายหลังตกผลึก(mother liquor) iia) ถ้าตะกอนเป็นผลึก อาจเลือกให้มันถูกตกผลึกอีกครั้ง หรือหลาครั้ง เพื่อ เกิดเป็นราซามิกซิทาโลแพรม และหลังจากนั้น อาจเลือกให้ถูกเปลี่ยนรูป ไปเป็นเกลือแอซิดแอดดิชันของสิ่งดังกล่าว iib) ถ้าตะกอนไม่เป็นผลึก อาจเลือกให้ทำซ้ำขั้นตอน i) และii) จนกระทั่งได้ ตะกอนผลึก และตะกอนผลึกถูกตกผลึกอีกครั้ง หรือหลายครั้ง เพื่อเกิดเป็น ราซามิกซิทาโลแพรม และหลังจากนั้นอาจเลือกให้ถูกเปลี่ยนรูปไปเป็น เกลือแอซิดแอดดิชันของสิ่งดังกล่าว iii) สารละลายหลังตกผลึก อาจเลือกให้ถูกทำให้บริสุทธิ์ต่อไป และแยก S-ซิทาโลแพรม หรือ R-ซิทาโลแพรมออกจากสารละลายหลังตกผลึก และอาจเลือกให้ถูกเปลี่ยนรูป ไปเป็นเกลือแอซิดแอดดิชันของสิ่งดังกล่าว สิทธิบัตรยา

Claims (9)

1. กรรมวิธีสำหรับการเตรียมเบสอิสระราซามิกซิทาโลแพรม หรือเกลือแอซิดแอดดิชันของ สิ่งดังกล่าว และ/หรือ R- หรือ S-ซิทาโลแพรม เป็นเบสอิสระ หรือเกลือแอซิดแอดดิชันของสิ่ง ดังกล่าว โดยการแยกของของผสมของ R- หรือ S-ซิทาโลแพรม ที่มีอิแนนทิโอเมอร์หนึ่งชนิด มากกว่า 50% ให้เป็นส่วนที่ประกอบด้วยราซามิกซิทาโลแพรม และ/หรือส่วนของ S-ซิทาโลแพรม หรือ R-ซิทาโลแพรม ที่มีลักษณะที่ว่า i) ซิทาโลแพรมตกตะกอนจากตัวทำละลายเป็นเบสอิสระ หรือเป็นเกลือแอซิด แอดดิชันของสิ่งดังกล่าว ii) ตะกอนที่เกิดขึ้นถูกแยกออกจากสารละลายหลังตกผลึก (mother liquor) iia) ถ้าตะกอนเป็นผลึก อาจเลือกให้มันถูกตกผลึกอีกครั้งหรือหลายครั้ง เพื่อ เกิดเป็นราซามิกซิทาโลแพรม และหลังจากนั้น อาจเลือกให้ถูกเปลี่ยนรูป ไปเป็นเกลือแอซิดแอดดิชันของสิ่งดังกล่าว iib) ถ้าตะกอนไม่เป็นผลึก อาจเลือกให้ทำซ้ำขั้นตอน i) และii) จนกระทั่งได้ ตะกอนผลึก และตะกอนผลึกถูกตกผลึกอีกครั้ง หรือหลายครั้ง เพื่อเกิดเป็น ราซามิกซิทาโลแพรม และหลังจากนั้น อาจเลือกให้ถูกเปลี่ยนรูปไปเป็น เกลือแอซิดแอดดิชันของสิ่งดังกล่าว iii) สารละลายหลังตกผลึกอาจเลือกให้ถูกทำให้บริสุทธิ์ต่อไป และแยก S-ซิทาโลแพรม หรือ R-ซิทาโลแพรมออกจากสารละลายหลังตกผลึก และอาจเลือกให้ถูกเปลี่ยนรูป ไปเป็นเกลือแอซิดแอดดิชันของสิ่งดังกล่าว
2. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1 สำหรับการเตรียมของ S-ซิทาโลแพรม หรือ R- ซิทาโลแพรมที่มีลักษณะที่ว่า i) ซิทาโลแพรมในของผสมของ R- และ S-ซิทาโลแพรม ตกตะกอนจากตัวทำละลาย เป็นเบสอิสระ หรือเกลือแอซิดแอดดิชันของสิ่งดังกล่าว ii) ตะกอนที่เกิดขึ้นถูกแยกออกจากสารละลายหลังตกผลึก และ iii) สารละลายหลังตกผลึกอาจเลือกให้ถูกทำให้บริสุทธิ์ต่อไป และแยก S-ซิทาโลแพรม หรือ R-ซิทาโลแพรมออกจากสารละลายหลังตกผลึก และอาจเลือกให้ถูกเปลี่ยนรูป ไปเป็นเกลือแอซิดแอดดิชันของสิ่งดังกล่าว
3. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1 สำหรับการเตรียมของราซามิกซิทาโลแพรมที่มีลักษณะที่ ว่า i) ซิทาโลแพรมในชองผสมของ R-และ S- ซิทาโลแพรามตกตะกอนจากตัวทำละลาย เป็นเบสอิสระ หรือเป็นเกลือแอซิดแอดดิชันของสิ่งดังกล่าว ii) ตะกอนที่เกิดขึ้นถูกแยกออกจากสารละลายหลังตกผลึก iia) ถ้าตะกอนเป็นผลึก อาจเลือกให้มันถูกตกผลึกอีกครั้ง หรือหลายครั้ง เพื่อ เกิดเป็นราซามิกซิทาโลแพรม และหลังจากนั้นอาจเลือกให้ถูกเปลี่ยนรูปไป เป็นเกลือแอซิดแอดดิชันของสิ่งดังกล่าว iib) ถ้าตะกอนไม่เป็นผลึก อาจเลือกให้ทำซ้ำขั้นตอน i) และii) จนกระทั่งได้ ตะกอนผลึก และตะกอนผลึกถูกตกผลึกอีกครั้ง หรือหลายครั้ง เพื่อเกิดเป็น ราซามิกซิทาโลแพรม และหลังจากนั้นอาจเลือกให้ถูกเปลี่ยนรูปไปเป็น เกลือแอซิดแอดดิชันของสิ่งดังกล่าว
4. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1-3 ข้อใดข้อหนึ่งที่มีลักษณะที่ว่ากรดที่ใช้สำหรับการ เตรียมของซิทาโลแพรมในขั้นตอนที่ i) คือ กรด ซึ่งทำให้ของผสมของ R- และS-อิแนนทิโอเมอร์ ตกตะกอน และเหลือสารละลายหลังตกผลึกที่เต็มไปด้วยอิแนนทิโอเมอร์ S- หรือ R- ของ ซิทาโลแพรม
5. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1-4 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งเกลือตกตะกอนอยู่ในรูปในขั้นตอน i) คือ เกลือไฮโดรโบรไมด์ที่ควรใช้ในรูปผลึก
6. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1-4 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งเบสอิสะรตกตะกอน ในขั้นตอน i)
7. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1-3 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะที่ว่าของผสมของ R- และ S- ซิทาโลแพรม มี S-ซิทาโลแพรม มากกว่า 50% หรือที่ควรใช้มากกว่า S- ซิทาโลแพรม มากกว่า 90%
8. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1-2 หรือ 4-7 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะที่ว่าของผสมของ S- ซิทาโลแพรมถูกแยกออกจากสารละลายหลังตกผลึกด้วยการระเหยและหลังจากนั้น อาจเลือกให้ถูก เปลี่ยนรูปไปเป็นเกลือแอซิดแอดดิชันของสิ่งดังกล่าวที่ควรใช้เกลือออกซาเลท
9. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1-2 หรือ 4-7 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะที่ว่าสารละลายหลัง ตกผลึกเป็นกรด และ S-ซิทาโลแพรมถูกแยกออกจากสารละลายหลังตกผลึกด้วยการทำให้สารละลาย หลังตกผลึกเป็นเบส ตามด้วยการแยกวัฏภาค หรือการสกัดด้วยตัวทำละลาย และการระเหยออกของ ตัวทำละลาย และหลังจากนั้นอาจเลือกให้มีการเปลี่ยนรูปของ S-ซิทาโลแพรม ไปเป็นเกลือแอซิด แอดดิชันของสิ่งดังกล่าวที่ควรใช้เกลือออกซาเลท 1
0. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1-2 หรือ 4-9 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งสารละลายหลังตกผลึกถูกทำ ให้ตกตะกอนของซิทาโลแพรมอีกครั้งหนึ่ง หรือหลายครั้ง ดังที่ได้บรรยายไว้ในขั้น i)ก่อนการแยก ของ R- หรือ S- ซิทาโลแพรมออกจากสารละลายหลังตกผลึก 1
1. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1-9 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะที่ว่าของผสมของ R- และ S- ซิทาโลแพรมที่มี S-อิแนนทิโอเมอร์ มากกว่า 50% ถูกเตรียมขึ้นจากของผสมของ R- และ S-4-[4- (ไดเมทิลอะมิโน)-1-(4\'-ฟลูออโรเฟนิล)-1-ไฮดรอกซิบิวทิล]-3-(ไฮดรอกซิเมทิล)-เบนโซไนไทรล์ ที่มี S-อิแนนทิโอเมอร์มากกว่า 50% ด้วยการเกิดของหมู่เอสเทอร์ที่ไว และหลังจากนั้นเกิดการปิดวงใน สภาพที่เป็นเบส 1
2. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1-9 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะที่ว่าของผสมของ R- และ S- ซิทาโลแพรมที่มี R-อิแนนทิโอเมอร์ มากกว่า 50% ถูกเตรียมขึ้นจากของผสมของ R- และ S-4-[4- (ไดเมทิลอะมิโน)-1-(4\'-ฟลูออโรเฟนิล)-1-ไฮดรอกซิบิวทิล]-3-(ไฮดรอกซิเมทิล)-เบนโซไนไทรล์ ที่มี R-อิแนนทิโอเมอร์มากกว่า 50% ด้วยการเกิดของหมู่เอสเทอร์ที่ไว และหลังจากนั้นเกิดการปิดวงใน สภาพที่เป็นเบส 1
3. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1-9 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะที่ว่าของผสมของ R- และ S- ซิทาโลแพรมที่มี S-อิแนนทิโอเมอร์ มากกว่า 50% ถูกเตรียมขึ้นจากของผสมของ R- และ S-4-[4- (ไดเมทิลอะมิโน)-1-(4\'-ฟลูออโรเฟนิล)-1-ไฮดรอกซิบิวทิล]-3-(ไฮดรอกซิเมทิล)-เบนโซไนไทรล์ ที่มี R-อิแนนทิโอเมอร์ มากกว่า 50% ด้วยการปิดวงโดยมีกรดอยู่ด้วย 1
4. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1-9 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะที่ว่าของผสมของ R- และ S- ซิทาโลแพรมที่มี R-อิแนนทิโอเมอร์ มากกว่า 50% ถูกเตรียมขึ้นจากของผสมของ R- และ S-4-[4- (ไดเมทิลอะมิโน)-1-(4\'-ฟลูออโรเฟนิล)-1-ไฮดรอกซิบิวทิล]-3-(ไฮดรอกซิเมทิล)-เบนโซไนไทรล์ ที่มี S-อิแนนทิโอเมอร์มากกว่า 50% ด้วยการปิดวงโดยมีกรดอยู่ด้วย 1
5. กรรมวิธีสำหรับการเตรียมของของผสมของ R- และ S-ซิทาโลแพรม ที่มี S- อิแนนทิโอเมอร์ มากกว่า 50% ซึ่งมีลักษณะที่ว่าของผสมของ R- และ S-4-[4-(ไดเมทิลอะมิโน)-1- (4\'-ฟลูออโรเฟนิล)-1-ไฮดรอกซิบิวทิล]-3-(ไฮดรอกซิเมทิล)-เบนโซไนไทรล์ที่มี R-อิแนนทิโอเมอร์ มากกว่า 50% ด้วยการปิดวงโดยมีกรดอยู่ด้วย 1
6. กรรมวิธีสำหรับการเตรียมของของผสมของ R- และ S- ซิทาโลแพรม ที่มี R- อิแนนทิโอเมอร์ มากกว่า 50% ซึ่งมีลักษณะที่ว่าของผสมของ R- และ S-4-[4-(ไดเมทิลอะมิโน)-1- (4\'-ฟลูออโรเฟนิล)-1-ไฮดรอกซิบิวทิล]-3-(ไฮดรอกซิเมทิล)-เบนโซไนไทรล์ ที่มี S-อิแนนทิโอเมอร์ มากกว่า 50% ได้รับการปิดวงโดยมีกรดอยู่ด้วย 1
7. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อที่ 12,13 หรือ 15 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะที่ว่าสารตั้งต้นมี มากกว่า 90% ของ R-4-[4-(ไดเมทิลอะมิโน)-1-(4\'-ฟลูออโรเฟนิล)-1-ไฮดรอกซิบิวทิล]-3-(ไฮดรอกซิ เมทิล)-เบนโซไนไทรล์ เมื่อเปรียบเทียบกับที่มี S-4-[4-(ไดเมทิลอะมิโน)-1-(4\'-ฟลูออโรเฟนิล)-1- ไฮดรอกซิบิวทิล]-3-(ไฮดรอกซิเมทิล)-เบนโซไนไทรล์ 1
8. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อที่ 17 ซึ่งมีลักษณะที่ว่าความบริสุทธิ์ด้านอิแนนทิโอเมอริกของ สารตั้งต้นR-4-[4-(ไดเมทิลอะมิโน)-1-(4\'-ฟลูออโรเฟนิล)-1-ไฮดรอกซิบิวทิล]-3-(ไฮดรอกซิเมทิล)- เบนโซไนไทรล์ มากกว่า 90% 1
9. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อที่ 13-16 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะที่ว่ากรดที่ใช้ในปฏิกิริยา การปิดวง คือกรดแร่, กรดคาร์บอกซิลิก หรือกรดซัลโฟนิก หรืออนุพันธ์ 2
0. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อที่ 19 ซึ่งมีลักษณะที่ว่ากรด คือ H2SO4 หรือ H3PO4
TH201002317A 2002-06-24 กรรมวิธีสำหรับการเตรียมราเซมิกซิทาโลแพรม และ/หรือ s- หรือ r-ซิทาโลแพรมด้วยการแยกของของผสมของ r- และ s- ซิทาโลแพรม TH51620B (th)

Publications (2)

Publication Number Publication Date
TH60701A TH60701A (th) 2004-02-06
TH51620B true TH51620B (th) 2016-09-29

Family

ID=

Similar Documents

Publication Publication Date Title
KR100902530B1 (ko) R- 및 s-시탈로프람의 혼합물의 분리에 의한 라세미시탈로프람 및/또는 s- 또는 r-시탈로프람의 제조 방법
JP2004536093A5 (ja) R−及びs−シタロプラムの混合物を分離することによってラセミシタロプラム及びs−もしくはr−シタロプラムを製造する方法
IS2862B (is) Aðferð fyrir framleiðsluna á rasemísku sítalópramdíóli og/eða S- eða R- sítalópramdíólum og notkun slíkra díóla fyrir framleiðsluna á rasemísku sítalóprami, R-sítalóprami og/eða S-sítalóprami
TH51620B (th) กรรมวิธีสำหรับการเตรียมราเซมิกซิทาโลแพรม และ/หรือ s- หรือ r-ซิทาโลแพรมด้วยการแยกของของผสมของ r- และ s- ซิทาโลแพรม
TH60701A (th) กรรมวิธีสำหรับการเตรียมราเซมิกซิทาโลแพรม และ/หรือ s- หรือ r-ซิทาโลแพรมด้วยการแยกของของผสมของ r- และ s- ซิทาโลแพรม
ZA200504715B (en) A process for the preparation of racemic citalopram diol and/or S- or R- citalopram diols and the use of such diols for the preparation of racemic citalopram, R-citalopram and/or S-citalopram
AU2002344948B8 (en) Process for the preparation of racemic citalopram and/or S- or R-citalopram by separation of a mixture of R- and S-citalopram
AU2002344948A1 (en) Process for the preparation of racemic citalopram and/or S- or R-citalopram by separation of a mixture of R- and S-citalopram