TH41108B - การเคลือบด้วยอะครีลิค อิมัลชั่น สำหรับวัตถุประเภทยาง - Google Patents

การเคลือบด้วยอะครีลิค อิมัลชั่น สำหรับวัตถุประเภทยาง

Info

Publication number
TH41108B
TH41108B TH9601000405A TH9601000405A TH41108B TH 41108 B TH41108 B TH 41108B TH 9601000405 A TH9601000405 A TH 9601000405A TH 9601000405 A TH9601000405 A TH 9601000405A TH 41108 B TH41108 B TH 41108B
Authority
TH
Thailand
Prior art keywords
copolymer
acrylic
approximately
emulsion
base
Prior art date
Application number
TH9601000405A
Other languages
English (en)
Other versions
TH24212A (th
TH24212B (th
Inventor
อีแวนลี นาย
Original Assignee
นาย ปิยะทัศน์จูฑะพุทธิ
นายปิยะทัศน์ จูฑะพุทธิ
นายปิยะทัศน์ จูฑะพุทธิ นายปิยะทัศน์ จูฑะพุทธิ นาย ปิยะทัศน์จูฑะพุทธิ
Filing date
Publication date
Application filed by นาย ปิยะทัศน์จูฑะพุทธิ, นายปิยะทัศน์ จูฑะพุทธิ, นายปิยะทัศน์ จูฑะพุทธิ นายปิยะทัศน์ จูฑะพุทธิ นาย ปิยะทัศน์จูฑะพุทธิ filed Critical นาย ปิยะทัศน์จูฑะพุทธิ
Publication of TH24212A publication Critical patent/TH24212A/th
Publication of TH24212B publication Critical patent/TH24212B/th
Publication of TH41108B publication Critical patent/TH41108B/th

Links

Abstract

วัตถุประเภทยางที่เคลือบด้วยโพลีเมอร์ที่เป็นผงอิสระ ที่ซึ่งผิวหน้าด้านหนึ่ง เป็นอย่างน้อยที่สุด ของวัตถุประเภทยาง จะถูกเคลือบด้วยอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ ที่มีอะครีลิคเป็นฐาน แบบไม่เหนียวเกาะ ที่เกิดจากกระบวนการทำให้เป็นโพลีเมอร์ของโมโนเมอร์ที่มีพลังงานที่ผิวต่ำ อย่างน้อยที่สุดหนึ่งตัว และอัลคิล อะครีเลท อย่างน้อยที่สุดหนึ่งตัว และโมโนเมอร์แข็ง อย่างน้อยที่สุด หนึ่งตัว ในรูปแบบที่ดีแล้ว โคโพลีเมอร์ จะทำจากกระบวนการโพลีเมอร์ไรเซซั่น ตามลำดับกัน ส่วนที่ เคลือบด้วยโพลีเมอร์สามารถเหยียดได้โดยตัวยาง จะไม่มีการปริแยกแต่อย่างใด

Claims (9)

ข้อถือสิทธฺ์ (ทั้งหมด) ซึ่งจะไม่ปรากฏบนหน้าประกาศโฆษณา :
1. วัตถุเคลือบทับ ที่ซึ่งประกอบด้วย วัตถุขึ้นรูปในสุญญากาศ ที่บนตัวมัน มีส่วนเคลือบอ่อน ไม่เหนียวของอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ ของ โมโนเมอร์ มีพลังงานผิวต่ำ ที่ทำให้เป็นโคโพลีเมอร์ได้ชนิดหนึ่ง เป็นอย่างน้อยที่สุด จาก 0.7 ถึง 20% โดยน้ำหนักที่เลือกมาจากหมู่ที่ประกอบด้วย ซิลิโคนปฏิกิริยา, ฟลูโอโรคาร์บอน และเอสเตอร์ของกรดไขมัน ที่มีฟังก์ชั่นนอลลิตี้ ที่เลือกมาจากหมู่ที่ประกอบด้วย ไวนิล,อะครีลิค และ เมทาครีลิค และอัลคิล อะครีเลท ชนิดหนึ่ง เป็นอย่างน้อยที่สุด ที่มีอะตอมของ คาร์บอนในหมู่อัลคิลจาก 1 ถึง 10 อะตอม จาก 30 ถึง 85% โดยน้ำหนัก และปรับสมดุลด้วย โมโนเมอร์ ที่ประกอบด้วย โมโนเมอร์แข็ง โดยโมโนเมอร์แข็งดังกล่าวนี้ เมื่อมันอยู่ในสถานะของ โฮโมโพลีเมอร์ มันจะมีอุณหภูมิที่จุดกลาสทรานซิชั่นมากกว่า 25 องศาเซลเซียส และจะมีปริมาณเพียงพอ ต่อการสร้างอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ที่ไม่เหนียว
2.ส่วนประกอบตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 1 ที่ซึ่ง โมโนเมอร์แบบที่มีพลังงานที่ผิวหน้าต่ำที่ทำให้เป็นโคโพลีเมอร์ ได้เป็นซิลิโคน โอลิโกเมอร์ แบบที่ทำให้เป็นโคโพลีเมอร์ได้
3.ส่วนประกอบตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 1 หรือ 2 ข้อใดข้อหนึ่งที่ซึ่งโมโนเมอร์แบบที่มีพลังงานที่ผิวหน้าต่ำที่ ทำให้เป็นโคโพลีเมอร์ได้ จะมีอยู่ในปริมาณจากประมาณ 1 ถึง ประมาณ 15% โดยน้ำหนักของโคโพลีเมอร์ที่มีอะครีลิคเป็นฐาน
4.ส่วนประกอบตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 1,2 หรือ 3 ข้อใดข้อหนึ่งที่ซึ่ง อัลคิล อะครีลิค จะถูกเลือกจากกลุ่มที่ ประกอบด้วย เมทิล อะครีลิค, บูทิล อะครีเลทและสารผสม ในที่นั้น
5.ส่วนประกอบที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 1ถึง4 ข้อใด ข้อหนึ่งที่ซึ่งโมโนแข็ง ประกอบด้วยโมโนเมอร์ที่เลือกจากกลุ่ม ที่ประกอบด้วยโมโนเมอร์แบบสไตรีน,อัลคิล เมทาครีเลทส์, กรดคาร์บอกซีลิคแบบไม่อิ่มตัวที่มีบรรจุอะตอมของคาร์บอนจาก 3 ถึงประมาณ 5, อาไมด์และสารผสมในที่นั้น ส่วนประกอบตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ1 ถึง 5 ข้อใด ข้อหนึ่งซึ่งประกอบด้วยส่วนแขวนลอยที่อยู่ในสภาพของน้ำของ โคโพลีเมอร์แบบอิมัลชั่นที่มีอะครีลิคเป็นฐานแบบไม่เหนียวเกาะ ที่ประกอบด้วย ซิลิโคน โอลิโกเมอร์ ที่ทำให้เป็นโคโพลีเมอร์ ได้ อย่างน้อยที่สุด หนึ่งตัวในสัดส่วนจากประมาณ 0.7 ถึงประมาณ 20% โดยน้ำหนักและอัลลิค อะครีลิค ประมาณ 40 ถึงประมาณ 80% โดยน้ำหนัก ที่เลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วยเมทิล อะครีลิค,บูทิล อะครีลิค และสารผสมในที่นั้น โดยสมดุลของโมโนเมอร์จะเลือก จากกลุ่มที่ประกอบด้วย สไตรีน, กรดเมทาครีลิค, กรดอะครีลิค, เมทิล เมทาครีเลท, ไอโซบูทอกซี่เมทาครีอาไมด์, ไอโซบูทิล เมทาครีลิค และสารผสมในที่นั้น 7.ส่วนประกอบตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 1 ถึง 6 ข้อใด ข้อหนึ่งที่ซึ่งส่วนแขวนลอยจะมีบรรจุสารตึงผิวประเภท แอนไอโอนิคอย่างน้อยที่สุด 2 ชนิด 8.ส่วนประกอบตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 7 ที่ซึ่งสารตึง ผิวประเภทแอนไอโอนิคจะเลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วย โซเดียม ไดอ๊อคทิล ซัลโฟซัคซิเนท, เกลือแอมโมเนียมของซัลโฟเนท โนนิลฟินอกซี่โพลี่ (เอทิลีน อีป้อกซี่) เอทานอลและแฟตตี้ แอลกอฮอล์ โพลีกลัยคอล อีเทอร์ ซัลเฟท 9.ส่วนประกอบตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิข้างต้น ข้อใด ข้อหนึ่ง ซึ่งประกอบด้วยสารผสมของอัลมิชั่นที่มีอะครีลิคเป็น ฐานที่หนึ่ง และโคโพลีเมอร์แบบอิมัลชั่นที่มีอะครีลิคเป็นฐาน ที่สอง โดยโคโพลีเมอร์ที่หนึ่งและที่สองดังกล่าว จะเกิดจาก การทำให้เป็นโพลีเมอร์ของอิมัลชั่นของโมโนเมอร์ ที่ประกอบ ด้วยโมโนเมอร์แบบที่มีพลังงานที่ผิวต่ำ ที่ทำให้เป็น โคโพลีเมอร์ได้ อย่างน้อยที่สุด หนึ่งตัวที่ประมาณ 0.7 ถึงประมาณ 20% โดยน้ำหนัก และอัลลิค อะครีเลท ที่มีบรรจุอะตอมของคาร์บอน1 ถึง 10 ในกลุ่มของอัลลิค อย่างน้อยที่สุด หนึ่งตัว จากประมาณ 30 ถึงประมาณ 85% โดยน้ำหนัก โดยสมดุลของโมโนเมอร์ จะประกอบด้วย โมโนเมอร์แข็ง ซึ่งเมื่อเป็น โฮโมโพลีเมอร์แล้ว จะมี อุณหภูมิของการเปลี่ยนของแก้วสูงกว่า 25ํc และมีปริมาณ เพียงพอต่อการสร้างเป็นสารผสมของโคโพลีเมอร์แบบ อิมัลชั่นที่มีอะครีลิคเป็นฐานที่หนึ่งและที่สองที่ไม่เหนียว เกาะ โดยโคโพลีเมอร์ที่มีอะครีลิคเป็นฐานแบบที่หนึ่งดังกล่าว จะมีอุณหภูมิของการเปลี่ยนของแก้วจากประมาณ -50ํc ถึง ประมาณ 25ํc โดยโคโพลีเมอร์แบบอิมัลชั่นที่มีอะครีลิคเป็น ฐานแบบที่สองดังกล่าว จะมีอุณหภูมิของการเปลี่ยนของแก้วจาก ประมาณ 25ํc ถึงประมาณ 100ํc 1 0.ส่วนประกอบตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิจ้อ 9 ที่ซึ่ง โมโนเมอร์แบบที่มีพลังงานที่ผิวต่ำเป็นซิลิโคน โอลิโกเมอร์ ที่ทำให้เป็นโคโพลีเมอร์ได้ 1 1.ส่วนประกอบตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 10 หรือ 11 ข้อใดข้อหนึ่งที่ซึ่งอัตราส่วนโดยน้ำหนักของโคโพลีเมอร์ แบบอิมัลชั่นที่มีอะครีลิคเป็นฐานที่หนึ่ง ต่อโคโพลีเมอร์แบบ อิมัลชั่นที่มีอะครีลิคเป็นฐานที่สอง จะอยู่ในช่วงประมาณ 1:1 ถึงประมาณ 1:3 1 2.ส่วนประกอบที่ระบุไว้ข้อถือสิทธิ ข้อ 10 หรือ 11 ข้อใด ข้อหนึ่งที่ซึ่งอัตราส่วนโดยน้ำหนักของโคโพลีเมอร์แบบอิมัลชั่น ที่มีอะครีลิคเป็นฐานของอุณหภูมิที่หนึ่งต่อโคโพลีเมอร์ที่สอง ประมาณ 1 ถึง 1.5 1 3.ส่วนประกอบของโพลีเมอร์ตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 9 ถึง 12 ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่งอัตราส่วนโดยน้ำหนักของ โคโพลีเมอร์แบบอิมัลชั่นที่มีอะครีลิคเป็นฐานที่หนึ่งต่อ โคโพลีเมอร์ที่มีอะครีลิคเป็นฐานที่สอง จะอยู่ในช่วงประมาณ 3:1 ถึงประมาณ 1:1 1 4.ส่วนประกอบตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ9 ถึง 13ข้อใดข้อหนึ่งที่ซึ่งอัตราส่วนโดยน้ำหนักของโคโพลีเมอร์แบบ อิมัลชั่น ที่มีอะครีลิคเป็นฐานที่หนึ่งต่อโคโพลีเมอร์แบบ อิมัลชั่นที่มีอะครีลิคเป็นฐานที่สอง ประมาณ 1.2 ถึง 1 1 5.ส่วนประกอบตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่ง ข้างต้น ซึ่งประกอบด้วยโคโพลีเมอร์แบบอิมัลชั่นที่มีอะครีลิค เป็นฐานที่หนึ่ง ซึ่งผลิตภัณฑ์ทำปฏิกิริยาของระบบโมโนเมอร์ ที่หนึ่งประกอบด้วย สไตรีน, บูทิล อะครีลิค, เมทิล อะครีลิค กรดเมทาครีลิค, กรดอะครีลิค และ ซิลิโคน โอลิโกเมอร์ ที่ทำให้เป็นโคโพลีเมอร์ได้ อย่างน้อยที่สุดหนึ่งตัวโดย โคโพลีเมอร์แบบอิมัลชั่นที่หนึ่งดังกล่าว จะมีอุณหภูมิของการ เปลี่ยนของแก้วน้อยกว่าประมาณ0ํc และโคโพลีเมอร์แบบ อิมัลชั่นที่มีอะครีลิคเป็นฐานที่สอง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ทำ ปฏิกิริยาของระบบโมโนเมอร์ที่สอง จะถูกทำให้เป็นโพลีเมอร์ ต่อ ๆ กัน ในที่ที่มีโคโพลีเมอร์แบบอิมัลชั่นที่หนึ่ง โดยระบบ โมโนเมอร์ที่สองดังกล่าว ประกอบด้วย สไตรีน, บูทิล อะครีลิค เมทิลอะครีเลท, กรดเมทาครีลิค และ ซิลิโคน โอลิโกเมอร์ ที่ทำให้เป็นโคโพลีเมอร์ได้ อย่างน้อยที่สุดหนึ่งตัว และ โคโพลีเมอร์ที่สองดังกล่าว มีอุณหภูมิของการเปลี่ยนของแก้ว อยู่ในช่วงจากประมาณ 0ํc ถึงประมาณ 100ํc โดยสาร ผสมที่เป็นโพลีเมอร์เรียงตามลำดับดังกล่าว ของอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ ที่มีอะครีลิคเป็นฐานที่หนึ่งและที่สองจะไม่เหนียว เกาะ และจะถูกสร้างขึ้นในที่ที่มีสารตึงผิวประเภทแอนไอโอนิค อย่างน้อยที่สุดสองชนิด 1
6.วัตถุที่มีการเคลื่อนเกาะบนผิวหน้าในที่นั้น จากส่วนแขวน ลอยที่อยู่ในสภาพน้ำของอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ ชนิดหนึ่งเป็น อย่างน้อยที่สุด โดยอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ ดังกล่าวประกอบด้วย โมโนเมอร์ที่มีพลังงานที่ผิวต่ำ ที่ทำให้เป็นโคโพลีเมอร์ได้ อย่างน้อยที่สุดหนึ่งชนิดในปริมาณจากประมาณ 0.7 ถึงประมาณ 20% โดยน้ำหนักและอัลลิค อะครีลิคอย่างน้อยที่สุดหนึ่งชนิด ที่ ปริมาณจากประมาณ 30 ถึงประมาณ 85% โดยน้ำหนักที่มีบรรจุ อะตอมของคาร์บอนจาก 1 ถึง 10 ในกลุ่มของอัลลิค โดยสมดุล ของโมโนเมอร์ประกอบด้วยโมโนเมอร์แข็ง โดยโมโนเมอร์แข็ง ดังกล่าวเมื่อทำให้เป็นโฮโมโพลีเมอร์แล้ว จะมีอุณหภูมิของ การเปลี่ยนของแก้วที่มากกว่าประมาณ 25ํc และมีอยู่ในปริมาณ เพียงพอต่อการจัดให้มีโคโพลีเมอร์แบบอิมัลชั่นที่มีอะครีลิค เป็นฐานแบบไม่เหนียวเกาะ 1
7.วัตถุที่มีการเคลือบเกาะบนผิวหน้าในที่นั้นจากส่วนแขวนลอย ที่อยู่ในสภาพของน้ำ ที่ประกอบด้วย อะครีลิค โคโพลีเมอร์แบบ อิมัลชั่นที่ไม่เหนียวเกาะเป็นผงอิสระและยืดหยุ่นตัว ที่ประกอบ ด้วยโมโนเมอร์ที่มีพลังงานที่มีผิวต่ำ ที่ทำให้เป็นโคโพลีเมอร์ ได้อย่างน้อยที่สุดหนึ่งตัวที่สัดส่วนจากประมาณ 0.7 ถึงประมาณ 20% โดยน้ำหนัก ซึ่งเป็นซิลิโคน โอลิโกเมอร์ จากประมาณ 30 ถึงประมาณ 85% โดยน้ำหนักของอัลลิค อะครีลิคอย่างน้อย ที่สุดหนึ่งตัวที่มีบรรจุอะตอมของคาร์บอนจาก 1 ถึงประมาณ 10 ในกลุ่มของอัลลิคโดยสมดุลของโมโนเมอร์ที่ประกอบด้วย โมโนเมอร์แข็ง โดยโมโนเมอร์แข็งดังกล่าวเมื่อเป็นโฮโมโพลีเมอร์ แล้ว จะมีอุณหภูมิของการเปลี่ยนของแก้วมากกว่าประมาณ 25ํc และมีอยู่ในปริมาณที่เพียงพอต่อการจัดให้มี อัลมิชั่น โคโพลีเมอร์ ที่มีอะครีลิค เป็นฐานแบบไม่เหนียวเกาะ โดย วัตถุดังกล่าวเป็นยาง 1
8.วัตถุที่สร้างขึ้นจากการแปลงสภาพของยางจากลาเท็กซ์ ลงบนแม่พิมพ์และที่มีอยู่บนผิวหน้าในที่นั้น อย่างน้อยที่สุด ซึ่งการเคลือบด้วยโพลีเมอร์ยืดหยุ่นที่ยึดเกาะแบบไม่เหนียวเกาะ ที่เป็นผงฝุ่นอิสระ ประกอบด้วย อิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ ที่มี อะครีลิคเป็นฐานที่ทำจากการทำให้เป็นโพลีเมอร์แบบ อิมัลชั่น ของระบบโมโนเมอร์ ที่ประกอบด้วย โมโนเมอร์ที่มีพลังานที่ผิวต่ำ ที่ทำให้เป็นโคโพลีเมอร์ได้ อย่างน้อยที่สุดหนึ่งชนิด จาก ประมาณ0.7 ถึงประมาณ 20% โดยน้ำหนัก ซึ่งเป็นซิลิโคน โอลิโกเมอร์ และจากประมาณ 30 ถึงประมาณ 85% โดย น้ำหนักของอัลลิค อะครีเลท อย่างน้อยที่สุดหนึ่งตัว ที่เลือก จากกลุ่มที่ประกอบด้วย เมทิล อะครีเลท, เอทิล อะครีเลท, บูทิล อะครีเลท และสารผสมในที่นั้นดดยสมดุลของโมโนเมอร์ ประกอบด้วย โมโนเมอร์แข็ง ซึ่งเมื่อทกให้เป็นโฮโมโพลีเมอร์ แล้ว จะมีอุณหภูมิของการเปลี่ยนของแก้วมากกว่า0ํC และมีอยู่ ในปริมาณที่เพียงพอต่อการจัดให้มีอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ที่ไม่ เหนียวเกาะ โดยอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ ดังกล่าว จะถูกเคลือบ เกาะจากสารแขวนลอยที่อยู่ในสภาพของน้ำของอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ 1
9.วุตถุตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 16 ถึง 18 ข้อใด ข้อหนึ่งที่ซึ่งโมโนเมอร์ที่มีพลังงานผิวต่ำ ที่ทำให้เป็น โคโพลีเมอร์ได้ มีอยู่ในปริมาณจากประมาณ 1 ถึง 15% โดยน้ำหนักของโคโพลีเมอร์ที่มีอะครีลิคเป็นฐาน 2 0.วัตถุประเภทยางตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 16 ถึง 19 ข้อใดข้อหนึ่งข้างต้น ที่ซึ่ง อัลลิค อะครีเลท จะเลือกจาก กลุ่มที่ประกอบด้วย เมทิล อะครีเลท, บูทิลอะครีเลท และ สารผสมในที่นั้น 2 1.วัตถุประเภทยางตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิข้อ 16 ถึง 20 ข้อใดข้อหนึ่งที่ซึ่งโมโนเมอร์แข็ง ประกอบด้วย โมโนเมอร์ ที่เลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วย โมโนเมอร์,อัลลิค เมทาครีเลทส์ กรดคาร์บอกซี่ลิค ไม่อิ่มตัวที่มีบรรจุอะตอมของคาร์บอนจาก 3 ถึงประมาณ 5, อาไมด์และสารผสมที่นั้น 2 2.วัตถุตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 16 ถึง 21 ข้อใด ข้อหนึ่งข้างต้นที่มีรูปทรงเป็นถุงมือและทำจากการแปลงสภาพของ ยางจากลาเท็กซ์ 2 3.วัตถุตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 16 ถึง 22 ข้อใด ข้อหนึ่งที่ซึ่งโคโพลีเมอร์จะมีบรรจุของแข็งที่เป็นอนุภาคที่ เป็นส่วนประกอบที่เลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วยแคลเซียม คาร์บอเนท และแป้ง และเคลือบเกาะบนวัตถุประเภทยาง ที่สร้างขึ้นหรือแม่พิมพ์ ที่ซึ่งเป็นที่ขึ้นรูปของวัตถุประเภท ยาง 2 4.วัตถุประเภทยางตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 22 หรือ ข้อ 23 ที่ซึ่งวัตถุประเภทยางขั้นสุดท้ายเป็นถุงมือ ที่มีผิว หน้าด้านในและด้านนอก โดยผิวหน้าด้านในดังกล่าวจะมีการเคลือบ เพื่อจัดตัวในที่นั้นด้วยอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ ที่มีอะครีลิค เป็นฐานที่หนึ่งและผิวหน้าด้านนอกดังกล่าว จะมีในที่นั้น คือการเคลือบเพื่อลอกตัวออกจากแม่พิมพ์ของอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ที่มีอะครีลิคเป็นฐานที่สอง 2 5.วัตถุประเภทยางตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิข้อ 4 ที่ซึ่ง การเคลือบที่หนึ่งและที่สองเป็นเหมือนกัน 2 6.วัตถุประเภทยางตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 24 ที่ซึ่ง การเคลือบที่หนึ่งและที่สองแตกต่างกัน 2 7.วัตถุที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 16 ถึง 26 ข้อใดข้อ หนึ่ง ที่ซึ่งการเคลือบด้วยโพลีเมอร์ ประกอบด้วย อิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ที่มีอะครีลิคเป็นฐานยึดเกาะอยู่ซึ่งทำจาก โมโนเมอร์ ที่ประกอบด้วย ซิลิโคน โอลิโกเมอร์ ที่ทำให้ เป็นโคโพลีเมอร์ได้ในสัดส่วนจากประมาณ 0.7 ถึงประมาณ 20% โดยน้ำหนัก และจากประมาณ 40 ถึงประมาณ 80% โดยน้ำหนักของอัลคิล อะครีเลท ตัวหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุดที่ เลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วยเมทิล อะครีเลท, บูทิล อะครีเลท และสารผสมในที่นั้น และโมโนเมอร์ตัวหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุด ที่เลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วย สไตรีน, กรดเมทาครีลิค, กรดอะครีลิค, เมทิล เมทาครีเลท, ไอโซบูทอกซี่เมทาคริลอาไมด์, ไอโซบูทิลเมทาครีเลท และสารผสมในที่นั้น โดยอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ จะเกาะตัวจากส่วนแขวนลอยที่อยู่ในสภาพ ของน้ำของอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ 2 8.วัตถุที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 16 ถึง 27 ข้อใด ข้อหนึ่งที่ซึ่งมีการเคลือบประกอบด้วย อิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ ที่มีอะครีลิค เป็นฐานที่หนึ่ง และอิมัลชั่นโคโพลีเมอร์ ที่มี อะครีลิคเป็นฐานที่สอง โดยโคโพลีเมอร์ที่หนึ่งและที่สอง ดังกล่าว เกิดจากการทำให้เป็นโพลีเมอร์แบบอิมัลชั่นของ โมโนเมอร์ ที่ประกอบด้วย ซิลิโคน โอลิโกเมอร์ที่ทำให้เป็น โคโพลีเมอร์ได้ อย่างน้อยที่สุดหนึ่งตัวในสัดส่วน 0.7 ถึง ประมาณ20% โดยน้ำหนัก และจากประมาณ 30 ถึง 85% โดย น้ำหนักของอัลคิล อะครีเลทอย่างน้อยที่สุดหนึ่งตัวที่มีบรรจุ อะตอมของคาร์บอนจาก 1 ถึงประมาณ 10 ในกลุ่มของอัลคิล โดยสมดุลของโมโนเมอร์ ประกอบด้วย โมโนเมอร์แข็ง ซึ่ง เมื่อกลายเป็นโฮโมโพลีเมอร์แล้ว จะมีอุณหภูมิของการเปลี่ยน ของแก้วจะมากกว่า 0ํc และมีอยู่ในปริมาณที่เพียงพอต่อการ สร้างเป็นสารผสมของโคโพลีเมอร์แบบอิมัลชั่นที่มีอะครีลิคเป็น ฐานซึ่งเป็นอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ ที่มีอะคีลิคเป็นที่หนึ่งดัง กล่าวที่ไม่เหนียวเกาะ ที่มีจุดสูงสุดของอุณหภูมิของการเปลี่ยน ของแก้ว จุดหลัก ๆ อยู่ในช่วงจากประมาณ -50ํc ถึงประมาณ 25ํc โดยอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ ที่มีอะครีลิคเป็นฐานที่สอง ดังกล่าว ที่มีจุดสูงสุดของอุณหภูมิของการเปลี่ยนของแก้วจุด สำคัญ ๆ จากประมาณ 25ํc ถึงประมาณ 100ํc 2 9.วัตถุตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 28 ที่ซึ่งอัตราส่วน ของน้ำหนักของอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ ที่มีอะครีลิคเป็นฐาน ที่หนึ่งต่ออิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ที่มีอะครีลิคเป็นฐานที่สองจะ อยู่ในช่วงประมาณ 1:1ถึงประมาณ 1:3 3 0.วัตถุตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 28 หรือ 29 ข้อใดข้อหนึ่งที่ซึ่งอัตราส่วนโดยน้ำหนักของอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ ที่มีอะครีลิคเป็นฐานที่หนึ่งต่อโคโพลีเมอร์ ที่มีอะครีลิคเป็นฐานที่สอง อยู่ในช่วงประมาณ 3:1ถึง ประมาณ 1:1 3 1.วัตถุตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 28 ถึง 30 ข้อ ใดข้อหนึ่งที่ซึ่งสารผสมประกอบด้วย อิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ ที่มีอะครีลิคเป็นฐานที่ไม่เหนียวเกาะที่หนึ่งซึ่งประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์จากการทำปฏิกิริยาของระบบโมโนเมอร์ที่หนึ่ง ที่ ประกอบด้วยสไตรีน, บูทิล, อะครีเลท, เมทิล อะครีเลท กรดเมทาครีเลท, กรดอะครีลิค และซิลิโคน โอลิโกเมอร์ ที่ทำให้เป็นโคโพลีเมอร์ได้ตัวหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุด และอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ ที่มีอะครีลิคเป็นฐานที่สอง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากการทำปฏิกิริยาของระบบโมโนเมอร์ที่สอง ที่ทำให้เป็นโพลีเมอร์เรียงต่อ ๆ กันในที่ที่มีอัลมิชั่น โคโพลีเมอร์ที่หนึ่ง โดยระบบโมโนเมอร์ที่สองดังกล่าว ประกอบ ด้วย สไตรีน, บูทิล อะครีเลท, เมทิลอะครีเลท, กรดเมทาครีลิค, กรดอะครีลิค และซิลิโคน โอลิโกเมอร์ ที่ ทำให้เป็นโคโพลิเมอร์ได้อย่างน้อยที่สุดหนึ่งตัวโดยสารผสมที่ เป็นโพลีเมอร์ ตามลำดับ ส่วนดังกล่าวของอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ ที่มีอะครีลิคเป็นฐานที่หนึ่งและที่สองจะไม่เหนียวเกาะและสร้าง ตัวในที่ที่มีสารตึงผิวแอนไอโอนิคอย่างน้อยที่สุดสองชนิด 3 2.กระบวนการของการผลิตวัตถุประเภทถุงมือยาง โดยการแปลงสภาพของยางจากลาเท็กซ์ ซึ่งประกอบด้วย: a>การสร้างตัวบนแม่พิมพ์สำหรับวัตถุถุงมือยางที่จะทำการ ผลิตขึ้น ซึ่งการเคลือบของอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ ที่มีอะครีลิค เป็นฐานที่หนึ่ง ที่มีความสามารถในการลอกตัวออกจากแม่พิมพ์ และมีบรรจุโมโนเมอร์ที่มีพลังงานที่ผิวต่ำ ที่ทำให้เป็น โคโพลีเมอร์ได้ที่ตกเคลือบจากส่วนแขวนลอย และเกลือ แปลงสภาพที่มีความเข้มเพียงพอต่อการทำให้เกิดการแปลง สภาพของยางจากลาเท็กซ์ไปเป็นโคโพลีเมอร์ที่มีอะครีลิค เป็นฐานที่หนึ่ง; b>การจุ่มแม่พิมพ์ที่มีการเคลือบของอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ ที่มีอะครีลิคเป็นฐานที่หนึ่งและเกลือแปลงสภาพไปเป็นลาเท็กซ์ ที่มีบรรจุยางเป็นเวลาเพียงพอต่อการทำให้มีการเปลี่ยนแปลง สภาพของยางจากลาเท็กซ์ไปบนผิวหน้าของการเคลือบ เพื่อ สร้างเป็นถึงมือที่มีผิวหน้าเคลือบด้วยโคโพลีเมอร์ที่มี อะครีลิคเป็นฐานที่หนึ่ง; c>การจุ่มวัตถุถุงมือที่เคลือบด้วยโคโพลีเมอร์ทีมีอะครีลิค เป็นฐานที่หนึ่งให้เป็นส่วนแขวนลอยที่สองของอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ ที่มีอะครีลิคเป็นฐาน เพื่อการจับตัวที่บรรจุ โคโพลีเมอร์จำนวนหนึ่งของโมโนเมอร์ที่มีพลังงานที่ผิวต่ำ ที่ทำให้เป็นโคโพลีเมอร์ได้อย่างน้อยที่สุดหนึ่งตัว เพื่อ เคลือบผิวหน้าตรงข้ามกับผิวหน้าที่เคลือบที่สองด้วยโคโพลีเมอร์ ที่มีอะครีลิคเป็นฐานบนวัตถุถุงมือยาง; และ d>การลอกถุงมือเคลือบสองชั้นออกจากแม่พิมพ์ 3 3.กระบวนการตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 32 ที่ซึ่ง แม่พิมพ์จะมีผิวหน้าขรุขระ เพื่อจัดให้มีการเคลือบแบบทึบ 3 4.กระบวนการตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 32 หรือ 33 ข้อใด้ข้อหนึ่งที่ซึ่งผงอนุภาคที่เฉื่อยและไม่ละลายเลือกจากกลุ ่มที่ประกอบด้วย แคลเซียม คาร์บอเนท และแป้งข้าวโพด จะถูกเคลือบเกาะด้วย โคโพลีเมอร์แบบอิมัลชั่นที่มีอะครีลิค เป็นฐาน เพื่อใช้จัดตัว 3 5.กระบวนการตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 32 ถึง 34 ข้อใดข้อหนึ่งที่ซึ่งอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ที่มีอะครีลิคเป็น ฐานแบบไม่เหนียวเกาะ แต่ละตัวจะแยกกันประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ จากการทำปฏิกิริยาของโมโนเมอร์ที่มีพลังงานที่ผิวต่ำ ที่ทำให้ เป็นโคโพลีเมอร์ อย่างน้อยที่สุดหนึ่งตัว ในสัดส่วนจากประมาณ 0.7 ถึงประมาณ 20% โดยน้ำหนัก และจากประมาณ 30 ถึง ประมาณ 85% โดยน้ำหนักของอัลคิล อะครีเลท อย่างน้อยที่สุด หนึ่งตัวที่มีบรรจุอะตอมของคาร์บอน จาก 1 ถึงประมาณ 10 ใน กลุ่มของอัลคิลโดยสมดุลของโมดนเมอร์ ประกอบด้วยโมโนเมอร์แข็ง โดยโมโนเมอร์ดังกล่าวเมื่อกลายเป็นโฮโมโพลีเมอร์แล้ว จะมี อุณหภูมิของการเปลี่ยนของแก้ว จะมากกว่าประมาณ 25ํc และมีอยู่ในปริมาณที่เพียงพอต่อการสร้างเป็นโคโพลีเมอร์ แบบอิมัลชั่น ที่มีอะครีลิคเป็นฐานที่ไม่เหนียวเกาะ 3 6.กระบวนการตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 32 ถึง 35 ข้อใดข้อหนึ่งที่ซึ่งโมโนเมอร์ที่มีพลังงานที่ผิวต่ำ ที่ทำให้ เป็นโคโพลีเมอร์ได้เป็นซิลิโคน โอลิโกเมอร์แบบทำให้เป็น โคโพลีเมอร์ได้ 3 7.กระบวนการตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 32 ถึง 36 ข้อใดข้อหนึ่งที่ซึ่งโมโนเมอร์ที่มีพลังงานที่ผิวต่ำ ที่ทำให้ เป็นโคโพลีเมอร์ได้ จะมีอยู่ในโคโพลีเมอร์ที่มีอะครีลิค เป็นฐานในปริมาณจากประมาณ 1 ถึงประมาณ 15% โดยน้ำหนัก 3 8.กระบวนการตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 35, 36 หรือ 37 ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่งอัลคิล อะครีเลท จะถูกเลือกจาก กลุ่มที่ประกอบด้วย เมทิล อะครีเลท, บูทิลอะครีเลท และ สารผสมในที่นั้น 3 9.ส่วนประกอบตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 35 ถึง 36 ข้อใด้ข้อหนึ่งที่ซึ่งโมโนฌมอร์แข็ง ประกอบด้วยโมโนเมอร์ที่ เลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วย สไตรีนนิค, อัลคิล เมทารีเลทส์ กรดคาร์บอกซี่ลิคไม่อิ่มตัวที่มีบรรจุอะตอมของคาร์บอน 3 ถึง 5 และสารผสมในที่นั้น 4 0.กระบวนการตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 32 ถึง 39 ข้อใด้ข้อหนึ่งที่ซึ่งอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ ที่มีอะครีลิคเป็น ฐาน ประกอบด้วย ซิลิโคน โอลิโกเมอร์ ที่ทำให้เป็น โคโพลีเมอร์ได้ อย่างน้อยที่สุดหนึ่งตัว ในสัดส่วนจากประมาณ 0.7 ถึงประมาณ 20% โดยน้ไหนัก และจากประมาณ 40 ถึง ประมาณ 80% ดดยน้ำหนักของอัลคิล อะครีเลทที่เลือกจากกลุ่มที่ ประกอบด้วย เมทิล อะครีเลท, บูทิล อะครีเลท และสารผสม ในที่นั้นโดยสมดุลของโมโนเมอร์ที่เลือกจากกลุ่ม ที่ประกอบด้วย สไตรีน, กรดเมทาครีลิค, กระอะครีลิค, เมทิล เมทาครีเลท ไอโซบูทอกซี่เมทาครีอาไมด์, ไอโซบูทิลเมทาครีเลทและสาร ผสมในที่นั้น 4 1.กระบวนการตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 32 ถึง 40 ข้อใดข้อหนึ่งที่ซึ่งส่วนแขวนลอยจะมีบรรจุสารตึงผิวประเภท แอนไอโอนิค อย่างน้อยที่สุดสองชนิดที่เลือกจากกลุ่มที่ประกอบ ด้วย โซเดียม ซัลโฟซัคซิเนท, เกลือแอมโมเนียมของซัลโฟเนท โนนิลฟินอกซี่โพลี่ (เอทิลีนออคซี่) เอทานอล และ แฟตตี้ อัลกอฮอล์ โพลี่กลัยคอล อีเทอร์ ซัลเฟท 42กระบวนการตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 32 ถึง 41 ข้อใดข้อหนึ่งที่ซึ่งอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ที่มีอะครีลิคเป็น ฐานแต่ละตัวจะแยกกันประกอบด้วย สารผสมของอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ ที่มีอะครีลิคเป็นฐานที่หนึ่ง และอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ที่มีอะครีลิคเป็นฐานที่สอง โดยโคโพลีเมอร์ ที่หนึ่งและที่สองดังกล่าวเกิดจากกระบวนการทำให้เป็น โพลีเมอร์แบบอิมัลชั่นของโมโนเมอร์ที่ประกอบด้วย โมโนเมอร์ที่มีพลังงานที่ผิวต่ำ ที่ทำให้เป็นโคโพลีเมอร์ ได้ อย่างน้อยที่สุดหนึ่งตัว ในสัดส่วนจากประมาณ 0.7 ถึง ประมาณ 20% โดยน้ำหนัก และจากประมาณ 30 ถึงประมาณ 85% โดยน้ำหนักของอัลคิล อะครีเลทอย่างน้อยที่สุดหนึ่งตัว ที่มีบรรจุอะตอมของคาร์บอนจาก 1 ถึงประมาณ 10 ในกลุ่ม ของอัลคิลโดยสมดุลของดมโนเมอร์ประกอบด้วยโมโนเมอร์ แข็ง ซึ่งเมื่อกลายเป็นโฮโมโพลีเมอร์แล้วมีอุณหภูมิของการ เปลี่ยนของแก้วจะมากกว่า 25ํc และมีปริมาณที่เพียงพอต่อ การสร้างเป็นสารผสมของอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ที่มีอะครีลิค เป็นฐานที่หนึ่งและที่สองซึ่งเป็นอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ที่มี อะครีลิคเป็นฐานที่หนึ่งที่ไม่เหนียวเกาะที่มีอุณหภูมิของการ เปลี่ยนของแก้วจากประมาณ -50ํc ถึงประมาณ 25ํc โดย อิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ ที่มีอะครีลิคเป็นฐานที่สองดังกล่าว มี อุณหภูมิของการเปลี่ยนของแก้วจากประมาณ 25ํc ถึงประมาณ 100ํc 4 3.กระบวนการตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 42 ที่ซึ่ง อัตราส่วนโดยน้ำหนักของอิมัลชั่น โคฑลีเมอร์ ที่มีอะครีลิคเป็น ฐานที่หนึ่งต่ออิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ ที่มีอะครีลิคเป็นฐานที่ สอง จะอยู่ในช่วงประมาณ 1:1 ถึงประมาณ 1:3 4 4.กระบวนการตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 42 หรือ 43 ข้อใดข้อหนึ่งที่ซึ่งอัตราส่วนโดยน้ำหนักของอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ ที่มีอะครีลิคเป็นฐานของอุณหหภูมิที่หนึ่งต่อ โคโพลีเมอร์ที่สองจะประมาณ 1 ถึง 1.5 4 5.กระบวนการตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 42 ถึง 44 ข้อใดข้อหนึ่งที่ซึ่งอัตราส่วนโดยน้ำหนักของอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ ที่มีอะครีลิคเป็นฐานที่หนึ่งต่อโคโพลีเมอร์ ที่มีอะครีลิคเป็นฐานที่สองอยู่ในช่วงประมาณ 3:1 ถึงประมาณ 1:1 4 6.กระบวนการตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 42 ถึง 45 ข้อใดข้อหนึ่งที่ซึ่งอัตราส่วนโดยน้ำหนักของอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ ที่มีอะครีลิคเป็นฐานที่หนึ่งต่ออิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ ที่มีอะครีลิคเป็นฐานที่สองในช่วงประมาณ 1.2 ถึง 1 4 7.กระบวนการตามที่ระบุไว้ในข้อถือสิทธิ ข้อ 42 ถึง 46 ข้อใดข้อหนึ่งที่ซึ่งอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ ที่มีอะครีลิคเป็น ฐานที่หนึ่ง ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์จากการทำปฏิกิริยาของระบบ โมโนเมอร์ที่หนึ่ง ที่ประกอบด้วย สไตรีน, บูทิลอะครีเลท, เมทิล อะครีเลท, กรดเมทาครีลิค, กรดอะครีลิค และ ซิลิดคน โอลิโกเมอร์ ที่ทำให้เป็นโคโพลีเมอร์ได้อย่างน้อย ที่สุดหนึ่งตัว โดยอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ที่หนึ่งดังกล่าว มี อุณหภูมิของการเปลี่ยนของแก้วน้อยกว่าประมาณ 0ํc และ อิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ ที่มีอะครีลิคเป็นฐานที่สองซึ่งเป็น ผลิตภัณฑ์จากการทำปฏิกิริยาของระบบโมโนเมอร์ที่สอง ที่ทำให้เป็นโพลีเมอร์เรียงตามลำดับ ในที่ที่มีอยู่ของ อิมัลชั่น โดคโพลีเมอร์ที่หนึ่ง โดยระบบโมโนเมอร์ที่สอง ดังกล่าวประกอบด้วย สไตรีน, บูทิล อะครีเลท, กรดเมทาครีลิค กรดอะครีลิค, และซิลิโคน โอลิโกเมอร์ ที่ทำให้เป็น โคโพลีเมอร์ได้ อย่างน้อยที่สุดหนึ่งตัว โดยโคโพลีเมอร์ ที่สองดังกล่าวจะมีอุณหภูมิของการเปลี่ยนของแก้วจาก ประมาณ 0ํc ถึงประมาณ 100ํc โดยสารผสมที่เป็น โพลีเมอร์ ตามลำดับของอิมัลชั่น โคโพลีเมอร์ ที่มี อะครีลิคเป็นฐานหนึ่งและที่สองที่ไม่เหนียวเกาะและสร้างตัวใน ที่ที่มีสารตึงผิวประเภทแอนไอโอนิค อย่างน้อยที่สุดสองชนิด (ข้อถือสิทธิ 47 ข้อ , - รูป )
TH9601000405A 1996-02-12 การเคลือบด้วยอะครีลิค อิมัลชั่น สำหรับวัตถุประเภทยาง TH41108B (th)

Publications (3)

Publication Number Publication Date
TH24212A TH24212A (th) 1997-03-19
TH24212B TH24212B (th) 1997-03-19
TH41108B true TH41108B (th) 2014-08-14

Family

ID=

Similar Documents

Publication Publication Date Title
US5993923A (en) Acrylic emulsion coating for rubber articles
US5691069A (en) Acrylic emulsion coatings for rubber articles
US4749616A (en) Heat sealable aqueous latex coating composition for polymer film
US5486426A (en) Cold sealable cohesive polymer coated polyolefin substrate
IE64177B1 (en) Dipped rubber article
AU2002214160A1 (en) Polymers and polymerisation processes
KR900014501A (ko) 우수한 색안정성 및 유연성을 갖는, 콘테이너 코팅용 염화 비닐-올레핀 공중합체
AU710920B2 (en) Acrylic emulsion coatings for rubber articles
US4151149A (en) Vinylidene chloride polymer latices
TW337529B (en) Coated film and its method of manufacture
US4888395A (en) Core/shell polymers and improved sealable articles treated with the same
US4291090A (en) Heat sealable plastic films coated with a coating composition
US3380844A (en) Coating composition and method for applying same to polyolefin films
TH41108B (th) การเคลือบด้วยอะครีลิค อิมัลชั่น สำหรับวัตถุประเภทยาง
US3997704A (en) Process and polyvinyl chloride interpolymer composition for coating a material and the product therefrom
US3728314A (en) Chemical composition for viscosity control and film forming materials
JPS57195133A (en) Preparation of composite particle
EP0818479A3 (en) Polymeric surface coatings
TH24212A (th) การเคลือบด้วยอะครีลิค อิมัลชั่น สำหรับวัตถุประเภทยาง
US3175926A (en) Vinylidene chloride terpolymer as a coating for regenerated cellulose film
JPS5863729A (ja) 表面が改質された樹脂成形品を製造する方法
US3188234A (en) Vinylidene chloride terpolymer as a coating for regenerated cellulose film
AU747769B2 (en) Acrylic emulsion compositions and process for the production of rubber articles
KR100433993B1 (ko) 고무제품용아크릴에멀젼코팅
TH24212B (th) การเคลือบด้วยอะครีลิค อิมัลชั่น สำหรับวัตถุประเภทยาง