1.อุปกรณ์ติดตั้งถังบรรจุก๊าซซีเอ็นจีสำหรับนถยนต์แบบสามถัง ที่ประกอบด้วย โครงวางถังเดี่ยว (2) ติดตั้งที่ตัวโครงของรถยนต์ (1) โดยที่ด้านขวาภายในของตัวโครงรถยนต์ (1) ที่่ต่อเข้ากับหัวรถ จะมีโครงวางถังเดี่้ยว (2) ซึ่งมีชุดโครงวางถังเดี่ยว (20) สำหรับรองรับถังบรรจุก๊าซ (15) โดยชุดโครงวางถังเดี่ยว (20) จะถูก ประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนต่างๆ ได้แก่แผ่นรองเข็มขัดรัดถัง (21) ที่ยึดติดกับเข็มรัดถังตัวล่าง (22A) จำนวนสองชุดโดยมีเมม เบอร์ครอสด้านหน้าซ้าย (23) และเมมเบอร์ครอสด้านหน้าขวา (24) เป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างกัน ในส่วนหน้าของโครงวางถัง เดี่ยว (2) จะมีแบรคเกตแผ่นหน้า (25) ประกอบติดกับปลายของเมมเบอร์ด้านหน้าซ้าย (23) ส่วนปลายอีกด้านจะเป็นหน้าแปลน ติดกับขอบด้านข้างของแผ่นรองเข็มขัดรัดถัง (21) ที่ตำแหน่งหน้าขวา ซึ่งตำแหน่งนี้จะเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างโครงวางถังเดียว (2) และตัวโครงของรถยนต์ (1) ในส่วนหลังของโครงวางถังเดี่ยว (2) จะมีแผ่นหลัง (26) ประกอบติดอยู่ที่ปลายของเมมเบอร์ ด้านหน้าซ้าย (23) และเมมเบอร์ด้านหน้าขวา (24) ที่ตำแหน่งหลังขวาขอบด้านข้างของแผ่นรองเข็มรัดถัง (21) แถบด้านหลัง จะมีแผ่นยืดเฟรมหลังด้านใน (27) ประกอบติดอยู่ซึ่งตำแหน่งนี้จะเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างโครงวางถังเดี่ยว (2) และตัวโครงของ รถยนต์ (1) ด้วยเช่นกันโดยชิ้นส่วนทั้งหมดจะประกอบร่วมเข้าด้วยกันตามวิธีทางการยึด อุปกรณ์ที่ใช้ในการกำหนดตำแหน่ง การวางถังบรรจุก๊าซ (15) ที่ติดอยู่กับโครงวางถังเดี่ยว (2) ประกอบด้วยตัวกับเลื่อน (31A) ที่ยึดติดกับแผ่นหลัง (26) และมียาง กับเลื่อน (38) ครอบเอาไว้ จะทำหน้าที่เป็นตัวกันเลื่่อนให้กับถังบรรจุก๊าซ (15) ทางด้านหลัง ส่วนทางด้านหน้าของถังบรรจุก๊าซ (15) ก็จะมีแบรคเกตรองตัวกันเลื่อน (30) เป็นตัวรองรับ ซึ่งตัวกันเลื่อน (37A) และมียางกันเลื่อน (38) ครอบเอาไว้ จะติดตั้งอยู่ บนแบรคเกตรองตัวกันเลื่อน (30) ที่ยึดติดกับแบรคเกตแผ่นหน้า (25) ไว้อยู่แล้วโดยการวางถังบรรจุก๊าซ (15) ลงบนระหว่าง ตำแหน่งเข็มขัดรัดถังตัวล่าง (22A) ทั้งสองชุดที่มียางรองถังเดี่ยว (39A) ประกอบไว้กับเข็มขัดรัดถังตัวล่าง (22A) เป็นตัวคั่น ระหว่างถังบรรจุก๊าซ (15) และเข็มขัดรัดถังตัวล่าง (22A) เพื่อช่วยซัพแรงสั่นสะเทือนและช่วยไม่ให้ถังบรรจุก๊าซ (15) ลื่นไถล เมื่อวางถังบรรจุก๊าซ (15) วางอยู่บนโครงวางถังเดี่ยว (2) แล้วจะใช้เข็มขัดรัดถังตัวบน (40A) จำนวนสองเส้นคาดด้านบนของถัง บรรจุก๊าซ (15) โดยมียางรองเข็มขัดรัดถังเดี่ยว (39A) ประกอบคั่นกลางระหว่างบรรจุก๊าซ (15) และเข็มรัดถังตัวบน (40A) และจะล็อคปลายของเข็มขัดรัดถังตัวบน (40A) ติดกับปลายเข็มขัดรัดถังตัวล่าง (22A) ทั้งสองข้างทั้งสี่จุด ที่ด้านใต้ของชุดโครง วางถังเดี่ยว (2) จะมีแผ่นปิดถังเดี่ยว (35A) ประกอบติดใต้โครงวางถังเดี่ยว (2) และที่ส่วนปลายด้านหลังของแผ่นปิดถังเดี่ยว (35A) จะมีแผ่นปิดหัววาล์ว (36A) ประกอบติดอยู่ด้วย จากนั้นโครงวางถังเดี่ยว (2) ที่ประกอบถังบรรจุก๊าซ (15) แล้วจะติดตั้ง เข้ากับตัวโครงของรถยนต์ (1) โครงวางถังคู่ (3) ติดตั้งที่ตัวโครงรถยนต์ (1) ด้านท้ายภานในของตัวโครงรถยนต์ (1) จะมีโครงวางถังคู่ (3) ซึ่งมีชุด โครงวางถังคู่ (60) สำหรับรองรับถังบรรจุก๊าซ (16) และ (17) โดยชุดโครงวางถังคู่ (16) จะถูกประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนต่างๆ ได้แก่ เมมเบอร์หน้า (61) เมมเบอร์กลาง (62) เมมเบอร์หลัง (63) ที่วางเรียงกันโดยมีระยะห่างสำหรับการวางถังบรรจุก๊าซ (16) และ (17) ที่ด้านซ้ายของเมมเบอร์หน้า (61) เมมเบอร์กลาง (62) และเมมเบอร์หลัง (63) จะมีแบรคเกตซ้าย (64) ประกอบเชื่อมต่อ อยู่ ที่ด้านขวาจะมีแบรคเกตขวา (65) เชื่อมต่ออยู่ด้านขวา โดยเมมเบอร์หน้า (61) เมมเบอร์กลาง (62) เมมเบอร์หลัง (63) แบรค เกตซ้าย (64) และแบรคเกตขวา (65) จะประกอบเข้าด้วยกันเป็นโครง และที่เมมเบอร์หน้า (61) จะมีซัพแบรคเกตหน้า (68) จำนวนสองตัวติดตั้งที่ด้านซ้ายหนึ่งตัวที่ด้านขวาหนึ่งตัวโดยซัพแบรคเกตหน้า (68) ทั้วสองตัวจะติดตั้งอยู่ภายในระหว่างแบรค เกตซ้าย (64) แบรคเกตขวา (65) ต่อมาที่เมมเบอร์กลาง (62) จะมีซัพแบรคเกตกลาง (69) จำนวนสองตัวติดตั้งที่ด้านซ้ายหนึ่งตัว ที่ด้านขวาหนึ่งตัว โดยซัพแบรคเกตกลาง (69) ทั้งสองตัวจะติดตั้งอยู่ภายในระหว่างแบรคเกตซ้าย (64) และแบรคเกตขวา (65) และต่อมาที่เมมเบอร์หลัง (63) จะมีซัพแบรคเกตหลัง (70) จำนวยสองตัวติดตั้งที่ด้านซ้ายหนึ่งตัวและที่ด้านขวาหนึ่งตัวโดยซัพ แบรคเกตหลัง (70) ทั้งสองตัวจะติดตั้งอยู่ภายในระหว่างแบรคเกตซ้าย (64) และแบรคเกตขวา (65) ซึ่งซัพแบรคเกตหน้า (68) ซัพแบรคเกตกลาง (69) ซัพแบรคเกตหลัง (70) จะเป็นตัวรองรับปลายเข็มขัดรัดถังตัวล่าง (22B) โดยเข็มขัดรัดถังตัวล่าง (22B) จำนวนสองตัวจะถูกติดตั้งอยู่ด้านในระหว่างเมมเบอร์ (61) และเมมเบอร์กลาง (62) จำนวนสองตัวที่ด้านซ้ายหนึ่งตัวและ ด้านขวาหนึ่งตัว โดยปลายของเข็มขัดรัดถังตัวล่าง (22B) ที่ด้านหน้าจะประกอบติดกับซัพแบรคเกตหน้า (68) ส่วนปลาย ด้านหลังจะยึดติดกับ ซัพแบรคเกตกลาง (69) ที่ด้านหน้า เข็มขัดรัดถังตัวล่าง (22B) อีกสองตัวจะถูกติดตั้งระหว่างเมมเบอร์กลาง (62) และเมมเบอร์หลัง (63) ที่ด้านซ้ายหนึ่งตัวด้านขวาหนึ่งตัว โดยปลายของเข็มขัดรัดถังตัวล่าง (22B) ที่ด้านหน้าจะประกอบ ติดกับซัพแบรคเกตกลาง (69) ที่ด้านหลัง ส่วนปลายด้านหลังเข็มขัดรัดถังตัวล่าง (22B) จะยึดติดกับซัพแบรคเกตหลัง (70) ที่ ปลายด้านซ้ายและด้านขวาของเมมเบอร์หลัง (63) ที่ด้านซ้ายจะมีแผ่นล็อคเฟรมซ้ายด้านนอก (67) ประกอบติดอยู่ และที่ ด้านขวาจะมีแผ่นล็อคเฟรมขวาด้านนอกประกอบติดอยู่ด้วยเช่นกัน ที่ด้านใต้ของชุดโครงวางถังคู่ (60) จะมีแผ่นปิดถังคู่ (35B) จะยึดติดกับปีกชายล่างของแบรคเกตซ้าย (64) แบรคเกตขวา (55) และที่ด้านใต้ของแบรคเกตซ้าย (64) ระหว่างเมมเบอร์หน้า (61) และเมมเบอร์กลาง (62) จะมีแผ่นปิดวาล์ว (36B) ประกอบติดอยู่ และแผ่นปิดหัววาล์ว (36C) จะติดตั้งอยู่ระหว่างเมม เบอร์กลาง (62) กับเมมเบอร์หลัง (63) อีกหนึ่งตัว ถังบรรจุก๊าซ (16) , (17) จะติดตั้งลงบนเข็มขัดรัดถังตัวล่าง (22B) ที่ประกอบ ติดระหว่างเมมเบอร์หน้า (61) เมมเบอร์กลาง (62) และเมมเบอร์หลัง (63) โดยระหว่างเข็มขัดรัดถังตัวล่าง (22B) ทั้งสี่เส้นและถัง บรรจุก๊าซ (16) , (17) จะมียางรองเข็มขัดรัดถังคู่ (39B) รองอยู่ระหว่างกลางของเข็มขัดรัดถังตัวล่าง (22B) และถังบรรจุก๊าซ (16) , (17) ด้านบนของถังบรรจุก๊าซ (16) , (17) จะมีเข็มขัดรัดถังตัวบน (40B) จำนวนสี่เส้นโดยจะใช้จำนวนสองเส้นต่อถังเหมือนกับ เข็มขัดรัดถังตัวล่าง (22B) และระหว่างเข้มขัดรัดถังตัวบน (40B) และถังบรรจุก๊าซ (16) , (17) จะมียางรองเข็มขัดรัดถังคู่ (39B) รองอยู่ระหว่างกลางด้วยเช่นกัน การยึดถังบรรจุก๊าซ (16) , (17) เข้ากับโครงวางถังคู่ (3) จะใช้เข็มขัดรัดถังตัวบน (40B) เป็นตัว ล็อคถังโดยจะใช้โบลท์ (19) เป็นตัวยึดระหว่างเข็มขัดรัดถังตัวบน (40B) และเข็มขัดรัดถังตัวล่าง (22B) ซึ่งขอบถังบรรจุก๊าซ (16) , (17) จะตั้งชนกับตัวกันเลื่อน (31A) ที่ยึดติดอยู่ด้านในของแบรคเกตซ้าย (64) ระหว่างเมมเบอร์ (61) เมมเบอร์กลาง (62) และเมมเบอร์หลัง (63) โดยที่ตัวกันเลื่อน (31A) จะมียางกันเลื่อน (38) ประกอบอยู่ทั้งสองตัว การยึดเข็มขัดรัดถังตัวบน (40B) และเข็มขัดรัดถังตัวล่าง (22B) ของถังบรรจุก๊าซ (16) ที่ตำแหน่งด้านหน้าของซัพแบรคเกตกลาง (69) โดยหน้าแปลนของเข็มขัด รัดถังตัวบน (40B) จะประกอบติดกับหน้าแปลนของเข็มขัดรัดถังล่าง (22B) โดยตรงด้วยโบลท์ (19) ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ส่วนการยึดเข็มขัดรัดถังตัวบนที่เมมเบอร์หน้า (61) หน้าแปลนของเข็มขัดรัดถังตัวบน (40B) และหน้าแปลนของเข็มขัดรัดถังตัว ล่าง (22B) จะมีช่องว่างระหว่างหน้าแปลนของเข็มขัดรัดถังบน (40B) และหน้าแปลนของเข็มขัดรัดถังล่าง (22B) และ ภายในช่องว่างนี้จะมีนัด (18) เป็นตัวช่วยล็อคและกันไม่ให้โบลท์ (19) คลายตัวทั้งด้านซ้ายและด้านขวา การยึดเข็มขัดรัดถังตัวบน (40B) และเข็มขัดรัดถังตัวล่าง (22B) ที่ตำแหน่งเมมเบอร์หลัง (63) ทั้งสองด้านหน้าแปลนของเข็มขัด รัดถังตัวบน (40B) และหน้าแปลนของเข็มขัดรัดถังตัวบน (22B) จะประกอบติดกับและยึดด้วยโบลท์ (19) ส่วนที่ตำแหน่งเมม เบอร์กลาง (62) ระหว่างหน้าแปลนของเข็มขัดรัดถังตัวบน (40B) และหน้าแปลนของเข็มขัดรัดถังตัวล่าง (22B) จะมีช่อง ระหว่างหน้าแปลนของเข็มขัดรัดถังตัวบน (40B) และหน้าแปลนของเข็มขัดรัดถังตัวล่าง (22B) ภายในช่องว่างนี้จะมีนัต (10) เป็นตัวช่วล็อคและกันไม่ให้โบลท์ (19) คลายตัวทั้งสองข้างเหมือนกับที่ตำแหน่งยึดของเมมเบอร์หน้า (61) ด้วยเช่นกัน โครง วางถังคู่ (3) ที่ประกอบถังบรรจุก๊าซ (16) , (17) แล้วจะติดตั้งเข้ากับตัวโครงของรถยนต์ (1) โดยมีลักษณะเฉพาะคือ ตำแหน่งยึดโครงวางถังเดี่ยว (2) และตัวโครงของรถยนต์ (1) ที่ด้านหน้าขวาจะมีลักษณะเป็นประกับล็อคติดกับเฟรม ข้างด้านขวา (11) โดยที่ด้านในของเฟรมข้างด้านขวา (11) จะมีหน้าแปลนของเบรคเกตแผ่นหน้า (25) ประกบที่ด้านในโดย ระหว่างหน้าแปลนของแบรคเกตแผ่นหน้า (25) และเฟรมข้างด้านขวา (11) จะมีแผ่นรองเฟรมหน้าด้านใน (28) ที่มีความหนา น้อยกวาแบรคเกตแผ่นหน้า (25) รองคั่นอยู่ระหว่างกลาง และด้านนอกของเฟรมข้างด้านขวา (11) จะมีแผ่นยึดเฟรมหน้าด้าน นอก (50) ที่มีความหนาเท่ากับแบรคเกตแผ่นหน้า (25) ประกบที่ด้านนอกของเฟรมข้างด้านขวา และมีแผ่นร่องเฟรมหน้าด้าน นอก (49) ที่มีความหนาน้อยกว่าแผ่นยึดเฟรมหน้าด้านนอก (50) ประกอบคั่นอยู่ระหว่างกลางระหว่างแบรคเกตแผ่นหน้า (25) และแผ่นยึดเฟรมหน้าด้านนอก (50) จะเป็นตัวล็อคเฟรมข้างด้านขวา (11) โดยใช้โบลท์ (19) เป็นตัวรั้ง เพื่อล็อคเฟรมข้าง ด้านขวา (11) จะมีทั้งหมดสี่ตัว โดยสองตัวบนจะยึดอยู่เหนือขอบด้านบนของเฟรมข้างด้านขวา (11) จำนวนสองตัวโดยจะมี ปลอกล็อคเฟรม (46A) สวมอยู่กับโบลท์ (19) ที่ใช้ยึดและค้ำอยู่ตรงกลางระหว่างแบรคเกตแผ่นหน้า (25) และแผ่นยึดเฟรมหน้า ด้านนอก (50) ด้านล่างของเฟรมข้างด้านขวา (11) จะมีโบลท์ (19) รังแบรคเกตแผ่นหน้า (25) และแผ่นยึดเฟรมข้างด้านนอก (50) จำนวนหนึ่งตัวโดยจะมีปลอกล็อคเฟรม (46A) สวมอยู่กับโบลท์ (19) และเป็นตัวค้ำระหว่างแบรคเกตแผ่นหน้า (25) กับ แผ่นยึดเฟรมหน้าด้านนอก (50) กับแผ่นยึดเฟรมด้านนอก (50) โดยร้อนผ่านรูของเฟรมข้างด้านขวา (11) ซึ่งรูผ่านของเฟรมนั้น อยู่เดิมไม่ต้องเจาะใหม่สำหรับการติดตั้ง ตำแหน่งยึดโครงวางถังเดี่ยว (2) และตัวโครงของรถยนต์ (1) ที่ด้านหลังขวาจะมีลักษณะเป็นประกบล็อคติดกับเฟรม ข้างด้านขวา (11) โดยที่ด้านในของเฟรมข้างด้านขวา (11) จะมีแผ่นยึดเฟรมหลังด้านใน (27) และจะมีแผ่นรองเฟรมหลังด้านใน (29) ที่มีความหนาน้อยกว่าแผ่นยึดเฟรมหลังด้านใน (27) เป็นตัวรองดันอยู่ระหว่างกลางของแผ่นยึดเฟรมหลังด้านใน (27) และ ด้านในของเฟรมข้างด้านขวา (11) และที่ด้านในของเฟรมข้างด้านขวา (11) จะมีรูเจาะจำนวนหนึ่งรูที่มีอยู่เดิม โดยจะใช้รูเจาะนี้ เป็นตัวกำหนดตำแหน่งของชุดวางถังเดี่ยว (2) เมื่อประกอบติดกับตัวโครงของรถยนต์ (1) โดยสลักล็อคตำแหน่ง (34A) จะยึดติด กับแผ่นยึดเฟรมหลังด้านใน (27) และแผ่นรองเฟรมหลังด้านใน (29) ซึ่งจะถูกใส่เข้ากับรูด้านในของเฟรมข้างด้านขวา (11) ด้าน นอกของเฟรมข้างด้านขวา (11) จะมีแผ่นยึดเฟรมหลังด้านนอก (48A) ประกบอยู่ด้ายนอกของเฟรมข้างด้านขวา (11) และมีแผ่น รองหลังด้านนอก (47A) ที่มีความหนาน้อยกว่าเฟรมหลังด้านอก (48A) รองตรงกลางระหว่างด้านนอกของเฟรมข้างด้านขวา (11) และแผ่นยึดเฟรมหลังด้านนอก (48A) จะมีโบลท์ (19) จำนวนสองตัวเป็นตัวรั้งแผ่นยึดเฟรมหลังด้านใน (27) และแผ่นยึด เฟรมหลังด้านนอก (48A) เพื่อล็อคเฟรมข้างด้านขวา (11) โดยโบลท์ (19) จะยึดอยู่ด้านบนและด้านล่างของเฟรมข้างด้านขวา (11) ด้านละหนึ่งตัวและจะมีปลอกล็อคเฟรม (46A) สามไว้กับโบลท์ (19) ทั้งสองซึ่งปลอกจะค้ำอยู่ตรงกลางระหว่างแผ่นยึด เฟรมหลังด้านใน (27) และแผ่นยึดเฟรมหลังด้านนอก (48A) ตำแหน่งยึดโครงวางถังเดี่ยว (2) และตัวโครงของรถยนต์ (1) ที่ ครอสเมมเบอร์ด้านหน้า (13) จะมีลักษณะเป็นประกับล็อคติดกับครอสเมมเบอร์ด้านหน้า (13) ประกอบด้วยชิ้นส่วนต่างๆ ที่โครงวางถังเดี่ยว (2) มีขาแบรคเกตล็อคครอสเมมเบอร์ตัวบน (41) จะยึดติดกับแผ่นหลัง (26) และปลายส่วนบนจะ ยึดติดกับแบรคเกตล็อคครอสเมมเบอร์ตัวบน (42) โดยแบรคเกตล็อคครอสเมมเบอร์ตัวบน (42) จะวางครอบด้านบนของครอส เมมเบอร์ด้านขวา (13) และจะมีแผ่นรองครอสเมมเบอร์ ตัวบน (43) ที่มีความหนาน้อยกว่าแบรคเกตล็อคครอสเมมเบอร์ตัวบน (42) ประกอบคั่นอยู่ตรงกลางระหว่างแบรคเกตล็อคครอสเมมเบอร์ตัวบน (42) และเมมเบอร์ด้านหน้า (13) ด้านใต้ของเมมเบอร์ ด้านหน้า (13) จะมีแบรคเกตล็อคครอสเมมเบอร์ตัวล่าง (45) ประกอบอยู่ด้านใต้โดยมีแผ่นรองแบรคเกตตัวล่าง (44) รองอยู่ ระหว่างกลางของเมมเบอร์ด้านหน้า (13) และแบรคเกตล็อคครอสเมมเบอร์ตัวล่าง (45) การยึดแบรคเกตล็อคครอสเมมเบอร์ตัว ล่าง (45) และแบรคเกตล็อคครอสเมมเบอร์ตัวบน (42) เข้ากับครอสเมมเบอร์ด้านหน้า (13) จะใช้โบลท์ (19) เป็นตัวยึดจำนวน หนึ่งตัว ร้อนผ่านทะลุครอสเมมเบอร์ด้านหน้า (13) โดยที่ครอสเมมเบอร์ด้านหน้า (13) มีรูผ่านอยู่แล้วส่วนโบลท์ (19) อีกหนึ่ง จุดใช้โบลท์ (19) ยึดติดกันระหว่างแบรคเกตล็อคครอสเมมเบอร์ตัวบน (42) และครอสเมมเบอร์หน้า (13) ที่มีรูผ่านเฉพาะ ด้านบนและมีนัตสปอต (18) ติดอยู่ภายใน โดยชิ้นส่วนทั้งหมดประกอบเข้าด้วยกันตามขบวนำการที่กล่าวเอาไว้ และ ที่โครงวางถังคู่ (3) มีชุดล็อคเมมเบอร์ครอสหลังซ้าย (SL1) ชุดล็อคเมมเบอร์ครอสหลังขวา (SL2) ชุดล็อเฟรมข้าง ด้านขวา (SL3) ซึ่งชุดล็อคเมมเบอร์หลังซ้าย (SL1) ประกอบด้วยแบรคเกตซัพครอสด้านซ้าย[71]ที่เป็นตัวเชื่อมต่อระหว่าง โครง วางถังคู่ (3) และครอสเมมเบอร์หลัง (14) อยู่ที่ด้านซ้าย โดยปลายด้านล่างจะยึดติดกับแบรคเกตซ้าย (64) ด้วยโบลท์ (19) จำนวน สองตัว ด้านข้างจะมีแบรคเกตเสริทแรงด้านซ้าย (74) ประกอบติดอยู่ ส่วนที่ปลายด้านบนจะมีแบรคเกตล็อคเมมเบอร์ครอสหลัง ซ้าย (72) ประกอบติดอยู่โดยแบรคเกตล็อคเมมเบอร์ครอสหลังซ้าย (72) จะประกอบครอบอยู่ด้านบนของครอสเมมเบอร์หลัง (14) ด้านใต้ของครอสเมมเบอร์หลัง (14) จะมีแผ่นล็อคเมมเบอร์ครอสหลังซ้าย (73) ประกอบอยู่ภายในด้านใต้ของครอสเมม เบอร์หลัง (14) และจะใช้โบลท์ (19) จำนวนหนึ่งตัวสำหรับทำการยึดชุดล็อคเมมเบอร์ครอสหลังซ้าย (SL1) ที่ด้านบน ต่อมาชุด ล้อคเมมเบอร์ครอสหลังขวา (SL2) ประกอบด้วยแบรคเกตซัพครอสด้านขวา (76) ที่ปลายด้านล่างจะยึดติดกับแบรคเกตขวา (65) โดยโบลท์ (19) จำนวนสองตัวปลายด้านบนของแบรคเกตซัพครอสด้านขวา (76) จะมีแบรคเกตล็อคเมมเบอร์ครอสหลังขวด (77) ประกอบติดอยู่โดยแบรคเกตล็อคเมมเบอร์ครอสหลังขวา (77) จะประกอบครอบอยู่ด้านบนของครอสเมมเบอร์หลัง (14) ที่ แนวพับด้านบนของแบรคเกตซัพครอสด้านขวา (76) จะมีแบรคเกตเสริมแรงด้านขวาประกอบติดอยู่สำหรับเสริมความแข็งแรง ให้่กับแบรคเกตซัพครอสด้านขวา (76) ที่ด้านใต้ของครอสเมมเบอร์หลัง (14) จะมีแผ่นล็อคเมมเบอร์ครอสหลังขวา (79) ประกอบอยู่ภายในด้านใต้ของครอสเมมเบอร์หลัง (14) และจะใช้โบลท์ (19) จำนวนหนึ่งตัว สำหรับทำการยึดชุดล็อคเมมเบอร์ครอสหลังขวา (SL2) ที่ด้านบน ต่อมาชุดล็อคเฟรมข้างด้านขวา (SL3) ประกอบด้วย ขาแบรค เกตรองเฟรมด้านใน (83) ซึ่งด้านล่างจะประกอบติดกับแบรคเกตขวา (65) ด้วยโบลท์ (19) จำยวนสองตัวด้านบนของขาแบรคเก ตรองเฟรมด้านใน (83) จะมีแบรคเกตล็อคเฟรมด้านใน (84) ประกอบติดอยู่ จากนั้นจะมีแบรคเกตรองเฟรมด้านใน (85) ที่มี ความหนาน้อยกว่าแบรคเกตล็อคเฟรมด้านใน (84) ยึดติดกับแบรคเกตล็อคเฟรมด้ารใน (84) อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งบริเวณแนวกลาง ของแบรคเกตล็อคเฟรมด้านใน (84) และแบรคเกตรองเฟรมด้านใน (85) จะมีสลักล็อคตำแหน่ง (34B) ประกอบติดอยู่โดยสลัก ล็อคตำแหน่ง (34B) จะสวมเข้าไปในรูเจาะด้านข้างของเฟรมข้างด้านขวา (11) โดยรูสำหรับใส่สลักล็อคตำแหน่ง (34B) ดังกล่าว จะมีอยู่เดิมกับเฟรมข้างด้านขวา (11) ซึ่งทั้งหมดจะประกอบอยู่ด้านในของเฟรมข้างด้านขวา (11) ที่ด้านนอกของเฟรมข้าง ด้านขวา (11) จะมีแผ่นยึดเฟรมหลัง (48B) ประกอบอยู่ด้านนอกโดยจะมีแผ่นรองหลังด้านนอก (47B) ที่มีความหนาน้อยกว่า แผ่นยึดเฟรมหลัง (48B) ประกอบอยู่ระหว่างกลางของเฟรทข้างด้านขวา (11) ด้านนอกและแผ่นยึดเฟรมหลัง (48B) การล็อค แบรคเกตล็อคเฟรมด้านใน (84) และแผ่นยึดเฟรมหลัง (48B) จะใช้โบลท์ (19) จำนวนสองตัวยึดแน่นเข้าดว้ยกันโดยจะอยู่ ด้านบนของเฟรมข้างด้านขวา (11) จำนวนหนึ่งตัวและด้านล่างของเฟรมข้างด้านขวา (11) จำนวนหนึ่งตัว โดยโบลท์ (19) ทั้ง สองตัวจะอยู่ภายในปลอกล็อคเฟรม (46B) ซึ่งปลายของปลอกล็อคเฟรม (46B) ทั้งสองตัวจะค้ำอยู่ตรงกลางระหว่างแบรคเกต ล็อคเฟรมด้านใน (84) และแผ่นยึดเฟรมหลัง (48B) โดยทั้งหมดจะประกอบร่วมกันเป็นชุดล็อคเฟรมข้างด้านขวา (SL3) ต่อมา แผ่นล็อคเฟรมซ้ายด้านนอก (67) จะยึดเข้ากับปลายเฟรมข้างด้านซ้าย (12) โดยจะมีแผ่นล็อคเฟรมซ้ายด้านใน (81) ประกอบอยู่ ด้านในของเฟรมข้างด้านซ้าย (12) จากนั้นจะทำการยึดโดยการใช้โบลท์ (19) จำนวนสองตัวและที่แผ่นล็อคเฟรมขวาด้านนอก (66) จะยึดเข้ากับปลายเฟรมข้างค้างขวา (11) โดยจะมีแผ่นล็อคเฟรมขวาด้านใน (82) ประกบอยู่ด้านในเฟรมข้างด้านขวา (11) จากนั้นจะทำการยึดโดยการใช้โบลท์ (19) จำนวนสองตัวโดยชิ้นดังกล่าวทั้งหมดประกอบเข้าด้วยกัน