TH31827A - สารยับยั้งการสูญเสียความแห้งสำหรับสารผสมของสารเคลือบและสารเร่งสำหรับการบ่มโพลีเอสเทอร์เรซินไม่อิ่มตัว - Google Patents

Abstract

DC60 (29/06/41) การประดิษฐ์นี้มุ่งไปยังสารผสมที่ประกอบด้วยผลผลิตของปฏิกิริยาเชิงซ้อนระหว่าง สบู่โคบอลท์ที่ละลายได้ในน้ำมันกับสบู่แคลเซียมที่มีระดับของเบสสูงกว่าธรรมดาที่ละลายได้ใน น้ำมัน ซึ่งทำหน้าที่เป็นสารยับยั้ง "การสูญเสียความแห้ง" โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสีที่มีน้ำมันเป็น องค์ประกอบหลัก และเป็นสารเร่งที่มีคุณสมบัติทางด้านการเป็นสารทำให้เวลาของการเกิดเจล เสถียรและด้านการเป็นสารยับยั้งการเกิดสีในปฏิกิริยาการเกิดโพลีเมอร์ของโพลีเอสเทอร์ การประดิษฐ์นี้มุ่งไปยังสารผสมที่ประกอบด้วยผลผลิตของปฏิกิริยาเชิงซ้อนระหว่างสบู่โคบอลท์ที่ละลายได้ในน้ำมันกับสบู่แคลเซียมที่มีระดับของเบสสูงกว่าธรรมดาที่ละลายได้ในน้ำมัน ซึ่งทำหน้าที่เป็นสารยับยั้ง "การสูญเสียความแห้ง"โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสีที่มีน้ำมันเป็นองค์ประกอบหลักและเป็นสารเร่งที่มีคุณสมบัติทางด้านการเป็นสารทำให้เวลาของการเกิดเจลเสถียรและด้านการเป็นสารยับยั้งการเกิดสีในปฏิกิริยาการเกิดโพลีเมอร์ของโพลีเอสเทอร์

Claims (6)

1. สารยับยั้งการสูบเสียความแห้งสำหรับสารผสมของสารเคลือบที่มีองค์ประกอบประเภทเรซินอินทรีย์ที่เกิดเป็นฟิล์มหรือสารเร่งการบ่มสำหรบผสมของโพลีเอสเทอร์เรวินไม่อิ่มตัว ซึ่งประกอบด้วยสารผสมที่มีองค์ประกอบทีเป็นสารละลายอินทรีย์ของสารเชิงซ้อนที่ทำขี้นโดยการปสมสบู่โคบอลท์ที่ละลายได้ในน้ำมันของกรดโมโนคาร์บอกซิลิคที่มีคาร์บอน6 ถึง 24 อะตอมกับสบู่แคลเซียมที่มีระดับของเบสสูงกว่าธรรมดาที่ละลายได้ในน้ำมันของกรดโมโนคาร์บอกซิลิคทีมีคาร์บอน 6 ถึง 24 อะตอม ซึ่งสบู่แคลเซียมที่มีระดับของเบสสสูงกว่าธรรมดามีความเป็นเบสตั้งแต่ 1.1 ถึง 2.8 2. สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 1 ที่มีปริมาณโลหะรวมตั้งแต่2 เปอร์เซนต์ถึง 15 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก ซึ่งมีการผสมสบู่โคบอลท์ที่ละลายได้ในน้ำมันและสบู่แคลเซียมที่มีระดับของเบสสูงกว่าธรรมดาที่ละลายได้ในน้ำมันในปริมาณที่ทำให้ได้แคลเซียม 0.2 โมลถึง 2.0 โมลต่อโมลของโคบอลท์ 3. สารผสมดังที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 2 ซึ่งมีปริมาณโลหะทั้งหมดตั้งแต่ 2 เปอร์เซนต์ถึง 11 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก 4. สารผสมของสารเคลือบที่มีสารผสมของสารยับยั้งการสูญเสียความแห้งของข้อถือสิทธิที่ 3 เป็นองค์ประกอบ 5. สารผสมของสารเคลือบที่มีสารผสมของสารยับยั้งการสูญเสียความแห้งของข้อถือสิทธิที่ 2 เป็นองค์ประกอบ 6. สารผสมของสารเคลือบของข้อถือสิทธิที่ 5 ที่มีปริมาณโลหะจากสารยับยั้งการสูฐเสียความแห้งดังกล่าวระหว่าง0.002 เปอร์เซ็นต์ถึง 1 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก 7. สารผสมดังที่กำหดนไว้ในข้อถือสิทธิที่ 1 ซึ่งเป็นสารละลายในตัวทำละลายอินทรีย์ทีไม่โพลาร์ของสารเชิงซ้อนที่ทำขึ้นโดยการผสมเกลือโคบอลท์ของกรดโมโนคาร์บอกซิลิคที่มีคาร์บอน 8 ถึง 12 อะตอมกับเกลือแคลเซียมทีมีระดับของเบสสูงกล่าธรรมดาของกรดโมโนคาร์บอกซิลิคที่มีคาร์บอน 8 ถึง 12 อะตอม 8. สารผสมของสารเคลือบที่มีสารผสมของสานยับยั้งการสูญเสียความแห้งของข้อถือสิทธิที่ 7 เป็นองค์ประกอบ 9. สารผสมของสารเคลือบที่มีสารผสมของสารยับยั้งการสูญเสียความแห้งของข้อถือสิทธิที่ 1 เป็นองค์ประกอบ 1 0. สารผสมของสารเคลือบของข้อถือสิทธิที่ 9 ที่มีปริมาณโลหะจากสารยับยั้งการสูญเสียความแห้งดังกล่าวระหว่าง0.002 เปอร์เซ็นต์ถึง 1 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก 1 1. สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 1 ซึ่งสบู่โคบอลท์และสบู่แคลเซียมที่มีระดับของเบสสูงกว่าธรรมดานั้นได้มาจากกรดโมโนคาร์บอกซิลิคที่เลือกได้อย่างอิสระจากกรด2-เอทธิลเฮกซาโนอิค กรดแนพธีนิค กรดไอโซออคทาดนอิค กรดนีโอเดคคาโนอิค แะลสารเหล่านี้ร่วมกัน 1 2. สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 11 ซึ่งสบู่แคลเซียมที่มีระดับของเบสสูงกว่าธรรมดานั้นได้มาจากกรดไอโซออคทาโนอิค 1 3. สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 11 ซึ่งสบู่แคลเซียมที่มีระดับของเบสสูงกว่าธรรมดานั้นได้มาจากกรด 2-เอทธิลเฮกซาโนอิค 1 4. สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 11 ซึ่งสบู่แคลเซียมที่มีระดับของเบสสูงกว่าธรรมดานั้นได้มาจากกรดแนพธีนิค 1 5. สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 1 ซึ่งสบู่โคบอลท์นั้นได้มาจากกรดโมโนคาร์บอกซิลิคที่เลือกได้จากกรด 2-เอทธิลเฮกซาโนอิค กรดไอโซออคทาโนอิค กรดแนพธีนิค และกรดโอเลอิค 1 6. กระบวนการที่ปรับปรุงสำหรับการบ่มสารผสมของโพลิเอสเทอร์เรซินไม่อิ่มตัวซึ่งประกอบด้วยการสัมผัสสารผสมที่มีส่วนประกอบเป็นโพลีเอสเทอร์เรวินไม่อิ่มตัวกับโมโนเมอร์ไม่อิ่มตัวีสามารถทำปฏิกิริยากับโพลีเอสเทอร์เรซินไม่อิ่มตัวดังกล่าวในขณะที่มีเปอร์ออกไซด์อินทรีย์ร่วมกับระบบสารเร่งระบบสารเร่งที่มีส่วนประกอบเป็นสารเชิงซ้อนที่ละลายได้ในตัวทำละลายอินทรีย์ที่ทำขึ้นโดยการผสมสบู่โคบอลท์ที่ละลายได้ในน้ำมันของกรดโมโนคาร์บอกซิลิคที่มีคาร์บอน 6 ถึง 24 อะตอมกับสบู่แคลเซียมที่มีระดับของเบสสูงกว่าธรรมดาที่ละลายได้ในน้ำมันของกรดโมโนคาร์บอกซิลิคทีมีคาร์บอน 6 ถึง 24 อะตอมซึ่งสบู่แคลเซียมที่ระดับของเบสสูงกว่าธรรมดานั้นมีความเป็นเบสตั้งแต่ 1.1ถึง 2.8 1 7. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 16 ซึ่งมีการผสมสบู่โคบอลท์ที่ละลายได้ในน้ำมันและสบู่แคลเซียมที่มีระดับของเบสสูงกว่าธรรมดาที่ละลายได้ในน้ำมันที่ทำให้ได้แคลเซียม0.2 โมลถึง 2.0 โมลต่อโมลของโคบอลท์ 1 8. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 17 ซึ่งมีระบบสารเร่งในปริมาณที่จะทำให้มีโลหะตั้งแต่ 0.002 เปอร์เซนต์ถึง1.0 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนักเทียบน้ำหนักของสารผสมของโพลีเอสเทอร์เรซินไม่อิ่มตัว 1 9. กระบวนการของข้อถือสิทธิที่ 17 ซึ่งระบบสารเร่งประกอบด้วยสารเชิงซ้อนที่ทำขึ้นโดยการผสมสบู่โคบอลท์ที่ละลายได้ในน้ำมันกับสบู่แคลเซียมที่มีระดับของเบสสูงกว่าธรรมดาที่สารแต่ละชนิดได้มาจากกรดโมโนคาร์บอกซิลิคที่เลือกได้จากกลุ่มที่ประกอบด้วยกรดอาลิแฟติคที่มีคาร์บอน 8 ถึง 12 อะตอม และกรดอาลิไซคลิค และอาโรแมติคที่มีคาร์บอน 6 ถึง 24 อะตอม 2 0. กระบวนการของข้อถือสิทธิที 17 ซึ่งมีการเติมสารเชิงซ้อนของสบู่โคบอลท์ที่ละลายได้ในน้ำมันกับสบู่แคลเซียมที่มีระดับของเบสสูงกว่าธรรมดาลงไปยังสารผสมของโพลีเอสเทอร์ เรวินไม่อิ่มตัวในรูปสารละลายในตัวทำละลายอนิทรีย์ไม่โพลาร์ สารละลายดังกล่าวมีปรมาณโลหะรวมตั้งแต่ 2 เปอร์เซ็นต์ถึง15 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำมันหนัก 2

1. สารผสมของโพลีเอสเทอร์ไม่อิ่มตัวซึ่งประกอบด้วย (a) โพลีเอสเทอร์ที่ไม่อิ่มตัว (b) โมโนเมอร์ไม่อิ่มตัวที่สามารถทำปฏิกิริยากับเรซินโพลีเอสเทอร์ไม่อิ่มตัว (c) สารเร่งปฏิกิริยาที่เป็นเปอร์ออกไซด์อินทรีย์ และ (d) ระบบสารเร่งซึ่งประกอบด้วยสารเชิงซ้อนที่ละลายได้ในตัวทำละลายอินทรีย์ที่ทำขึ้นจากการผสมสบู่โคบอลท์ที่ละลายได้ในน้ำมันกับสบู่แคลเซียมที่มีระดับของเบสสูงกว่าธรรมดาที่ละลายได้ในน้ำมัน ซึ่งสบู่ดังกล่าวมีองค์ประกอบหลักเป็นกรดโมโนคาร์บอกซิลิคประเภทอาลิแฟติค อาโรแมติกและอาลิไซคลิคที่มีคาร์บอน 6 ถึง 24 อะตอม ซึ่งสบู่แคลเซียมที่มีระดับของเบสสูงกว่าธรรมดามีความเป็นเบสตั้งแต่ 1.1ถึง 2.8 ระบบสารเร่งดังกล่าวมีอยู่ในสารผสมดังกล่าวในปริมาณทีจะทำให้มีโลหะโคบอลท์และแคลเซียมตั้งแต่ 0.002 เปอร์เซ็นต์ถึง 1.0 เปอร์เซนต์โดยน้ำหนักเทียบกับน้ำหนักรวมของโพลีเอสเทอร์เรวินไม่อิ่มตัวและโมโนเมอร์ไม่อิ่มตัว 2

2. สารผสมของโพลีเอสเทอร์ไม่อิ่มตัวของข้อถือสิทธิที่ 21 ซึ่งมีการผสมสบู่โคบอลท์ที่ละลายได้ในน้ำมันและสบู่แคลเซียมที่มีระดับของเบสสูงกว่าธรรมดาที่ละลายได้ในน้ำมันที่ทำให้ได้แคลเซียม 0.2 โมลถึง 2.0 โมลของโคบอลท์ 2

3. สารผสมของโพลีเอสเทอร์ไม่อิ่มตัวของข้อถือสิทธิที่ 22ซึ่งระบบสารเร่งประกอบด้วยสารเชิงซ้อนที่ทำขึ้นโดยการผสมสบู่โคบอลท์ที่ละลายได้ในน้ำมันกับสบู่แคลเซียมที่มีระดับของเบสสูงกว่าธรรมดาที่ละลายได้ในน้ำมัน ซึ่งสบู่ดังกล่าวมีองค์ประกอบหลักเป้นกรดโมโนคาร์บอกซิลิคที่เลือกได้จากกลุ่มที่ประกอบด้วยกรดอาลิแฟติคที่มีคาร์บอน 8 ถึง 12อะตอมและกรดอาลิไซคลิคและอาโรแมติกที่มีคาร์บอน6 ถึง 24 อะตอม 2

4. สารผสมที่เหมาะในการใช้เป็นสารยับยั้งการสูญเสียความแห้งสำหรับสารผสมของสารเคลือบที่มีองค์ประกอบประเภทเรซินอินทรีย์ที่เกิดฟิล์มชนิดที่ถูกออกซิไดซ์ได้ หรือเหมาะในการใช้เป็นสารเร่งการบ่มสำหรับสารผสมของโพลีเอสเทอร์เรซินไม่อิ่มตัวที่เตรียขึ้นโดยการผสมสบู่โคบอลท์ที่ละลายได้ในน้ำมันของกรดโมโนคาร์บอกซิลิคทีมีคาร์บอน 6 ถึง 24 อะตอมกับสบู่แคลเซียมที่มีระดับของเบสสูงกว่าธรรมดาที่ละลายได้ในน้ำมันของกรดโมโนคาร์บอกซิลิคที่มีคาร์บอน 6 ถึง 24 อะตอมในตัวทำละลายอินทรีย์ซึ่งสบู่แคลเซียมที่มีระดับของเบสสูงกว่าธรรมดามีความเป็นเบสตั้งแต่ 1.1 ถึง 2.8 2

5. สารผสมของข้อถือสิทธิที่ 24 ที่มีปริมาณโลหะรวมตั้งแต่ 2 เปอร์เซ็นตืถึง 15เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนักซึ่งสารผสมสบู่โคบอลที่ละลายได้ในน้ำมันและสบู่แคลเซียมที่มีระดับของเบสสุงกว่าธรรมดาที่ละลายได้ในน้ำที่ทำให้ได้แคลเซียม0.2 โมลท์ถึง 2.0 โมลของโคบอลท์ 2

6. สารผสมดังที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 25 ที่ปริมาณโลหะรวมอยู่ระหว่าง 2 เปอร์เซ็นต์ถึง 11 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก