Claims (3)
1.หน่วยที่นั่งสำรองโดยสารในเครื่องบินซึ่งประกอบด้วยหน่วยที่นั่งสำหรับห้อง โดยสารในเครื่องบินซึ่งประกอบด้วยฐานที่นั่งและหนักพิงที่นั่งซึ่งได้รับการจัดไว้ที่ด้านหน้าของผนังด้านหลังซึ่งมีส่วนที่หนึ่งและส่วนในขอบเขตทางข้าง ส่วนที่หนึ่งค่อนข้างใกล้กับฐานที่นั่งมากกว่าส่วนที่สองเพื่อทำให้กำหนดเป็นซอกด้านใน ในพื้นผิวด้านในของผนัง 2.หน่วยที่นั่งตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งส่วนที่หนึ่งกำหนดเป็นซอกด้านนอกโดยทั่วไปในพื้นผิวด้านนอก 3.หน่วยที่นั่งตามข้อถือสิทธิข้อ 1 หรือ 2 ซึ่งพนักที่นั่งสามารถเคลื่อนทีได้ระหว่างตำแหน่งที่นั่งซึ่งพื้นผิวที่หนึ่งได้รับการจัดเพื่อให้เป็นส่วนของที่นั่ง และตำแหน่งเตียงซึ่งพื้นผิวที่สองตรงข้ามได้รับการจัดให้เป็นส่วนของเตียง 4.หน่วยที่นั่งตามข้อถือสิทธิข้อ 3 ซึ่งพนักที่นั่งสามารถหมุนได้ระหว่างตำแหน่งที่นั่งและตำแหน่งเตียง 5.หน่วยที่นั่งตามข้อถือสิทธิข้อ 4 ซึ่งพนักที่นั่งสามารถหมุนได้ไปด้านหน้าเป็นตำแหน่งเตียง 6.หน่วยที่นั่งตามข้อถือสิทธิข้อ 4 หรือ 5 ซึ่งพนักที่นั่งสามารถหมุนได้รอบจุดหนึ่งหรือใกล้กับปลายด้านล่างของฐานที่นั่ง 7.หน่วยที่นั่งตามข้อถือสิทธิข้อ 3,4,5 หรือ 6 ซึ่พนักที่นั่งอยู่บนฐานที่นั่งในตำแหน่งเตียง 8.หน่วยที่นั่งตามข้อถือสิทธิข้อ 3 ถึง 7 ข้อใดข้อหนึ่งซึ่งพื้นผิวส่วนยื่นของเตียงได้รับการจัดเรียงในซอกด้านใน ซึ่งพื้นผิวส่วนยื่นของเตียงอยู่ติดกับพนักที่นั่งในตำแหน่งเตียงของสิ่งนั้น เพื่อกำหนดพื้นผิวเตียงที่แบนอย่างเป็นสำคัญ โดยมีพนักที่นั่งในตำแหน่งเตียง 9.หน่วยที่นั่งตามข้อถือสิทธิข้อ 3 ถึง 8 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งพนักที่นั่งรวมถึงชิ้นส่วนยื่นไปทางปลายหนึ่งซึ่งไกลจากฐานที่นั่ง ชิ้นส่วนยื่นสามารถจัดวางได้สำหรับตำแหน่งเตียงของพนักที่นั่งเพื่อยื่นพื้นผิวเตียงไปด้านหน้า 1 0.หน่วยที่นั่งตามข้อถือสิทธิข้อ 2 หรือข้อถือสิทธิข้อ 3 ถึง 9 ข้อใดข้อหนึ่ง เมื่อขึ้นตรงกับข้อถือสิทธิข้อ 2 ซึ่งซอกด้านนอกก่อรูปขึ้นด้วยพื้นผิวที่หันขึ้นด้านบนที่จัดเตรียมพื้นผิวส่วนยื่นของเตียงเพิ่มเติมสำหรับที่นั่งที่ถูกไว้ด้านหลังหน่วยที่นั่ง 11. an aircraft reserved seat unit, which consists of a room seat unit Passengers in an aircraft consisting of a seated base and a seat-back, are arranged in front of the rear wall with first and lateral sections. The first section is somewhat closer to the seat base than the second to define the interior niche. In the inner surface of the wall 2. The seating unit according to claim 1, where the first part is defined as an outer nook, generally in the outer surface. 3. A seating unit according to claim 1 or 2, in which the seat back can be moved between seat positions where the first surface is arranged to form a portion of the seat. And the position of the bed in which the second opposite surface is arranged as the bed part 4. Seat unit according to claim 3, in which the seat back can be rotated between seat position and bed position. 5. Seat unit according to claim 4, in which the seat back can be rotated forward into a bed position. 6. Seat units according to claim 4 or 5, in which the seat back can be rotated around a point or near the lower end of the seat base. 7. The seat unit according to Clause 3,4,5 or 6, where the seat is on the base of the seat in the bed position. 8. A seating unit according to any of Clause 3 to 7 in which the overhang surface of the bed is arranged in an inner niche. In which the overhang surface of the bed is attached to the seat backrest in the bed position of that To define a critically flat bed surface With a backrest that sits in the bed position 9. One of the seating units according to Clause 3 to 8 In which the seat back, including its parts, extends toward one end far from the seat base The overhang can be positioned for the bed position of the seatpost to extend the bed surface forward 1 0. seat unit according to claim 2 or claim 3 to 9. When up to claim 2, the outer recess is formed with an upward-facing surface that provides additional bed protrusion surfaces for the rear seat unit 1.
1. การจัดที่นั่งที่ประกอบด้วยหน่วยที่นั่งจำนวนหนึ่งตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 10 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งมีเส้นกึ่งกลางตามยาวกำหนดซึ่งตรงกับเส่นกำหนดซึ่งที่นั่งได้รับการจัดไว้อย่างเป็นสำคัญ 11. A seating arrangement consisting of a certain number of seating units in accordance with Clause 1 to 10. Which has a defined longitudinal center line that corresponds to the designated line in which the seats are predominantly arranged.
2. การจัดที่นั่งตามข้อถือสิทธิข้อ 11 ซึ่งซอกด้านในในที่นั่งหนึ่งอยู่ด้านเดียวกับซอกด้านในในที่นั่งด้านหน้าหรือด้านหลัง 12. Seat arrangement according to claim 11, where the inner niche in one seat is on the same side as the inner niche in the front or rear seats 1.
3. การจัดที่นั่งซึ่งประกอบด้วยหน่วยที่นั่งอย่างน้อยที่สุดสองหน่วย หน่วยหนึ่งอยู่ด้านหน้าของอีกหน่วยหนึ่ง แต่ละหน่วยที่นั่งประกอบด้วยฐานที่นั่งและพนักที่นั่งซึ่งสามารถเคลื่อนที่ได้ระหว่างตำแหน่งที่นั่งซึ่งก่อรูปเป็นพนักพิงหลัง และตำแหน่งเตียงซึ่งก่อรูปเป็นพื้นผิวเตียงพนักที่นั่งได้รับการจัดไว้ที่ด้านหน้าของผนังด้านหลังที่มีส่วนที่หนึ่งและที่สองในขอบเขตตามขวางส่วนที่หนึ่งใกล้กับฐานที่นั่งฐานที่นั่งค่อนข้างมากกว่าส่วนที่สองซึ่งทำให้กำหนดเป็นซอกด้านในในพื้นผิวด้านในของผนัง ส่วนที่หนึ่งกำหนดเป็นซอกด้านนอกในพื้นผิวด้านนอกของผนัง แต่ละหน่วยยังประกอบด้วยพื้นผิวส่วนยื่นของเตียงได้รับการจัดหรือสามารถจัดวางไว้ที่ด้านหน้าของพนักที่นั่งในตำแหน่งเตียงเพื่อทำงานร่วมกับพื้นผิวที่สอดคล้องกันในซอกด้านนอกของผนังของที่ นั่งด้านหน้า3. a seating arrangement consisting of at least two seating units One unit is in front of another. Each seat unit consists of a seat base and a seat back, which can be moved between seat positions, forming a backrest. And the bed position, which forms the bed surface, the seat back is arranged in front of the back wall with the first and second sections in the transverse region, the one closer to the seat base, the seat base somewhat more than the second. Which makes it defined as an inner niche in the inner surface of the wall. The first part is defined as an outer niche in the outer surface of the wall. Each unit also consists of a bed overhang surface arranged or can be positioned in front of the seat backrest in the bed position to work with the corresponding surfaces in the outer niches of the front seat wall.