Claims (3)
1.สารผสมที่เป็นประโยชน์เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในการเกิดพอลิเมอร์แบบการเติม และปราศจากผลิตภัณฑ์ข้างเคียงที่รบกวนกรรมวิธีการเกิดพอลิเมอร์ สารผสมดังกล่าวสัมพันธ์กันกับสูตร (สูตรเคมี) ซึ่ง M คือ โลหะของหมู่ 4 หรืออนุกรม Lanthanide ของตารางธาตุ, Cp* คือ หมู่ไซโคลเพนทาไดอีนิล ซึ่งแต่ละคาร์บอนอะตอม ในไซโคลเพนทาไดอีนิลแรดิคัลอาจจะไม่มีหมู่แทนที่หรือมีหมู่แทนที่ด้วยแรดิคัลที่เหมือนกัน หรือแตกต่างกันที่เลือกมาจากหมู่ที่ประกอบด้วย C1-20 ไฮโดรคาร์บิลแรดิคัล, C1-20 ซับสทิทิวเทด ไฮโดรคาร์บิล แรดิคัล ซึ่งหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งไฮโดรเจนอะตอมของหมู่ไฮโดรคาร์บิลถูกแทนที่โดยแฮโลเจนอะตอม, C1-20 ไฮโดรคาร์บิล ซับสทิทิวเทด เมทัลลอยด์ แรดิคัล ซึ่งเมทัลลอยด์เลือกมาจากหมู่ 14 ของตารางธาตุ และแฮโลเจนแรดิคัล, หรือสองหรือมากกว่าสองหมู่แทนที่ดังกล่าว อาจร่วมกันเกิดเป็นระบบวงแหวนหลอมติดกัน, Z คือ หมู่ไดแวเลนท์ ที่ประกอบด้วยออกซิเจน,บอรอน หรือธาตุของหมู่ 14 ของตารางธาตุ, Y คือหมู่ในการเชื่อมต่อที่ประกอบด้วย ไนโตรเจน,ฟอสฟอร์,ออกซิเจนหรือซัลเฟอร์ หรือ อาจจะเลือกให้ Z และ Y ร่วมกันเกิดเป็นระบบวงแหวนหลอมติดกัน, X คือ ไฮไดร์ด หรือหมู่ C1-10 ไฮโดรคาร์บิล, และ A-คือ มอนอแวเลนท์ คอมแพทิเบิล นอนโคออร์ดิเนติง แอนไอออนที่สัมพันธ์กับสูตร: [BX1X2X3X4]- ซึ่ง B คือบอรอนในสถานะแวเลนซ์ 3 X1 ถึง X4 คือ ออร์แกนิล หรือไซลิลแรดิคัล ที่เหมือนกันหรือแตกต่างกันที่ไม่ว่องไว ที่มีคาร์บอนหรือซิลิคอน จาก 6 ถึง 20 อะตอม และอาจจะเลือกให้สอง หรือมากกว่าสองของ X1 ถึง X4 เชื่อมต่อซึ่กันและกันด้วยหมู่เชื่อมต่อที่เสถียร 2.สารผสมตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่ง M คือ ไทเทเนียมหรือเซอร์โคเนียม 3.สารผสมตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่ง A- คือ : [BX1X2X3X4]- ซึ่ง : B คือ บอรอนในสถานะแวเลนซ์ 3 X1 ถึง X4 คือ ออร์แกนิล หรือไซลิลแรดิคัลที่เหมือนกันหรือแตกต่างกันที่ไม่ว่องไว ที่มีคาร์บอน หรือซิลิคอนจาก 6 ถึง 20 อะตอม และอาจจะเลือกให้สองหรือมากกว่าสองของ X1 ถึง X4 อาจจะเชื่อมต่อซึ่งกันและกัน โดยหมู่ในการเชื่อมต่อที่เสถียร 4.สารผสมตามข้อถือสิทธิข้อ 2 ซึ่ง X1,X2,X3 และ X4 คือ เปอร์ฟลูออริเนเทดไฮโดรแรดิคัลที่มีจาก 1 ถึง 20 คาร์บอน 5.กรรมวิธีการเตรียมสารผสมที่เป็นประโยชน์เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา ในการเกิดพอลิเมอร์แบบการเติม และปราศจากผลิตภัณฑ์ข้างเคียงที่รบกวนกรรมวิธีการเกิดพอลิเมอร์ สารผสมดังกล่าวสัมพันธ์กันกับสูตร (สูตรเคมี) ซึ่ง M คือ โลหะของหมู่ 4 หรืออนุกรม Lanthanide ของตารางธาตุ, Cp* คือ หมู่ไซโคลเพนทาไดอีนิล ซึ่งแต่ละคาร์บอนอะตอม ในไซโคลเพนทาไดอีนิล แรดิคัลอาจจะไม่มีหมู่แทนที่ หรือมีหมู่แทนด้วยแรดิคัลที่เหมือนกันหรือแตกต่างกันที่เลือกมาจากหมู่ที่ประกอบด้วย C1-20 ไฮโดรคาร์บิล แรดิคัล, C1-20 ซับสทิทิวเทด ไฮโดรคาร์บิล แรดิคัลซึ่งหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่ง ไฮโดรเจนอะตอมของหมู่ไฮโดรคาร์บิล ถูกแทนที่โดยแฮโลเจนอะตอม C1-20 ไฮโดรคาร์บิล ซับสทิทิวเทด เมทัลลอยด์แรดิคัล ซึ่งเมทัลลอยด์เลือกมาจากหมู่ 14 ของตารางธาตุ และแฮโลเจน แรดิคัลลหรือสองหรือมากกว่าสองหมู่แทนที่ดังกล่าว อาจร่วมกันเกิดเป็นระบบวงแหวนหลอมติดกัน, Z คือ หมู่ไดแวเลนท์ที่ประกอบด้วย ออกซิเจน,บอรอน หรือธาตุของหมู่ 14 ของตารางธาตุ Y คือ หมู่ในการเชื่อมต่อที่ประกอบด้วยไนโตรเจน,ฟอสฟอร์,ออกซิเจน หรือซัลเฟอร์ หรือ อาจจะเลือกให้ Z และ Y ร่วมกันเกิดเป็นระบบวงแหวนหลอมติดกัน, X คือ ไฮโดร์ด หรือหมู่ C1-20 ไฮโดรคาร์บิล, และ A- คือ มอนอแวเลนท์ คอมแพทิเบิล นอนโคออร์ดิเนติง แอนไอออน ที่สัมพันธ์กับสูตร : [BX1X2X3X4]- ซึ่ง B คือ บอรอนในสถานะแวเลนซ์ 3 X1 ถึง X4 คือ ออร์แกนิล หรือไซลิล แรดิคัลที่เหมือนกันหรือแตกต่างกันที่ไม่ว่องไว ที่มีคาร์บอน หรือซิลิคอน จาก 6 ถึง 20 อะตอม และอาจจะเลือกให้สองหรือมากกว่าสองของ X1 ถึง X4 เชื่อมต่อซึ่งกันและกัน ด้วยหมู่เชื่อมต่อที่เสถียรกรรมวิธีดังกล่าว ประกอบด้วย การสัมผัสอนุพันธ์ของหมู่ 4 หรือโลหะ Lanthanide ที่สัมพันธ์กับสูตร (สูตรเคมี) ซึ่ง Cp*,Z,Y,M และ X เป็นตามที่นิยามไว้ก่อนหน้านี้, กับตัวออกซิไดซ์ ซึ่งในรูปแบบที่รีดิวซ์แล้วไม่รบกวนตัวเร่งปฏิกิริยาที่ได้ ตัวออกซิไดซ์ดังกล่าว ประกอบด้วย ตัวออกซิไดซ์ที่เป็นแคทไอออนและคอมแพทิเบิล นอนโคออร์ดิเนติง แอนไอออน และสัมพันธ์กับสูตร : (OX+a)b(A-)d ซึ่ง OX+a คือ ตัวออกซิไดซ์ที่เป็นแคทไอออนที่มีประจุ +a ที่ประกอบด้วย ไอออนอินทรีย์ หรืออนินทรีย์ที่มีศักยภาพการออกซิไดซ์เพียงพอ ที่จะเกิดการออกซิไดซ์โมเลกุลของอนุพันธ์ของโลหะเพื่อเกิดเป็นสปีชีส์เร่งปฏิกิริยา b และ d เป็นเลขจำนวนเต็มที่เลือก เพื่อให้สมดุลประจุ, และ A- เป็นตามที่นิยามไว้ก่อนหน้านี้ 6.กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 5 ซึ่งอนุพันธ์ของหมู่ 4 หรือโลหะ Lanthanide สัมพันธ์กันกับสูตร : (สูตรเคมี) ซึ่ง M คือ โลหะของหมู่ 4 หรือ อนุกรมของ Lanthanide ของตารางธาตุ, r แต่ละกรณีที่เป็นอิสระเลือกมาจากหมู่ ที่ประกอบด้วยไฮโดรเจน, ไซลิล,แอลคิล,แอริล และการผสมผสานของมันที่มีคาร์บอน หรือซิลิคอนมากถึง 10 อะตอม, m คือ 1 หรือ 2, และ n คือ 1 หรือ 2 ขึ้นอยู่กับแวเลนซ์ของ M 7.กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 5 ซึ่ง M คือ ไทเทนียม หรือเซอร์โคเนียม 8.กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 5 ซึ่ง -A คือ : [BX1X2X3X4]- ซึ่ง : B คือ บอรอนในสถานะแวเลนซ์ 3 X1 ถึง X4 คือ ออร์แกนิล หรือ ไซลิสแรดิคัลที่เหมือนกันหรือแตกต่างกันที่มีคาร์บอน หรือซิลิคอนจาก 6 ถึง 20 อะตอมและอาจจะเลือกให้สอง หรือมากกว่าสองของ X1 ถึง X4 เชื่อมต่อซึ่งกันและกันด้วยหมู่เชื่อมต่อที่เสถียร 9.กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 8 ซึ่ง X1,X2,X3 และ X4 คือ เปอร์ฟลูออร์เนเทด ไฮโดรแรดิคัล ที่มีคาร์บอนจาก 1 ถึง 20 คาร์บอน 1 0.กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 5 ซึ่ง OX+a คือ เฟอร์โรซีเนียม หรือ Ag+1 1 1.กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 5 ซึ่ง M คือ ไทเทเนียม หรือเซอร์โคเนียม 1 2.ในกรรมวิธีการเกิดพอลิเมอร์แบบการเติมที่เร่งปฏิกิริยาซึ่งหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งมอนอเมอร์ ทีjเกิดเป็นพอลิเมอร์ได้แบบการเติม เลือกมาจากหมู่ที่ประกอบด้วย เอธิลีน,โพรพิลีน, ไอโซบิวทิลีน, 1-บิวทีน, 1-เฮกซีน, 4-เมธิล-1-เพนทีนและ 1-ออคทีนสัมผัสกับตัวเร่งปฏิกิริยาและพอลิเมอร์ที่เกิดขึ้นที่แยกได้จากมัน การปรับปรุงซึ่งตัวเร่งปฏิกิริยา คือ สารผสมตามข้อถือสิทธิข้อ 1 หรือ 2 1 3.กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 12 ซึ่งมอนอเมอร์ที่เกิดเป็นพอลิเมอร์ได้แบบการเติม ที่เลือกมาจากหมู่ที่ประกอบด้วย มอนอเมอร์ที่ไม่อิ่มตัวด้วยเอธิลีน สารประกอบแอเซทิลีน,คาร์บอนมอนอกไซด์ และสารผสมของมัน เกิดเป็นพอลิเมอร์ 1 4.กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 12 ซึ่งมอนอเมอร์ที่ไม่อิ่มตัวด้วยหมู่เอธิลีน เลือกมาจากหมู่ที่ประกอบด้วย a-โอลิฟินที่มีคาร์บอนจาก 2 ถึง 18 อะตอม ไดโอเลฟินที่มีคาร์บอนจาก 4 ถึง 18 อะตอม, สไทรีนและเททราฟลูออโรเอธิลีน 1 5.กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 13 ซึ่งมอนอเมอร์ คือ เอธิลีน หรือสารผสมของเอธิลีน และ 1-ออคทีน 1 6.กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 12 ซึ่งตัวเร่งปฏิกิริยามีตัวรองรับ 1 7.กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 12 ซึ่งเตรียมตัวเร่งปฏิกิริยาขึ้นในที่นั้น (in situ) 1 8.ในกรรมวิธีการเกิดพอลิเมอร์แบบการเติมที่เร่งปฏิกิริยา ซึ่งหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งมอนอเมอร์ทีเกิดเป็นพอลิเมอร์ได้แบบการเติมเลือกมาจากหมู่ที่ประกอบด้วย เอธิลีน,โพรพิลีน,ไอโซบิวทิลีน,1-บิวทีน,1-เฮกซีน,4-เมธิล-1-เพนทีน และ 1-ออคทีน สัมผัสกับตัวเร่งปฏิกิริยา และพอลิเมอร์ที่เกิดขึ้นที่แยกมาจากที่นั้น การปรับปรุงให้ดีขึ้น ซึ่งตัวเร่งปฏิกิริยา คือ สารผสมที่เตรียมขึ้นตามกรรมวิธีของข้อถือสิทธิข้อ 5,6 หรือ 7 1 9.กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 18 ซึ่งมอนอเมอร์ที่เกิดเป็นพอลิเมอร์ได้แบบการเติมที่เลือกมาจากหมู่ที่ประกอบด้วย มอนอเมอร์ที่ไม่อิ่มตัวด้วยหมู่เอธิลีน,สารประกอบแอเซทิลีน,คาร์บอนมอนอกไซด์ และการผสมของมัน เกิดเป็นพอลิเมอร์ 2 0.กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 19 ซึ่งมอนอเมอร์ที่ไม่อิ่มตัวด้วยเอธิลีน เลือกมาจากหมู่ที่ประกอบด้วย a-โอลิฟิน ที่มีคาร์บอนจาก 2 ถึง 18 อะตอมไดโอเลฟิน ที่มีคาร์บอนจาก 4 ถึง 18 อะตอม สไทรีน และเททราฟลูออโรเอธิลีน 21. A useful mixture is a catalyst for the formation of additive polymers. And without any side products that interfere with the polymerization process The mixtures are related to the formula (chemical formula) where M is the metal of Group 4 or the Lanthanide series of the periodic table, Cp * is the cyclopentadienyl group. In which each carbon atom In cyclopentadienyl radical, there may be no substitutions or substituted groups with identical radicals. Or a different selected from a cohort consisting of C1-20 hydrocarbid radical, C1-20 substrate hydrocarbolar radical, which is one or more hydrogen atoms of the hygroscopic group. The drocarbill was replaced by the halogen atom, C1-20 hydrocarb, substrate metal, radical, which the metaloid was selected from among 14 of the periodic table and hash. Radical logical, or two or more of the two substitution groups thereof. May together form a fused ring system, Z is a divalent group. Oxygen-containing, boron Or the elements of Group 14 of the periodic table, Y is the group in which the connection consists of Nitrogen, phosphor, oxygen or sulfur, or Z and Y can be chosen together to form a fused ring system, X is a hydride or C1-10 hydrocarbon group, and A-. Is monovalent compatible non-coordination Anion associated with the formula: [BX1X2X3X4] - where B is boron in valence state, 3 X1 to X4 is organic or cyl radical. The same or different that is not agile Containing carbon or silicon from 6 to 20 atoms and may be chosen for two Two or more of the X1 to X4 connected to each other with a stable connection group. 2. Mixture according to claim 1, where M is titanium or zirconium. 3. Mixture according to claim 1, where A- is: [BX1X2X3X4] - where: B is boron in valence state 3 X1 to X4 is the same or broken organyl or cyl radical. Different inactive, carbon or silicon from 6 to 20 atoms and may be chosen, two or more of X1 to X4 may be connected to each other. By among the stable connections 4. Mixture according to claim 2, in which X1, X2, X3 and X4 is perfluorinated hydrocarbons, available from 1 to 20 carbon. Catalyst In the formation of additive polymers And without any side products that interfere with the polymerization process The mixtures are related to the formula (chemical formula) where M is the metal of Group 4 or the Lanthanide series of the periodic table, Cp * is the cyclopentadienyl group. In which each carbon atom In cyclopentadienyl Radical may not have a replacement group. Or having a group represented by the same or different radical chosen from a group containing C1-20 hydrocarbradical, C1-20 substrate hydrocarbardi Calgary, which one or more The hydrogen atom of the hydrocarbyl group Replaced by the halogen atom C1-20, hydrocarbill, substrate, metaloid radical. The metaloid is chosen from group 14 on the periodic table and halogen radical, or two or more of the above groups. May coexist to form a fused ring system, Z is a divalent group consisting of Oxygen, boron Or the elements of group 14 of the periodic table Y are the connection groups containing nitrogen, phosphor, oxygen or sulfur, or Z and Y can be chosen together to form a fused ring system, X is Hi. Dord or Mu C1-20 hydrocarbons, and A- is the non-coordinating anion relative to the formula: [BX1X2X3X4] - where B is Boron in the valence state 3 X1 to X4 is the same or different inactive organyl or cyl radical containing carbon or silicon from 6 to 20 atoms and may be chosen two or more. Two of X1 to X4 are connected to each other. With a stable link group, the method consists of exposure to the derivatives of Group 4 or lanthanide metals in relation to the formula (chemical formula) where Cp *, Z, Y, M and X are as previously defined, with the oxidizer. Dice Which in a reduced form does not interfere with the resulting catalyst. Such oxidizing agents consist of cationic and compatible oxidizing agents. Non-coordination anion and is related to the formula: (OX + a) b (A-) d, where OX + a is an oxidizing agent that is a + a charged cation containing Organic ions Or inorganic with sufficient oxidizing potential To oxidize the molecules of the metal's derivatives to form catalytic species, b and d are selected integers. To balance the charge, and A-, as previously defined. 6. The process according to claim 5, in which the derivative of Group 4 or Lanthanide metal is associated with the formula: (chemical formula) where M is the metal of Group 4 or the series of Lanthanide of the periodic table, r. Each independent case is selected from among. Containing hydrogen, xylyl, alkyl, aryl And its combination with carbon Or silicon up to 10 atoms, m is 1 or 2, and n is 1 or 2 depending on the valence of M. 7. The process of claim 5 where M is titanium or zirconium. 8. Process according to Clause 5 where -A is: [BX1X2X3X4] - where: B is Boron in valence state 3 X1 to X4 is the same or different organelles or silis radical. Each containing carbon Or silicon from 6 to 20 atoms, and maybe two Two or more of the X1 to X4 connected to each other with stable connector groups. 9. Process according to claim 8, where X1, X2, X3 and X4 are perfluornated hydrocodone with carbon from 1 to 20 carbon 1 0. Process according to claim 5, which OX + a is ferrosinium or Ag + 1 1. 1. Process according to claim 5, where M is titanium or zirconium 1. 2. In one or more catalyzed additive polymerization processes. One monomer T j is formed as a polymer with additives. Choose from a group that includes Ethylene, propylene, isobutylene, 1-butene, 1-hexene, 4-methyl-1-pentene, and 1- Octine is in contact with the catalyst and the resulting polymer that is isolated from it. Modification in which the catalyst is a mixture according to claim 1 or 2. 1. 3. Process according to claim 12, in which the monomer that produces a additive polymer. Selected from a group that includes Unsaturated monomer with ethylene Acetylene compounds, carbon monoxide And its mixtures Formed a polymer 1 4. Process according to claim 12 in which monomer that is not saturated with ethylene groups Choose from a group that includes a-olefins with carbon from 2 to 18 atoms, diolefins with carbon from 4 to 18 atoms, styrene and tetrafluoroethylene 1 5. The process according to the clauses Clause 13, in which the monomer is ethylene or a mixture of ethylene and 1-octene 1. 6. Process according to claim 12 in which the catalyst has a support 1 7. Process according to claim 12, which is prepared to be catalyzed there (in situ) 1 8. In the catalytic additive polymerization process. In which one or more monomers can form polymers, the additive form is chosen from a group containing Ethylene, propylene, isobutylene, 1-butene, 1-hexene, 4-methyl-1-pentene and 1-octene exposure. With catalyst And the resulting polymers that are separated from them Improvement The catalyst is a mixture prepared according to the process of Clause 5,6 or 7 1. 9. Process of Clause 18 in which the polymerization can form a additive. Selected from a group that includes Unsaturated monomer with ethylene group, acetylene compound, carbon monoxide And a mix of it Formed a polymer 2 0. Process according to claim 19, in which the monomer that is not ethylene-saturated Choose from a group containing a-olefin carbon from 2 to 18 diolefin atoms. Containing carbon from 4 to 18 atoms, styrene and tetrafluoroethylene 2.
1.กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 19 ซึ่งมอนอเมอร์ คือ เอธิลีน หรือสารผสมของเอธิลีน และ 1-ออคทีน 21. Process according to claim 19, in which the monomer is ethylene or ethylene mixture and 1-octene 2.
2.กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 18 ซึ่งตัวเร่งปฏิกิริยามีตัวรองรับ 22. Process according to claim 18 in which the catalyst has a support 2.
3.กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 18 ซึ่งเตรียมตัวเร่งปฏิกิริยาขึ้นในที่นั้น (in situ)3. Process according to claim 18, which prepares to catalyze the reaction there (in situ).