TH26194B - สารรักษาเนื้อไม้ที่เป็นอามีนออกไซด์ - Google Patents

Abstract

DC60 ผู้ประดิษฐ์นี้ ค้นพบว่าอามีนออกไซด์มีประสิทธิผลสูงในการเป็นสารรักษาเนื้อไม้ การประดิษฐ์นี้ ทำให้มีสารผสมรักษาเนื้อไม้ที่ประกอบด้วยอามีนออกไซด์ชนิดหนึ่ง หรือมากกว่า ในปริมาณที่มีประสิทธิผลในการฆ่าเชื้อ เสนอให้สารผสมรักษาเนื้อไม้จัดว่าปราศจากสารที่เติม ฮาโลเจนแล้ว (เช่น เฮไลด์ และสารที่เติมคลอรีนแล้ว) และสารควอเตอร์นารีแอมโมเนียม สารผสม รักษาเนื้อไม้ของการประดิษฐ์นี้ แสดงความเป็นพิษต่ำ, ความเสถียรสูงในน้ำ, การกัดกร่อนต่ำต่อ ซับสเตรทที่เป็นโลหะ (เช่น ซับสเตรทที่เป็นเหล็กกล้า), การแทรกดีเลิศ และการกระจายตัวสม่ำเสมอ ในไม้, กลิ่นน้อย, คุณสมบัติกันน้ำ และต้านทานต่อการชะสารออกสูง อาจนำสารผสมรักษาเนื้อไม้ มาใส่ลงบนผิวของซับสเตรทที่เป็นไม้ หรือนำไปใส่โดยการทำกรรมวิธีที่ใช้ความดันให้ซับสเตรท ที่เป็นไม้ด้วยสารผสมรักษาเนื้อไม้ อาจรักษาวัสดุที่เป็นเซลลูโลส หรือเป็นเส้นใยอื่น เช่น ฝ้าย, ผ้ากระสอบ และวัสดุอื่นที่คล้ายคลึงกันด้วยสารผสมของการประดิษฐ์นี้ได้อีกด้วย แบบอื่น อีกแบบหนึ่ง คือ วิธีการควบคุมจุลินทรีย์ เช่น จุลินทรีย์ที่เป็นเชื้อราที่ทำให้ผุ (ที่ทราบกันโดยทั่วไป ในนามของเชื้อราของการผุสีขาว, ของการผุสีน้ำตาล และของการผุแบบนิ่ม) และจุลินทรีย์แซปสเตน บนและ/หรือ ในซับสเตรทที่เป็นไม้ เช่นไม้กระดานที่ตัดใหม่ๆ ที่ประกอบด้วยการใส่สารผสมของ การประดิษฐ์นี้ ในปริมาณที่มีประสิทธิผลในการฆ่าเชื้อลงไปยังซับสเตรทที่เป็นไม้ ผู้ประดิษฐ์นี้ ค้นพบว่าอามีนออกไซด์มีประสิทธิผลสูงในการเป็นสารรักษาเนื้อไม้ การประดิษฐ์นี้ ทำให้มีสารผสมรักษาเนื้อไม้ที่ประกอบด้วยอามีนออกไซด์ชนิดหนึ่ง หรือมากกว่า ในปริมาณที่มีประสิทธิผลในการฆ่าเชื้อ เสนอให้สารผสมรักษาเนื้อไม้จัดว่าปราศจากสารที่เติม ฮาโลเจนแล้ว (เช่น เฮไลด์ และสารที่เติมคลอรีนแล้ว) และสารควอเตอร์นารีแอมโมเนียม สารผสม รักษาเนื้อไม้ของการประดิษฐ์นี้ แสดงความเป็นพิษต่ำ, ความเสถียรสูงในน้ำ, การกัดกร่อนต่ำต่อ ซับสเตรทที่เป็นโลหะ (เช่น ซับสเตรทที่เป็นเหล็กกล้า), การแทรกดีเลิศ และการกระจายตัวสม่ำเสมอ ในไม้, กลิ่นน้อย, คุณสมบัติกันน้ำ และต้านทานต่อการชะสารออกสูง อาจนำสารผสมรักษาเนื้อไม้ มาใส่ลงบนผิวของซับสเตรทที่เป็นไม้ หรือนำไปใส่โดยการทำกรรมวิธีที่ใช้ความดันให้ซับสเตรท ที่เป็นไม้ด้วยสารผสมรักษาเนื้อไม้ อาจรักษาวัสดุที่เป็นเซลลูโลส หรือเป็นเส้นใยอื่น เช่น ฝ้าย, ผ้ากระสอบ และวัสดุอื่นที่คล้ายคลึงกันด้วยสารผสมของการประดิษฐ์นี้ได้อีกด้วย แบบอื่น อีกแบบหนึ่ง คือ วิธีการควบคุมจุลินทรีย์ เช่น จุลินทรีย์ที่เป็นเชื้อราที่ทำให้ผุ (ที่ทราบกันโดยทั่วไป ในนามของเชื้อราของการผุสีขาว, ของการผุสีน้ำตาล และของการผุแบบนิ่ม) และจุลินทรีย์แซปสเตน บนและ/หรือ ในซับสเตรทที่เป็นไม้ เช่นไม้กระดานที่ตัดใหม่ๆ ที่ประกอบด้วยการใส่สารผสมของ การประดิษฐ์นี้ ในปริมาณที่มีประสิทธิผลในการฆ่าเชื้อลงไปยังซับสเตรทที่เป็นไม้

Claims (9)

1. การใช้สารผสมที่ประกอบด้วยอามีนออกไซด์หนึ่งชนิด หรือมากกว่าในปริมาณที่มี ประสิทธิผลในการฆ่าเชื้อ และจัดว่าปราศจากสารฆ่าเชื้อชนิดอื่นที่ไม่ใช่อามีนออกไซด์ในฐานะเป็น สารรักษาเนื้อไม้

2. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 1 ซึ่งสารผสมประกอบด้วยอามีนออกไซด์หนึ่งชนิด หรือมากกว่า ในปริมาณที่มีประสิทธิผลในการกำจัดเชื้อรา

3. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 1 ซึ่งสารผสมประกอบด้วยอามีนออกไซด์หนึ่งชนิด หรือมากกว่า ในปริมาณที่มีประสิทธิผลในการยับยั้งรอยเปื้อนแซปสเตน

4. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 2 ซึ่งอามีนออกไซด์ดังกล่าวถูกเลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วย (i) ไตรอัลคิลลามีนออกไซด์ (ii) อัลคิลไซคลิคอามีนออกไซด์ (iii) ไดอัลคิลปิปเปอราซีน ได-N-ออกไซด์ (iv) อัลคิลได(โพลี(ออกซีอัลคิลลีน))อามีนออกไซด์ (v) ไดอัลคิลเบนซิลลามีนออกไซด์ (vi) แฟตตีเอซิลอะมิโดโปรปิลไดเมทธิลลามีนออกไซด์ (vii) ไดอามีนออกไซด์ (viii) ไตรอามีนออกไซด์ และ (ix) สารใดๆ ดังกล่าวข้างต้น ร่วมกันในแบบใดๆ

5. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 4 ซึ่งไตรอัลคิลอามีนออกไซด์ดังกล่าวมีสูตร R1R2R3NO ซึ่ง R1 คือ หมู่ C8 ถึง C40 อิ่มตัว หรือไม่อิ่มตัวชนิดเชนตรง, เชนแตกแขนง, ไซคลิค หรือชนิดที่มีเชนเหล่านี้ ร่วมกันในแบบใดๆ และ R2 และ R3 ที่เป็นอิสระต่อกันนั้น คือ หมู่ C1 ถึง C40 อิ่มตัว หรือไม่อิ่มตัวชนิด เชนตรง, เชนแตกแขนง หรือชนิดที่มีเชนเหล่านี้ร่วมกันในแบบใดๆ

6. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 5 ซึ่ง R1 คือ หมู่ C8 ถึง C22 อิ่มตัว หรือไม่อิ่มตัวชนิดเชนตรง, เชน แตกแขนง, ไซคลิค หรือชนิดที่มีเชนเหล่านี้ร่วมกันในแบบใดๆ และ R2 และ R3 ที่เป็นอิสระต่อกันนั้น คือ หมู่ C1 ถึง C22 อิ่มตัว หรือไม่อิ่มตัวชนิดเชนตรง, เชนแตกแขนง หรือชนิดที่มีเชนเหล่านี้ร่วมกันใน แบบใดๆ

7. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 6 ซึ่ง R2 และ R3 ที่เป็นอิสระต่อกันนั้น คือ หมู่ C8 ถึง C22 อิ่มตัว หรือไม่อิ่มตัวชนิดเชนตรง, เชนแตกแขนง หรือชนิดที่มีเชนเหล่านี้ร่วมกันในแบบใดๆ

8. การใช้ดังที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 5 ซึ่งไตรอัลคิลอามีนออกไซด์ดังกล่าว คือ ไดอัลคิล- เมทธิลลามีนที่มีสูตร R1R2CH3NO, ซึ่ง R1 คือ หมู่ C8 ถึง C40 อิ่มตัว หรือไม่อิ่มตัวชนิดเชนตรง, เชนแตกแขนง, ไซคลิค หรือชนิดที่มีเชนเหล่านี้ร่วมกันในแบบใดๆ และ R2 คือ หมู่ C1 ถึง C40 อิ่มตัว หรือไม่อิ่มตัวชนิดเชนตรง, เชนแตกแขนง หรือชนิดที่มีเชนเหล่านี้ร่วมกันในแบบใดๆ

9. การใช้ดังที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 8 ซึ่ง R1 คือ หมู่ C8 ถึง C22 อิ่มตัว หรือไม่อิ่มตัวชนิด เชนตรง, เชนแตกแขนง, ไซคลิค หรือชนิดที่มีเชนเหล่านี้ร่วมกันในแบบใดๆ และ R2 คือ หมู่ C1 ถึง C22 อิ่มตัว หรือไม่อิ่มตัวชนิดเชนตรง, เชนแตกแขนง หรือชนิดที่มีเชนเหล่านี้ร่วมกันในแบบใดๆ 1

0. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 5 ซึ่งไตรอัลคิลอามีนออกไซด์ดังกล่าว คือ อัลคิลเมทธิลลามีน- ออกไซด์ที่มีสูตร R1(CH3)2NO, ซึ่ง R1 คือ หมู่ C8 ถึง C40 อิ่มตัว หรือไม่อิ่มตัวชนิดเชนตรง, เชน แตกแขนง, ไซคลิค หรือชนิดที่มีเชนเหล่านี้ร่วมกันในแบบใดๆ 1

1. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 10 ซึ่ง R1 คือ หมู่ C8 ถึง C22 อิ่มตัว หรือไม่อิ่มตัวชนิดเชนตรง, เชนแตกแขนง, ไซคลิค หรือชนิดที่มีเชนเหล่านี้ร่วมกันในแบบใดๆ 1

2. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 11 ซึ่ง R1 คือ หมู่ C10 ถึง C18 อัลคิลเชนตรง หรือเชนแตกแขนง 1

3. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 12 ซึ่ง R1 คือ หมู่ C10 ถึง C16 อัลคิลเชนตรง หรือเชนแตกแขนง 1

4. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 10 ซึ่งอัลคิลไดเมทธิลลามีนออกไซด์ดังกล่าวถูกเลือกจากกลุ่มที่ ประกอบด้วย C10 อัลคิลไดเมทธิลลามีนออกไซด์, C10-C14 อัลคิลไดเมทธิลลามีนออกไซด์, C16-C18 อัลคิลไดเมทธิลลามีนออกไซด์ และหมู่ใดๆ ดังกล่าวข้างต้นร่วมกันในแบบใดๆ 1

5. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 4 ซึ่งอัลคิลไซคลิคอามีนออกไซด์ดังกล่าวมีสูตร R4R5R6NO ซึ่ง R4 คือ หมู่ C8-C40 อิ่มตัว หรือไม่อิ่มตัวชนิดเชนตรง, เชนแตกแขนง, ไซคลิค หรือชนิดที่มีเชน เหล่านี้ร่วมกันในแบบใดๆ และ R5 และ R6 ถูกเชื่อมต่อกันแล้วเกิดเป็นหมู่ไซคลิค 1

6. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 15 ซึ่ง R4 คือ หมู่ C8-C22 อิ่มตัว หรือไม่อิ่มตัวชนิดเชนตรง, เชน แตกแขนง, ไซคลิค หรือชนิดที่มีเชนเหล่านี้ร่วมกันในแบบใดๆ 1

7. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 15 ซึ่งหมู่ไซคลิคมีคาร์บอนจาก 4 ถึง 10 อะตอม 1

8. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 15 ซึ่งวงแหวนของหมู่ไซคลิคมีออกซิเจน, กำมะถัน, ไนโตรเจน, หรืออะตอมใดๆ ดังกล่าวข้างต้นร่วมกันในแบบใดๆ 1

9. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 4 ซึ่งอัลคิลไซคลิคอามีนออกไซด์ดังกล่าวถูกเลือกจากกลุ่มที่ ประกอบด้วยอัลคิลมอร์โฟลีน N-ออกไซด์, ไดอัลคิลปิปเปอราซีน ได-N-ออกไซด์ และหมู่ใดๆ ดังกล่าวข้างต้นร่วมกันในแบบใดๆ 2

0. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 19 ซึ่งอัลคิลมอร์โฟลีน N-ออกไซด์ดังกล่าวมีสูตรดังนี้ (สูตรเคมี) ซึ่ง R7 คือ หมู่ C8 ถึง C40 อิ่มตัว หรือไม่อิ่มตัวชนิดเชนตรง, เชนแตกแขนง, ไซคลิค หรือชนิด ที่มีเชนเหล่านี้ร่วมกันในแบบใดๆ 2

1. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 20 ซึ่ง R7 คือ หมู่ C8 ถึง C22 อิ่มตัว หรือไม่อิ่มตัวชนิดเชนตรง, เชนแตกแขนง, ไซคลิค หรือชนิดที่มีเชนเหล่านี้ร่วมกันในแบบใดๆ 2

2. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 21 ซึ่ง R7 คือ หมู่ C10 ถึง C16 อัลคิลเชนตรง หรือเชนแตกแขนง 2

3. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 4 ซึ่งไดอัลคิลปิปเปอราซีน ได-N-ออกไซด์ดังกล่าวมีสูตรดังนี้ (สูตรเคมี) ซึ่ง R8 คือ หมู่ C8 ถึง C40 อิ่มตัว หรือไม่อิ่มตัวชนิดเชนตรง, เชนแตกแขนง, ไซคลิค หรือชนิด ที่มีเชนเหล่านี้ร่วมกันในแบบใดๆ และ R9 คือ หมู่ C1 ถึง C40 อิ่มตัว หรือไม่อิ่มตัวชนิดเชนตรง, เชน แตกแขนง, ไซคลิค หรือชนิดที่มีเชนเหล่านี้ร่วมกันในแบบใดๆ 2

4. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 23 ซึ่ง R8 คือ หมู่ C8 ถึง C22 อิ่มตัว หรือไม่อิ่มตัวชนิดเชนตรง, เชนแตกแขนง, ไซคลิค หรือชนิดที่มีเชนเหล่านี้ร่วมกันในแบบใดๆ และ R9 คือ หมู่ C1 ถึง C22 อิ่มตัว หรือไม่อิ่มตัวชนิดเชนตรง, เขนแตกแขนง, ไซคลิค หรือชนิดที่มีเชนเหล่านี้ร่วมกันในแบบใดๆ 2

5. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 4 ซึ่งอัลคิล ได(โพลี(ออกซีอัลคิลลีน))อามีนออกไซด์ดังกล่าวมี สูตรดังนี้ (สูตรเคมี) ซึ่ง R10 คือ หมู่ C8 ถึง C40 อิ่มตัว หรือไม่อิ่มตัวชนิดเชนตรง, เชนแตกแขนง, ไซคลิค หรือชนิด ที่มีเชนเหล่านี้ร่วมกันในแบบใดๆ, R11 และ R12 ที่เป็นอิสระต่อกันนั้น คือ H หรือ CH3 และ m และ n ที่เป็นอิสระต่อกันนั้น คือ เลขจำนวนเต็มตั้งแต่ประมาณ 0 ถึงประมาณ 10 และอย่างน้อยหนึ่ง สัญลักษณ์ของ m หรือ n มากกว่า 0 2

6. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 25 ซึ่ง R10 คือ หมู่ C8 ถึง C22 อิ่มตัว หรือไม่อิ่มตัวชนิดเชนตรง, เชนแตกแขนง, ไซคลิค หรือชนิดที่มีเชนเหล่านี้ร่วมกันในแบบใดๆ 2

7. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 4 ซึ่งไดอัลคิลเบนซิลลามีนออกไซด์ดังกล่าวมีสูตร R13R14R15NO, ซึ่ง R13 คือ หมู่ C8 ถึง C40 อิ่มตัว หรือไม่อิ่มตัวชนิดเชนตรง, เชนแตกแขนง, ไซคลิด หรือชนิดที่มีเชนเหล่านี้ร่วมกันในแบบใดๆ, R14 คือ หมู่ C1 ถึง C40 อิ่มตัว หรือไม่อิ่มตัวชนิดเชนตรง, เชนแตกแขนง, ไซคลิค หรือชนิดที่มีเชนเหล่านี้ร่วมกันในแบบใดๆ และ R15 คือ เบนซิล 2

8. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 27 ซึ่ง R13 คือ หมู่ C8 ถึง C22 อิ่มตัว หรือไม่อิ่มตัวชนิดเชนตรง, เชนแตกแขนง, ไซคลิค หรือชนิดที่มีเชนเหล่านี้ร่วมกันในแบบใดๆ R14 คือ หมู่ C1 ถึง C22 อิ่มตัว หรือไม่อิ่มตัวชนิดเชนตรง, เชนแตกแขนง, ไซคลิค หรือชนิดที่มีเชนเหล่านี้ร่วมกันในแบบใดๆ 2

9. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 4 ซึ่งไดอัลคิลเบนซิลลามีนออกไซด์ดังกล่าว คือ อัลคิลเบนซิล- เมทธิลลามีนออกไซด์ที่มีสูตร R13R15CH3NO, ซึ่ง R13 คือ หมู่ C8 ถึง C40 อิ่มตัว หรือไม่อิ่มตัวชนิด เชนตรง, เชนแตกแขนง, ไซคลิค หรือชนิดที่มีเชนเหล่านี้ร่วมกันในแบบใดๆ และ R15 คือ เบนซิล 3

0. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 27 ซึ่ง R13 คือ หมู่ C8 ถึง C22 อิ่มตัว หรือไม่อิ่มตัวชนิดเชนตรง, เชนแตกแขนง, ไซคลิค หรือชนิดที่มีเชนเหล่านี้ร่วมกันในแบบใดๆ 3

1. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 30 ซึ่ง R13 คือ หมู่ C8 ถึง C12 อัลคิลเชนตรง หรือเชนแตกแขนง 3

2. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 4 ซึ่งแฟตตีเอซิลอะมิโดโปรปิลไดเมทธิลลามีนออกไซด์ดังกล่าว มีสูตรดังนี้ (สูตรเคมี) ซึ่ง R16 คือ หมู่ C8 ถึง C40 อิ่มตัว หรือไม่อิ่มตัวชนิดเชนตรง, เชนแตกแขนง, ไซคลิค หรือชนิด ที่มีเชนเหล่านี้ร่วมกันในแบบใดๆ 3

3. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 32 ซึ่ง R16 คือ หมู่ C8 ถึง C22 อิ่มตัว หรือไม่อิ่มตัวชนิดเชนตรง, เชนแตกแขนง, ไซคลิค หรือชนิดที่มีเชนเหล่านี้ร่วมกันในแบบใดๆ 3

4. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 4 ซึ่งไดอามีนออกไซด์มีสูตรดังนี้ (สูตรเคมี) ซึ่ง R17 คือ หมู่ C8 ถึง C40 อิ่มตัว หรือไม่อิ่มตัวชนิดเชนตรง, เชนแตกแขนง, ไซคลิค หรือชนิด ที่มีเชนเหล่านี้ร่วมกันในแบบใดๆ และ m คือ เลขจำนวนเต็มตั้งแต่ประมาณ 1 ถึงประมาณ 10 3

5. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 34 ซึ่ง R17 คือ หมู่ C8 ถึง C22 อิ่มตัว หรือ ไม่อิ่มตัวชนิดเชนตรง, เชนแตกแขนง, ไซคลิค หรือชนิดที่มีเชนเหล่านี้ร่วมกันในแบบใดๆ 3

6. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 4 ซึ่งไตรอามีนออกไซด์มีสูตรดังนี้ (สูตรเคมี) ซึ่ง R18 คือ หมู่ C8 ถึง C40 อิ่มตัว หรือไม่อิ่มตัวชนิดเชนตรง, เชนแตกแขนง, ไซคลิค หรือชนิด ที่มีเชนเหล่านี้ร่วมกันในแบบใดๆ และ m และ n ที่เป็นอิสระต่อกันนั้น คือ เลขจำนวนเต็มตั้งแต่ ประมาณ 1 ถึงประมาณ 10 3

7. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 36 ซึ่ง R18 คือ หมู่ C8 ถึง C22 อิ่มตัว หรือไม่อิ่มตัวชนิดเชนตรง, เชนแตกแขนง, ไซคลิค หรือชนิดที่มีเชนเหล่านี้ร่วมกันในแบบใดๆ 3

8. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 2 ซึ่งสารผสมดังกล่าวประกอบด้วยอามีนออกไซด์สองชนิด หรือ มากกว่า 3

9. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 2 ซึ่งสารผสมดังกล่าวประกอบด้วยอามีนออกไซด์ในปริมาณที่มี ประสิทธิผลในการกันน้ำ และในการกำจัดเชื้อรา 4

0. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 2 ซึ่งสารผสมดังกล่าวประกอบด้วยอามีนออกไซด์ตั้งแต่ประมาณ 0.1 ถึงประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนักเทียบกับน้ำหนักรวม 100 เปอร์เซ็นต์ของสารผสม 4

1. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 40 ซึ่งสารผสมดังกล่าวประกอบด้วยอามีนออกไซด์ตั้งแต่ ประมาณ 0.5 ถึงประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนักเทียบกับน้ำหนักรวม 100 เปอร์เซ็นของสารผสม 4

2. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 41 ซึ่งสารผสมดังกล่าวประกอบด้วยอามีนออกไซด์ตั้งแต่ ประมาณ 1 ถึงประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนักเทียบกับน้ำหนักรวม 100 เปอร์เซ็นต์ของสารผสม 4

3. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 2 ซึ่งสารผสมดังกล่าวประกอบต่อไปด้วยตัวทำละลาย 4

4. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 43 ซึ่งตัวทำละลายดังกล่าว คือ น้ำ 4

5. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 44 ซึ่งตัวทำละลายดังกล่าว คือ น้ำ และอาจเลือกให้มีตัวทำละลาย ที่รวมตัวกับน้ำที่ถูกเลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วยอัลกอฮอล์, ไกลคอล, เอสเทอร์, อีเธอร์, โพลีอีเธอร์, อามีน และสารใดๆ ดังกล่าวข้างต้นร่วมกันในแบบใดๆ 4

6. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 2 ซึ่งสารผสมดังกล่าวประกอบต่อไปด้วยสารยับยั้งการกัดกร่อน, สารยับยั้งรอยเปื้อนจากเหล็ก, สารทำให้เปียก, สารประเภทกาว, สารที่ทำให้เกิดอีมัลชัน, สารเพิ่ม ปริมาณ, สารพาหะ, สารควบคุมความหนืด, สารควบคุม pH, สารยึดเหนี่ยว, สารที่ทำให้เหนียวติด และสารใดๆ ดังกล่าวข้างต้นร่วมกันในแบบใดๆ 4

7. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 46 ซึ่งสารยับยั้งรอยเปื้อนจากเหล็ก คือ สารยับยั้งรอยเปื้อนจาก เหล็กประเภทฟอสโฟนิค 4

8. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 1 ซึ่งสารผสมดังกล่าวปราศจากคลอโรฟีนอล และสารควอเตอร์ นารีแอมโมเนียม 4

9. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 1 ซึ่งสารผสมรักษาเนื้อไม้ปราศจากสารฆ่าเชื้อชนิดอื่นที่ไม่ใช่ อามีนออกไซด์ 5

0. การใช้ของข้อถือสิทธิที่ 1 ซึ่งสารผสมรักษาเนื้อไม้ปราศจากสารกำจัดเชื้อราชนิดอื่นที่ ไม่ใช่อามีนออกไซด์ 5

1. การใช้สารผสมที่ประกอบด้วยอามีนออกไซด์หนึ่งชนิด หรือมากกว่าในปริมาณที่มี ประสิทธิผลในการฆ่าเชื้อ และจัดว่าปราศจากสารฆ่าเชื้อชนิดอื่นที่ไม่ใช่อามีนออกไซด์ในฐานะเป็น สารรักษาเนื้อไม้ 5

2. วิธีการควบคุมจุลินทรีย์บน และ/หรือ ในซับสเตรทที่เป็นไม้ที่ประกอบด้วยการใส่สาร ผสมรักษาเนื้อไม้ซึ่งประกอบด้วยอามีนออกไซด์หนึ่งชนิด หรือมากกว่าในปริมาณที่มีประสิทธิผลใน การฆ่าเชื้อลงไปยังซับสเตรทที่เป็นไม้ สารผสมรักษาเนื้อไม้จัดว่าปราศจากสารฆ่าเชื้อชนิดอื่นที่ไม่ใช่ อามีนออกไซด์ 5

3. วิธีการของข้อถือสิทธิที่ 52 ซึ่งอามีนออกไซด์หนึ่งชนิด หรือมากกว่าในปริมาณที่มี ประสิทธิผลในการกำจัดเชื้อราถูกทาลงไปยังซับสเตรท 5

4. วิธีการของข้อถือสิทธิที่ 52 ซึ่งอามีนออกไซด์หนึ่งชนิด หรือมากกว่าในปริมาณที่มี ประสิทธิผลในการยับยั้งรอยเปื้อนแซปสเตนถูกทาลงไปยังซับสเตรท 5

5. วิธีการของข้อถือสิทธิที่ 52 ซึ่งสารผสมรักษาเนื้อไม้ปราศจากคลอโรฟีนอล และสารควอ- เตอร์นารีแอมโมเนียม 5

6. วิธีการสำหรับควบคุมจุลินทรีย์แซปเตนบน และ/หรือ ในซับสเตรทที่เป็นไม้ที่ ประกอบด้วยการใส่อามีนออกไซด์หนึ่งชนิด หรือมากกว่าในปริมาณที่มีประสิทธิผลในการยับยั้งรอย เปื้อนแซปสเตน และสารยับยั้งรอยเปื้อนจากเหล็กประเภทฟอสโฟนิคหนึ่งชนิด หรือมากกว่า 5

7. วิธีการของข้อถือสิทธิที่ 56 ซึ่งสารผสมรักษาเนื้อไม้จัดว่าปราศจากคลอโรฟีนอล และ สารควอเตอร์นารีแอมโมเนียม 5

8. วิธีการของข้อถือสิทธิที่ 56 ซึ่งสารผสมรักษาเนื้อไม้ปราศจากคลอโรฟีนอล และสารควอ- เตอร์นารีแอมโมเนียม 5

9. วิธีการของข้อถือสิทธิที่ 56 ซึ่งสารผสมรักษาเนื้อไม้ปราศจากสารที่มีคลอรีน และสารควอเตอร์นารีแอมโมเนียม 6

0. ระบบรักษาเนื้อไม้ที่ประกอบด้วย (a) ซับสเตรทที่เป็นไม้ และ (b) อามีนออกไซด์หนึ่งชนิด หรือมากกว่าในปริมาณที่มีประสิทธิผลในการฆ่าเชื้อ ระบบ รักษาเนื้อไม้จัดว่าปราศจากสารฆ่าเชื้อชนิดอื่นที่ไม่ใช่อามีนออกไซด์