TH25256B - วิธีการสำหรับการดีมอดูเลตสารสนเทศในระบบสื่อสารซึ่งรองรับ แบบแผนการมอดูเลตหลายแบบแผน - Google Patents

Abstract

DC60 (24/11/41) วิธีการของการดีมอดูเลตเสียงหรือข้อมูลและสารสนเทศควบคุมในระบบซึ่งรองรับ แบบแผนการมอดูเลตแบบหลายแบบแผนซึ่งจะมอ ดูเลตเสียงหรือข้อมูลด้วยการใช้แบบแผนการมอดูเลต แบบเชิง เส้นแบบแผนที่หนึ่ง ดังเช่น แบบแผนการมอดูเลตชนิด 16 คิวเอ เอ็ม และจะมอดูเลตสาร สนเทศควบคุมด้วยการใช้แบบแผนการมอดูเลตแบบเชิงเส้นแบบแผนที่สอง ตัวอย่างเช่น แบบแผน การมอดู เลตชนิดคิวพีเอสซึ่งมีอัตราสัญลักษณ์เท่ากันกับของแบบแผนการ มอดูเลตที่หนึ่งแบบแผน การมอดูเลตแบบเชิงเส้นแบบแผน ที่หนึ่งจะมีระดับการมอดูเลตที่สูง กว่าแบบแผนการมอดูเลตแบบ เชิงเส้นแบบแผนที่สอง สารสนเทศที่ได้รับการมอดูเลตด้วยการใช้แบบแผนการมอดูเลตแ บบเชิงเส้น แบบแผนที่สองซึ่งใช้ชุดสัญญาณที่ลดลงของแบบแผน การมอดูเลตแบบเชิงเส้นแบบ แผนที่หนึ่งจะได้รับการ ดีมอดูเลตด้วยการใช้ตัวดีมอดูเลตที่ เหมือนกันกับที่นำมาใช้สำหรับการดีมอดูเลตสารสนเทศที่ได้ รับการ มอดูเลตด้วยการใช้แบบแผนการมอดูเลตแบบเชิงเส้นแบบแผน ที่หนึ่ง เช่นเดียวกันสารสนเทศการ สัญญาณในแถบภายในช่อง สัญญาณทราฟฟิก ดังเช่น แฟล็กการสทีลจะได้รับการมอดูเลตด้วย การใช้ แบบแผนการมอดูเลตที่สอง วิธีการของการดีมอดูเลตเสียงหรือข้อมูลและสารสนเทศควบคุมในระบบซึ่งรองรับ แบบแผนการมอดูเลตแบบหลายแบบแผนซึ่งจะมอ ดูเลตเสียงหรือข้อมูลด้วยการใช้แบบแผนการมอดูเลต แบบเชิง เส้นแบบแผนที่หนึ่ง ดังเช่น แบบแผนการมอดูเลตชนิด 16 คิวเอ เอ็ม และจะมอดูเลตสาร สนเทศควบคุมด้วยการใช้แบบแผนการมอดูเลตแบบเชิงเส้นแบบแผนที่สอง ตัวอย่างเช่น แบบแผน การมอดู เลตชนิดคิวพีเอสซึ่งมีอัตราสัญลักษณ์เท่ากันกับของแบบแผนการ มอดูเลตที่หนึ่งแบบแผน การมอดูเลตแบบเชิงเส้นแบบแผน ที่หนึ่งจะมีระดับการมอดูเลตที่สูง กว่าแบบแผนการมอดูเลตแบบ เชิงเส้นแบบแผนที่สอง สารสนเทศที่ได้รับการมอดูเลตด้วยการใช้แบบแผนการมอดูเลตแ บบเชิงเส้น แบบแผนที่สองซึ่งใช้ชุดสัญญาณที่ลดลงของแบบแผน การมอดูเลตแบบเชิงเส้นแบบ แผนที่หนึ่งจะได้รับการ ดีมอดูเลตด้วยการใช้ตัวดีมอดูเลตที่ เหมือนกันกับที่นำมาใช้สำหรับการดีมอดูเลตสารสนเทศที่ได้ รับการ มอดูเลตด้วยการใช้แบบแผนการมอดูเลตแบบเชิงเส้นแบบแผน ที่หนึ่ง เช่นเดียวกันสารสนเทศการ สัญญาณในแถบภายในช่อง สัญญาณทราฟฟิก ดังเช่น แฟล็กการสทีลจะได้รับการมอดูเลตด้วย การใช้ แบบแผนการมอดูเลตที่สอง

Claims (3)

1. วิธีการสำหรับการสื่อสารสารสนเทศซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนของ : การมอดูเลตชุดที่หนึ่งของสารสนเทศด้วยการใช้แบบแผนการมอดูเลต แบบเชิงเส้นแบบแผน ที่หนึ่ง ; การมอดูเลตชุดที่สองของสารสนเทศด้วยการใช้แบบแผนการมอดู เลตแบบเชิงเส้นแบบแผน ที่สองซึ่งแบบแผนการมอดูเลต แบบเชิงเส้นแบบแผนที่หนึ่งและสองจะมีอัตราสัญลักษณ์ที่เท่ากัน และซึ่ง แบบแผนการมอดูเลตที่สองจะใช้ชุดสัญญาณที่ลดลงของ แบบแผนการมอดูเลตแบบเชิงเส้น แบบแผนที่หนึ่ง; และ การดีมอดูเลตชุดที่หนึ่งของสารสนเทศและชุดที่สองของสาร สนเทศด้วยการใช้แบบแผนการ มอดูเลตที่เหมือนกัน 2. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งตัวดีมอ ดูเลตที่เหมือนกันจะดีมอดูเลตสัญญาณที่ได้ รับการ มอดูเลตด้วยการใช้แบบแผนการมอดูเลตที่หนึ่ง 3. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 2 ซึ่งแบบแผนการมอดู เลตแบบเชิงเส้นแบบแผนที่หนึ่งจะมี ระดับของการมอดูเลตที่สูง กว่าแบบแผนการมอดูแลตที่สอง 4. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 3 ซึ่งแบบแผนการมอดู เลตแบบเชิงเส้นแบบแผนที่สองจะใช้จุด สัญญาณด้านนอกในกลุ่ม จุดของการมอดูเลตของแบบแผนการมอดูเลตแบบเชิงเส้นแบบแผนที่ หนึ่ง เพื่อสื่อสารชุดที่สองของสารสนเทศ 5. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 4 ซึ่งประกอบรวมเพิ่มเติมด้วย ขั้นตอนของการสื่อสารชุดที่หนึ่ง ของสารสนเทศบนช่องสัญญาณท ราฟฟิกและชุดที่สองของสารสนเทศบนช่องสัญญาณควบคุม 6. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 5 ซึ่งช่องสัญญาณควบ คุมเป็นช่องสัญญาณควบคุมที่เกี่ยวพันกัน 7. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 6 ซึ่งช่องสัญญาควบ คุมที่เกี่ยวพันกันเป็นช่องสัญญาณควบคุม ที่เกี่ยวพันกันชนิดเร็ว 8. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 6 ซึ่งช่องสัญญาณควบ คุมที่เกี่ยวพันกันเป็นช่องสัญญาณควบคุม ที่เกี่ยวพันกันชนิด ช้า 9. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 3 ซึ่งชุดที่สองของ สารสนเทศจะเป็นสารสนเทศการส่งสัญญาณ ในแถบ 1 0. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 9 ซึ่งสารสนเทศการส่ง สัญญาณในแถบนี้จะสมนัยกับอย่างน้อย ที่สุดหนึ่งอย่างของแบบ ชนิดการมอดูเลต การเข้ารหัสช่องสัญญาณ หรือการเข้ารหัสเสียงพูด 1 1. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 3 ซึ่งชุดที่สองของ สารสนเทศจะรวมถึงการแฟล็กการสทีลซึ่งชี้ บอกว่าเบิรสต์ที่ ส่งออกไปจะบรรจุอยู่ด้วยสารสนเทศควบคุมหรือสารสนเทศเสียงและ ข้อมูล 1 2. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 3 ซึ่งชุดที่สองของ สารสนเทศเป็นลำดับขบวน (training sequence) 1 3. วิธีการของข้อถือสิทธิ์ข้อ 3 ซึ่งแบบแผนการมอ ดูเลตแบบเชิงเส้นแบบแผนที่หนึ่งและ แบบแผนการมอดูเลตแบบ เชิงเส้นแบบแผนที่สองจะใช้การจัดทำรูปร่างพัลส์ที่เหมือนกัน 1 4. วิธีการของข้อถือสิทธิขอ 3 ซึ่งแบบแผนการมอดู เลตแบบเชิงเส้นแบบแผนที่หนึ่งและ สองจะใช้รูปแบบเบิรสต์ที่ เหมือนกัน 1 5. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 3 ซึ่งแบบแผนการมอดู เลตที่หนึ่งเป็นแบบแผนการมอดูเลต ชนิดคิวเอเอ็ม และแบบแผนการมอ ดูเลตที่สองเป็นแบบแผนการมอดูเลตชนิดคิวพีเอสเค 1 6. วิธีการสำหรับการสื่อสารสารสนเทศระหว่างสถานีฐาน และ สถานีเคลื่อนที่ซึ่งประกอบ ด้วย : การสื่อสารเสียงหรือข้อมูลด้วยการใช้แบบแผนการมอดูเลตแบบ เชิงเส้นแบบแผนที่หนึ่ง; การสื่อสารสารสนเทศการส่งสัญญาณในแถบด้วยการใช้แบบแผนการมอดู เลตแบบเชิงเส้น แบบแผนที่สอง ซึ่งแตกต่างจากแบบแผนการมอดูเลตแบบเชิงเส้นแบบแผนที่หนึ่ง; และ การดีมอดูเลตเสียงหรือข้อมูลและสารสนเทศการส่งสัญญาณในแถบ ด้วยการใช้ตัวดีมอดูเลต ตัวเดียวกัน 1 7. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 16 ซึ่งแบบแผนการมอดูเลตแบบเชิงเส้นแบบแผนที่หนึ่งและ สองจะมีอัตราสัญลักษณ์ที่เท่ากัน และซึ่ง แบบแผนมอดูเลตที่สองจะใช้ชุดสัญญาณที่ลดลงของแบบ แผนมอดูเลตแบบเชิงเส้นแบบแผนที่หนึ่ง 1 8. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 17 ซึ่งแบบแผนการดีมอดู เลตที่เหมือนกันจะสมนัยกับการ ดีมอดูเลตของสัญญาณที่ได้รับการมอดูเลตด้วยการใช้แบบแผนการมอดูเลตแบบเชิงเส้นแบบแผน ที่หนึ่ง 1 9. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 17 ซึ่งสารสนเทศการ สัญญาณในแถบจะรวมถึงแฟล็กการ สทีลซึ่งชี้บอกว่าเบิรสต์ที่ส่ง ออกไปจะบรรจุอยู่ด้วยสารสนเทศควบคุมหรือสารสนเทศเสียงและ ข้อ มูล 2 0. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 17 ซึ่งสารสนเทศการ ส่งสัญญาณในแถบนี้จะชี้บอกอย่างน้อยที่ สุดหนึ่งอย่างของแบบ ชนิดการมอดูเลต การเข้ารหัสช่องสัญญาณ หรือการเข้ารหัสเสียงพูด ที่นำมาใช้ โดยเบิรสต์ที่ส่งออกไป 2 1. วิธีการของการสื่อสารระหว่างสถานีฐานและสถานีเคลื่อน ที่ซึ่งประกอบด้วย : การมอดูเลตเสียงหรือข้อมูลบนช่องสัญญาณทราฟฟิกด้วยการใช้ แบบแผนการมอดูเลตแบบ เชิงเส้นแบบแผนที่หนึ่ง ; การมอดูเลตสารสนเทศควบคุมบนช่องสัญญาณควบคุมซึ่งได้รับการ ทำให้เกี่ยวพันกับช่อง สัญญาณทราฟฟิกด้วยการใช้แบบแผนการมอ ดูเลตแบบเชิง เส้นแบบที่สอง ซึ่งแตกต่างจากแบบแผน การมอดูเลตแบบเชิงเส้นแบบแผนที่หนึ่ง; และ การดีมอดูเลตเสียงหรือข้อมูลและสารสนเทศควบคุมด้วยการใช้ตัวดีมอดูเลตตัวเดียวกัน 2 2. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 21 ซึ่งแบบแผนการมอ ดูเลตแบบเชิงเส้นแบบแผนที่หนึ่งและ สองจะมีอัตราสัญลักษณ์ ที่เท่ากัน 2 3. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 22 ซึ่งตัวดีมอ ดูเลตที่เหมือนกันจะดีมอดูเลตสัญญาณที่ได้ รับ การมอดูเลตด้วยการใช้แบบแผนการมอดูเลตแบบเชิงเส้นแบบแผนที่ หนึ่ง 2 4. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 21 ซึ่งช่องสัญญาณ ควบุมที่เกี่ยวพันกันนี้เป็นช่องสัญญาณควบ คุมที่เกี่ยวพัน ชนิดเร็ว 2 5. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 21 ซึ่งช่อง สัญญาณควบุมที่เกี่ยวพันกันนี้เป็นช่องสัญญาณควบ คุมที่ เกี่ยวพันชนิดช้า 2 6. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 21 ซึ่งแบบแผนการมอ ดูเลตแบบเชิงเส้นแบบแผนที่หนึ่งจะมี ระดับของการมอดูเลตที่ สูงกว่าแบบแผนการมอดูเลตแบบเชิงเส้นแบบแผนที่สอง 2 7. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 26 ซึ่งแบบแผนการมอ ดูเลตแบบเชิงเส้นแบบแผนที่สองจะใช้ ชุดสัญญาณที่ลดลงของแบบ แผนการมอดูเลตแบบเชิงเส้นแบบแผนที่หนึ่ง 2 8. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 21 ซึ่งแบบแผนการมอ ดูเลตแบบเชิงเส้นแบบแผนที่หนึ่งและ สองจะมีระดับที่เท่ากัน 2 9. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 21 ซึ่งแบบแผนการมอ ดูเลตแบบเชิงเส้นแบบแผนที่หนึ่งและ แบบแผนการมอดูเลตแบบเชิง เส้นแบบแผนที่สองจะใช้การจัดทำรูปร่างพัลส์ที่เหมือนกัน 3 0. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 21 ซึ่งแบบแผนการมอ ดูเลตแบบเชิงเส้นแบบแผนที่หนึ่งและ สองจะใช้รูปแบบเบิรสต์ ที่เหมือนกัน 3 1. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 21 ซึ่งแบบแผนการมอ ดูเลตแบบเชิงเส้นแบบแผนที่หนึ่งและ สองจะใช้ลำดับขบวนที่เหมือน กัน 3 2. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 21 ซึ่งแบบแผนการมอ ดูเลตแบบเชิงเส้นแบบแผนที่หนึ่งและ แบบแผนการมอดูเลตชนิด คิวเอเอ็ม และแบบแผนการมอดูเลตที่แบบเชิงเส้นแบบที่สองเป็นแบบ แผนการมอดูเลตชนิดคิวพีเอสเค 3 3. ตัวดีมอดูเลตซึ่งประกอบด้วย : วิถีทางสำหรับการดีมอดูเลตชุดที่หนึ่งของสารสนเทศซึ่งได้ รับการมอดูเลตด้วยการใช้แบบ แผนการมอดูเลตแบบเชิงเส้นแบบแผน ที่หนึ่ง; และ วิถีทางสำหรับการดีมอดูเลตชุดที่สองของสารสนเทศซึ่งได้รับ การมอดูเลตด้วยการใข้แบบ แผนการมอดูเลตแบบเชิงเส้นแผนที่สอง ซึ่งแบบแผนการมอดูเลตแบบเขิงเส้นแบบแผนที่หนึ่ง และ สองจะมีอัตราสัญลักษณ์ที่เท่ากัน และซึ่ง แบบแผนการมอดูเลตแบบแผนที่สองใช้ชุดสัญญาณที่ ลดลงของแบบแผนการมอดูเลตแบบเชิงเส้นแบบแผนที่หนึ่ง และซึ่ง ชุดที่ หนึ่งของสารสนเทศและชุด ที่สองของสารสนเทศจะได้รับการดีมอดู เลต โดยใช้ตัวดีมอดูเลตที่เหมือนกัน 3 4. วิธีการสำหรับการสื่อสารสารสนเทศซึ่งประกอบด้วยขั้นตอน ของ : การมอดูเลตชุดที่หนึ่งของสารสนเทศด้วยการใช้แบบแผนการมอดู เลตที่หนึ่ง; การมอดูเลตชุดที่สองของสารสนเทศด้วยการใช้แบบแผนการมอดู เลตที่สอง ซึ่งแบบแผนการ มอดูเลตที่หนึ่งและสองมีอัตราสัญลักษณ์ที่เท่ากัน ซึ่งแบบแผนการมอดูเลตที่สองจะใช้ชุด สัญญาณที่ ลดลงของแบบแผนการมอดูเลตที่หนึ่ง : และ การดีมอดูเลตชุดที่หนึ่งของสารสนเทศและชุดที่สองของสาร สนเทศด้วยการใช้ตัวดีมอดูเลต ที่เหมือนกัน 3 5. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 34 ซึ่งแบบแผนการมอ ดูเลตที่หนึ่งเป็นแบบแผนการมอดูเลต แบบเชิงเส้น และแบบแผน การมอดูเลตที่สองเป็นแบบแผนการมอดูเลตแบบไม่เชิงเส้น 3 6. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 35 ซึ่งแบบแผนการมอ ดูเลตแบบไม่เชิงเส้นเป็นแบบแผนการ มอดูเลตชนิดจีเอ็มเอสเค และแบบแผนการมอดูเลตแบบเชิงเส้นเป็นแบบแผนการมอดูเลตระดับ สูง 3 7. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 34 ซึ่งแบบแผนการมอ ดูเลตที่หนึ่งจะมีระดับของการมอดูเลตที่ สูงกว่าแบบแผนการมอดูเลตที่สอง 3 8. วิธีการของอข้ถถือสิทธิ 34 ซึ่งยังประกอบเพิ่มเติมด้วยขั้นตอนของการสื่อสารชุดที่หนึ่ง ของสารสนเทศบนช่องสัญญาณทราฟฟิกและชุดที่สองของสารสนเทศบนช่องสัญญาณควบคุม 3 9. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 38 ซึ่งช่องสัญญาณควบคุมเป็นช่องสัญญาณควบคุมที่เกี่ยวพัน กัน 4 0. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 37 ซึ่งชุดที่สองของสารสนเทศจะเป็นสารสนเทศการส่ง สัญญาณในแถบ 4

1. วิธีการของข้ถือสิทธิข้อ 40 ซึ่งสารสนเทศการส่งสัญญาณ ในแถบนี้จะสมนัยกันอย่าง น้อยที่สุดหนึ่งอย่างของแบบ ชนิดของการมอดูเลต การเข้ารหัสช่องสัญญาณ หรือการเข้ารหัสเสียง พูด ที่ นำมาใช้สำหรับเบิรสต์ที่ส่งออกไป 4

2. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 34 ซึ่งชุดที่สองของ สารสนเทศจะรวมถึงแฟล็กการสทีลซึ่ง ชี้บอกว่าเบิรสต์ที่ส่ง ออกไปจะบรรจุอยู่ด้วยสารสนเทศควบคุมหรือสารสนเทศเสียงและ ข้อมูล 4

3. วิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 34 ซึ่งชุดที่สอง ของสารสนเทศเป็นลำดับขบวน